บทที่ 435 ยั่วยวนฉินเย่จือ

ทะลุมิติไปเป็นสาวนาผู้ร่ำรวย

บทที่ 435 ยั่วยวนฉินเย่จือ

บทที่ 435 ยั่วยวนฉินเย่จือ

ในอดีต กู้ซินเถาอาจเคยพูดว่ากู้เสี่ยวหวานเสแสร้ง แต่ตั้งแต่คืนวันปีใหม่ นางไม่กล้าเอ่ยมันอีกเลย

นางไม่กล้าที่จะหาเรื่องกู้เสี่ยวหวาน เพราะถึงอย่างไรนางก็มานั่งที่บ้านของกู้เสี่ยวหวานแล้ว นางพยายามฝืนชวนคุย แต่กู้เสี่ยวหวานกลับไม่สนใจนาง ทางกู้ซินเถาก็ไม่ได้โกรธแต่อย่างใด นางเหม่อลอย ไม่รู้ว่านางตั้งใจจะทำอะไร คล้ายกับว่าแค่ชวนคุยฆ่าเวลา

เมื่อเห็นว่าท้องฟ้าเริ่มมืด กู้เสี่ยวหวานก็รู้สึกไม่มีความสุขเมื่อเห็นว่ากู้ซินเถายังคงนั่งอยู่ที่นั่นเหมือนหญิงชรา “กู้ซินเถา ตอนนี้ข้ามีเรื่องต้องทำ ได้โปรดกลับไปซะ!”

กู้ซินเถามองออกไปเป็นครั้งคราว โดยคิดว่าจะมีคนเดินเข้ามาจากด้านนอกหรือได้ยินเสียงคน แต่หลังจากที่รอเป็นเวลานานก็ยังไม่มีใครมา

นางนั่งอยู่ตรงนี้ ทั้งกระหายน้ำและปวดก้น

กู้ซินเถาไม่กล้าลุกขึ้น ถ้านางลุกขึ้น ด้วยนิสัยของกู้เสี่ยวหวานจะต้องไล่นางออกไปทันที แต่ถ้านางยังคงนั่งนิ่ง กู้เสี่ยวหวานไม่มีทางขับไสนางออกไปได้

ทว่าพระอาทิตย์เริ่มคล้อยไปทางทิศตะวันตก แต่ก็ยังไม่มีใครกลับมา นี่มันก็เริ่มมืดแล้ว ถ้านางยังไม่ไป กู้เสี่ยวหวานจะต้องขับไล่นางออกไปจริง ๆ แน่

เป็นอย่างที่คิด กู้เสี่ยวหวานเปิดปากกล่าวเสียงเย็น ซึ่งกู้ซินเถารู้สึกอับอายเล็กน้อย

“เจ้าจะเร่งอะไรนักหนา แค่นั่งเล่นเดี๋ยวเดียวเอง!”

“นั่งแค่เดี๋ยวเดียวรึ? เจ้านั่งที่นี่มาตลอดทั้งบ่าย ถ้าเจ้าไม่มีอะไรจะพูดก็ออกไป!” กู้เสี่ยวหวานพูดอย่างโกรธเคือง

“โอ้ พวกเราสองพี่น้องไม่ได้นั่งพูดคุยกันมานานหลายปี ดังนั้นข้าจึงจะนั่งพักสักครู่ เจ้าไม่สามารถเพิกเฉยต่อความเป็นพี่น้องได้!” กู้ซินเถาพูดอย่างหน้าด้านอย่างไม่สนใจคำพูดขับไล่แขกของกู้เสี่ยวหวาน

โดยสิ่งที่นางพูดดูเหมือนจะกล่าวโทษกู้เสี่ยวหวาน

ข้ามาที่นี่ด้วยความตั้งใจที่ดีที่จะบ่มเพาะความสัมพันธ์ฉันพี่น้องกับเจ้า แต่เจ้ายังต้องการไล่ข้าออกไป เช่นนั้นก็ไม่เหลือความเป็นคนแล้ว

ขณะที่กู้เสี่ยวหวานกำลังจะตะโกนใส่นาง นางก็ได้ยินเสียงเริงร่าของกู้หนิงผิงดังมาจากข้างนอก “ท่านพี่ พวกเรากลับมาแล้ว”

