บทที่ 461 ขยะของตระกูลใช่ว่าใครจะเอาไปก็ได้

เซียนคีย์บอร์ด [陆地键仙]

บทที่ 461 ขยะของตระกูลใช่ว่าใครจะเอาไปก็ได้

บทที่ 461 ขยะของตระกูลใช่ว่าใครจะเอาไปก็ได้

“ชิวฮัวเล่ย?”

สีหน้าของฉินหว่านหรูเปลี่ยนไปอย่างน่ากลัว ตั้งแต่เกิดมานางไม่เคยได้ยินมาก่อนเลยว่ามีลูกเขยบ้านไหนที่กล้าสร้างเรื่องจนมีผู้หญิงมาตามหาถึงบ้านภรรยาแบบนี้มาก่อน!

ฉู่ชูเหยียนก็ดูไม่พอใจเช่นกัน ที่จริงแล้ว ภรรยาคนใดจะมีความสุขที่ได้ยินว่านางคณิกามาหาสามีตอนดึก?

“ชิวฮัวเล่ยมาที่นี่เพื่อพบใคร?” ฉู่จงเทียนยังคงสับสน

“แม่นางชิวมาหานายน้อย!” เฉิงโซวผิงกะพริบตา เขาจำได้ว่าท่านอ๋องเคยชมเชยรูปร่างหน้าตาของชิวฮัวเล่ยเมื่อไม่กี่ปีก่อน เขาหึงเหรอ?

แต่ท่านอ๋องเหนือกว่านายน้อยแทบทุกด้าน! สิ่งเดียวที่เขาล้าหลังนายน้อยคือทักษะการเกี้ยวผู้หญิง!

ฉู่จงเทียนไม่มีอนุภรรยามาโดยตลอด และเฉิงโชวผิงเองก็ถูกส่งไปทำงานในครัวเพราะไปยุ่งเกี่ยวกับเรื่องนี้

โธ่ท่านอ๋อง ทำไมท่านไม่เอาอย่างนายน้อยผู้เป็นเจ้าแห่งตำนานมากมาย!

ซูอันรู้สึกเขินอายเมื่อตกเป็นเป้าสายตาในตอนนี้ “บางทีนางอาจมีเรื่องสำคัญจะคุยกับข้า…เดี๋ยว…เดี๋ยวข้ากลับมา!”

“สำคัญ? ‘เรื่องสำคัญ’ แบบไหนที่ทำให้นางคณิกาวิ่งแล่นมาที่นี่ในตอนกลางคืน?” ฉินหว่านหรูเย้ยหยัน “ไม่สิ นี่เป็นโอกาสที่ดี! ข้าจะไปดูเองว่าเกิดอะไรขึ้น!”

ฉู่จงเทียนพยักหน้า “ข้าก็ควรไปดูเช่นกัน”

ฉินหว่านหรูมองสามีของนาง ท่านสนใจอยากจะรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นหรือเพียงแค่สนใจในตัวชิวฮัวเล่ยกันแน่?

แต่นางก็คิดว่าไม่ควรแสดงความรู้สึกออกมา โดยเฉพาะอย่างยิ่งภายใต้การเฝ้ามองของดวงตาหลายคู่

นางโทษว่าซูอันเป็นต้นเหตุความผิดทั้งหมด ความยุ่งเหยิงทั้งหมดนี้เป็นเพราะไอ้เด็กเหลือขอคนนี้!

ท่านยั่วยุฉินหว่านหรูสำเร็จ

ได้รับคะแนนความโกรธแค้น + 333!

ซูอันกระอักกระอ่วนกับคะแนนความโกรธแค้นที่เข้ามา และชายหนุ่มตัดสินใจที่จะปล่อยให้ฉินหว่านหรูระบายความโกรธเคืองของนาง ไม่ใช่ว่านางจะทุบตีเขาจริง ๆ สักหน่อยจริงไหม?

พวกเขารีบไปที่ทางเข้า ฉู่ชูเหยียนยังคงนิ่งเงียบ แต่การที่นางเดินตามมาด้วยบ่งบอกถึงความในใจทั้งหมด

เมื่อพวกเขามาถึงทางเข้าคฤหาสน์ พวกเขาก็พบว่ามีคนจำนวนไม่น้อยมารวมตัวกัน คนทั้งหมดเป็นคนในคฤหาสน์ตระกูลฉู่ ซึ่งพวกเขาอยากรู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่…

อันที่จริงเรื่องนี้พิสูจน์ได้ว่าชื่อเสียงของชิวฮัวเล่ยเป็นที่รู้จักไปทั่วเมืองจันทร์กระจ่างจริง ๆ ตั้งแต่คนแก่อายุแปดสิบเศษไปจนถึงเด็กเล็ก ตราบใดที่พวกเขายังเป็นผู้ชาย พวกเขาย่อมรู้จักนาง

