ตอนที่ 477 เจอตัวแมรี่

สตรีมเมอร์สาว กินพิชิตอวกาศ

ตอนที่ 477 เจอตัวแมรี่

ตอนที่ 477 เจอตัวแมรี่

“ทำไมจะต้องรออีกครึ่งชั่วโมงด้วย?!” จักรพรรดิโมโหเมื่อได้ยินเช่นนั้น “พวกมันจะมารอเก็บศพของข้าหรือไง? ใช้เวลาตั้งครึ่งชั่วโมงเนี่ยนะ?! ตอบมาสิวะ! ถ้าพวกมันไม่รีบโผล่หน้ามา ข้าจะไล่พวกมันออกให้หมด!”

องครักษ์ยิ้มเหยเกและพยักหน้า “พ่ะย่ะค่ะฝ่าบาท!”

จักรวรรดิจื่อจินประสบความสูญเสียอย่างหนัก ดินแดนทั้งหมดกลายเป็นฝุ่นละออง ผู้คนบาดเจ็บล้มตายหลายล้านคน!

เมื่อไหร่ก็ตามที่จักรพรรดิได้รับการช่วยเหลือ เมื่อนั้นเขาจะออกคำสั่งให้จัดการมนุษย์ทันที

“พวกมนุษย์น่ารังเกียจกันนัก พวกเราใจดีกับพวกมัน ปล่อยให้พวกมันขยายเผ่าพันธุ์ แต่พวกมันกลับแว้งกัด! ถ้าเป็นแบบนี้คงทนไม่ไหว เราจะต้องทำให้พวกมันตระหนักถึงความผิดพลาดในครั้งนี้!”

จักรวรรดิอื่นต่างทราบสถานการณ์อันเลวร้ายของจักรวรรดิจื่อจินเป็นอย่างดี และความคิดของแต่ละจักรวรรดินั้นแตกต่างกันออกไป บางจักรวรรดิรู้สึกยินดีที่พวกเขาโชคร้าย บางจักรวรรดิแอบระวังตัวเงียบ ๆ และบางจักรวรรดิก็คิดว่าเรื่องนี้ไม่เกี่ยวข้องกับพวกเขา

พวกเขาคิดว่านี่คือจุดจบของจักรวรรดิจื่อจิน แต่กลับไม่ได้รู้ว่านี่คือจุดเริ่มต้น

ไม่ว่าจะเป็นจักรวรรดิไหนก็ล้วนได้รับความเสียหายอย่างรุนแรง สวี่หลิงอวิ๋นสบถถ้อยคำรุนแรงทุกที่ที่เธอไป

“ใครที่กล้าล่วงละเมิดเผ่ามนุษย์ ผู้นั้นจะต้องถูกลงโทษ ต่อให้อยู่ไกลแค่ไหนก็ตาม!”

หยิ่งทะนงเป็นอย่างมาก! ยกเว้นจักรวรรดิเอลฟ์กับจักรวรรดิเคทเลอร์ที่ไม่ได้รับการสูญเสียมากนัก ในขณะที่เมืองหลวงของจักรวรรดิอื่นถูกทำลายจนย่อยยับ อุปกรณ์เครื่องจักรทั้งหมดไม่สามารถทำงานได้อีกต่อไป

เผ่ามนุษย์เหิมเกริมเกินไปแล้ว! มนุษย์ต่างดาวทั้งหลายขบฟันแน่น

พวกเขาหวาดกลัวอสุรกายพวกนั้นและเกลียดชังเผ่ามนุษย์จนถึงก้นบึ้งของหัวใจ แต่ถ้าถามว่าพวกเขาดูหมิ่นอะไรพวกมนุษย์บ้าง พวกเขาเองก็จำไม่ได้

พวกเขาจำได้แค่ว่าได้จับกุมเผ่ามนุษย์และเอามาใช้งานเป็นสัตว์เลี้ยง ในจิตใจของพวกเขาคิดเพียงแต่ว่าพวกมนุษย์บริสุทธิ์และโง่เขลา แต่จู่ ๆ กองกำลังก็โผล่มาพร้อมกับกลุ่มอสุรกายหลายร้อยตัว ถึงอย่างนั้นพวกเขาก็ยังคิดว่าพวกมนุษย์โอหังและโง่เขลา อาศัยกำลังอสุรกายมาเขาชนะพวกเขา

ดังนั้นเพื่อจับกลุ่มมนุษย์ หลายจักรวรรดิจึงได้ร่วมมือกันไล่ตามไปสกัดกั้นยานรบของสวี่หลิงอวิ๋นรวมถึงอสุรกายห้าร้อยตัว

จักรวรรดิทั้งหลายรวมตัวกันและส่งยานรบออกไปหลายแสนลำ มีทหารที่อยู่ในระดับสิบห้าดาวนับพันกว่านาย!

