บทที่ 483 สาวน้อยของเขาไม่สนใจเขาแล้ว

ปลอบใจฉัน ด้วยรักเธอ

โอหยางจวิ้นกับเฉียวซือเปลี่ยนชุดเสร็จนานแล้ว รออยู่หน้าทางเข้าออนเซ็น เห็นทั้งสองคน พูดทักทาย“ไปเถอะ ห้องส่วนตัวของพวกเราอยู่ด้านโน้น”

พวกเขาเหมาออนเซ็นทางทิศตะวันตก 3 บ่อ ตอนเข้าไปทุกคนนำผ้าขนหนูที่คลุมตัวมา ขึ้นแขวน

กลับหลังหัน สือจินหว่านกำลังจะถอดรองเท้าแตะ เฉียวซือก็เปิดปากพูด“หวันหว่านขาวจัง!”

ใบหน้าเธอแดงขึ้นนิดๆทันที กัดริมฝีปากแล้วพูดว่า“คุณน้ามู่ก็ขาวเหมือนกัน!”

มู่ยวี๋ฮั่นหัวเราะ แล้วมองไปทางผู้ชายสองคนตรงหน้า เปิดปากพูด“แต่ก่อนเห็นเฉียวซือยังเป็นเด็กคนหนึ่ง ตอนนี้โตเป็นหนุ่มแล้ว หนูดูสิ กล้ามท้องขึ้นชัดเจนแบบนี้!”

สายตาสือจินหว่านมองตามไป อดไม่ได้ที่จะกะพริบตา“เฉียวซือ ปกตินายเข้าเรียนทำแต่พวกใช้แรงเป็นพิเศษรึไง?ทำไมถึงมีกล้ามเนื้อนูนออกมาได้?”

เฉียวซือถูกทุกคนมองจนหน้าร้อนนิดๆ รีบพูดว่า“ยังดีมั้ง ฉันเห็นของคุณอาจวิ้นชัดเจนกว่าอีก”

“เขาเป็นผู้ใหญ่ ไม่เหมือนกัน”มู่ยวี๋ฮั่นพูดอยู่ มองโอหยางจวิ้น“Bojian ที่จริงหลายปีนี้คุณดูไม่ค่อยเปลี่ยนไปเลย”

เขาหัวเราะ “บางครั้งผมก็รู้สึกแบบนั้นเหมือนกัน แต่พอมองหวันหว่านกับเฉียวซือ ผมก็รู้สึกที่จริงเวลาผ่านไปเร็วมากจริงๆ”

ทุกคนแช่ไปด้วยคุยไปด้วย แม้ว่าเฉียวซือตัวโต แต่ถึงอย่างไรก็ยังไม่ถึง 13 ปี ดังนั้น ธรรมชาติของวัยรุ่น แช่ไปสักพักก็ทนนั่งต่อไม่ไหวแล้ว

เขาลุกขึ้น “หวันหว่าน เราไปดูบ่อข้างๆกัน”

โอหยางจวิ้นได้ยิน พูดเห็นด้วย “ข้างๆมีบ่อสปาปลาอยู่ ไปเล่นสักพักก็ได้”

สือจินหว่านพยักหน้า“ก็ดี งั้นพวกเราไปดูกัน”

เธอไปพร้อมกับเฉียวซือ เห็นว่าจำนวนปลาในบ่อมีไม่น้อย เพิ่งลงไป นิ้วเท้าก็โดนกัดจนคันยิบๆ

“ฮ่าๆ”ฝ่าเท้าของสือจินหว่านโดนกัด อดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมา

เฉียวซือที่อยู่ข้างๆได้ยินเธอหัวเราะ หัวใจเต้น มองเธอ “หวันหว่าน ดีจริงๆที่ได้ยินเธอหัวเราะออกมา”

เมื่อก่อน เธอถึงแม้จะดีใจแค่ไหน ก็ไร้เสียง

เธอก็พยักหน้า “ถูก ในที่สุดหลังจากนี้ก็สามารถหัวเราะเสียงดังหรือร้องไห้โห่ได้แล้ว”

ทั้งสองคนนั่งอยู่ในน้ำ มีแค่ศีรษะโผล่ออกมาข้างนอก แหงนมองต้นไม้ใหญ่เขตร้อนรอบๆ

จู่ ๆเฉียวซือก็ตะโกนขึ้นข้างบน “สือ-จิน-หว่าน”

เธอหันไปมองเขาอึ้งๆ

เขาหันมาพูดกับเธอ“เธอกล้าตะโกนเรียกชื่อของฉันไหม?”

