“เป๋าฮวน”
ทันใดนั้นก็มีเสียงดังขึ้นในคืนอันเงียบงัน
เป๋าฮวนตกตะลึง จ้องมองไปที่ผู้ชายที่เอนกายพิงราวบันไดฝั่งตรงข้ามโดยไม่กระพริบตา
เมื่อกี้ เฟิงหานชวนเรียกชื่อปัจจุบันของเธอ?
“คุณคิดจะทำอะไร?” เป๋าฮวนขมวดคิ้วและถามด้วยความสงสัย
“เปล่า แค่เรียกชื่อคุณ” เฟิงหานชวนพูดอย่างเฉยเมย
เป๋าฮวน: “?”
ใบหน้าของเธอเต็มไปด้วยความสงสัย เธอถามว่า: “ชื่อของฉัน มีปัญหาอะไรเหรอ?”
“เปล่า ไม่มีปัญหา” เสียงนั้นยังคงสงบนิ่ง
“แล้วคุณเรียกชื่อฉันทำไม?” เป๋าฮวนสับสนจริงๆ
“ไม่มีอะไร” เฟิงหานชวนยังคงตอบเบาๆ
“ถ้าไม่มีอะไร แล้วคุณเรียกทำไม? ในคืนนี้เรามีปากเสียงกันกี่ครั้งแล้ว?” เป๋าฮวนกลอกตาด้วยความโกรธ
เมื่อเห็นท่าทางโกรธของเป๋าฮวน เฟิงหานชวนก็ยืนตัวตรง ก้าวไปข้างหน้าสองก้าว และเผชิญหน้ากับเป๋าฮวนในระยะใกล้
“ผมแค่ทำความคุ้นเคยกับชื่อใหม่ของคุณ” เฟิงหานชวนตอบ
เป๋าฮวน: “?”
เฟิงหานชวนยกมือขึ้น และเมื่อนิ้วเรียวยาวแตะแก้มของผู้หญิง ผู้หญิงคนนั้นก็เอียงศีรษะของเธอทันที
จากนั้น เขาก็จับมือชายคนนั้นและพูดอย่างดุเดือด: “คุณรีบไปนอนเลย! อย่ามาแตะต้องตัวฉัน!”
เฟิงหานชวน: “…”
เขาถอนหายใจอย่างลับๆ และกล่าวเบาๆว่า: “ฮวนฮวน เมื่อก่อนผมมักจะลูบผมให้คุณ คุณจำได้ไหม?”
เป๋าฮวนตกตะลึง นึกถึงการกระทำของเฟิงหานชวนเมื่อกี้ เธอเอื้อมมือออกไปสัมผัสผมที่ยุ่งเหยิงของเธอโดยไม่รู้ตัว
แท้จริงแล้ว เขาไม่ตั้งใจจะจับหน้าเธอ เพียงจะช่วยจัดผมที่ยุ่งเหยิงของเธอ?
“จำไม่ได้” เป๋าฮวนเงยหน้าขึ้นมองเขาและตอบด้วยน้ำเสียงเย็นชา
เธอบอกตัวเองในใจซ้ำแล้วซ้ำเล่าว่าผู้ชายคนนี้เคยหลอกเธอ หลอกเธออย่างน่าสมเพช ดังนั้นเธอจะไม่หลงกลด้วยรูปร่างหน้าตาของเขาอีก!
