ตอนที่ 849 สุดยอดหมอเทวดา (5) / ตอนที่ 850 สุดยอดหมอเทวดา (6)
ตอนที่ 849 สุดยอดหมอเทวดา (5)
จวินอู๋เสียยื่นมือออกไป ปลายนิ้วของนางแตะที่ข้อมือของชวีหลิงเย่ว์
“เจ้าจะทำอะไรน่ะ!” ตั้งแต่เดินผ่านประตูเข้ามา เจี่ยงอิงหลงก็จับตามองจวินอู๋เสียทุกการกระทำ เมื่อเขาสังเกตเห็นจวินอู๋เสียเข้าใกล้ชวีหลิงเย่ว์ เขาก็คิดสงสัยอยู่แล้ว และเมื่อเห็นจวินอู๋เสียยื่นมือมาแตะชวีหลิงเย่ว์ เขาก็ร้องออกมาเสียงดังทันที
เสียงตะโกนนั่นทำให้สายตาของทุกคนหันมามองอย่างรวดเร็ว และพวกเขาก็เห็นเด็กสาวผู้งดงามคนหนึ่งกำลังวางมือบนข้อมือของชวีหลิงเย่ว์ ดูเหมือนนางกำลังจับชีพจร
“แม่นางน้อยผู้นี้คือ” หมอหลวงคนหนึ่งถามขึ้นพร้อมกับมองเหลยเชินอย่างสงสัย
เหลยเชินตอบว่า “คุณหนูผู้นี้คือคุณหนูใหญ่แห่งจวนหลินอ๋องจากรัฐชี บังเอิญว่านางมาเที่ยวพักผ่อนที่รัฐเหยียนของเรา ข้าได้ยินว่านางมีความสามารถทางการแพทย์ที่ยอดเยี่ยม และเมื่อคิดถึงอาการของชวีหลิงเย่ว์ข้าจึงเชิญนางมาที่นี่เพื่อตรวจดูสักหน่อย” ในตอนที่เหลยเชินพูดคำพูดเหล่านั้นออกมา มือของเขาที่ซ่อนอยู่ใต้แขนเสื้อก็กำแน่น
“เชิญนางมาดู องค์ชายพูดจริงหรือพ่ะย่ะค่ะ” พวกหมอต่างงุนงง พวกเขามองเหลยเชินจากนั้นก็หันไปมองจวินอู๋เสีย และรู้สึกว่าสถานการณ์นี้ช่างน่าขัน
พวกเขาไม่สนใจว่าจวินอู๋เสียจะเป็นใคร แค่คิดว่าเด็กสาวอายุไม่ถึงสิบห้าปีกลับกล้ามาแสดงตัวตรงหน้าหมอที่มีชื่อเสียงทั้งกลุ่มอย่างพวกเขาก็น่าขำจะแย่แล้ว!
