บทที่ 334 เขาไม่ใช่สามีของฉัน

อ้อนรัก คุณภรรยาคนสวย

อย่างไรผู้กำกับจางก็เป็นชายวัยกลางคน เป็นทั้งคนในวงการบันเทิงและทำธุรกิจด้วย และประสบการณ์ของเขาโชกโชน

ยิ่งไปกว่านั้น เวินซือเหยี่ยนก็แสดงออกชัดเจน ดังนั้นเขาจึงดูออกอยู่แล้ว

เพียงแต่ว่าผู้กำกับจางยังคงสังเกตเห็นว่า เป๋าฮวนดูเหมือนจะคิดกับเวินซือเหยี่ยนแค่เพื่อนเท่านั้น มองไม่เห็นความเสน่หาอื่นใด

“ผู้กำกับจาง ความยากลำบากที่ใหญ่หลวงคืออะไร?” เป๋าฮวนรู้สึกงง

เธอสามารถเข้าใจสองประโยคแรก ผู้กำกับจางอธิบายว่าไม่ใช่ผู้ชายทุกคนที่เป็นแบบนั้น แต่ประโยคหลังที่ว่า——ถนนยาวค่อยๆสร้างมันยากลำบาก ประโยคนี้ทำให้เธอจับต้นชนปลายไม่ถูก

เพราะเธอไม่เข้าใจความหมายที่ผู้กำกับจางต้องการสื่อ

“ไม่มีอะไร ฉันหมายถึงว่าอยากให้ซือเหยี่ยนของเราหาแฟนสักคน ซึ่งเป็นเรื่องยากลำบากมาก! ท้ายที่สุดแล้วในใจของซือเหยี่ยนตอนนี้ก็จดจ่ออยู่กับการแสดงและบริษัท” ผู้กำกับจางยิ้มทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ แต่ก็แอบส่งสัญญาณตาให้เวินซือเหยี่ยน

เวินซือเหยี่ยนส่ายหัวอย่างช่วยไม่ได้และไม่พูดอะไรอีก

เมื่อเธอเห็นท่าทางของเวินซือเหยี่ยนยอมรับโดยปริยาย เป๋าฮวนก็คิดถึงนายท่านเวิน เวินเจี้ยนกัวที่ดูเหมือนอยากจะจับคู่ตัวเองกับเวินซือเหยี่ยน อาจเป็นเพราะเขารู้ว่าเวินซือเหยี่ยนไม่อยากหาแฟน

“เวินซือเหยี่ยนผู้ชายอย่างคุณหายากจริงๆ แต่คุณก็อายุไม่น้อยแล้ว ครอบครัวน่าจะกังวลใจนะ?” เป๋าฮวนพูดอย่างจริงจังว่า “คุณมีผู้หญิงที่ชอบไหม? หรือคุณชอบผู้หญิงแบบไหน? ฉันสามารถช่วยคุณจัดการได้”

ครั้งนี้เป๋าฮวนกระตือรือร้นมาก อย่างแรกต้องการหลุดพ้นจากการจับคู่ของนายท่านเวิน ประการที่สอง เธอรู้สึกขอบคุณเวินซือเหยี่ยนจริงๆและต้องการช่วยเวินซือเหยี่ยนมาก

“พรวด——”

ผู้กำกับจางเพิ่งรู้สึกกระหายน้ำและจิบไวน์แดงอีกคำครั้ง แต่ไม่สามารถกลั้นไว้ได้และพ่นออกมาอีกครั้ง

เป๋าฮวน: “???”

เธอพูดอะไรผิดหรือเปล่า?

เธอคิดว่าสิ่งที่ตัวเองพูดค่อนข้างปกติ!

“ผู้กำกับจาง ทำไมคุณทำเกินไปแบบนี้……หรือว่าตอนนี้เวินซือเหยี่ยนมีแฟนไม่ได้เหรอ? เป็นเพราะบทบาทนักแสดงของเขาเหรอ? จะเสียแฟนคลับเหรอ?” เป๋าฮวนใบหน้าเต็มไปด้วยความงุนงง ดวงตาคู่โตเบิกกว้างและถามด้วยความสงสัยว่า

“เอ่อ!” ผู้กำกับจางได้สติกลับมา เกาหัวตัวเองและรู้สึกปวดกบาลเล็กน้อย เขาครุ่นคิดแล้วพูดว่า: “นี่……ผมก็ไม่รู้จะพูดยังไงดี พวกคุณค่อยๆคุยกันนะ! ผมมีธุระจะไปหาโปรดิวเซอร์หวังสักครู่!

