บทที่ 459 หัวหน้ากลุ่มวาฬ

เซียนคีย์บอร์ด [陆地键仙]

บทที่ 459 หัวหน้ากลุ่มวาฬ

บทที่ 459 หัวหน้ากลุ่มวาฬ

กลุ่มชายฉกรรจ์ที่ทำตัวแข็งกร้าวในตอนแรกต่างก็รู้สึกไม่สบายใจในทันทีเมื่อรู้ว่าผู้มาเยือนเป็นใคร ทุกคนต่างพากันนึกถึงวีรกรรมของเฉินเซวียนที่เคยได้ยินมา

หัวหน้ากลุ่มชายฉกรรจ์ที่กล้าหาญที่สุดพูดขึ้นมา “กลุ่มวาฬของเราไม่เคยยุ่งเกี่ยวอะไรกับค่ายเมฆาทมิฬของเจ้า เจ้ามาที่นี่ด้วยเหตุผลอะไร?”

เฉินเซวียนยักไหล่ พร้อมกับผายมือออก “ใจเย็น ๆ วันนี้ข้าไม่ได้มาที่นี่เพื่อมาหาเรื่องพวกเจ้า ข้าแค่ต้องการหารือเกี่ยวกับโอกาสทางธุรกิจกับหัวหน้ากลุ่มวาฬของเจ้า”

“ในฐานะที่เจ้าก็เป็นหนึ่งในตัวตนที่อยู่ในโลกใต้ดินมานาน เจ้าควรจะรู้ว่าเจ้านายของเราไม่เคยรับแขก!” หัวหน้ากลุ่มชายฉกรรจ์ตอบกลับ

เฉินเซวียนยิ้ม “ข้าได้ยินมาว่าหัวหน้าของกลุ่มวาฬนั้นลึกลับมาก และไม่เคยมีใครพบเห็นมาก่อน บางคนบอกว่าเป็นหญิงสาวสวย ในขณะที่บางคนบอกว่าเป็นตาแก่หลังค่อม แต่บางคนก็บอกว่าเขาเป็นชายที่แข็งแกร่งและทรงพลัง ข้าสนใจจริง ๆ ที่จะได้เห็นว่าเจ้านายของเจ้าหน้าตาเป็นยังไง?”

“ฮึ่ม! เจ้ากำลังวางแผนที่จะใช้กำลังหรือไง?” สีหน้าของสมาชิกกลุ่มวาฬเริ่มวิตกกังวล และพวกเขากำดาบแน่น

“ถ้าข้า…เฉินเซวียนคนนี้ต้องการจะไปทำอะไรที่ไหนเมื่อไหร่ พวกเจ้าทุกคนจะหยุดข้าได้งั้นเหรอ?” เฉินเซวียนเชิดหน้าอย่างเย่อหยิ่ง เขาปล่อยคลื่นพลังเข้ากดดัน

สมาชิกกลุ่มวาฬหายใจลำบากในทันที และพากันถอยห่างออกไปโดยไม่รู้ตัว

มีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่ยังคงฝืนทนยืนอยู่ด้วยสีหน้ามืดมน

“ให้เขาเข้ามา” ในขณะเดียวกัน เสียงที่นุ่มนวลและอ่อนโยนก็ดังขึ้นคลี่คลายสถานการณ์ที่กำลังตึงเครียด

น้ำเสียงที่ได้ยินยากที่จะบอกได้ชัดเจนว่าเป็นชายหรือหญิง

สมาชิกกลุ่มวาฬก้าวถอยหลีกทางไปด้านข้างอย่างเคารพเพื่อเปิดเส้นทาง

เฉินเซวียนเดินตรงเข้าไปด้วยรอยยิ้มทันที

เขาเดินเข้าไปถึงหน้าเรือนหลังหนึ่งแล้วจากนั้นประตูทั้งสองบานก็เปิดออกเอง

เฉินเซวียนมั่นใจในความแข็งแกร่งของตัวเอง ดังนั้นจึงกล้าเดินเข้าไปด้วยท่าทางไร้กังวล

ร่างของคนผู้หนึ่งกำลังนั่งอยู่ด้านในห้องที่ถูกกั้นไว้ด้วยม่านซี่ไม้ไผ่ซึ่งทำให้ไม่สามารถเห็นคนที่อยู่หลังม่านได้อย่างชัดเจน “ชื่อเสียงและความลึกลับของหัวหน้าเฉินแห่งค่ายเมฆาทมิฬไม่ได้ด้อยไปกว่าข้าเลย ทำไมจู่ ๆ ท่านถึงตัดสินใจมาปรากฏตัวที่นี่?”