ในตอนนั้นสีหน้าของหมอหลายๆ คนบ่งบอกถึงความไม่พอใจขึ้นมา
“ถ้าองค์ชายรู้สึกว่าพวกเราไม่สามารถทำงานนี้ได้ ก็บอกเราตรงๆ ได้พ่ะย่ะค่ะ จำเป็นด้วยหรือที่ต้องพาเด็กสาวมาล้อพวกเราเล่นเช่นนี้ พวกเราทุกคนวิเคราะห์และปรึกษาอาการของคุณหนูชวีมาพักใหญ่แล้ว ยังไม่สามารถหาวิธีรักษาที่เหมาะสมได้ แล้วจู่ๆ องค์ชายก็พาเด็กปากไม่สิ้นกลิ่นน้ำนมมาที่นี่ จะไม่เป็นการตบหน้าหมอทุกคนที่นี่หรือพ่ะย่ะค่ะ” หมอหลวงที่อายุมากที่สุดพูดขึ้นอย่างไม่พอใจ
เหลยเชินหันไปมองบุรุษผู้นั้น เขาหัวเราะอย่างเย็นชาอยู่ในใจ ชายผู้นี้คือหมอหลวงประจำตัวของเสด็จพ่อ เหลยเชินไม่คิดเลยว่าเสด็จพ่อจะส่งชายผู้นี้มา
ตำแหน่งและสถานะของคนผู้นี้พิเศษและแตกต่างจากหมอหลวงคนอื่นๆ แม้แต่ยามเผชิญหน้ากับเหลยเชิน เขาก็ยังไม่แสดงความเกรงใจเท่าไรนัก
“ทำไมท่านหมอหลวงหลี่พูดเช่นนั้นเล่า ข้าแค่พยายามทำในส่วนของข้าเท่านั้นเอง” เหลยเชินพูด
หมอหลวงหลี่พูดต่อด้วยน้ำเสียงดูถูก “องค์ชายกำลังจะบอกว่าเราทุกคนแก่แล้ว สายตาฝ้าฟางกันหมดแล้วอย่างนั้นหรือพ่ะย่ะค่ะ เด็กคนนี้อายุเท่าไรกัน นางมีประสบการณ์ในทักษะแพทย์แค่ไหน องค์ชายคิดได้อย่างไรว่าเด็กสาวคนนี้จะสามารถช่วยรักษาอาการบาดเจ็บของคุณหนูชวีได้ ถ้าเป็นความจริง องค์ชายก็กำลังจะบอกว่าหมอหลวงและหมอที่นี่ทุกคนเป็นแค่ไอ้โง่ไร้ประโยชน์อย่างนั้นหรือ พวกเราเทียบกับเด็กสตรีคนเดียวที่อายุแค่สิบห้าปีไม่ได้หรือพ่ะย่ะค่ะ!”
คำพูดของหมอหลวงหลี่ทำให้หมอคนอื่นๆ อีกหลายคนพยักหน้าตามอย่างเห็นด้วย
สีหน้าของเหลยเชินเคร่งเครียดขึ้นทันที เขาแน่ใจว่าหมอหลวงหลี่ต้องได้รับคำสั่งมาจากฮ่องเต้แน่ นั่นเป็นเหตุผลที่เขากล้าใช้น้ำเสียงอวดดีไม่เกรงใจกันเช่นนี้
“คุณหนูชวีเป็นคุณหนูใหญ่ของเมืองพันอสูร ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับนางในรัฐเหยียนของเรา คงไม่มีใครตอบคำถามของเจ้าเมืองพันอสูรได้ เมื่อคนของเมืองพันอสูรมาถึงที่นี่ เราควรบอกพวกเขาหรือว่าองค์รัชทายาทแห่งรัฐเหยียนส่งเด็กสาวไม่รู้เรื่องรู้ราวมาทำการรักษาคุณหนูใหญ่ของพวกเขา องค์ชายถ้าเรื่องนี้รั่วไหลออกไป พระองค์ไม่คิดว่ามันฟังดูน่าขำบ้างหรือพ่ะย่ะค่ะ” หมอหลวงหลี่บังอาจมากทีเดียวที่ใช้คำพูดยโสโอหังเช่นนั้น เขาไม่เชื่อสักนิดว่าจวินอู๋เสียจะรู้เรื่องการแพทย์อะไรมากมาย เด็กน้อยเช่นนี้จะไปรู้อะไร