เมื่อได้ยินคำเย็นชาสามคำนี้ ใบหน้าของเฟิงหานชวนก็แสดงท่าทีผิดหวัง
“จำไม่ได้ ก็ช่างเถอะ” เขาจับมือเป๋าฮวนออก แล้วเดินไปที่ห้องนอน
เป๋าฮวนหันกลับมาและเห็นเฟิงหานชวนนอนอยู่ ห่มผ้าห่มและหลับตาลง
ในใจเธอมีความรู้สึกที่อธิบายไม่ถูก
เธอจำได้ แต่แค่ไม่อยากยอมรับ
เพราะเมื่อเธอยอมรับสิ่งเหล่านั้น เธอจะนึกถึงสิ่งสวยงามที่เคยเกิดขึ้นภายใต้คำโกหกที่เขาสร้างขึ้น
ทั้งๆที่เขารู้ว่าเธอเป็นผู้หญิงในคืนบลูส์คลับ แต่เขากลับไม่บอกเธอ แถมยังโกหกว่าผู้ชายในคืนนั้นคือหลิวตงรุ่ย
เรื่องพวกนี้ เธอไม่สามารถลืมมันได้
เป๋าฮวนขี้เกียจง้อ และไม่อยากง้อ เธอถอนหายใจเงียบๆ เดินออกไปและเดินเข้าไปในห้องนอน
เมื่อเดินไปที่ปลายเตียง เธอเปิดประตูตู้เสื้อผ้า กำลังจะปลี่ยนชุดนอน
เมื่อปัดเสื้อผ้าไปมาสองสามครั้ง เป๋าฮวนก็นึกขึ้นได้
เธอไม่ได้เอาเสื้อผ้ามาด้วย และเธอไม่มีชุดนอน มีเพียงชุดนอนกระโปรงสายเดี่ยวไม่กี่ตัว รูปทรงของชุดนอนกระโปรงก็ค่อนข้างจะ…
แต่เสื้อผ้าตัวอื่น เมื่อใส่นอนแล้วก็จะรู้สึกอึดอัด
เป๋าฮวนมองย้อนกลับไปที่เฟิงหานชวน ท่าทางเขาหลับแล้ว เธอขดริมฝีปาก เลือกชุดนอนกระโปรงสายเดี่ยวที่แขวนอยู่ในตู้เสื้อผ้า และเดินเข้าไปในห้องน้ำ
หลังจากเปลี่ยนชุดนอนออกมาแล้ว เธอพบว่าเฟิงหานชวนนั่งพิงอยู่บนเตียง และมองดูเธอด้วยสายตาเจ้าเล่ห์
“คุณนอนแล้วไม่ใช่เหรอ?” เป๋าฮวนขมวดคิ้วและถามอย่างรวดเร็ว: “ไม่สบายหรือเปล่า? ฉันจะไปเอายามาให้”
“เปล่า อาการผมไม่ได้กำเริบ” เฟิงหานชวนหยุดเธอและปฏิเสธ
“แล้วทำไมคุณถึงยังไม่นอน?” เป๋าฮวนถามอีกครั้ง
“นอนไม่หลับ” เฟิงหานชวนตอบโดยตรง
เป๋าฮวน : “…”
ดูเหมือนเธอจะถามคำถามงี่เง่า
“ต้องการยานอนหลับไหม? ฉันจะไปซื้อให้?” เป๋าฮวนเอ่ยปากถาม เพราะอาการป่วยของเฟิงหานชวนก็เกิดจากเธอ
“ไม่ต้อง คุณ…คุณคุยเป็นเพื่อนผมได้ไหม?” เฟิงหานชวนจ้องที่เธอด้วยดวงตาสีดำสนิท
“คุย?” เป๋าฮวนสับสน ตอบเบาๆว่า: “ฉันกับคุณ มีอะไรน่าคุยงั้นเหรอ?”
มีความรังเกียจในน้ำเสียงของเธอ
มีหลายสิ่งหลายอย่างเกิดขึ้นระหว่างพวกเขา คืนนี้เธออยู่กับเฟิงหานชวน เพราะเฟิงหานชวนป่วย ดังนั้นเธอจึงทิ้งเขาไว้คนเดียวไม่ได้
เฟิงหานชวนล่ะ? ราวกับว่าไม่เคยมีอะไรเกิดขึ้น แถมยังอยากคุยกับเธอ
คุยบ้าอะไร!
“คุณถือว่าช่วยให้ผมได้ระบาย เป็นจิตแพทย์ของผม” คำพูดของเฟิงหานชวนนั้นจริงใจมาก เขาไม่ได้มีท่าทางที่เย็นชาเหมือนปกติ
มันเหมือนกับแมวสูงศักดิ์ที่ได้รับบาดเจ็บ ปรารถนาให้บาดแผลถูกรักษา
“จิตแพทย์?” เป๋าฮวนรู้สึกหดหู่ใจเล็กน้อย เธอชี้มาที่ตัวเองแล้วถามว่า: “คุณเข้าใจอะไรผิดหรือเปล่า? ฉันไม่ได้เรียนจิตวิทยา”
“ฮวนฮวน มีคำกล่าวไว้ว่า โรคไข้ใจต้องใช้ยารักษาด้วยใจ” เฟิงหานชวนมองเธออย่างจริงจังและกล่าวว่า: “ความเจ็บปวดของผมเกิดขึ้นจากคุณ และคุณเป็นหมอของผม”
“อันที่จริง คุณแค่คุยกับผมก็พอ ไม่จำเป็นต้องทำการวินิจฉัยอื่นใด” เขากล่าวเสริมอีกครั้ง
เป๋าฮวน : “…”
ทำไมเธอรู้สึกราวกับว่าทั้งตัวตกลงไปในหลุมพราง?
