ตอนที่ 843 ยัดข้อหา (4) ตอนที่ 844 ยัดข้อหา (5)

ทรราชหญิงเจ้าหัวใจจักรพรรดิมาร

ตอนที่ 843 ยัดข้อหา (4) / ตอนที่ 844 ยัดข้อหา (5)
ตอนที่ 843 ยัดข้อหา (4)

จวินอู๋เสียต้องมีความแค้นกับเด็กสาวคนนั้นแน่ ไม่อย่างนั้นจะอยากเอาชีวิตนางไปทำไม

“เจ้าไม่ได้ทำ ถ้าอย่างนั้นก็มีคนอยากใส่ร้ายเจ้าน่ะสิ” ฟ่านจัวพูดขึ้นทันที

จวินอู๋เสียพยักหน้า “ข้าไม่ได้แตะต้องนางเลยสักนิด ก่อนที่ข้าจะลงมือโจมตี นางก็ล้มลงไปแล้ว” นางเคลื่อนไหวเร็วมากและเข้าใกล้ชวีหลิงเย่ว์จริงๆ ในสายตาของคนอื่นจึงดูเหมือนนางโจมตีชวีหลิงเย่ว์ด้วยความเร็วที่มองไม่เห็น

แต่ไม่มีใครรู้ดีไปกว่าจวินอู๋เสียว่าที่จริงแล้วเกิดอะไรขึ้นในตอนนั้น

คำพูดของจวินอู๋เสียทำให้เฉียวฉู่และคนอื่นๆ คิดหนักทันที ตอนแรกพวกเขาคิดว่าชวีหลิงเย่ว์ทำบางอย่างที่ทำให้จวินอู๋เสียลงมือกับนางเช่นนั้น แต่เมื่อได้ยินที่ฟ่านจัวกับจวินอู๋เสียคุยกัน พวกเขาก็ตาสว่างทันที

ถ้าจวินอู๋เสียต้องการเล่นงานใครสักคนจริงๆ นางจะไม่ใช่วิธีที่ดึงดูดความสนใจมาที่ตัวเองมากขนาดนี้อย่างแน่นอน นางไม่เคยเปิดเผยเจตนาที่แท้จริงของตัวเองก่อน และยิ่งเป็นไปไม่ได้ที่นางจะพยายามฆ่าโดยไม่ได้มีการเตรียมตัวอะไรเอาไว้เลย

เมื่อคิดย้อนกลับไป เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับชวีหลิงเย่ว์ไม่เหมือนวิธีการตามปกติของจวินอู๋เสียเลยสักนิด

“เจ้ารู้หรือไม่ว่าใครเป็นคนที่อยู่เบื้องหลังเรื่องนี้” ฮวาเหยาถามขึ้น

จวินอู๋เสียตอบว่า “ถ้าไม่ใช่ฮ่องเต้ก็คงเป็นองค์ชายสี่นั่นแหละ ข้าเพิ่งปฏิเสธคำชวนขององค์ชายสี่ไป จากนิสัยหยิ่งยโสของเขา เขาไม่ปล่อยมันผ่านไปแบบนั้นแน่นอน สำหรับพวกเขาแล้วการวางแผนยัดข้าเข้าคุกวันนี้ แสดงว่าหลังจากนี้จะต้องมีอะไรตามมาอีกแน่นอน”

นางอยากรู้จริงๆ ว่าฮ่องเต้กับองค์ชายสี่จะมีความสามารถมากขนาดไหนกัน

“ข้าไม่คิดที่จะออกไปจากที่นี่ตอนนี้ เฟยเยียน ช่วยจับตามองชวีหลิงเย่ว์อย่างใกล้ชิดให้ข้าที พวกนั้นไม่กล้าปล่อยให้เกิดอะไรขึ้นกับชวีหลิงเย่ว์จริงๆ หรอก” ชวีหลิงเย่ว์คนนั้นเป็นคนพิเศษ ทำให้ไม่มีใครกล้าทำร้ายนาง เหตุผลที่พวกนั้นเลือกใช้ชวีหลิงเย่ว์ ก็เพราะอย่างแรกชวีหลิงเย่ว์คือคู่ต่อสู้คนต่อไปของนาง และอย่างที่สองพวกนั้นตั้งใจจะใช้เมืองพันอสูรที่แข็งแกร่งที่อยู่เบื้องหลังของชวีหลิงเย่ว์ทำให้เรื่องนี้ใหญ่ขึ้น

ถ้าเป็นผู้เยาว์คนอื่นคงจะปิดเรื่องได้อย่างง่ายดาย และเรื่องก็คงไม่ใหญ่โตถึงเพียงนี้