แม้ตระกูลฉู่จะมีระเบียบวินัยที่เข้มงวด แต่ก็ไม่มีอะไรสามารถต้านทานความอยากรู้อยากเห็นของพวกเขาได้ พวกเขารีบมาดูสาวงามที่มีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่ว

ท้ายที่สุด ด้วยสถานะและรายได้ของพวกเขา จึงไม่เคยมีโอกาสได้เห็นคณิกาอันดับหนึ่งของหอสุขนิรันดร์มาก่อนเลย

“ช่างเป็นรูปร่างและรูปลักษณ์ที่น่าทึ่งจริง ๆ…”

“ถ้าข้าสามารถมีภรรยาแบบนี้ได้…ไม่ ถ้าข้าต้องตายแลกกับมีนางเป็นภรรยาหนึ่งวัน มันก็คุ้มค่าแล้ว!”

“นางช่างงดงามเหลือเกิน! ข้าไม่คิดว่ารูปโฉมของนางจะด้อยกว่าคุณหนูใหญ่สักนิด!”

“เจ้าเบื่อชีวิตเหรอ? เจ้ากล้าเอาคุณหนูใหญ่มาเปรียบเทียบกับคณิกาได้ยังไง!…แต่ข้าว่าคุณหนูใหญ่ออกจะเย็นชาไปหน่อย ในขณะที่รอยยิ้มของแม่นางชิวก็ทำให้หัวใจเต้นแรงขึ้น…”

“ข้าได้ยินมาว่านางมาหานายน้อย เรื่องนี้เป็นไปได้ยังไง?”

แน่นอนว่าไม่ใช่ทุกคนที่ตื่นเต้น ฉู่ฮงไฉเองก็ไม่เชื่อหูของตัวเอง เมื่อเขาได้ยินข่าวการมาถึงของชิวฮัวเล่ย เขาก็วิ่งออกมาดูโดยไม่ได้สวมรองเท้าข้างขวาด้วยซ้ำ แน่นอนว่าเขาต้องการพบหญิงงามที่เขาปรารถนาทั้งกลางวันและกลางคืน

ไม่ว่าจะรอยยิ้มหรือการขมวดคิ้วจากผู้หญิงคนนี้ มันก็เพียงพอที่จะทำให้เขาคลั่งได้ง่าย ๆ แต่ผู้หญิงที่สมบูรณ์แบบเช่นนี้กลับเป็นฝ่ายมาหาผู้ชายคนอื่นในตอนกลางคืน?

หัวใจของฉู่ฮงไฉเหมือนกับแจกันที่ตกลงบนพื้นซึ่งแตกกระจายเป็นชิ้น ๆ นับไม่ถ้วนในทันที

ช่างมันเถอะ มันเหมือนกับที่อวี้เฉิงพูด มันจะดีกว่าหากนางอยู่กับซูอัน เพราะอย่างน้อยซูอันก็เป็นคนในตระกูลเดียวกันกับเรา

แต่ถึงจะเป็นอย่างนั้น ทำไมข้าถึงรู้สึกอยากจะร้องไห้!?

ชิวฮัวเล่ยดูเหมือนไม่แยแสต่อเสียงกระซิบของฝูงชน นางยิ้มขณะยืนรอ อย่างใจเย็น

ไม่นานประตูก็เปิดออก ทหารยามหุบยิ้มทันทีเมื่อเห็นฉู่จงเทียน ทหารทุกคนเชิดหน้าและยืดอก ทำตัวมีระเบียบอย่างแข็งขัน

ฉินหว่านหรูแต่เดิมซึ่งโกรธจัด ดูเหมือนจะลืมความโกรธของนางทันทีที่มองเห็นหญิงสาวที่กำลังรออยู่หน้าประตูตรงนั้น

โลกนี้มีผู้หญิงสวยขนาดนี้ได้ยังไงกัน?

ถึงแม้ว่าลูกสาวคนโตของนางจะงดงามมากเช่นกัน แต่ความงามของผู้หญิงคนนี้แน่นอนว่าไม่ได้ด้อยไปกว่าลูกสาวของนางเลย หญิงสาวคนนี้งดงามราวกับเป็นศูนย์รวมความงามทางโลก ร่างของนางเต็มเปี่ยมไปด้วยเสน่ห์ของหญิงสาว แม้แต่ผู้หญิงที่เห็นนางก็อาจปล่อยให้จินตนาการของตัวเองโลดแล่นอย่างบ้าคลั่งจนควบคุมไม่ได้

นางตั้งสติได้ในวินาทีต่อมา ทำไมข้าถึงยกย่องผู้หญิงที่พยายามขโมยผู้ชายของลูกสาวตัวเอง?

นางเป็นแค่นังปีศาจจิ้งจอกจอมเย้ายวนอีกตัวหนึ่ง!