แต่เมื่อนึกดูอีกทีแล้ว สิ่งที่เฟิงหานชวนพูดก็ถูก
โรคไข้ใจต้องรักษาด้วยใจ คำนี้ฟังดูแล้วก็ไม่แปลก
“คุณอยากคุยเรื่องอะไร?” เป๋าฮวนยืนอยู่ที่ปลายเตียงโดย กอดอกและมองลงไปที่ผู้ชายตรงหน้า
“ในช่วงเวลา 3ปีที่ผ่านมา คุณเป็นอย่างไรบ้าง?” ดวงตาของเฟิงหานชวนดูลึกซึ้ง
เป๋าฮวนตกใจเล็กน้อย แต่ยิ้มจางๆแล้วตอบ: “โอเค ก็ดี! ดีมากจริงๆ! ไม่เคยมีชีวิตที่ดีแบบนี้มาก่อน!”
เธอพูดความจริง ความจริงจากใจ
ความรู้สึกที่มีคุณตาเป็นความรู้สึกที่ดีที่สุด คุณตารักเธอมาก คุณลุงที่ไม่ใช่สายเลือดเดียวกับเธอก็เอ็นดูเธอมาก นอกจากนี้ยังมีสิ่งที่ดีที่สุด2อย่าง จิ่งมั่วและจิ่งเหลิ่ง ที่ภักดีต่อเธอ
ทำไมชีวิตถึงจะไม่ดีล่ะ? มันยอดเยี่ยมมาก!
สิ่งสำคัญที่สุดคือ ความรู้สึกอบอุ่นที่เธอไม่เคยมี เธอได้สัมผัสมันแล้ว
ก่อนหน้านี้ เธอรู้ว่าเธอไม่มีคุณตา เธอถามคุณยาย คุณยายมักจะคลุมเครือ หลังจากที่แม่ของเธอจากไป เฉินเหม่ยเจวียนก็พาเฉินซินโหรวที่มีอายุมากกว่าเธอ1ปีเข้ามา เฉินเจี้ยนหมินก็เปลี่ยนไปในชั่วพริบตา
ตอนนั้นคุณยายกอดรูปถ่ายของแม่แล้วร้องไห้ บอกว่าผู้ชายทุกคนใจร้ายอำมหิต
แม้ว่าเป๋าฮวนจะยังเด็กในตอนนั้น แต่เธอก็มีสติสัมปชัญญะ และเข้าใจแล้วว่าทำไมเธอถึงไม่มีคุณตา
ต่อมา ทัศนคติของเฉินเจี้ยนหมินต่อเธอยิ่งอยู่ยิ่งแย่ ตอนแรกเขามักจะพูดคุยถามไถ่เธอ แต่เมื่อเฉินเหม่ยเจวียนพาเฉินซินโหรวเข้ามา เฉินเจี้ยนหมินก็มักจะเมินเฉยใส่เธอ
ในที่สุด เธอก็กลายเป็นเบี้ยในมือของเฉินเจี้ยนหมิน ต้องแต่งงานกับตระกูลเฟิง เฉินเจี้ยนหมินทำไปก็เพื่อผลประโยชน์
หลังจากที่คุณยายจากไป เธอคิดว่าไม่มีญาติคนไหนแล้วที่รักเธอ ความดีที่เฟิงหานชวนมีต่อเธอก็เหมือนฟองอากาศที่ลอยอยู่ในอากาศ
จนกระทั่งคุณตาเป๋าเยี่ยนพบเธอ ในที่สุดเธอก็รู้สึกถึงครอบครัวอีกครั้ง
“ดีก็ดีแล้ว ก็ดี… แล้วคุณเคยคิดถึงผมบ้างไหม?” ลึกลงไปในดวงตาของเฟิงหานชวนมีความเสน่หาปรากฏขึ้น