ตอนที่ 841 ยัดข้อหา (2) / ตอนที่ 842 ยัดข้อหา (3)
ตอนที่ 841 ยัดข้อหา (2)
ทุกคนรู้ดีถึงพลังของจวินอู๋เสีย แม้ว่าจวินอู๋เสียจะเอาชนะคู่ต่อสู้คนก่อนๆ ในชั่วพริบตาทุกคน เขาก็ไม่เคยทำให้ใครบาดเจ็บหนักเลยสักครั้ง แต่วันนี้จวินอู๋เสียโจมตีชวีหลิงเย่ว์จนนางกระอักโลหิตออกมาไม่หยุดต่อหน้าต่อตาพวกเขา เมื่อทุกคนเห็นสภาพของชวีหลิงเย่ว์ที่ถูกหามออกไป พวกเขาก็รู้ว่าเรื่องนี้ไม่ดีแน่แล้ว
จากที่พวกเขาเห็น ชวีหลิงเย่ว์บาดเจ็บภายในอย่างหนัก!
ในขณะที่ลานประลองตกอยู่ในภาวะสับสนวุ่นวายอยู่นั้น กองทหารก็เข้ามาทันที พวกเขาถือดาบเอาไว้ในมือและมองไปที่จวินอู๋เสียที่ยังยืนอยู่บนเวที
“เจ้าคือจวินเสียหรือ”
สายตาเย็นชาของจวินอู๋เสียกวาดมองพวกทหารพร้อมกับหรี่ตาลง
“ใช่”
“ศึกประลองภูติวิญญาณห้ามผู้เข้าแข่งขันทำร้ายกันจนถึงแก่ชีวิต ชวีหลิงเย่ว์ได้รับบาดเจ็บสาหัส เป็นตายเท่ากัน การโจมตีของเจ้าโหดร้ายรุนแรงเกินไป ขัดต่อกฎของศึกประลองภูติวิญญาณ เราคงต้องขอให้เจ้ามากับเรา!” ทหารคนหนึ่งพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเย็นชา
ลานประลองเกิดเสียงดังเอะอะขึ้นอีกรอบ ศึกประลองภูติวิญญาณมีกฎเช่นนั้นจริงๆ พวกเขาได้รับอนุญาตให้ต่อสู้ แต่ไม่ได้รับอนุญาตให้ฆ่าคู่ต่อสู้ ถ้าพวกเขาทำคนตาย พวกเขาก็จะถูกลงโทษ
จวินอู๋เสียมองพวกทหารที่เตรียมตัวมาอย่างดีด้วยสายตาเย็นชา มุมปากของนางยกขึ้นเป็นรอยยิ้มเย็น จากนั้นก็ยกมือทั้งสองขึ้นตรงหน้า แต่การเคลื่อนไหวนั้นทำให้ทหารทุกคนปั่นป่วนขึ้นมาทันที!
“นั่นเจ้าคิดจะทำอะไร!”
จวินอู๋เสียเลิกคิ้วขึ้นข้างหนึ่งและถามว่า “พวกท่านไม่ได้พูดว่าจะเอาตัวข้าไปหรอกหรือ” นางเอาแขนชิดกัน สายตาทอประกายขบขัน
พวกนี้มาที่นี่กันเร็วจริงๆ
พวกทหารพากันถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก ทุกคนรู้ว่าจวินอู๋เสียมีพลังวิญญาณขั้นสีเขียว และในหมู่พวกเขาไม่มีสักคนที่จะเป็นคู่มือของจวินอู๋เสียได้ โชคดีที่จวินอู๋เสียยอมร่วมมือ ทหารคนหนึ่งรีบเอาโซ่ตรวนมาทันทีและเดินไปยืนตรงหน้าจวินอู๋เสียเพื่อที่จะล่ามมือของนางเอาไว้อย่างแน่นหนาก่อนจะนำตัวออกมาอย่างรวดเร็ว
จวินอู๋เสียปล่อยให้พวกทหารพาตัวนางไป นางถูกโยนเข้าไปในคุก ขณะที่ทั่วทั้งเมืองหลวงก็โกลาหลกันอีกครั้ง
คุณหนูใหญ่แห่งเมืองพันอสูรชวีหลิงเย่ว์ ได้รับบาดเจ็บสาหัสในศึกประลองภูติวิญญาณ และคนผิดก็ไม่ใช่ใครที่ไหน แต่เป็นคนที่ทุกคนพูดถึงกันมาตลอด เด็กหนุ่มมหัศจรรย์จวินอู๋เสีย!