เหลยเชินโกรธจัดกับความบังอาจและน้ำเสียงท้าทายของหมอหลวงหลี่ จวินอู๋เสียที่อยู่ด้านข้างพลันเปิดปากพูดขึ้นว่า “เช่นนั้น หลังจากวิเคราะห์อาการของคุณหนูชวีอยู่นาน ข้าอยากรู้ว่าพวกท่านทุกคนได้ข้อสรุปว่าอย่างไร”
คำถามของจวินอู๋เสียทำให้ทุกคนหันกลับไปสนใจนางในทันที
ตอนที่ 850 สุดยอดหมอเทวดา (6)
“จะมีข้อสรุปหรือไม่ก็ไม่ใช่สิ่งที่เด็กน้อยเช่นเจ้าควรจะถามเรา” หมอหลวงหลี่พูด น้ำเสียงของเขาเต็มไปด้วยความดูถูก เขาไม่มองจวินอู๋เสียเลยสักนิด แต่พูดกับเหลยเชินว่า “องค์ชาย อาการบาดเจ็บของคุณหนูชวีไม่ใช่เรื่องเล่นๆ และข้ากับหมอทุกคนก็เค้นสมองและใช้ความรู้ทั้งหมดของเราแล้ว ได้โปรดเถอะพ่ะย่ะค่ะองค์ชาย อย่าทำเรื่องให้ยุ่งยากมากไปกว่านี้เลย”
เหลยเชินขบกรามแน่น แต่เขาไม่อาจปล่อยให้ตัวเองระเบิดโทสะออกมาได้
แต่จวินอู๋เสียกลับพูดต่อว่า “ถ้าท่านหมอรู้สึกว่าอายุของข้าทำให้ข้าไม่น่าเชื่อถือ เช่นนั้นพวกท่านก็บอกผลการตรวจของท่านแก่ข้าและช่วยให้ผู้เยาว์ได้เรียนรู้อะไรบ้างเถิด” สายตาของนางเปลี่ยนไปเล็กน้อยพร้อมกับเชิดคางขึ้น “หรือว่าหลังจากวิเคราะห์ปรึกษากันมาทั้งคืนแล้วก็ยังไม่ได้ข้อสรุป”
“เด็กน้อยอย่างเจ้าจะไปรู้อะไร! คิดว่านี่เป็นที่ที่เจ้าจะมาพูดอะไรได้อย่างนั้นหรือ” หมอหลวงหลี่โต้กลับอย่างหยาบคาย
“อ้าว ก็ในเมื่อพวกท่านไม่อยากพูด ทำไมไม่ให้ข้าพูดแทนเล่า ถ้ามีอะไรไม่ถูกต้อง ก็ขอให้พวกท่านช่วยชี้แนะข้าด้วย” จวินอู๋เสียพูดพร้อมกับยืนขึ้นช้าๆ สายตาเย็นชาของนางกวาดมองทุกคนในห้องนี้
“อาการบาดเจ็บของคุณหนูชวีมาจากการบาดเจ็บที่เส้นลมปราณหัวใจ ดูจากลักษณะอาการแล้ว เหมือนมีคนใช้พลังวิญญาณกระแทกเข้าที่เส้นลมปราณหัวใจส่งผลให้โลหิตและพลังปราณในร่างสับสน ทำให้หัวใจเต้นผิดจังหวะ และยังมีความแปรปรวนที่เส้นลมปราณหลักอื่นๆ ด้วย เนื่องจากการไหลเวียนของพลังวิญญาณในร่างสับสนจนไม่อาจควบคุมได้ ทำให้พลังวิญญาณที่แตกกระจายไปทำร้ายอวัยวะภายในที่สำคัญอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้อาการบาดเจ็บของนางเลวร้ายมากขึ้นเรื่อยๆ”
จวินอู๋เสียกล่าวช้าๆ คำพูดของนางทำให้พวกหมอที่มองนางอย่างดูถูกแสดงแววตาประหลาดใจในทันที