หลังจากนั้น ผู้กำกับจางรีบเผ่นหนีไป

เขาตัดสินใจให้พื้นที่ทั้งสองคนตามลำพัง และปล่อยให้เวินซือเหยี่ยนแสดงออกด้วยตัวเอง เขาจะได้ไม่สับสน

เมื่อเห็นผู้กำกับจางวิ่งหนีไปโดยไม่เห็นแม้แต่เงา เป๋าฮวนยังคงทำหน้างงและมองเวินซื่อเหยี่ยนอีกครั้ง เธอชี้มาที่ตัวเองแล้วถามว่า “เมื่อครู่ฉันพูดอะไรผิดหรือ?”

“เปล่า” เวินซือเหยี่ยนตอบเสียงเบา

“ออ ฉันก็คิดว่าฉันไม่ได้พูดอะไรผิด ผู้กำกับจางเขาสติ……ผิดปกตินิดหน่อย?” เป๋าฮวนคิดอย่างนี้จริงๆ

ท่าทางของผู้กำกับจางเมื่อครู่ ดูไม่เหมือนผู้กำกับที่มีชื่อเสียงเลยสีกนิด

“เขาอาจจะดื่มมากเกินไป เมาจนบ้า” เวินซือเหยี่ยนอดยิ้มเอาไว้ และยิ่งรู้สึกว่าเป๋าฮวนน่ารัก

ท่าทางโง่เขลาเหมือนนางฟ้าตัวน้อยที่ไม่รู้จักดอกไม้ไฟบนโลกมนุษย์

“เป็นไปได้!” เป๋าฮวนรู้สึกว่าเวินซือเหยี่ยนพูดได้ค่อนข้างแม่นและพยักหน้าเห็นด้วย

อย่างไรก็ตาม เมื่อคิดถึงคำถามเมื่อครู่ของตัวเอง เป๋าฮวนรู้สึกว่าเวินซือเหยี่ยนไม่ได้ตอบ อาจจะไม่อยากพูดคุยเกี่ยวกับชีวิตส่วนตัว ดังนั้นเธอจึงขอโทษ: “ขอโทษนะเวินซือเหยี่ยน ฉันเพิ่งพูดบางอย่างเกี่ยวกับชีวิตส่วนตัวของคุณ ไม่ได้จงใจรบกวน ฉันจะไม่พูดมากอีก”

“คุณหมายถึงที่ถามว่าผมชอบผู้หญิงแบบไหนเหรอ? ทำไมผมถึงไม่มีแฟนเหรอ?” เวินซือเหยี่ยนจ้องไปที่ดวงตาที่นุ่มนวลของผู้หญิงที่อยู่ข้างหน้าเขาแล้วถามตรงๆ

เป๋าฮวนเงยหน้าขึ้นมองเขา พยักหน้าอย่างแรงและพูดว่า “ใช่! ฉันแค่อยากจะช่วยคุณ ไม่ได้คำนึงถึงสถานการณ์ของคุณ”

“ยังไม่พบคนที่ทำให้ใจผมเต้นแรง จึงโสดมาตลอด ไม่ใช่เพราะฐานะของนักแสดง” เวินซือเหยี่ยนยิ้มเล็กน้อยด้วยท่าทางที่อ่อนโยน ราวกับชายหนุ่มที่เดินออกมาจากภาพวาด

“อย่างนี้นี่เอง!” เป๋าฮวนนึกออกทันทีเลยเพิ่งเข้าใจ

“แฟนคนเดียวที่ฉันเคยคบด้วย คือเพื่อนร่วมชั้นในชั้นเรียนการแสดงของมหาวิทยาลัย ตอนนั้นเธอเป็นดาวชั้นเรียนและจีบผมตลอด จริงๆแล้วผมเหี้ยมาก เพราะอาชีพนักแสดงต้องเพิ่มประสบการณ์ชีวิต ผมเลยลองคบกับเธอ” เวินซือเหยี่ยนเล่าอดีตทั้งหมดโดยไม่ลังเล

“หือ?” เป๋าฮวนจู่ๆก็ตกตะลึง

เพราะในความเห็นของเธอ เวินซือเหยี่ยนเป็นคนอ่อนโยน เช่นเดียวกับชื่อของเขา ทำให้ผู้คนรู้สึกอ่อนโยนและอบอุ่นใจมาก ไม่เหมือนคนที่เหี้ย