ข่าวแพร่สะพัดไปอย่างรวดเร็วในเวลาไม่นาน
จวินอู๋เสียนั่งอยู่ในคุกของเมืองหลวงเพียงลำพัง ในคุกที่มืดและหนาวเย็น มีเพียงกองฟางแห้งๆ สกปรกกองหนึ่งบนพื้นและกลิ่นเหม็นชวนอาเจียนตลบอบอวลไปทั่วคุก
จวินอู๋เสียนั่งลงบนกองฟางและก้มหน้ามองโซ่ที่ล่ามมืออยู่ รอยยิ้มบางปรากฏขึ้นบนริมฝีปาก
“เหมียว”
ทั้งชาติก่อนและชาตินี้ นี่เป็นครั้งแรกที่ท่านถูกจับขังคุกเลยนะเนี่ย! รู้สึก…แปลกพิลึกดีแท้
เจ้าแมวดำตัวน้อยเดินวนรอบตัวจวินอู๋เสีย
“ทุกอย่างก็ต้องมีครั้งแรกทั้งนั้น” จวินอู๋เสียพูดเสียงเบา ถึงจะตกอยู่ในสภาพเลวร้ายเช่นนี้ ก็ดูเหมือนนางจะไม่กังวลอะไรเลย สิ่งที่อยู่ในใจนางตอนนี้ก็คือเกิดอะไรขึ้นกับชวีหลิงเย่ว์
นางคิดอย่างละเอียดรอบคอบมาตั้งแต่แรกแล้ว ชวีหลิงเย่ว์ไม่มีท่าทีผิดปกติอะไรเลยก่อนการต่อสู้จะเริ่ม และทันทีที่การต่อสู้เริ่มต้นขึ้น นางก็กระอักโลหิตออกมาและล้มลงไป นางแน่ใจว่าตนเองไม่ได้แตะต้องชวีหลิงเย่ว์เลย จึงเป็นไปไม่ได้ที่นางจะเป็นคนทำให้ชวีหลิงเย่ว์บาดเจ็บ
นางไม่ได้ให้ความสนใจชวีหลิงเย่ว์มากนัก แต่ก็มองออกได้ไม่ยากว่าชวีหลิงเย่ว์นั้นใสซื่อบริสุทธิ์ เด็กสาวที่ไร้เดียงสาเช่นนั้นจะไม่มีแผนเล่นงานนางแน่
จวินอู๋เสียแทบจะแน่ใจเลยว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในวันนี้คือแผนการของใครบางคนอย่างแน่นอน และมันก็เล็งเป้าหมายมาที่นางโดยตรง!
“เป็นฮ่องเต้หรือองค์ชายสี่กันนะ ต้องยอมรับเลยว่าแผนการครั้งนี้ลงมือได้รวดเร็วมาก” จวินอู๋เสียยิ้มบางๆ แต่แววตาเย็นเยียบจนน่ากลัว
ตอนที่ 842 ยัดข้อหา (3)
คุกในตอนกลางคืนเงียบมาก จวินอู๋เสียนั่งอยู่ในห้องขังของนางเพียงลำพังโดยไม่มีทีท่าท้อถอย ผิดหวัง หรือไม่พอใจอะไรเลย นางแค่นั่งอยู่ตรงนั้นเงียบๆ เงียบเหมือนกับที่นางเป็นอยู่เสมอราวกับอยู่ในห้องของตัวเอง ผู้คุมเดินมาตรวจอยู่สองครั้ง พวกเขาไม่เคยเห็นใครที่ถูกจับโยนเข้าคุกแล้วจะใจเย็นและสงบนิ่งได้ขนาดนี้ ท่าทางไม่กังวลสิ่งใดของจวินอู๋เสีย ทำให้ผู้คนลืมไปว่านางยังเป็นเด็ก แต่เมื่อเห็นว่าเด็กหนุ่มไม่ได้สร้างปัญหาอะไร ผู้คุมก็ไม่ได้พูดอะไรมากเช่นกัน
ตกดึกพวกผู้คุมไม่สามารถทนต่อความง่วงได้อีกต่อไป เปิดโอกาสให้คนหลายคนเข้ามาในคุกอย่างเงียบๆ
“ขอพูดหน่อยเหอะ…เจ้านั่งเล่นอยู่ในคุกนี่ จะไม่ดูสบายใจไปหน่อยหรือ” เฉียวฉู่พูดพลางมองจวินอู๋เสียด้วยสีหน้าโกรธเคือง พวกเขาได้ข่าวหลังจากจวินอู๋เสียถูกจับได้ไม่นาน คนที่มาส่งข่าวเป็นทหารจากตำหนักรัชทายาท แม้ว่าเหลยเชินจะไม่ได้มาเอง แต่เขาได้ส่งข้อความมาถึงพวกเขา
จวินอู๋เสียเงยหน้าขึ้นอย่างเกียจคร้านและมองไปที่คนหลายคนที่ยืนอยู่ข้างนอกห้องขังของนาง
ฮวาเหยา เฉียวฉู่ เฟยเยียน หรงรั่ว…แม้แต่ฟ่านจัวก็ตามมาด้วย
