บทที่ 469 คนพาล

บทที่ 469 คนพาล

เพ่ยเหมียนหมานเองก็ตกใจเช่นเดียวกัน นางรอซูอันอยู่ในห้องนี้ ตามจริงแล้ว นางไม่รู้ด้วยซ้ำว่าทำไมนางถึงมาที่นี่?!

อาจเป็นเพราะตั้งแต่เด็กนางไม่มีเพื่อนมากนัก และซูอันก็แตกต่างจากคนอื่น ๆ นางชื่นชอบช่วงเวลาแห่งความสัมพันธ์ระหว่างนางและเขาเป็นอย่างมาก

แน่นอน ถ้าถามนาง นางจะบอกว่าการที่ตัวเองทำเช่นนี้ก็เพื่อป้องกันไม่ให้ซูอันถูกเฉินเซวียนลอบสังหาร

ค่ำนี้นางมาถึงเร็วกว่าปกติเล็กน้อย และเต็มไปด้วยความคาดหวังว่าคนที่เข้ามาคือซูอัน แต่สุดท้ายกลับกลายเป็นผู้หญิงที่ไหนก็ไม่รู้

แม้ว่านางจะมองไม่เห็นอย่างชัดเจน แต่คลื่นพลังของบุคคลนี้ชัดเจนว่าไม่ใช่ฉู่ชูเหยียน ฉู่ฮวนเจา หรือใครก็ตามจากตระกูลฉู่

จากวิธีที่ผู้หญิงคนนี้แอบเข้ามา นางคิดว่านี่คือนักฆ่าที่เฉินเซวียนส่งมา และเข้าโจมตีทันที

ในตอนแรกนางคิดว่าการจัดการกับผู้บุกรุกคนนี้คงไม่ยากนัก ทว่าเมื่อสู้ไปเรื่อย ๆ นางก็พบว่าระดับการบ่มเพาะของคู่ต่อสู้ของนางคนนี้สูงมากจริง ๆ!

พวกนางแลกหมัดกันหลายสิบครั้ง แต่ดูเหมือนว่าอีกฝ่ายจะพยายามไม่ทำอะไรรุนแรงจนเกินไป

เพ่ยเหมียนหมานเกือบใช้เปลวไฟสีดำของตัวเองหลายครั้ง แต่นางก็ได้ยั้งตัวเองไว้ เพราะไม่ต้องการให้ฉู่ชูเหยียนรู้ว่านางอยู่ที่นี่

ทั้งสองคนยังคงต่อสู้แบบประชิดตัว และต่างมีแรงจูงใจซ่อนเร้นของตัวเอง

ทางด้านของซูอัน เขาไม่รู้ตัวเลยว่าที่ห้องของตัวเองกำลังมีการต่อสู้ที่ดุเดือดเกิดขึ้น ขณะนี้เขาใช้สมาธิอย่างเต็มที่ในการรักษาฉู่ชูเหยียน

ฉู่ชูเหยียนปฏิเสธเขาในตอนแรก อย่างไรก็ตาม ในตอนท้ายหญิงสาวก็รู้ตัวว่าการปฏิเสธของนางนั้นไร้ผล

หลังจากผ่านไปครู่หนึ่ง ร่างกายของนางก็กระตุก นางรู้สึกได้อย่างชัดเจนว่ามีสิ่งแปลกปลอมกำลังล่วงล้ำเข้ามาในร่าง ใบหน้าของนางจึงแดงก่ำ “เจ้าคนทราม!”

หลังจากพูดจบ ฉู่ชูเหยียนก็ขบไหล่เขาอย่างไม่พอใจ นางต้องการให้เขารับรู้ความเจ็บจี๊ดที่นางรู้สึกเมื่อครู่!

ซูอันอ้าปากค้าง ไม่ใช่เพราะความเจ็บปวดจากการถูกกัด แต่เป็นเพราะภายในร่างกายของภรรยาเขาช่างเย็นยะเยือกยิ่งนัก

ใครกันที่บอกว่าผู้หญิงที่เย็นชาที่สุดภายในก็ยังอบอุ่น!

คราวที่แล้วก็เป็นอย่างนี้…

แต่วันนี้ มันให้ความรู้สึกราวกับว่าตัวเองได้เข้าสู่โลกแห่งน้ำแข็งที่มีอุณหภูมิติดลบแถมยังมีพายุหิมะพัดโหมกระหน่ำตลอดเวลา!