“พวกเรามียอดฝีมือตั้งเยอะ ผมไม่เชื่อหรอกว่าอสุรกายทั้งห้าร้อยตัวจะเอาชนะพวกเราได้!”

“ใช่ เราจะต้องแสดงให้เผ่ามนุษย์เห็นถึงศักยภาพของพวกเรา พวกมันคิดว่าจะใช้อสุรกายพวกนี้มาเปลี่ยนสถานภาพของตัวเองได้เหรอ? ตลกสิ้นดี!”

“พวกมันจะต้องชดใช้ด้วยเลือด!”

“หาพวกมันเจอหรือยัง? ถ้าเจอแล้วเราก็ไปกันเถอะ ไปปิดล้อมพวกมัน!”

“หาเจอแล้ว เดี๋ยวส่งพิกัดให้ ลุยกันเลย!”

สวี่หลิงอวิ๋นพาอสุรกายนับห้าร้อยตัวเข้าไปในกระสวยอวกาศ การต่อสู้ครั้งนี้เจ๋งมาก! ทำลายล้างเมืองหลวงของจักรวรรดิต่าง ๆ โดยไม่ต้องเสียเหงื่อสักหยด! ต้องขอบคุณเสี่ยวอ้ายกับบอนาร์!

“ติดต่อหาอวี้ซิน ดูว่าเราจะต้องไปเอาคืนที่ไหนอีก แล้วมาทำมันให้จบในวันนี้กันเถอะ!”

จิตใจของสวี่หลิงอวิ๋นเปี่ยมไปด้วยความกระฉับกระเฉง!

อวี้ซินกำลังทำอะไร? เขากำลังอารมณ์เสีย เพราะในขณะที่เขากระโดดเข้ามาในทางเชื่อมมิติ ไกอาก็ตรวจสัญญาณที่ส่งออกมาจากจักรวรรดิดวงดาวของเผ่ามนุษย์ได้! คลื่นสัญญาณดังกล่าวบอกว่าเผ่ามนุษย์กำลังถูกเคลื่อนย้ายเข้าไปในต้นไม้แห่งชีวิต!

“สายลับ ไม่ผิดแน่ จะต้องเป็นสายลับคนนี้!” อวี้ซินกัดฟันแน่น นักรบเหล่านี้ต่อสู้เพื่อความอยู่รอดของเผ่ามนุษย์ ในขณะที่กลุ่มคนเล็ก ๆ แอบซ่อนตัวอยู่เบื้องหลังและพยายามจะลากพวกเขาลงเหว

ไกอารู้สึกประหลาดใจมาก เพราะเขาค้นพบว่าคนที่ส่งสัญญาณออกไปคือคนที่กำลังพูดคุยกับเขา!

ดังนั้นเขาจึงรายงานเรื่องนี้กับอวี้ซิน เพื่อให้อีกฝ่ายตัดสินใจว่าจะทำอย่างไรกับยอดอัจฉริยะคนนี้?

“ไม่ว่าเขาจะเป็นคนอัจฉริยะหรือคนโง่ แต่ในเมื่อคิดทำลายเผ่ามนุษย์ด้วยกัน เขาก็จะต้องตาย!” อวี้ซินพูดออกมาด้วยความแน่วแน่

หากสวี่หลิงอวิ๋นมาไม่ทันเวลา ชะตากรรมของเผ่ามนุษย์ในจักรวรรดิดวงดาวคงจะเลวร้ายจนยากที่จะจินตนาการได้!

“ครับ ถ้าอย่างนั้นผมจะเอาพิกัดให้คุณ แล้วคุณก็ตรงไปที่นั่นได้เลย”

ไกอาหยักไหล่และส่งรหัสสัญญาณให้เขา “นี่คือพิกัดครับ คุณตามมันไป แล้วมันจะพาคุณไปหาคนคนนั้น”

เขาไม่ได้คิดที่จะตามอีกฝ่ายไป เพราะนี่เป็นเรื่องภายในของจักรวรรดิดวงดาว และเดาว่าอวี้ซินคงไม่อยากให้เขาตามไปด้วย ถูกต้องไหม?

อวี้ซินรับแผ่นกระดาษมาและพยักหน้าขอบคุณไกอา “ขอบใจมาก เอาไว้ผมจับสายลับได้เมื่อไหร่ ให้ผมเลี้ยงข้าวตอบแทนสักมื้อนะ!”