ก่อนที่กู้เสี่ยวหวานจะทันได้ตอบ นางก็เห็นกู้ซินเถาวิ่งออกไปราวกับลูกธนู

กู้เสี่ยวหวานติดตามไปอย่างใกล้ชิด ก่อนเห็นกู้ซินเถายืนนิ่งอยู่พลางมองไปที่ฉินเย่จืออย่างตกตะลึง

ฉินเย่จือเพิ่งกลับจากการฝึกซ้อมข้างนอกกับกู้หนิงผิง เขาเหงื่อออกเล็กน้อย และเส้นผมตรงหน้าผากของเขาเปียก มันน่าหยุ่งเหยิงเล็กน้อย แต่มันก็เพิ่มความเกียจคร้านให้กับฉินเย่จืออันเป็นเสน่ห์

อาจเพราะวันนี้กลับมาค่อนข้างช้า ฉินเย่จือจึงไม่ได้เปลี่ยนเสื้อผ้า กู้เสี่ยวหวานตั้งใจไปที่ร้านขายผ้าจี๋เสียงเพื่อทำเสื้อผ้าสองชิ้นให้ฉินเย่จือและกู้หนิงผิงเพื่อใช้ฝึกออกกำลังกาย โดยเมื่อสวมใส่จะสามาถเคลื่อนไหวได้สะดวกยิ่งขึ้น

ชุดจิ้นจวง*[1] ที่ห่อหุ้มร่างแกร่งไว้ ดูแล้วค่อนข้างทะมัดทะแมง

เมื่อมองขึ้นไปด้านบน ใบหน้าหล่อเหลาดุจเทพเซียนที่ตกลงมายังโลกมนุษย์โดยไม่ได้ตั้งใจ ใบหน้าของเขางดงามแต่อาจหาญ และทวงท่าของเขามีความสง่างามตามธรรมชาติ

ฉินเย่จือเดินเข้ามาที่ประตู เมื่อได้ยินเสียงลมหายใจกับเสียงฝีเท้าของคนที่วิ่งเข้ามาก็รู้ว่าคนคนนี้ไม่ใช่กู้เสี่ยวหวานแน่นอน

รอยยิ้มบนใบหน้าของเขาพลันเลือนหายไป ดวงตาของเขาก็เปลี่ยนเป็นคมกริบ เมื่อกู้ซินเถามาถึง ใบหน้าของฉินเย่จือก็สูญเสียความเป็นมิตรไปจนหมดแล้ว ในทางกลับกัน ดวงตาเรียวยาวดังของเขาหรี่ลงเล็กน้อย โดยมีประกายดุร้ายในดวงตาของเขา

ใบหน้าเหมือนหยกสลักนั้นเฉยเมยและไร้ความปรานี กอปรกับดวงตาเจิดจ้าดั่งดวงดารา และเส้นผมดกดำดุจน้ำหมึก

กู้ซินเถาไม่เห็นความรังเกียจในแววตาของฉินเย่จือ แต่ยังคงจ้องมองไปที่ฉินเย่จืออย่างหลงใหลโดยไม่แม้แต่จะกะพริบตา

ในขณะนี้ กู้เสี่ยวหวานพลันเข้าใจอย่างแท้จริงว่าการมาเยือนของกู้ซินเถามีจุดประสงค์ใด!

ดูเหมือนว่ากู้ซินเถาได้เรียนรู้ที่จะฉลาดแล้ว นางถึงกับพูดเรื่องความสัมพันธ์พี่น้อง กู้เสี่ยวหวานจึงจับนางไม่ได้

กู้เสี่ยวหวานตบไหล่กู้ซินเถาอย่างไม่พอใจ “เสร็จแล้วหรือยัง? เจ้ากลับไปเดี๋ยวนี้!”

กู้ซินเถาปัดมือของกู้เสี่ยวหวานออก และพูดอย่างไม่พอใจ “รอก่อนสิ!”

นางจับจ้องไปที่ฉินเย่จือ และเมื่อคิ้วของฉินเย่จือกระตุกและมีเจตนารังเกียจและเจตนาฆ่าในดวงตาของนาง กู้ซินเถาตกใจและกลับมารู้สึกตัวอีกครั้งราวกับว่านางรู้หลังจากที่นางทำผิด นางถามอย่างเขินอายเล็กน้อย “หือ คุณชายท่านนี้เป็นแขกของครอบครัวเจ้ารึ?”