แต่จวินอู๋เสียยังคงพูดต่อว่า “ดูจากอาการของคุณหนูชวีในตอนนี้ พวกท่านน่าจะใช้โอสถกำเนิดใจเพื่อรักษาเส้นลมปราณหัวใจของนางเอาไว้ และใส่โสม ฝูหลิง ชะเอมอบแห้ง แล้วก็หญ้าเบญจมาศหนามเป็นส่วนผสมเพิ่มเติม และเพื่อช่วยให้ออกฤทธิ์ได้ดียิ่งขึ้นเลยใส่ตังกุย ถุงมือจิ้งจอก โบตั๋นขาว กับชวนซยงเพื่อบำรุงโลหิตเสริมด้วย สมุนไพรพวกนี้มีฤทธิ์อ่อน ไม่รุนแรง เหมาะกับการใช้พยุงอาการบาดเจ็บของคุณหนูชวีและเพื่อไม่ให้เป็นภาระหนักกับร่างกายที่อ่อนแอเปราะบางของนาง ผู้เยาว์พูดถูกทั้งหมดหรือไม่” จวินอู๋เสียถามพร้อมกับเงยหน้าขึ้น นางมองไปที่หมอหลวงหลี่
หลังจากจวินอู๋เสียสรุปการวินิจฉัยของนางเสร็จ ทั้งห้องก็ตกอยู่ในความเงียบทันที พวกหมอต่างมองจวินอู๋เสียด้วยสายตาประหลาดใจและตกใจ
เด็กสาวคนนี้เพิ่งเข้าห้องมาได้ไม่นาน และได้จับชีพจรของชวีหลิงเย่ว์แค่ชั่วอึดใจเดียวเท่านั้น แต่นางกลับบอกอาการของชวีหลิงเย่ว์ได้หมดอย่างถูกต้องแม่นยำ นางสามารถแจกแจงรายชื่อโอสถวิเศษและสมุนไพรทั้งหมดที่พวกเขาใช้ออกมาได้โดยไม่ผิดเพี้ยนเลยแม้แต่อย่างเดียว!
นี่มันน่าเหลือเชื่อเกินไปแล้ว!
สีหน้าของหมอหลวงหลี่ไม่น่าดูขึ้นมาทันที เขาไม่เคยคิดเลยสักนิดว่าจะมีความเป็นไปได้ที่เด็กสาวตรงหน้าเขาจะสามารถวินิจฉัยโรคได้อย่างแม่นยำในเวลาสั้นๆ แค่นี้! แม้แต่คนอย่างเขาที่เป็นหมอหลวงอันดับต้นๆ ผู้เชี่ยวชาญในด้านการแพทย์เป็นอย่างดี ก็ยังไม่สามารถรวบรวมเบาะแสและข้อบ่งชี้มากมายขนาดนี้แล้วมาชี้แจงผลการตรวจได้แบบนี้
การที่สามารถบอกอาการบาดเจ็บของชวีหลิงเย่ว์ได้นั้นไม่ใช่เรื่องยากเย็นอะไรนัก สิ่งที่ทำให้เขาตกใจก็คือจวินอู๋เสียสามารถระบุชนิดของโอสถวิเศษและสมุนไพรที่ชวีหลิงเย่ว์ได้รับจากการจับชีพจรเพียงเท่านั้น! ความสามารถเช่นนี้มันน่าเหลือเชื่อเกินไป
“เจ้ารู้ได้อย่างไร หรือว่าองค์ชายบอกเจ้า” สีหน้าของหมอหลวงหลี่แทบจะกลายเป็นสีเขียว ต่อให้ตีเขาให้ตาย เขาก็ไม่ยอมเชื่อเด็ดขาดว่าความสามารถของจวินอู๋เสียจะเหนือกว่าพวกเขาทุกคน
จวินอู๋เสียมองตรงมาที่หมอหลวงหลี่และย้อนกลับไปว่า “องค์ชายจะรู้เรื่องพวกนี้ได้อย่างไร หรือท่านจะบอกว่ามีใครในหมู่พวกท่านวิ่งไปบอกองค์ชายกันเล่า”
คำพูดของจวินอู๋เสียทำให้ทุกคนพากันหุบปาก พวกเขาได้รับคำสั่งให้มาที่นี่เพื่อช่วยชีวิตชวีหลิงเย่ว์ ตั้งแต่พวกเขาก้าวเท้าเข้ามาที่นี่ พวกเขายังไม่ได้ก้าวออกไปจากที่นี่เลยแม้แต่ก้าวเดียว แล้วพวกเขาหาโอกาสที่ไหนไปติดต่อกับองค์รัชทายาทได้ แถมยังแจงรายละเอียดทั้งหมดให้ฟังด้วยเนี่ยนะ