“ได้ครับ ผมจะรอ!”

ไกอามองอวี้ซินออกไปและถอนหายใจด้วยความโล่งอก

การเป็นผู้นำของเผ่ามนุษย์ไม่ง่ายเลย! ตลอดช่วงเวลาที่เขาได้พูดคุยกับอวี้ซิน ก็ได้รับรู้ว่าตลอดหลายปีที่ผ่านมานั้นอีกฝ่ายต้องพบกับความยากลำบากมากแค่ไหน เขาต้องวิ่งเต้นเพื่อเผ่ามนุษย์ หาวิธีปลอมตัวไปเป็นสายลับในอาณาเขตของศัตรู และแอบช่วยเหลือเผ่ามนุษย์ที่ยังติดค้างอยู่ที่นั่น

ถ้าให้เขาต้องไปทำแบบนี้บ้าง เขาคงทำไม่ได้แน่นอน อย่างน้อยเขาก็ไม่มีมันสมองพอที่จะทำแบบนั้น แต่หากเป็นเรื่องเทคโนโลยีก็คงจะไม่เป็นอะไร แต่ถ้าต้องช่วยเหลือคนอื่นอยู่ตลอดแบบนั้น เขาคงทำไม่ได้!

อวี้ซินมาถึงจักรวรรดิดวงดาวของเผ่ามนุษย์โดยไม่รีรอ และดูเหมือนว่าตอนนี้แมรี่จะรู้ถึงชะตากรรมของตัวเองเช่นกัน เธอนั่งนิ่งและดื่มยาพิษที่อยู่ในมือ

เมื่ออวี้ซินมาถึง ก็พบว่ามีผู้หญิงนั่งอยู่ตรงนั้น

“คือเธอเหรอ?” อวี้ซินแปลกใจ หรือว่าสายลับจะหนีออกไปก่อนแล้ว?

แมรี่มองดูอวี้ซินด้วยรอยยิ้มบิดเบี้ยว “ใช่ คือฉันเอง ถ้ามาตามหาสายลับที่เป็นมนุษย์ ก็ฉันนี่แหละ”

เธอกระแอมเบา ๆ “นึกไม่ถึงว่าจะเป็นผู้หญิงใช่ไหมล่ะ? ไม่แปลกใจหรอก เพราะในสายตาของเผ่ามนุษย์ พวกผู้หญิงก็เป็นแค่ตัวแทนของคนไร้ความสามารถนี่”

“ฉันไม่นึกเลยว่าเราจะต้องมาเจอกันในสภาพนี้” แมรี่ถอนหายใจ “ฉันมีความสุขมากที่รู้ว่าตัวเองมีพรสวรรค์มาตั้งแต่เด็ก มันทำให้ฉันรู้สึกว่าในที่สุดฉันก็สามารถต่อสู้เคียงข้างท่านหรือทำผลประโยชน์ให้มนุษยชาติได้สักที”

“แต่พอเวลาผ่านไป ฉันกลับรู้สึกว่ามันเป็นแค่เรื่องตลก” แมรี่ลุกขึ้นยืน ต้องบอกว่าเธอไม่ได้สูงมากนัก รูปลักษณ์ของเธอดูอ่อนหวาน แต่แววตากลับเผยให้เห็นถึงความเย็นชา

“ความสามารถของผู้หญิงก็เป็นได้แค่ของไร้ประโยชน์ ไม่มีใครสนใจเรา ไม่มีใครฟังเรา งานวิจัยของฉันถูกที่ปรึกษาขโมยไปจนหมด แม้แต่รุ่นพี่ผู้ชายก็ยังได้ผลพวงจากงานวิจัยของฉัน”

แมรี่พูดต่อ “แต่ฉันไม่ได้สนใจ ขอแค่ฉันได้ออกไปเป็นนักรบของเผ่ามนุษย์เท่านั้น แล้วคนพวกนั้นจะเอาอะไรไปโอ้อวดได้อีก?”

“แต่ฉันกลับไม่เคยรู้เลย จนกระทั่งมารู้ว่าพวกเราไม่สามารถออกไปเป็นนักรบได้!”

“พวกเราเหมาะที่จะอยู่ทำอาหารให้ลูก ๆ ล้างหม้อ ล้างจาน แล้วก็หางานเป็นเลขา จะต้องดูสวย สง่างาม มีระดับเหมือนกับนกน้อยที่อยู่ในกรง”

เธอจ้องมองอวี้ซิน “ท่านช่วยบอกหน่อยซิว่าทำไมการเป็นผู้หญิงถึงได้ยากเย็นนัก?”