บทที่ 572 ไข่มุกนำโชค
บทที่ 572 ไข่มุกนำโชค
ฝีเท้ายามก้าวเดินไร้เสียงราวกับเมฆาเคลื่อนไหว ก่อนที่จะตามมาด้วยคมของปลายกระบี่ส่องแสงสว่างวาบ ที่พุ่งตัวออกไปราวกับอสรพิษ !
“พี่หวัง สรุปแล้ววันนี้เราจะไปไหนกันเหรอ ! ที่นี่มีแต่ภูเขา มองไปทางไหนก็มืดไปหมดเลย ! ไหนพี่พูดว่าเราจะหากระบี่สีดำล้วนอะไรนั่นไม่ใช่เหรอ ที่นี่ไม่เห็นจะมีเลย” 1 ใน 3 คนที่อายุน้อยที่สุดถามคนที่ชื่อว่าพี่หวังที่ยืนอยู่ข้าง ๆ กัน
“จะว่าไปก็แปลก วันนั้นฉันเห็นว่ามันอยู่ที่นี่จริง ๆ นะ แต่ทำไมวันนี้มาไม่เจอแล้วล่ะ เดิมทีฉันว่าจะเก็บกลับไปตั้งแต่ตอนนั้นแล้ว เพียงแต่ตอนนั้นมีสัตว์ร้ายคอยเฝ้าดูแลมันอยู่เลยไม่กล้าเข้าไปเก็บ แต่มันต้องอยู่ซิ ! เพราะงั้นพอเถอะ เงียบแล้วมาหากันเถอะ”
“พี่หวัง พี่บอกว่าแถว ๆ กระบี่ดำมีไข่มุกตกอยู่ สรุปว่ามันเป็นความจริงหรือเปล่า !” อีกคนหนึ่งก็ถามเช่นกัน !
“แน่นอนว่าจริง อีกทั้งไข่มุกนั้นยังเป็นชนิดสีเหลืองที่มีน้อยมากด้วย ! ดีแล้วที่พวกนายพูดขึ้นมา เพราะถึงตอนนั้นพวกนายก็เก็บเอาไข่มุกนำโชคไปคนละเม็ดสองเม็ดเถอะ ส่วนฉันจะเอากระบี่ดำ !” คนที่ถูกเรียกว่าพี่หวังรีบพูดกันท่า ด้วยกลัวเล็กน้อยว่าเพื่อนอีก 2 คนที่มาด้วยกันจะแย่งของตนไป
เป็นตอนนี้เองที่ฉู่เหินเกือบจะลงมืออยู่แล้ว ทว่าเมื่อได้ยินสิ่งที่คนพวกนี้พูดขึ้น ชายหนุ่มก็พลันหยุดมือกะทันหัน ด้วยเขาสัมผัสได้ว่าที่นี่น่าจะมีขุมทรัพย์บางอย่างเสียแล้ว !
สำหรับไข่มุกนำโชคนั้นเขาพอจะรู้จักมาบ้าง ซึ่งก็กล่าวได้ว่าไข่มุกนำโชคเม็ดเล็ก ๆ พวกนั้นมีระดับสูงเทียมฟ้าเลยทีเดียว ! ไม่ต้องพูดถึงไข่มุกสีเหลืองเลย กระทั่งไข่มุกสีขาวก็ทำให้คนนับไม่ถ้วนพากันแย่งกันอย่างบ้าคลั่งแล้ว !!!!
ตั้งแต่เขาตกลงมาที่สนามรบแห่งนี้ ดวงของชายหนุ่มก็เท่ากับ 0 มาโดยตลอด แต่ก็นับได้ว่าเป็นโชคดีเช่นกันที่จนถึงตอนนี้เขายังไม่ตาย !!!
ก่อนหน้านี้ชายหนุ่มได้รู้มาว่า การจะออกไปจากสนามรบแห่งนี้นั้นไม่ใช่เรื่องง่ายเลย ด้วยเขาจะต้องมีแต้มผลงานเสียก่อน ! และยิ่งเขามีแต้มผลงานเยอะเท่าไรก็จะได้ออกไปเร็วเท่านั้น ! ซึ่งถ้าตัวเองได้ไข่มุกนำโชคสักเม็ดสองเม็ดมา ไม่แน่ว่าแต้มผลงานนั่นก็อาจมากพอที่จะทำให้เขาได้ออกไปจากที่นี่เลยก็ได้ !