กู้ซินเถาชี้ไปที่ฉินเย่จือด้วยมือที่เรียวยาวและถามอย่างอ่อนโยน

ฉินเย่จือยังคงอยู่ในลาน โดยจมูกที่ไวโดยธรรมชาติของเขาทำให้เขาได้กลิ่นของแป้งชาดมาแต่ไกล เขารู้สึกขยะแขยงเล็กน้อย เมื่อเห็นนางจ้องมองเขาปานจะกลืนกิน เขาก็ยิ่งรังเกียจ หากกู้ซินเถายังไม่ได้สติ เกรงว่าฉินเย่จือคงอดที่จะสอนบทเรียนให้นางไม่ได้

กู้เสี่ยวหวานมองไปที่กู้ซินเถาที่มีสีหน้าและแววตาเขินอาย ซึ่งนางมักจะเงยหน้าขึ้นมองฉินเย่จือด้วยท่าทีเอียงอายและขลาดกลัว ก่อนก้มหน้าลงอีกครั้งโดยมีสีแดงก่ำยากบรรยายปรากฏบนใบหน้าของหน้า

ร่องรอยของการเหยียดหยันปรากฏบนใบหน้าของกู้เสี่ยวหวาน

ครั้งสุดท้ายไม่ใช่ว่ากู้ซินเถาพูดคุยและหัวเราะต่อกระซิกกับผู้ชายคนหนึ่งอยู่รึ?

ครั้งนี้เกิดอะไรขึ้น หรือต้องการยั่วยวนฉินเย่จืออีกคน?

ช่างดีเหลือเกิน กินในชามแต่ตามองหม้อ

กู้เสี่ยวหวานยิ้มเย็น

น่าเสียดายที่ฉินเย่จือผู้นี้เป็นคนที่ไม่เข้าใจเรื่องราวเช่นนี้ แต่เดิมเขาเป็นคนที่โหดเหี้ยม เขามักจะมีใบหน้าที่เย็นชาต่อทุกคนยกเว้นกับกู้เสี่ยวหวาน

ฉินเย่จือเหลือบมองไปที่กู้ซินเถาอย่างเย็นชา ซึ่งแม้แต่กู้เสี่ยวหวานที่ยืนอยู่ข้างกู้ซินเถาก็รู้สึกถึงความหนาวเหน็บในดวงตาคู่นั้น ทว่ากู้ซินเถาที่เห็นแล้วกลับแสร้งทำเป็นไม่เห็น และต้องการพูดคุยกับฉินเย่จืออย่างยิ่ง

“เสี่ยวหวาน นี่เป็นแขกของบ้านเจ้าหรือ?” เมื่อเห็นฉินเย่จือไม่สนใจนางเลย กู้ซินเถาก็รู้สึกหงุดหงิดเล็กน้อย ดังนั้นนางจึงจงใจถามกู้เสี่ยวหวาน แม้ว่าคำพูดจะพุ่งไปที่กู้เสี่ยวหวาน แต่สายตาของนางก็ยังจับจ้องไปที่ฉินเย่จือไม่วางตา

ดูคล้ายจะมีร่องรอยของความคับแค้นใจอยู่ในสายตาคู่อยู่นั้น

นางกัดริมฝีปากเบา ๆ คิ้วของนางดูเหมือนจะแฝงไว้ด้วยความขุ่นเคืองและความคับแค้นใจ ก่อนนางจะจ้องไปที่ฉินเย่จืออย่างเขินอาย ที่ระหว่างคิ้วของนางมีร่องรอยการออดอ้อน เขินอาย และรอคอยอยู่

กู้เสี่ยวหวานอดไม่ได้ที่จะชื่นชมนาง เด็กสาวคนนี้อายุเท่า ๆ นาง แต่กลับเชี่ยวชาญทักษะในการยั่วยวนบุรุษแล้ว ถ้านางเป็นบุรุษ นางคงถูกกู้ซินเถาล่อลวงไปแล้ว

*[1] ชุดจิ้นจวง เป็นชุดจีนโบราณเข้ารูป เน้นความคล่องตัว ปลายแขนเสื้อจะรวบติดกับปลายแขน