บทที่ 470 โมโห

บทที่ 470 โมโห

ฉินหว่านหรูเห็นด้วยกับคำพูดของสามีตัวเอง แม้ว่าจะไม่เหมาะสมสำหรับคนอื่นที่จะเข้าไป แต่ก็ไม่ควรมีอะไรผิดสำหรับนางในฐานะแม่

ด้วยความกล้า นางจึงเคาะประตูแล้วพูดว่า “อาซู อาการของชูเหยียนเป็นยังไงบ้าง?”

มีแต่เสียงเงียบเป็นคำตอบ

“ข้าจะเข้าไปนะ ถ้าเจ้าไม่ตอบ!”

ขนาดขู่แล้วก็ยังไม่มีคำตอบ ด้วยความเป็นห่วงความปลอดภัยของลูกสาว นางจึงพยายามผลักประตูให้เปิด แต่มันก็ไม่ขยับ!

“ไอ้เด็กเวรนั่นลงกลอนประตู!” ฉินหว่านหรูมองดูสามีของนางอย่างโกรธเคือง

เขาเดินไปที่ประตูแล้วเอามือแตะเบา ๆ โคจรพลังชี่ออกจากร่างของเขาไปที่กลอนประตู “เรียบร้อยแล้ว”

“ท่านเฝ้าอยู่ข้างนอกเอาไว้ ข้าจะเข้าไปดูเอง” ฉินหว่านหรูเอ่ยขึ้น หากมีคนพรวดเข้าไปโดยบังเอิญและเห็นลูกสาวของพวกเขาไม่สวมเสื้อผ้า ความบริสุทธิ์ใด ๆ ที่นางมีเหลืออยู่คงจะกลายเป็นผ้าขี้ริ้ว

นางจึงจำเป็นต้องให้สามีของนางเฝ้าประตูเอาไว้

ฉู่จงเทียนพยักหน้าหนักแน่นซึ่งช่วยบรรเทาความวิตกกังวลของนาง

ด้วยความพอใจ ฉินหว่านหรูผลักประตูเข้าไป และปิดประตูตามหลังอย่างรวดเร็วและลงกลอนมันอีกครั้ง

จากนั้นนางก็มุ่งหน้าเข้าไปข้างใน

ฉู่ชูเหยียนเป็นลูกสาวคนสำคัญของท่านอ๋อง ดังนั้นห้องของนางจึงค่อนข้างใหญ่ จากที่ที่ยืนอยู่ ฉินหว่านหรูจึงยังไม่เห็นเหตุการณ์ด้านใน

นางไม่ต้องการส่งเสียงดังเช่นกัน เผื่อในกรณีที่พวกเขาอยู่ในส่วนสำคัญของกระบวนการรักษา ข้าจะแอบดูและออกไปหลังจากที่แน่ใจว่าลูกสาวของข้าสบายดี ข้าจะไม่รบกวนขั้นตอนการรักษาของพวกเขา

เมื่อนางเดินเข้าไปในห้อง นางก็ได้ยินเสียงแปลก ๆ คล้ายเสียงสะอื้นและครวญคราง

“หืม?” ฉินหว่านหรูสับสน นางรู้จักเสียงดังกล่าว แต่เป็นไปได้อย่างไร!

บางทีชูเหยียนกำลังคร่ำครวญเพราะอาการของนางรุนแรงเกินไป

ความคิดนี้เพิ่งเข้ามาในหัวของนาง แต่ภาพตรงหน้าทำให้นางตกตะลึง

นางคิดถึงความเป็นไปได้มากมาย และได้เตรียมตัวเองให้พร้อมรับในกรณีที่อาการของลูกสาวจะรักษาไม่หาย แต่นี่เป็นฉากเดียวที่นางไม่คิดว่าจะได้เห็น

ซูอันและฉู่ชูเหยียนไม่คิดว่านางจะเข้ามาเช่นกัน พวกเขาหันมาตามสัญชาตญาณเมื่อได้ยินเสียงแปลก ๆ ทั้งสามคนเบิกตากว้าง

“ไอ้เด็กซู ไอ้สารเลว!” ในที่สุด ฉินหว่านหรูก็หายตกใจและโกรธเกรี้ยวทันที

ท่านยั่วยุฉินหว่านหรูสำเร็จ

ได้รับคะแนนความโกรธแค้น + 1024!