เพราะยังไงเขาก็ไม่สามารถอยู่ในสนามรบชิงคงนานได้ ด้วยวงเวทย์เคลื่อนย้ายที่ส่งพวกเขาเข้ามานั้นจะอยู่ได้ไม่เกิน 3 เดือน และแม้ว่าช่วงเวลาในสนามรบโบราณกับโลกด้านนอกจะไม่เหมือนกัน หากแต่มันก็ไม่แตกต่างกันมากนัก ! ดังนั้นภายใน 3 เดือนเขาจะต้องมีแต้มผลงานเพียงพอ อีกทั้งยังต้องได้สมุนไพรยาทั้งหมดมาไว้ในมือด้วย ไม่งั้นการที่เขามาที่นี่ก็จะไม่มีความหมาย !
เดิมทีเขากลุ้มใจว่าจะทำยังไงถึงจะแต้มผลงาน ตอนนี้พอได้ยินเรื่องไข่มุกนำโชคก็ตัดสินใจที่จะลองดูเสียหน่อย ! อีกทั้งวิธีชาวนากับนกกระสา*ก็ดูจะเป็นวิธีที่ไม่เลว ด้วยนับเป็นการได้แก้แค้นแทนแม่บุญธรรมตัวเองไปในตัว !
*ชาวนากับนกกระสา เป็นนิทานจีนที่กล่าวว่านกกระสาสู้กับหอยกาบสู้กันชนิดไม่มีใครยอมใคร ทำให้ชาวนาที่มาเจอนกกระสากับหอยกาบจับไปได้ทั้ง 2 ตัว สุดท้ายคนที่ได้ประโยชน์ที่สุดก็คือชาวนา
ฉู่เหินเดินตามทั้งสามไปอย่างช้า ๆ ซึ่งมันก็ทำให้เขาพบว่าแม้ภายนอกสามคนนี้จะเป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน หากแต่พวกเขาก็แอบถือมีดพร้อมแทงข้างหลังกันตลอดเวลา ! เท่านี้ก็รู้แล้วว่าคนพวกนี้ไม่ใช่คนดีอะไร ไม่งั้นคงไม่คิดทำกับเพื่อนแบบนี้ !
สามสหายเดินหาบริเวณตีนเขารอบหนึ่ง ก่อนที่จู่ ๆ ชายหนุ่มจะรู้สึกว่าด้านหน้าตัวเองเกิดการเคลื่อนไหวแปลก ๆ ดังนั้นจึงเดินไปทางนั้นอย่างไม่ลังเล ! และทันทีที่ฉู่เหินเดินไปทางนั้น ทั้ง 3 คนนั่นก็คล้ายจะรู้สึกว่าที่นี่มีบางอย่างไม่ถูกต้อง จึงพากันรีบเร่งฝีเท้ามาที่นี่เช่นกัน !
เมื่อฉู่เหินมองออกไปไกล ๆ ตาก็เห็นปากถ้ำแห่งหนึ่ง โดยปากถ้ำที่ว่ามันก็ได้แผ่หมอกสีดำออกมา และที่ทำให้รู้สึกแปลกก็คืออาศัยความเข้มข้นของควันดำในนั้น มันก็น่าจะเห็นมาตั้งแต่ไกล ๆ แล้วสิ หากแต่ทำไมเขาถึงเดินเข้ามาใกล้ก่อนแล้วถึงเพิ่งรู้สึกล่ะ ?
ชายหนุ่มรู้สึกว่าที่นี่เป็นสถานที่ที่แปลกมาก เพียงจุดนี้จุดเดียวก็แปลกแล้ว ดังนั้นในนี้จะต้องมีของวิเศษบางอย่างอยู่อย่างแน่นอน แค่จากควันดำที่แผ่ออกมาถึงด้านนอกนี้ เขาก็สัมผัสได้ถึงความแปลกประหลาดแล้ว และเจ้าควันดำนี้ก็ดูเหมือนจะไม่ได้ขัดขวางไม่ให้ตัวเองเข้าไปตรวจสอบดู ฉู่เหินจึงสามารถมองสำรวจได้อย่างง่ายดาย !
และก็เป็นอย่างที่คิด ภายในถ้ำนี้มีกระบี่สีดำอยู่เล่มหนึ่งกำลังแผ่ควันสีดำจาง ๆ ออกมา ทั้งยังเปล่งแสงเจิดจ้าไปพร้อม ๆ กับปล่อยไอสังหารเย็น ๆ
นอกจากนี้แล้ว ไม่ไกลกันนั้นก็มีไข่มุกนำโชคตกอยู่ข้าง ๆ โดยไข่มุกเหล่านี้ก็มีขนาดที่หลากหลาย ตั้งแต่ใหญ่เท่าไข่ไก่ ไปจนถึงเล็กเท่าไข่นกกระทา
ซึ่งก็ไม่ใช่แค่ขนาดที่แตกต่าง เพราะแม้แต่สีเองก็มีหลากหลาย ทั้งสีขาว สีเหลืองทอง และก็สีเหลืองสว่าง ที่แค่เห็นก็พอจะเดาได้เลยว่าไข่มุกสีเหลืองทองเป็นไข่มุกนำโชคที่ดีที่สุด ! ทว่าถึงจะเห็น หากแต่ชายหนุ่มก็ไม่อาจเข้าไปได้ ด้วยด้านนอกปากถ้ำสีดำนี้มีเสือตัวใหญ่ตัวหนึ่งเฝ้าอยู่ !