ต้องขอบคุณที่วิชาปฐมบทแรกเริ่มที่ช่วยแบ่งเบาความหนาวเย็นให้เขา ไม่เช่นนั้นหากเป็นคนธรรมดาเผชิญกับภาวะเช่นนี้ร่างกายส่วนนั้นคงแข็งตัวทันทีและพิการไปตลอดชีวิต

ซูอันพูดอย่างอ่อนโยนว่า “ร่างกายของเจ้าเย็นขนาดนี้แล้ว เจ้ายังแสร้งทำเป็นเข้มแข็งอยู่อีก เฮ้อ…ที่ผ่านมาเจ้าคงลำบากมากจริง ๆ”

ดวงตาของฉู่ชูเหยียนรื้นไปด้วยน้ำตาทันที คำพูดของเขาได้ทำลายเปลือกที่แข็งแกร่งที่สุดของนาง เผยให้เห็นส่วนที่อ่อนแอที่สุดภายใน

หลังจากที่ความอับอายของนางผ่านไป ฉู่ชูเหยียนก็รู้สึกผิดเล็กน้อยแทน “เจ้าเจ็บหรือเปล่า?” นางถาม

ซูอันหัวเราะเสียงดัง “นี่คือสิ่งที่ข้ารอคอย! ข้าจะเจ็บปวดได้ยังไง?”

“เจ้าคนพาล!” ฉู่ชูเหยียนบีบแขนเขาด้วยความโกรธ อย่างไรก็ตามเขาก็เป็นเหมือนดวงอาทิตย์ที่แผดเผา ปล่อยความอบอุ่นไม่รู้จบเข้าสู่ร่างกายของนาง

“รู้สึกยังไงบ้าง?” ซูอันถามขึ้น

ฉู่ชูเหยียนไม่รู้ว่าจะพูดอะไร

นี่เป็นคำถามที่ไร้ยางอายจริง ๆ! ข้าจะต้องตอบว่าอะไร?

นางหันไปด้านข้าง กัดริมฝีปากไม่พูดอะไร

ซูอันเห็นการแสดงออกของนาง ก็รู้ว่านางคิดอะไร เขาอธิบายด้วยรอยยิ้มขมขื่น “ข้ากำลังถามว่าเจ้ารู้สึกดีขึ้นไหม? ข้ากำลังใช้พลังปฐมบทหล่อเลี้ยงร่างกายของเจ้า ถ้ารู้สึกผิดปกติต้องบอกทันที ข้าจะได้เน้นได้ถูกส่วน”

ตอนนั้นเองที่ฉู่ชูเหยียนตระหนักได้ว่ามันเป็นความเข้าใจผิดของนางเอง ใบหน้าซีดขาวของนางเริ่มแดงระเรื่อ และร่างกายที่เย็นเยียบของนางก็อุ่นขึ้นเล็กน้อยจากเลือดลมที่สูบฉีดเพราะความเขินอาย

ซูอันยิ้มอย่างซุกซนเมื่อสังเกตเห็นอาการไวต่อความรู้สึกของร่างกายนาง “ที่รัก เจ้ายังไม่ได้ตอบคำถามของข้าเลย! ส่วนไหนของร่างกายเจ้าที่รู้สึกผิดปกติหรือไม่สบายตัวที่สุด? ข้าจะได้เน้นส่วนนั้นก่อน”

ฉู่ชูเหยียนกัดฟัน ผู้ชายคนนี้ไม่รู้ว่าจะหยุดเมื่อไหร่!

เราสองคนกำลังทำด้วยกัน แค่นี้ข้าก็อายอยู่แล้ว เจ้ายังต้องการให้ข้าพูดอะไรอีก

“ถ้าเจ้าไม่บอกข้า ข้าคงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากสุ่มเอาด้วยวิธีของข้าเอง เจ้ารู้ใช่ไหม?” ซูอันกระซิบข้างหูของนาง

ฉู่ชูเหยียนขมวดคิ้วเมื่อรู้สึกว่าการเคลื่อนไหวของเขาเปลี่ยนไป นางพยายามจะหยุดเขาทันที “เดี๋ยว…!”

ซูอันยังคงหมกมุ่นกับสิ่งที่ตัวเองกำลังทำ ส่วนดวงตาของฉู่ชูเหยียน กำลังแสดงอารมณ์ที่หลากหลายและท่วมท้น ราวกับว่านางกำลังน้ำตาคลอ “เจ้าช่วยหยุดสักครู่ก่อนจะได้ไหม ให้ข้าได้พักหายใจบ้าง…”

แม้ว่านี่จะไม่ใช่ครั้งแรกที่พวกเขาทั้งสองรวมเป็นหนึ่งเดียวกันเช่นนี้ แต่ด้วยเหตุผลบางอย่างที่นางเองก็ไม่รู้ ความทรงจำของนางเกี่ยวกับประสบการณ์ครั้งแรกในมิติลับหยกจรัสกลับพร่ามัวอย่างมาก นางจำได้แต่ความโกรธ ความอับอาย และความสับสนผสมปนเปกัน