“เหตุผลที่ข้ามาเยี่ยมหัวหน้ากลุ่มวาฬด้วยตัวเองก็เพื่อแสดงความจริงใจ” เฉินเซวียนยิ้ม “หึหึ ข้าไม่คิดเลยว่าแท้จริงแล้วหัวหน้ากลุ่มวาฬผู้โด่งดังจะเป็นผู้หญิงเช่นนี้”

“โอ้? อะไรทำให้ท่านมั่นใจว่าข้าเป็นผู้หญิง?” หัวหน้ากลุ่มวาฬพูดด้วยความอยากรู้อย่างแท้จริง

“ความสามารถพิเศษของข้าคือไวต่อผู้หญิงอย่างมาก แม้จะมองไม่เห็น แต่แค่สูดอากาศรอบ ๆ มันก็เพียงพอแล้วที่ข้าจะรู้ว่าเจ้าเป็นผู้หญิง แถมยังเป็นผู้หญิงที่งดงามมากซะด้วย” เปลวไฟแห่งความปรารถนาปรากฏขึ้นในดวงตาของเฉินเซวียน ในตอนแรกเขามาที่นี่เพื่อทำธุรกิจเท่านั้น เขาไม่คิดเลยว่าจะได้มาเจอความประหลาดใจที่น่ายินดีเช่นนี้มาก่อน

เสียงหัวเราะเบา ๆ ลอยออกมา จากหลังม่าน แน่นอนว่ามันเป็นเสียงของผู้หญิงที่สดใสเหมือนนกขมิ้น แต่ก็เต็มไปด้วยความอบอุ่นราวกับกำลังเพลิดเพลินกับชาสักถ้วยในคืนที่ฝนตก…

“ข้าไม่คิดว่าหัวหน้าเฉินจะมีความสามารถที่น่าอัศจรรย์เช่นนี้ ข้าจะไม่ถือว่าตัวตนที่ถูกเปิดเผยของข้าเป็นเรื่องเสียหาย” หญิงสาวหลังม่านหัวเราะเบา ๆ “นับว่าวันนี้หัวหน้าเฉินโชคดี เพราะปกติข้าจะไม่อยู่บนเกาะ ถ้าไม่ใช่เพราะสถานการณ์พิเศษบางอย่างที่เกิดขึ้นในวันนี้ ท่านอาจจะไม่สามารถพบกับข้าได้”

เฉินเซวียนหัวเราะเสียงดัง “โชคของข้าดีเสมอมา”

“การที่ท่านยังคงเป็นอิสระเรื่อยมาในขณะที่กำลังถูกล่าตัวโดยอ๋องฉู่และเจ้าเมืองเซี่ย เห็นได้ชัดว่าท่านเป็นคนที่มีดวงเป็นเลิศอย่างแท้จริง” หญิงสาวถอนหายใจด้วยความชื่นชม

“เจ้าเองก็เป็นคนดวงดีเหมือนกันสาวน้อย! โอ้ อันที่จริงพวกเรามีหลายสิ่งคล้ายกันมากเลยจริงไหม?” เฉินเซวียนอยากรู้ว่านางหน้าตาเป็นอย่างไร ทำไมเสียงของนางถึงไพเราะขนาดเขย่าหัวใจของเขาได้ถึงขนาดนี้?

หากเป็นเวลาอื่น เขาคงฉีกม่านที่บังอยู่ออกเป็นชิ้น ๆ ไปแล้ว

แต่มหาโจรอย่างเขาไม่รู้ว่ากลุ่มวาฬมีความแข็งแกร่งมากเพียงใด ดังนั้นเขาจึงไม่กล้ากระทำการโดยประมาท

เขาดึงเก้าอี้แล้วนั่งลง พยายามทำความเข้าใจสถานการณ์ให้ดีขึ้นก่อน

อย่างไรก็ตาม หญิงสาวก็ไม่ได้สนใจเรื่องไร้สาระมากนัก นางจึงยกประเด็นหลักขึ้นมาพูดทันที “วันนี้หัวหน้าเฉินยืนยันที่จะพบกับข้าด้วยเรื่องอะไร?”