ฉินหว่านหรูปฏิเสธที่จะเชื่อว่าลูกสาวของนางจะยอมให้ผู้ชายคนไหน ๆ ปฏิบัติกับนางแบบนี้ แม้ว่าผู้ชายที่เป็นปัญหาจะเป็นสามีที่แท้จริงของนางก็ตาม

มีคำอธิบายเดียวเท่านั้น! ซูอันถือโอกาสย่ำยีนางราวกับสัตว์ร้ายในขณะที่นางได้รับบาดเจ็บสาหัสและไม่สามารถต่อต้านได้!

นางคิดว่าก่อนหน้านี้ทุกคนยังคงวิตกกังวลอยู่ภายนอก โดยไม่รู้ถึงความโชคร้ายและความอัปยศอดสูที่ลูกสาวของนางต้องทนทุกข์อยู่ภายใน มันทำให้นางอยากถลกหนังซูอันทั้งเป็น!

ท่านยั่วยุฉินหว่านหรูสำเร็จ

ได้รับคะแนนความโกรธแค้น + 999…999…999…

นางไม่สามารถยับยั้งตัวเองได้อีกต่อไป และโจมตีซูอันอย่างไร้ความปรานีด้วยเจตนาสังหาร

ในความตื่นตระหนก ซูอันจึงหลบไปข้างหนึ่ง แต่ฉินหว่านหรูเป็นผู้บ่มเพาะระดับหก จะหลบเลี่ยงนางง่าย ๆ ได้อย่างไร?

ในช่วงเวลาวิกฤตนี้ เขาจึงรีบใช้วิชาร่างก้าวทานตะวันที่ดัดแปลงโดยหมี่ลี่ ร่างของเขาแบ่งออกเป็นสองทันที ทั้งสองวิ่งแยกกันไปคนละทาง

ฉินหว่านหรูจดจ่ออยู่กับร่างที่อยู่หน้านาง นางเหวี่ยงฝ่ามือผ่ากลางหลังของเขาอย่างดุร้าย

ราวกับว่ามันโดนอากาศที่ว่างเปล่า นางจึงรู้สึกตกใจ ร่างที่อยู่ข้างหน้านางกระจัดกระจายหายไปในอากาศ

ตัวล่อ?

นางผ่านประสบการณ์มาแล้วมากมาย จึงรู้ทันทีว่าเกิดอะไรขึ้น

ดวงตาของนางจับจ้องไปที่ซูอันอีกคนที่หนีไปอีกด้านหนึ่งของห้อง ขณะที่นางกำลังจะโจมตีอีกครั้ง เสียงที่อ่อนแอของฉู่ชูเหยียนก็ร้องเรียกนาง “ท่านแม่…”

“ไม่เป็นไร แม่อยู่นี่แล้ว” ฉินหว่านหรูรีบวิ่งไปประคองลูกสาวทันที ในขณะเดียวกัน หัวใจของนางก็อ่อนลง นางนึกถึงความเย่อหยิ่งของลูกสาวที่มีมาตั้งแต่เกิด นางเวทนาลูกสาวยิ่งนักที่ถูกเขยขยะทำลายความบริสุทธิ์

เป็นความผิดของเราที่ไว้ใจเขามากเกินไป!

นางเริ่มการโจมตีอีกครั้ง

“หยุด…” ฉู่ชูเหยียนคว้ามือนาง ขณะที่ใช้มืออีกข้างพันผ้าห่มรอบตัวนาง

ฉินหว่านหรูมองอย่างงงงวย ปฏิกิริยาของลูกสาวของนางแปลกเกินไป! นี่ชูเหยียนตกใจกับสถานการณ์มากเกินไปหรือเปล่า?

“เขา…เขา…จริง ๆ แล้ว… กำลังให้การรักษากับข้า” ฉู่ชูเหยียนก้มหน้าลง ใบหน้าของนางแดงก่ำ

นี่มันน่าอายเกินไปจริง ๆ! แม่ของนางเห็นหมดแล้ว!

นางยังคงอายเกินกว่าจะพูดอะไรออกมา แต่นางกังวลว่าแม่ของนางจะฆ่าซูอัน หรือส่งเสียงดังจนทำให้คนอื่นรีบเข้ามา นั่นจะยิ่งทำให้นางอับอายมากขึ้น

“การรักษา? นี่พวกเจ้ากำลังรักษาบ้าอะไรอยู่!?” ฉินหว่านหรูคิดว่าลูกสาวของนางอายเกินกว่าจะพูดความจริง “ไม่ต้องห่วง แม่จะล้างแค้นให้ ไอ้สารเลวน้อยคนนี้ไม่มีวันรอดไปได้แน่นอน!”