สือจินหว่านได้ยิน นึกถึงนิทานเรื่องไซอิ๋ว ตอนราชาปีศาจเขาเงินเรียกซุนหงอคง ดังนั้นกะพริบตาให้เขา “งั้นฉันเรียกชื่อนาย นายกล้าตอบรับไหม?”

เฉียวซือไม่รู้จักคำกล่าวอ้างนี้ ดังนั้นเลยพยักหน้าอย่างเป็นธรรมชาติ“แน่นอนว่ากล้า”

สือจินหว่านแอบยิ้ม แล้วยกมือขนาบแก้ม ตะโกนเรียก“เฉียว-ซือ”

“ฉันอยู่ตรงนี้”เฉียวซือพูดตอบทันที

สือจินหว่านทำท่าเหมือนเก็บปีศาจ แล้วหัวเราะ พูดว่า“ฮ่าๆ นายถูกฉันเก็บไว้ในน้ำเต้าแล้ว”

เขาไม่เข้าใจ ด้วยเหตุนี้ สือจินหว่านเลยเล่านิทานเรื่องนี้ไป1รอบ

ในบ่อออนเซ็นข้างๆ มู่ยวี๋ฮั่นได้ยินเสียงเด็กทั้งสองคน อดไม่ได้ที่จะหัวเราะ“วัยรุ่นนี้ดีจริงๆ”

โอหยางจวิ้นพูด“อันที่จริงตอนนี้คุณยังดูอ่อนเยาว์”

มู่ยวี๋ฮั่นส่ายหน้า“ดูเหมือนอ่อนเยาว์ก็จริง แต่กลับขาดความรู้สึกแบบพุ่งชนโดยไม่สนใจอะไรไป”

“เพราะเป็นผู้ใหญ่แล้วมั้ง”โอหยางจวิ้นพูด“ตอนนั้นคุณเข้าร่วมภารกิจแบบนั้นมันเสี่ยงมากจริงๆ พวกเราทำยังไงก็ขวางเธอไม่ได้”

“หรือเพราะอุดมคติ”มู่ยวี๋ฮั่นพูด“ที่จริงฉันไม่เคยเสียใจทีหลัง”

“ผมเข้าใจความรู้สึกคุณ ก็เหมือนเมื่อก่อนผมอยากทำเรื่องที่ผมชอบ ยืนกรานหนักแน่น ไม่สนผลลัพธ์”โอหยางจวิ้นถอนหายใจ พูดว่า“คำนวณขึ้นมา เรารู้จักกันเกือบจะ10ปีแล้ว”

มู่ยวี๋ฮั่นหัวเราะ“ใช่ ไม่มีใครคบกันเหมือนพวกเรา มีบางครั้งฉันก็รู้สึก คุณเหมือนสหายร่วมรบที่ฉันรู้จักมาหลายปี”

“สหายร่วมรบ?”โอหยางจวิ้นพูดทวน และหัวเราะตาม“ผมก็มีความรู้สึกแบบนั้น แต่พวกเราจะแต่งงานกันปีนี้แล้ว”

“ใช่ และฉันก็อายุ 30 ปีแล้ว ผ่านไปอีก 2 ปีจำเป็นต้องมีลูก ไม่งั้นถึง35 ปี ก็เลยวัยที่จะคลอดลูก”เธอพูดอยู่ จู่ ๆก็รู้สึกเกรงใจ อดไม่ได้ที่จะหันหน้าไป

ชั่วขณะหนึ่ง ระหว่างทั้งสองคนก็นิ่งเงียบไป

จู่ๆ โอหยางจวิ้นก็นึกได้ คำพูดสือมูเฉินที่เคยพูดกับเขาไว้หลายปีก่อน

สือมูเฉินว่า ชอบคนคนหนึ่งจะอยากเข้าไปใกล้เอง ทั้งจิตใจและร่างกายอยากจะพุ่งเข้าไปใกล้

แต่เขาอยู่ด้วยกันกับมู่ยวี๋ฮั่น ตั้งแต่แรกก็เหมือนเป็นสหายร่วมรบ ผ่านมาหลายปีขนาดนี้ เหมือนเพื่อนมากกว่า

แต่ท้ายที่สุด พวกเขาต้องแต่งงาน จะไม่ใกล้ได้ยังไง?