ฉู่เหินมองมันอย่างประเมิน เขารู้ว่าตัวเองสู้เสือตัวนี้ไม่ได้แน่นอน ! เพราะสัมผัสได้ถึงความอันตรายของเสือตัวนี้ อีกทั้งชายหนุ่มยังรู้สึกได้ว่าพลังวรยุทธ์ของมันนั้นสูงกว่าตัวเองไปมากทีเดียว และจากที่เดา เขาก็คาดว่าเจ้าสิ่งมีชีวิตตัวนี้นั้นน่าจะยังไม่ถึงขั้นเทพดาราหากแต่ก็ใกล้เคียงแล้ว
ดังนั้นพอเขาเห็นเสือจึงรีบซ่อนตัวอย่างรวดเร็ว ก่อนที่ไม่นานจากนั้นสามสหายจะมาถึง ซึ่งหลังจากเห็นของในถ้ำ สามคนนั้นก็เหมือนจะตื่นเต้นจนแทบควบคุมตัวเองไม่ไหว !
“เห็นหรือยัง เจ้าเสือตัวนี้แค่ฉันคนเดียวน่ะสู้ไม่ไหวหรอก ! แต่ถ้าพวกเราร่วมมือกันก็อาจจะจัดการมันได้ จะได้มาแบ่งสมบัติในนั้นกัน !” หลังจากเห็นเสือตัวนี้ ก็หันมองเพื่อนร่วมทาง 2 คนและพูดเช่นนี้ !
“ได้ ตามที่พี่หวังว่าเลย” คนที่อายุน้อยที่สุดพยักหน้า ส่วนอีกคนหนึ่งก็แสดงออกแบบนี้เช่นเดียวกัน สุดท้านทั้งสามก็หยิบอาวุธของตัวเองออกมา เข้าล้อมเสือตัวนั้นไว้ตรงกลาง ! ก่อนจะพุ่งตัวเข้าโจมตีมันอย่างไร้ซึ่งความลังเล
พี่หวังแทงไปก่อน กระบี่ของเขาเปล่งแสงสว่างเรืองรอง แทงตรงไปยังหน้าอกของเสือที่นอนนั่น ! ทว่าเสือตัวนั้นก็เพียงมองกระบี่เปล่งแสงที่แทงเข้ามา ก่อนจะคำรามลั่น ! และเงื้อนกรงเล็บของตัวเองตบกระบี่นั้นออกไปอย่างง่ายดาย
กรงเล็บของมันคมกริบ ทันทีที่มันตบกระบี่ก็ทำให้กระบี่หักทันที ! ก่อนจะตามมาด้วยลมแรงพัดมาจากทางด้านซ้าย ส่งร่างของคนที่อายุน้อยที่สุดใน 3 คนนั้นลอยกระเด็นไปไกล !
มาตอนนี้คนที่พร้อมก็เหลืออยู่เพียงคนเดียวแล้ว ด้วยเพราะในตอนที่อีก 2 คนโจมตีนั้น เขาเลือกที่จะหลบซ่อนตัวเงียบ ๆ! อย่างไรก็ตาม ในตอนที่เสือตัวนั้นคลายความระวังตัวเองลง เขาก็พลันยิงธนูพุ่งใส่มันหมายจะเอาชีวิต !
เสือนั้นคำรามด้วยความเจ็บปวด จากนั้นมันก็ม้วนหางรัดเอวคนคนนั้น จับโยนออกไป ! ก่อนที่จะมี 1 ใน 2 คนที่เหลือวิ่งเข้าไปคว้ากระบี่นั่น !
ทว่ากระบี่นั้นกลับไม่ขยับแม้แต่น้อย และในตอนที่เขาคิดจะวางมือก็สายไปเสียแล้ว เพราะหางของเสือตัวนั้นกวาดขาข้างหนึ่งของตัวเขาไป ! ทำให้ฉู่เหินที่หลบอยู่ไกล ๆ ได้ยินเสียงดัง ฉัวะ ! ไม่ต้องถามเขาก็รู้ว่าหมอนี้ขาขาดไปแล้ว !