“เราต้องขอความช่วยเหลือจากเหลยเชินหรือเปล่า” เฉียวฉู่ถามขึ้น

“เรื่องนี้ดึงเหลยเชินมาเกี่ยวข้องไม่ได้หรอก เจ้าคิดว่าทำไมพวกเขาถึงเลือกชวีหลิงเย่ว์เล่า ในฐานะคุณหนูใหญ่แห่งเมืองพันอสูร ถ้ามีอะไรเกิดขึ้นกับนางละก็ คนของเมืองพันอสูรจะถูกลากเข้ามาเกี่ยวด้วยอย่างแน่นอน เหลยเชินเป็นเพียงองค์รัชทายาทของรัฐเหยียน เขาไม่สามารถเข้ามายุ่งได้อยู่แล้ว ยิ่งกว่านั้นฮ่องเต้ไม่มีทางให้โอกาสเขาเข้ามายุ่งกับเรื่องนี้ด้วยเหมือนกัน” จวินอู๋เสียอธิบายอย่างใจเย็น ถ้าเหลยเชินสามารถทำอะไรกับสถานการณ์นี้ได้ ตอนนี้นางคงไม่นั่งอยู่ในห้องขังอยู่แบบนี้หรอก

“ตาแก่ฮ่องเต้นั่นเลอะเลือนไปแล้วหรืออย่างไร เขาต้องใช้วิธีนี้ด้วยอย่างนั้นหรือ เหลยเชินกับเหลยฝานก็เป็นพระโอรสเขาทั้งคู่ไม่ใช่หรือ อย่าบอกนะว่าเขารู้แล้วว่าเหลยเชินไม่ใช่ลูกแท้ๆ ของเขาน่ะ” เฉียวฉู่ถาม รอยยิ้มร้ายกาจปรากฏขึ้นบนริมฝีปากของเขา

บุตรชายทั้งสองไม่มีสายโลหิตของฮ่องเต้เลยแม้แต่คนเดียว และถ้าตาแก่คนนั้นรู้เข้า เขาจะต้องโกรธมากจนอกแตกตายอย่างแน่นอน

“ถ้าเขารู้ ป่านนี้เหลยเชินคงตายไปแล้ว” จวินอู๋เสียมองเฉียวฉู่อย่างอ่อนอกอ่อนใจ เมื่อไรเจ้าเด็กโข่งนี่จะฉลาดขึ้นเสียที

“ฮ่องเต้แค่อยากให้เหลยเชินลงจากตำแหน่งองค์รัชทายาทเท่านั้น ไม่ได้อยากจะฆ่าเขาจริงๆ สักหน่อย แต่เหลยฝานอาจจะไม่ได้คิดแบบเดียวกัน” จวินอู๋เสียเคยเจอเหลยฝานแค่ครั้งเดียวและเป็นการพบกันแค่ช่วงสั้นๆ เท่านั้น แต่แค่นั้นนางก็สามารถรู้ถึงนิสัยใจคอและภาวะอารมณ์ของเหลยฝานได้ว่าไม่เหมือนคนทั่วไป นางแค่ปฏิเสธคำชวนเป็นสหายร่วมเรียนของเขาเท่านั้น ในเวลาต่อมานางก็พบว่าตัวเองถูกโยนเข้าคุกเสียแล้ว

เขาลงมือได้รวดเร็วจริงๆ

จวินอู๋เสียหรี่ตา ดวงตาทอประกายความรู้สึกที่อ่านไม่ออก

ตอนที่ 844 ยัดข้อหา (5)

จวินอู๋เสียเงยหน้าขึ้นทันทีและมองตรงไปที่ฮวาเหยาที่ยังจมอยู่ในห้วงความคิด

“พี่ฮวา ทุกคนแข่งขันกันเสร็จแล้วใช่หรือไม่”

ฮวาเหยาพยักหน้า นอกจากเขตหนึ่งที่เกิดเหตุไม่คาดฝันขึ้นในวันนี้ เขตอื่นๆ ทุกเขตต่างแข่งขันกันเสร็จแล้ว และได้ตัวผู้ชนะจากทั้งเก้าเขตเรียบร้อย โดยที่ฮวาเหยาและคนอื่นๆ รวมห้าคนได้เข้าไปในสิบอันดับแรกอย่างง่ายดาย

“อีกกี่วันจะถึงวันตัดสินสิบอันดับแรกหรือ” จวินอู๋เสียถามต่อ

“อีกห้าวัน” ฮวาเหยาตอบ

“ห้าวัน…” จวินอู๋เสียก้มหน้าลงและลุกขึ้นยืนทันที นางเดินไปที่ประตูห้องขังและดึงเอาปิ่นเงินออกจากมวยผม จากนั้นก็เอื้อมมือออกไปนอกห้องขังและขยับปิ่นไปมาที่รูกุญแจ

เสียงกริ๊กดังขึ้นและประตูห้องขังก็เปิดออก

เฉียวฉู่และคนอื่นๆ ที่ยืนอยู่ข้างนอกห้องขังพากันอ้าปากค้าง พวกเขาตกตะลึงกับความสามารถในการสะเดาะกุญแจของจวินอู๋เสีย

“น้องเสีย…เจ้าไปเรียนทักษะเช่นนี้มาตั้งแต่เมื่อไร” เฉียวฉู่ถามพร้อมกับกลืนน้ำลายดังอึก พวกเขาเตรียมพร้อมพังกุญแจกันเต็มที่ แต่จวินอู๋เสียกลับสะเดาะกุญแจได้ด้วยปิ่นเงินอันเล็กๆ แค่อันเดียว