เหมือนกอดความรู้สึกที่อยากลอง เขายืนตัวตรงเดินไปทางมู่ยวี๋ฮั่น

เธอพิงริมบ่ออย่างเงียบๆ มองเขาผ่านละอองน้ำในออนเซ็น จนเขามายืนอยู่หน้าเธอ

“ที่ผ่านมาเอาแต่ยุ่งเรื่องธุรกิจที่บ้าน ไม่เคยคบใครจริงจังสักครั้ง”โอหยางจวิ้นลูบหน้าผาก พูดว่า “ถึงตอนนี้ ผมเหมือนไม่รู้ว่าควรทำยังไง”

“คุณอย่าถามฉัน ฉันก็ไม่มีประสบการณ์อะไรเหมือนกัน”มู่ยวี๋ฮั่นพูด“ฉันติดต่อกับกองกำลังทหาร มีบางครั้งฉันรู้สึก ฉันกำลังมีความรักกับกองกำลังทหาร”

“งั้นพวกเราลองกันเถอะ แม้ว่ากำหนดให้แต่งงานแล้ว แต่ควรได้ลองพยายามบ่มเพราะความรู้สึกรักหน่อยไหม?”โอหยางจวิ้นพูด

“คุณจะจูบฉัน?”มู่ยวี๋ฮั่นถามตรงๆ

โอหยางจวิ้นอดไม่ได้ที่จะหัวเราะ“คุณพูดแบบนี้ ผมทำต่อไม่ได้แล้ว”

“เป็นความผิดของฉัน”มู่ยวี๋ฮั่นรู้สึกจนใจ “บางทีฉันไม่ค่อยประสีประสาด้านนี้ คุณอย่าถือสา ลองดูเถอะ”

โอหยางจวิ้นสูดหายใจลึกๆ เหมือนจะทำการใหญ่ ถึงคว้าไหล่มู่ยวี๋ฮั่นไว้ แล้วเข้าไปใกล้

ลมหายใจเขาเหมือนไม่นิ่ง แต่ตื่นเต้นไม่ใช้เพราะใจเต้น เหมือนความคิดซับซ้อนที่มีต่ออนาคตมากกว่า ยังมีการต่อต้านที่อธิบายไม่ถูก

ริมฝีปากพวกเขาใกล้ขึ้นเรื่อย ๆ ต่างได้กลิ่นลมหายใจของอีกฝ่าย อยู่บนใบหน้า กลับรู้สึกแปลกนิดๆ

และตอนนี้ สือจินหว่านกับเฉียวซือทั้งสองคนกำลังเล่นสนุกอยู่ในบ่อข้างๆ

เริ่มแรกทั้งสองแค่เล่นเกม ถึงตอนท้าย ก็เริ่มเปิดศึกสาดน้ำกันขึ้น เสียงหัวเราะดังไม่หยุด จนถึงสือจินหว่านรู้สึกหิวน้ำ ถึงให้เฉียวซือหยุด แล้วไปหาน้ำดื่มด้วยกัน

ทางสปาปลาไม่มีตู้กดน้ำ และสือจินหว่านจำได้ว่าหน้าประตูบ่อกุหลาบของพวกโอหยางจวิ้นมี เธอคลุมผ้าขนหนูเดินไปพร้อมกับเฉียวซือ

เธอคลุมผ้าขนหนูกระโดดโลดเต้นไป ตอนที่เธอก้มตัวไปเก็บน้ำ สายตากวาดมองไปอย่างไม่ตั้งใจ รู้สึกช็อกกะทันหัน

เฉียวซือข้างหลังเรียกสือจินหว่านจู่ ๆก็ไม่ขยับ อดถามด้วยความงุนงงไม่ได้ “หวันหว่านเป็นอะไรไป?”

พูดจบ มองตามสายตาของสือจินหว่าน มองไปข้างใน

เฉียวซือได้สติขึ้นทันที ดึงสือจินหว่านพาเธอออกไปข้างนอก

สือจินหว่านรู้สึกในหัวขาวโพลน อธิบายไม่ถูกว่ารู้สึกยังไง ถูกเฉียวซือดึงแบบนี้ เกือบจะล้ม อดไม่ได้ที่จะเรียกเขาเสียงเบา

และด้านใน โอหยางจวิ้นได้ยินเสียง เหมือนถูกไฟช็อกอย่างนั้น ยืนตัวตรงทันที

เขามองไปข้างนอก เห็นเงาสองเงาผ่านไป

เขายืนขอบบ่อโดดออกจากออนเซ็นตามสัญชาตญาณ แล้วรีบเดินไปทางประตู พุ่งไปทางเด็กทั้งสองที่รีบเดินไป เรียก“หวันหว่าน เฉียวซือ”

เฉียวซือหันหน้าไป พยักหน้าให้โอหยางจวิ้น แต่สือจินหว่านกลับไม่หันมา

เธอรีบเดินเข้าไปในสปาปลาบ่อเมื่อกี้ แม้แต่ผ้าขนหนูบนตัวก็ลืมถอด ก็ก้าวเข้าไปในบ่อ