“ที่จริงผมผิดต่อเธอ” เวินซือเหยี่ยนขมวดคิ้วขึ้นมาเมื่อนึกถึงแฟนคนแรกของเขา

เป๋าฮวนเม้มริมฝีปาก พยักหน้าและพูดว่า “คุณทำแบบนี้มันผิดจริงๆ นี่ถือว่าคุณหลอกใช้เธอ……”

เป๋าฮวนรูกสึกว่าตัวเองไม่ควรพูดอะไรมาก และเรื่องนี้ก็ผ่านไปหลายปีแล้ว เวินซือเหยียนตอนนั้นยังก็ยังเด็กอยู่ อาจจะไม่ได้คิดอะไรมากมาย

“แล้วเธอเป็นนักแสดงหรือเปล่า?” เธอถามอีกประโยคด้วยความสงสัย

เนื่องจากเป็นเพื่อนร่วมชั้นในชั้นเรียนการแสดง ดังนั้นในอนาคตก็ควรเป็นนักแสดงด้วย

“เปล่า” เวินซือเหยี่ยนส่ายหัวเบาๆ แล้วตอบว่า “หลังจากเราเลิกกันเธอคบแฟนใหม่ และได้ยินมาว่าหลังจบการศึกษาก็แต่งงานไปต่างประเทศแล้ว”

“ก็ดี แบบนี้ดีแล้ว ไม่งั้นพวกคุณพบเจอกันในวงการบันเทิง คงจะทำอะไรไม่ถูกน่าดู” เป๋าฮวนรู้สึกว่าบทสรุปไม่เลวเลย

เวินซือเหยี่ยนมองเธอด้วยความสงสัยมากขึ้น และโพล่งออกมา: “ถ้าอย่างนั้นคุณควรเล่าเรื่องของคุณบ้าง”

“เรื่องของฉัน?” เป๋าฮวนประหลาดใจ

“อืม ก่อนหน้านี้คุณชื่อเฉินฮวนฮวนใช่ไหม? สามีของคุณคือเฟิงหานชวนหรือเปล่า?” เวินซือเหยี่ยนจำเขาได้

“เขาไม่ใช่สามีของฉัน” เป๋าฮวนปฏิเสธอย่างตรงไปตรงมา

“เขาไม่ใช่สามีของคุณหรือ? แต่เมื่อสามปีที่แล้ว……” เวินซือเหยี่ยนขมวดคิ้วเล็กน้อย และความสงสัยแวบเข้ามาภายใต้คิ้วของเขา

นี่คือสิ่งที่เขาสงสัยมากที่สุด

เฉินฮวนฮวนเมื่อสามปีที่แล้ว ตอนที่เขาเห็นเธอ เป็นคนน่ารักมีชีวิตชีวา เขายังจำได้ตอนที่ได้ยินเธอพูดถึงสามีของเธอ ยังกับบังเกิดดวงดาวขึ้นในแววตาทั้งคู่ของเธอ

สิ่งเหล่านี้ยังใหม่อยู่ในความทรงจำของเขา

ดังนั้น การปฏิเสธของเป๋าฮวนจึงไม่สามารถขจัดความสงสัยของเวินซือเหยี่ยนได้

เป๋าฮวนยังจำได้ว่าตัวเองเคยบอกเวินซือเหยี่ยนว่าเธอมีสามีแล้ว ในตอนนั้นหลังจากซื้อของที่ซุปเปอร์มาร์เก็ต เฟิงหานชวนบอกว่าจะมารับเธอ เธอบอกกับเวินซือเหยี่ยน ตอนนั้นเวินซือเหยี่ยนเลยกลับไปก่อน

แม้ว่าตอนนั้นเวินซือเหยี่ยนกับเฟิงหานชวนจะไม่ได้เจอกัน แต่ก็รู้เรื่องที่เธอแต่งงานแล้ว

นอกจากนี้เวินซือเหยี่ยนก็อาศัยอยู่ในบริษัทหมิงอวี่ด้วย เมื่อเห็นงานศพของเธอ ก็รู้ว่าเฟิงหานชวนเป็นสามีของเธอ

เป๋าฮวนเม้มริมฝีปาก ใบหน้ามีความเย็นชาเกิดขึ้นและพูดเสียงเบาว่า “เรื่องราวเมื่อสามปีที่แล้ว ฉันอยากลืมไปให้หมด”

“เฟิงหานชวนคนนี้ ฉันก็อยากลืมเช่นกัน”