“มาแล้วหรือ” จวินอู๋เสียพูดอย่างใจเย็น ไม่ประหลาดใจกับการปรากฏตัวขึ้นอย่างกะทันหันของพวกเขาแม้แต่น้อย
“ถ้าเราไม่มา เจ้าคิดจะอยู่ที่นี่ไปตลอดหรืออย่างไร” เฉียวฉู่ถามพร้อมกับเลิกคิ้ว เขามองไปที่กุญแจตรงประตูข้างหน้าห้องขังแล้วพูดว่า “เสี่ยวเยียน เราต้องพึ่งเจ้าแล้ว”
เฟยเยียนมองเฉียวฉู่แล้วพูดอย่างดูถูกว่า “ถ้าเจ้าไม่ได้เรียกข้าว่าเสี่ยวเยียนบ้าๆ นั่น ข้าอาจจะอยากช่วยมากกว่านี้”
เฉียวฉู่ยักไหล่ เฟยเยียนยื่นมือออกมาทาบลงบนกุญแจทันที เขารวบรวมพลังวิญญาณเอาไว้ในมือเตรียมที่จะทำลายกุญแจ
“ข้าไม่ได้คิดที่จะออกไป” จวินอู๋เสียพูดพร้อมกับมองบรรดาสหายที่เตรียมช่วยนางแหกคุกเต็มที่ ถึงแม้นางจะดีใจที่พวกเขามา แต่นางไม่ได้คิดจะออกไปจากที่นี่ตอนนี้
“อะไรนะ” เฉียวฉู่ตกใจ เฟยหยานที่รวมพลังวิญญาณในมืออยู่เมื่อได้ยินคำพูดของจวินอู๋เสียก็สลายพลังทันที
“น้องเสีย พวกมันทรมานเจ้าหรือ” เฉียวฉู่ถามอย่างร้อนใจพร้อมกับรีบสำรวจจวินอู๋เสียตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า หลังจากแน่ใจว่าจวินอู๋เสียไม่ได้รับบาดเจ็บอะไร เขาก็ถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก
“ศีรษะก็ไม่ได้กระแทกอะไรนี่นา ทำไมถึงได้พูดจาไร้เหตุผลอย่างนั้น อย่าบอกนะว่าเจ้าเห็นว่าที่นี่สบายกว่าที่โรงเตี๊ยมตำหนักเซียนน่ะ!”
จวินอู๋เสียกลอกตามองเฉียวฉู่
“ชวีหลิงเย่ว์เป็นอย่างไรบ้าง” จวินอู๋เสียถามขึ้น
“ข้าไปดูนางมาแล้ว อาการนางไม่ดีเลย ตอนนี้หมอทุกคนในเมืองหลวงไปที่สำนักศึกษาธงศึกกันหมดแล้ว แม้แต่หมอหลวงก็ไปด้วย แต่นางยังไม่ได้สติเลย อาการบาดเจ็บของนางสาหัสมาก ขนาดไม่ได้สติแบบนั้นก็ยังกระอักโลหิตออกมาไม่หยุด” เฟยเยียนพูดพร้อมกับลูบคาง เขาแอบไปที่โรงเตี๊ยมที่สำนักศึกษาธงศึกพักอยู่เพื่อดูว่าสถานการณ์ที่นั่นเป็นอย่างไรบ้าง และพบว่าชวีหลิงเย่ว์ยังนอนหน้าซีดอยู่บนเตียงนอน
“น้องเสีย เจ้ามีเรื่องอะไรกับชวีหลิงเย่ว์หรือ เจ้าโหดร้ายกับนางมากเลยนะ ถ้าไม่ใช่เพราะโอสถยื้อชีวิตที่สำนักศึกษาธงศึกให้นางกิน นางคงตายไปแล้ว” เฉียวฉู่พูดพร้อมกับมองจวินอู๋เสียอย่างเสียใจ เขาไม่เคยข้องใจในความโหดร้ายของจวินอู๋เสียที่มีต่อศัตรูของนางเลยสักครั้ง
“แม้แต่เจ้าก็คิดว่าข้าเป็นคนทำอย่างนั้นหรือ” จวินอู๋เสียถามพร้อมกับเลิกคิ้วขึ้น
เฉียวฉู่ชะงักค้างอย่างประหลาดใจ จากนั้นก็รีบถามขึ้นว่า “เจ้าไม่ได้ทำหรือ”
จวินอู๋เสียไม่ตอบ
ที่จริงนางไม่ควรตำหนิเฉียวฉู่ที่คิดเช่นนั้น จวินอู๋เสียโหดเหี้ยมอำมหิตมากในภารกิจสองครั้งก่อนหน้านี้ และเมื่อเขาเห็นชวีหลิงเย่ว์อยู่ในสภาพเป็นตายเท่ากันเช่นนั้น จึงเป็นเรื่องปกติที่เฉียวฉู่และคนอื่นๆ จะคิดว่า…