น้ำเสียงของเฉินเซวียนเริ่มจริงจัง “ข้ามาที่นี่เพื่อเสนอโอกาสทางธุรกิจให้เจ้า!”

“หืม? โอกาสทางธุรกิจประเภทใด?” ผู้หญิงที่หลังแผงม่านมีท่าทีสงสัย

เฉินเซวียนหัวเราะเสียงดัง แต่ไม่ได้ตอบคำถามของนางในทันที “ทั้งสองฝ่ายควรแสดงความจริงใจก่อนที่จะมีการหารือเรื่องธุรกิจ” เขากล่าว “ข้าได้ทำส่วนของข้าโดยมาที่นี่เป็นการส่วนตัวแล้ว แต่เจ้ายังรังเกียจข้าและปฏิเสธที่จะแสดงตัว เจ้าไม่รู้สึกบ้างหรือไงว่าเจ้ากำลังขาดความจริงใจ?”

เสียงหัวเราะที่อ่อนโยนดังขึ้น “นี่เป็นธรรมเนียมที่ข้าคุ้นเคยมาหลายปีแล้ว ข้าหวังว่าหัวหน้าเฉินจะไม่ถือสา”

ร่างที่สวยงามและเปี่ยมเสน่ห์ค่อย ๆ โผล่ออกมาจากด้านหลังแผงม่านในทันทีที่นางพูดจบ

ดวงตาของเฉินเซวียนเป็นประกายขึ้นทันที หญิงสาวที่อยู่ข้างหน้าเขาสวมชุดสีแดงเพลิง ผิวของนางเรียบเนียนและน่าจะอ่อนนุ่มมาก เขาสามารถบอกได้ว่าเอวที่สมบูรณ์แบบของนางต้องมีความยืดหยุ่นสูงมากแน่นอน เขาจินตนาการว่าหากหญิงสาวนั่งทับเขาขณะขยับสะโพกไปมา การเคลื่อนไหวของนางจะเร่าร้อนและทรงพลังอย่างแน่นอน

สิ่งเดียวที่น่าเสียดายคือใบหน้าของนางส่วนใหญ่ถูกปกปิดไว้ภายใต้ผ้าคลุมหน้าสีแดง ซึ่งทำให้ไม่สามารถระบุลักษณะใบหน้าของนางได้อย่างชัดเจน

แต่ด้วยดวงตาที่กลมโตคู่นั้น เห็นได้ชัดว่าใบหน้าที่เหลือของนางที่ถูกปิดไว้ย่อมจะไม่ทำให้เฉินเซวียนผิดหวังอย่างแน่นอน…

แต่ถึงจะไม่คำนึงถึงหน้าตา เอาแค่รูปร่างที่พิเศษเช่นนี้ ไม่ว่าใบหน้าของนางจะสวยหรือไม่ก็ตาม มันก็ไม่อาจลดทอนความน่าดึงดูดใจของนางได้

ในขณะเดียวกัน เฉินเซวียนก็พบว่านางมีรูปลักษณ์ที่แปลกไปจากปกติที่ควรเป็นเล็กน้อย ผู้ที่เกี่ยวข้องกับการลักลอบขนสินค้าใต้ดินมักจะใช้ชีวิตอยู่ท่ามกลางแสงแดดทุกวัน กินและนอนนอกบ้าน ผิวของนางควรจะดูคล้ำสักหน่อย แต่ทำไมผิวของนางถึงดูขาวใสราวกับอาบน้ำนมทุกวันแบบนี้? หัวหน้ากลุ่มวาฬผู้นี้ดูเหมือนคุณหนูจากครอบครัวที่ร่ำรวยมากกว่า

อย่างไรก็ตาม หัวหน้ากลุ่มวาฬผู้นี้ค่อนข้างลึกลับและไม่เคยปรากฏตัวต่อหน้าผู้อื่น ดังนั้นจึงไม่มีใครสามารถอธิบายถึงที่มาของผิวที่สวยงามของนางได้

หญิงสาวชุดแดงนี้ดูเหมือนจะไม่สนใจสายตาที่หิวโหยของเขา รอยยิ้มที่มีเสน่ห์ปรากฏขึ้นที่มุมริมฝีปากของนาง “แค่นี้พอจะแสดงความจริงใจของข้าได้หรือไม่?”