นางกำลังจะพูดอะไรบางอย่างแต่เมื่อสังเกตเห็นว่าดวงตาของสามีนางเบิกกว้างจนเกือบเท่ากับไข่ห่าน นางก็รีบเดินเข้าไปหาเขาและลอบหยิกแขนเขาด้วยความเดือดดาล

ใบหน้าของฉู่จงเทียนเปลี่ยนเป็นสีแดง เขาแกล้งทำเป็นไอเพื่อซ่อนความเขินอายของเขา

“ข้าขอแสดงความเคารพต่อท่านอ๋องฉู่ ฮูหยินฉู่และคุณหนูใหญ่ฉู่”

ชิวฮัวเล่ยรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อยเมื่อเห็นพวกเขา อย่างไรก็ตามนางก็เก็บความกังวลไว้และทักทายแต่ละคนด้วยรอยยิ้ม ทุกการกระทำของนางเป็นไปตามความเหมาะสม ไม่มีข้อบกพร่องแม้แต่นิดเดียว

ฉู่จงเทียนมองดูภรรยาของตัวเองอย่างรู้สึกผิด แต่เขาเป็นผู้นำตระกูล มันเป็นเรื่องธรรมดาที่เขาจะต้องเป็นคนตอบคำถาม เขากระแอมในลำคอและกล่าวว่า “ทำไมแม่นางชิวจึงตัดสินใจมาเยี่ยมตระกูลฉู่เรายามดึกเช่นนี้?”

“ฮัวเล่ยมาเพื่อบอกบางอย่างกับอาซู แต่ไม่คิดเลยว่าจะเป็นการรบกวนท่านอ๋องและฮูหยินเช่นนี้ ข้าต้องขออภัยด้วยจริง ๆ” ชิวฮัวเล่ยโค้งคำนับ หัวใจของคนรอบข้างหลอมละลาย จะมีใครตำหนิผู้หญิงคนนี้ได้อย่างไร?

“เจ้าต้องการพบอาซูเพื่ออะไร?” ฉินหว่านหรูถามกลับด้วยความไม่พอใจ นางรู้ว่าลูกสาวของนางนั้นมักสงวนท่าทีที่สงบนิ่ง ดังนั้นในฐานะแม่ มันจึงเป็นหน้าที่ของนางที่จะต้องช่วยเหลือในช่วงเวลาเช่นนี้

หืม? ข้าควรจะดีใจมากกว่าไม่ใช่เหรอที่ตอนนี้มีคนพยายามเอาไอ้เจ้าซูอันที่น่ารำคาญออกไป แต่ทำไมตอนนี้ข้าถึงกังวลว่าเขาจะถูกผู้หญิงคนอื่นจับไป?

ฉินหว่านหรูไตร่ตรองคำถามในใจของนาง ไม่สิ ถ้าเขาถูกผู้หญิงคนอื่นล่อลวงไปได้สำเร็จ เราก็ต้องหาผู้ชายคนใหม่มาแทนที่เขา เพื่อที่เราจะสามารถปฏิเสธข้อเสนอการแต่งงานจากขั้วอำนาจต่าง ๆ นอกจากนี้ มันจะทำลายชื่อเสียงของลูกสาวข้าอย่างรุนแรง

อืม…นี่ดูเหมือนเป็นข้อแก้ตัวที่ยอมรับได้

ฮึ่ม แม้ว่าจะเป็นเศษขยะ แต่ก็เป็นขยะของตระกูลฉู่ เราจะปล่อยให้ผู้หญิงคนอื่นเอาไปได้ยังไงกัน?

อาการลังเลปรากฏขึ้นบนใบหน้าของชิวฮัวเล่ย “ข้าต้องการคุยกับอาซู เป็นการส่วนตัว ที่นี่อาจไม่เหมาะสมเกินไป…ที่จะพูด”

“โอ้…” ผู้ชายที่รวมตัวกันที่นั่นทำหน้ารู้กัน พวกเขาไม่ต้องเดาด้วยซ้ำว่าชายและหญิงทำอะไรกันในตอนกลางคืน?

ฉู่ฮงไฉซึ่งกำลังหยิบชิ้นส่วนหัวใจที่แตกสลายขึ้นมาด้วยความยากลำบาก แต่เมื่อได้ยินประโยคนี้เขาก็รู้สึกเหมือนว่าเศษหัวใจเหล่านั้นถูกบดขยี้อีกรอบอย่างไร้ความปรานี!

จิตใจของเขาบอกเขาว่าเขาจะเจ็บน้อยลงถ้าเขาจากไปก่อนหน้านี้ แต่สายตาของเขาไม่สามารถเบือนไปจากใบหน้าของนางได้ เขาคิดว่าขอให้ได้มองหญิงสาวสวยคนนี้ไปอีกสักพักก็ยังดี