เฉียวซือข้างๆตามเข้าไปในบ่อ รีบเก็บผ้าขนหนูของเธอบิดให้แห้ง แล้วแขวนไว้ แล้วพูดว่า“หวันหว่าน ด้านในบ่อนั้นเหมือนมีตู้กดน้ำ ฉันไปเอาน้ำมาให้เธอ”

จู่ ๆเสียงทั้งหมดก็เงียบลง ตรงหน้าสือจินหว่าน กลับปรากฏฉากที่เห็นเมื่อครู่ขึ้น

คุณอาจวิ้นก้มตัวไปจูบคุณน้ามู่

เธอแค่เห็นแวบเดียว เหมือนมองเห็นไม่ชัด แต่เธอรู้ เขาต้องจูบหล่อนแน่ ๆ

สือจินหว่านหดตัวเข้าไปในน้ำ รู้สึกหนาวนิดๆ

ไม่นาน เฉียวซือก็เข้ามา ยื่นน้ำอุ่นแก้วหนึ่งให้เธอ“ดื่มสิ”

เธอรับมันอย่างช้าๆ ดื่มพรวดเดียวหมด บีบแก้วเปล่า ไม่แม้แต่เงยหน้า

เฉียวซือข้างๆถาม“หวันหว่าน ดื่มอีกไหม?”

เธอเหมือนไม่ได้ยิน ไม่มีแม้แต่เสียงขึ้นจมูก

เฉียวซือเห็นสือจินหว่านไม่ตอบสนอง ดังนั้นเลยถามอีกรอบ ตอนเขาแย่งแก้วในมือเธอมา เธอก็ไม่รู้สึกตัว

เฉียวซือนั่งลงข้างสือจินหว่าน เขย่าไหล่ของเธอ“หวันหว่าน แค่นี้ก็ทำเธอเอ๋อแล้วเหรอ?”

เขาหัวเราะ พูดว่า“ไม่ใช่ว่าไม่เคยเห็นคนอื่นคบกัน ยิ่งไปกว่านั้น คุณอาจวิ้นกับคุณน้ามู่เป็นว่าที่เจ้าบ่าว เจ้าสาว สิ้นปีนี้พวกเขาก็แต่งงานกันแล้ว”

สิ้นปีนี้…

สือจินหว่านจำได้รางๆ ตอนนี้ต้นเดือนพฤศจิกายนแล้ว ก็เท่ากับว่า ก่อนวันคริสต์มาสของเดือนธันวาคม…

จู่ ๆเธอเหมือนโดนทุบไปหนึ่งที หัวใจอึดอัด เกิดความรู้สึกหนึ่งที่อธิบายไม่ได้

“มีบางครั้งฉันรู้สึกว่าเธอเหมือนโตแล้ว แต่ตอนนี้ดูแล้ว ยังเป็นเหมือนเด็กคนหนึ่ง แม้แต่เห็นคนอื่นจูบกันก็หน้าแดง”น้ำเสียงเฉียวซือแฝงความเย้าแหย่นิดๆ

สือจินหว่านจับชายชุดว่ายน้ำตัวเองไว้แน่น ยังเงียบเหมือนเดิม

“เอ๊ะ คุณอาจวิ้นเข้ามาแล้ว”เฉียวซือหันหน้าไป“คุณอาจวิ้น”

โอหยางจวิ้นพยักหน้า แล้วสายตาไปหยุดที่ด้านหลังของสือจินหว่าน“หวันหว่าน?”

เมื่อกี้ เขาไม่รู้ว่าถ้าหากเธอไม่เข้ามาเมื่อครู่ เขาจะแนบลงจูบมู่ยวี๋ฮั่นไหม

แต่เขากลับรู้สึก เขาเหมือนไม่มีความคิดที่อยากลองแล้ว

เพราะตอนนี้สาวน้อยของเขาไม่สนใจเขาแล้ว

ปกติเรียกครั้งเดียว เขาเรียกเธอสองครั้ง เธอก็ไม่สนเหมือนเดิม

“คุณอาจวิ้น หวันหว่านเหมือนทำตัวไม่ถูก”เฉียวซือที่อยู่ข้างๆอธิบาย

โอหยางจวิ้นพยักหน้า “อืม อาพูดกับเธอเอง นายไปข้างๆก่อน”

เฉียวซือพยักหน้า หยิบแก้วน้ำไปบ่อออนเซ็นด้านใน

โอหยางจวิ้นวางผ้าขนหนู ก้าวเข้าไปในน้ำ อ้อมไปด้านหน้าสือจินหว่าน เรียกเธออีกครั้ง “หวันหว่าน?”