ฉู่ชูเหยียนตื่นตระหนกเมื่อเห็นว่าแม่ของนางไม่เข้าใจ มีเพียงสิ่งเดียวที่แก้ความเข้าใจผิดนี้ได้ “อันที่จริง…จริง ๆ แล้ว…ข้ายินยอม”

ฉินหว่านหรูหยุดเกรี้ยวกราด นางหันกลับมาอย่างไม่เชื่อหู “เจ้าพูดว่าอะไรนะ?”

ฉู่ชูเหยียนมีสีหน้าขัดแย้งอย่างชัดเจน นางใช้เวลาพอสมควรในการเริ่มประโยค “อันที่จริง…ในมิติลับหยกจรัส เรา…เรากลายเป็น…เรากลายเป็นสามีและภรรยาที่แท้จริงตั้งแต่เมื่อตอนนั้นแล้ว”

ฉินหว่านหรูเปิดปากแต่ไม่มีเสียงใดเล็ดลอดออกมา

นางไม่เคยจินตนาการถึงสถานการณ์เช่นนี้ แม้แต่ในฝันร้ายที่มืดมนที่สุดของนาง

ซูอันรู้สึกตื่นเต้นอย่างไม่น่าเชื่อ แม้ว่าเขาและฉู่ชูเหยียนจะมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกัน แต่ก็เป็นเพียงการช่วยเหลือที่ยืนอยู่บนหลักเหตุผลเท่านั้น ในหัวใจของเขารู้ว่าพวกเขายังห่างไกลจากคำว่าสามีและภรรยาที่แท้จริง และฉู่ชูเหยียนยังคงไม่ยอมรับเขาเป็นสามี

ใครจะคาดคิดว่าฉู่ชูเหยียนจะยอมรับเรื่องนี้ด้วยตัวเอง? เขารู้สึกเหมือนกำลังจะระเบิดด้วยความสุข

“เจ้าสองคนเป็นสามีภรรยาอย่างแท้จริงตั้งแต่ในมิติลับหยกจรัสแล้วงั้นเหรอ?!”

ในที่สุดฉินหว่านหรูก็หายจากอาการตกตะลึง ความเข้าใจที่ริบหรี่พุ่งเข้ามาหานาง ไม่น่าแปลกใจเลยที่ลูกสาวของข้าเต็มใจที่จะรับการรักษาจากเขาโดยไม่สวมเสื้อผ้า ทั้ง ๆ ที่ลูกสาวของข้าเป็นคนเย็นชาและถือตัวมากมาโดยตลอด! ข้าควรจะรู้สิ่งนี้!

“ม…แม้ว่าเจ้าสองคนจะเป็นสามีภรรยากันจริง ๆ แล้วก็ตาม แต่การที่พวกเจ้ามาทำเรื่องแบบนี้ในเวลาแบบนี้…นี่… นี่มันมากเกินไปแล้ว!” ฉินหว่านหรูเห็นได้ชัดว่าไม่มีอารมณ์ที่จะฟังเหตุผลของสองคนนี้ ลูกสาวของนางกำลังบาดเจ็บรุนแรงอยู่แท้ ๆ แถมกลุ่มคนที่กำลังรออยู่ข้างนอกก็กังวลกันเป็นอย่างมาก แต่พวกเขากลับ…

ซูอันยิ้มอย่างขมขื่น “ข้ากำลังช่วยชูเหยียนอยู่จริง ๆ!”

ชายหนุ่มแทบร้องไห้ออกมา

“หุบปาก!” ฉินหว่านหรูจ้องมองเขาด้วยความเกลียดชัง จากนั้นสีหน้าของนางก็หยุดนิ่งในทันใด

นางมัวแต่ไล่ตามเขาด้วยความโกรธจนไม่ได้สังเกตสิ่งอื่นใด

ในตอนนี้เมื่อนางสงบลงบ้าง นางจึงเพิ่งตระหนักว่าเขาอยู่ในสภาพเปลือยเปล่าโดยสิ้นเชิง

ท…ทำไม ‘ไอ้เจ้านั่น’ ของไอ้เด็กเวรนี่มันถึง…!

ใบหน้าของฉินหว่านหรูกลายเป็นสีแดงสด นางหันไปมองฉู่ชูเหยียน อย่างงุนงง ลูกสาวที่บอบบางของนางทนกับสิ่งนี้ได้ยังไง!