แต่ครั้งนี้นางรู้สึกตัวชัดเจนแจ่มแจ้ง

ผู้ชายทุกคนมีความสุดโต่งเช่นนี้หรือไม่? ฉู่ชูเหยียนกัดฟันแน่นขณะที่อดทนกับมันอย่างขมขื่น ความคิดกะทันหันนี้ทำให้ใบหน้าของนางแดงก่ำ

นางเกาะเสื้อผ้าของชายหนุ่มแน่นพร้อมกับหายใจแรง แต่ในเวลาเดียวกัน นางก็ค่อย ๆ คุ้นชินกับเนื้อตัวของผู้ชายที่อยู่ตรงหน้าของนางมากขึ้นเรื่อย ๆ

เมื่อเห็นคิ้วที่สวยงามของนางขมวดมุ่น หัวใจของซูอันก็เต็มไปด้วยความเห็นอกเห็นใจ เขาอดไม่ได้ที่จะโน้มตัวลงไปจูบนาง

ร่างกายของฉู่ชูเหยียนสั่นสะท้าน นางรู้สึกราวกับว่ากระแสไฟฟ้าได้ไหลผ่านร่างกายของนางไปทั้งตัว

ซูอันตกตะลึง เขาไม่คิดว่าเทพธิดาน้ำแข็งอย่างนางจะอ่อนไหวได้ขนาดนี้

รอยยิ้มซุกซนปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเขา “งั้นข้าเร่งจังหวะเลยนะ”

ฉู่ชูเหยียนเขินอายจนไม่กล้าสบตาเขา นางหันหน้าไปด้านข้าง เผยให้เห็นลำคอที่แดงระเรื่อเช่นกัน

นางรู้ว่าตัวตนก่อนหน้านี้ของนางจะไม่มีวันยอมให้ใครมาทำสิ่งนี้กับนางแน่ ไม่สิ ต่อให้เป็นนางเมื่อวานนี้ก็ไม่มีทางยอมแน่นอนเช่นกัน

แต่ตอนนี้…

นางไม่เข้าใจว่าทำไมเช่นกันนางถึงยอม…

ไม่สิ นางไม่อยากจะเข้าใจอะไรอีกแล้วในตอนนี้

ในไม่ช้าสมองนางก็ไม่มีที่ว่างให้คิดเกี่ยวกับเรื่องอื่น ๆ นางรู้สึกราวกับว่าร่างกายของนางเป็นเหมือนเรือเล็ก ๆ ในทะเล ที่ถูกเหวี่ยงไปมาโดยพายุที่รุนแรง บางครั้งนางลอยละลิ่วไปสู่ก้อนเมฆ บางครั้งก็ถูกลากลึกลงไปในทะเล…นางไม่รู้ว่าตัวเองจะมีชีวิตอยู่และโบยบินขึ้นไปบนสรวงสวรรค์หรือจมลงไปในขุมนรกที่ไม่มีจุดสิ้นสุดกันแน่…

เวลาผ่านไปค่อนข้างนาน และสมาชิกตระกูลฉู่ที่อยู่ด้านนอกเริ่มกังวลอย่างมาก

“ข้าสงสัยว่าเกิดอะไรขึ้นข้างใน…” ฉินหว่านหรูจับประตู

ลูกสาวของนางโตเป็นผู้ใหญ่ตั้งแต่อายุยังน้อย และจากนั้นพอยิ่งโตขึ้นก็ยิ่งเป็นคนที่สงวนเนื้อตัวมากขึ้นเรื่อย ๆ ด้วยเหตุนี้ นางผู้เป็นแม่จึงให้ปรมาจารย์อักขระมาวางค่ายกลไว้รอบห้องของลูกสาวนางเพื่อเก็บเสียงทั้งหมด

นี่เป็นสาเหตุที่ไม่มีใครรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นภายใน

จู่ ๆ ฉินหว่านหรูก็นึกถึงเสวี่ยเอ๋อร์ขึ้นมา คงจะดีถ้ามีคนอย่างนางคอยดูสถานการณ์ข้างใน

ตั้งแต่เสวี่ยเอ๋อร์จากไป ฉู่ชูเหยียนก็ไม่รับสาวใช้ส่วนตัวอีกเลย

ด้านข้าง ฉู่จงเทียนสังเกตเห็นการก้าวเดินอย่างวิตกกังวลของภรรยาตัวเอง “ทำไมเจ้าไม่เข้าไปดูข้างในล่ะ?” ภรรยาของเขาบอกว่าต้องทำการรักษาในขณะที่ลูกสาวเปลือยกายอยู่ ดังนั้นจึงไม่เหมาะที่เขาจะเข้าไปเอง

แต่มันไม่ใช่ปัญหาสำหรับภรรยาของเขานี่นา!