“ข้าเรียนมาจากสหาย” จวินอู๋เสียพูดพร้อมกับเสียบปิ่นเงินกลับไปที่เดิม นางเรียนทักษะสะเดาะกุญแจจากใครบางคน และมันทำให้นางไปไหนมาไหนได้ตามใจชอบเมื่ออยู่ที่องค์กร นางไม่คิดว่าหลังจากมาเกิดใหม่ในโลกนี้แล้วมันจะมีประโยชน์ต่อนางแบบนี้

“สุดยอดไปเลย!” เฉียวฉู่อุทาน

จวินอู๋เสียไม่คิดเช่นนั้นและพูดขึ้นว่า “ข้าไม่เก่งหรอก ถ้าเป็นนาง จะใช้เวลาไม่ถึงสามวินาทีด้วยซ้ำ…” เสียงของจวินอู๋เสียขาดหายไป นางสลัดความรู้สึกที่เอ่อล้นขึ้นมาในใจทิ้งแล้วเดินออกจากห้องขัง

“ข้านึกว่าเจ้าไม่คิดที่จะออกมาเสียแล้ว” หรงรั่วล้อเสียนจวินอู๋เสีย

“ข้าไม่ได้จะออก” จวินอู๋เสียตอบ ทำให้ทุกคนพากันสับสน นางหันไปมองฮวาเหยาแล้วพูดว่า “พี่ฮวา ช่วยอยู่ที่นี่แทนข้าที”

“…” ฮวาเหยาประหลาดใจจนพูดไม่ออก ครู่หนึ่งเขาถึงนึกได้ว่าจวินอู๋เสียกำลังพูดถึงอะไร

“ข้าต้องออกไปข้างนอกตอนกลางวัน พี่ฮวาจะอยู่ในห้องขังแทนที่ข้า แล้วข้าจะกลับมาที่นี่ตอนกลางคืน” จวินอู๋เสียไม่อยากออกไปแบบนั้น ในเมื่อมีคนอยากให้นางถูกขังอยู่ในคุก นางจะปล่อยให้พวกเขาทำตามใจชอบได้อย่างไร

“เจ้าคิดจะทำอะไร” เฉียวฉู่ถาม

“ชวีหลิงเย่ว์เป็นคนเดียวที่รู้ดีที่สุดว่าแท้จริงแล้วเกิดอะไรขึ้น เมื่อนางได้สติกลับมา ความจริงจะถูกเปิดเผย พวกนั้นก็จะไม่มีเหตุผลที่จะขังข้าไว้ในคุกอีกต่อไป” จวินอู๋เสียพูดพลางยิ้มมุมปากเล็กน้อย

ในเมื่ออยากจะเล่นเกมนัก นางก็จะจัดให้อย่างดีเลยเชียว

เมื่อเข้าใจแล้วว่าจวินอู๋เสียหมายถึงอะไร ฮวาเหยาก็ไม่ถามอะไรต่อ และจัดการเคลื่อนย้ายกระดูกในร่างทันที จากนั้นก็หมุนตัวหันไปมองจวินอู๋เสีย

นิสัยของฮวาเหยาเย็นชาและเว้นระยะห่างจากผู้อื่นคล้ายกับจวินอู๋เสีย และเมื่อเขาตั้งใจเลียนแบบท่าทางและสีหน้าของจวินอู๋เสียแล้ว ก็แยกออกได้ยากมากๆ ว่าใครเป็นใครเมื่อพวกเขายืนอยู่ด้วยกัน

“จะออกไปตอนนี้หรือพรุ่งนี้” ฮวาเหยาถามด้วยเสียงที่เหมือนกับเสียงของจวินอู๋เสียไม่ผิดเพี้ยน

จวินอู๋เสียตอบว่า “คืนนี้”

ฮวาเหยาพยักหน้าและเดินเข้าไปในห้องขังโดยไม่ลังเล แถมยังจัดการล็อคกุญแจกลับเข้าที่ตอนเข้าไปด้วย เนื่องจากทั้งสองคนสวมเครื่องแบบของสำนักศึกษาเฟิงหัวอยู่แล้ว จึงไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนเสื้อผ้าอีก

จวินอู๋เสียออกมาจากคุกพร้อมกับเฉียวฉู่และคนอื่นๆ ในขณะที่ยังมืดมิดและเงียบสงัด ผู้คุมทั้งสองที่อยู่ตรงประตูคุกกำลังนอนกรนกันอยู่ ไม่รู้ตัวเลยสักนิดว่านักโทษที่พวกเขาขังเอาไว้ได้สลับตัวกันไปแล้ว

หลังออกจากคุกมาได้ไม่นาน จวินอู๋เสียก็เรียกเยี่ยซาออกมา

“ไปที่วังหลวง” จวินอู๋เสียสั่ง

เยี่ยซาพยักหน้าน้อยๆ ร่างสูงของเขาหายไปในความมืดยามราตรีอย่างรวดเร็ว