“แน่นอน!” เฉินเซวียนตอบรับทันที

แต่จะมีความจริงใจมากขึ้นถ้าเจ้าเปลื้องผ้าจนหมดตัว! เขาคิดในใจ

“ถ้าอย่างนั้น ข้าสงสัยว่าธุรกิจประเภทไหนที่หัวหน้าเฉินต้องการจะคุยกับข้า?” น้ำเสียงนี้ฟังดูยั่วยวน และเมื่อรวมกับชุดวับ ๆ แวม ๆ และรูปร่างที่เย้ายวนของนางแล้ว มันมากเกินพอที่จะทำให้ผู้ชายคนไหน ๆ เปลี่ยนร่างเป็นสัตว์ป่าที่หื่นกระหายได้

นางไม่ได้ด้อยไปกว่าชิวฮัวเล่ยแห่งหอสุขนิรันดร์เลย! เฉินเซวียนกลืนน้ำลาย เขารู้สึกอยากที่จะลูบคลำร่างกายอันน่าอัศจรรย์และเย้ายวนตรงหน้า

อย่างไรก็ตาม ชื่อเสียงของกลุ่มวาฬนั้นน่ากลัว และมันก็ทำให้มหาโจรหยุดตัวเองได้ เขาไม่กล้าประมาทก่อนจะรู้จักกลุ่มนี้ดีพอ

“ข้ามาที่นี่เพื่อหารือเกี่ยวกับการลงทุน” ดวงตาของเฉินเซวียนมองไปมาระหว่างหน้าอกและก้นของนาง อา…ข้าต้องการลงทุนในทรัพย์สินทั้งสองนี้

“ข้าไม่รู้ว่าหัวหน้าเฉินหมายถึงอะไร?” หญิงสาวดูสับสนเล็กน้อย

“แน่นอนว่าข้ากำลังหมายถึงการค้าเกลือเถื่อน! กลุ่มวาฬไม่ได้มีส่วนร่วมในธุรกิจอื่นนอกจากสิ่งนี้แล้วจริงไหม?” เฉินเซวียนเอนหลังพิงเก้าอี้อย่างสบาย ๆ ชื่นชมความงามที่อยู่ตรงหน้าเขา

การได้เจรจาธุรกิจกับสาวสวยคนนี้ช่างเป็นเรื่องที่น่ายินดีจริง ๆ

หญิงสาวขมวดคิ้ว และเสียงของนางก็เย็นลงเล็กน้อย “ค่ายเมฆาทมิฬดำเนินการอย่างอิสระมาโดยตลอดไม่เคยร่วมมือกับใคร ข้าไม่เข้าใจว่าหัวหน้าเฉินพยายามจะพูดอะไร?”

การค้าเกลือผิดกฎหมายสร้างผลกำไรมหาศาล และเห็นได้ชัดว่านางไม่ต้องการจะแบ่งผลกำไรกับผู้อื่น

“เจ้าไม่จำเป็นต้องกังวล ข้าไม่ได้มาที่นี่เพื่อแย่งชิงธุรกิจของกลุ่มวาฬ แต่ข้ามายื่นข้อเสนอให้เราร่วมมือกัน” เฉินเซวียนอธิบาย

“จะให้ความร่วมมือยังไง?” หญิงสาวถาม

เฉินเซวียนกล่าวว่า “จากมุมมองของข้า ธุรกิจกลุ่มวาฬของเจ้านั้นอันตรายยิ่งกว่าของพวกข้าค่ายเมฆาทมิฬซะอีก ทั้งราชสำนักและอ๋องฉู่จะมีความสุขมากหากธุรกิจของเจ้าที่เป็นหนามกลางอกของพวกเขาหายไป คุณภาพเกลือของเจ้าไม่ได้ด้อยไปกว่าเกลือของทางการเลยด้วยซ้ำ ไม่สิ บางทีมันอาจจะดีกว่าด้วยซ้ำไป สิ่งเดียวที่แตกต่างระหว่างเกลือของเจ้าและเกลือของอ๋องฉู่ก็คือใบอนุญาตค้าเกลือ!”

“ท่านขอใบอนุญาตค้าเกลือได้งั้นเหรอ?” หญิงสาวเริ่มสนใจขึ้นมาทันที

เฉินเซวียนยิ้ม “ถ้าไม่ได้ ข้าจะกล้ามาที่เกาะนี้เพื่อมาเจอหน้าเจ้าทำไม?”