บทที่ 434 โจมตีต่อเนื่อง (1)

เก้าพี่น้องเลี้ยงซาลาเปาสุดแสบ

บทที่ 434 โจมตีต่อเนื่อง (1)

บทที่ 434 โจมตีต่อเนื่อง (1)

ฟ่านชูฟางเข้าใจความหมายของเสี่ยวเถียน ก่อนจะพยักหน้าซ้ำ ๆ ถึงเด็กคนนี้จะอายุยังน้อย แต่ก็เป็นเด็กที่ฉลาด

คนบ้านนี้ไม่ใช่คนธรรมดาจริง ๆ สินะ ถ้าใช่ พวกเขาไม่มีทางเลี้ยงลูกได้แบบนี้หรอก

“ได้เลยจ้ะ ไม่ต้องห่วงนะ ย่ารองจะจัดการให้เอง ถ้ามีคนยืนยันให้ว่ากินได้ ย่าจะให้ปู่เขากินจ้ะ!” ฟ่านชูฟางตอบตกลง

อันที่จริงก็ไม่รู้ว่าทำไมถึงสบายใจเวลาอยู่กับเสี่ยวเถียนเด็กที่เธอไม่ได้รู้จักดี

แต่รู้สึกว่าทุกอย่างจะเรียบร้อยดีเมื่อได้เห็นเธอ

มันจะเป็นเพราะเธอคือลูกหลานบ้านซูเชียวหรือ ถึงได้เชื่อใจขนาดนี้

เมื่ออีกฝ่ายยืนยันให้แล้ว เสี่ยวเถียนก็คลี่ยิ้มกว้าง

แต่ต่งหยวนจงไม่พอใจที่ภรรยาอยากจะให้หมอตรวจยาของหลานสาว

“ชูฟาง คุณพูดแบบนี้ได้ยังไง? เสี่ยวเถียนก็เหมือนกับลูกหลานของเรา มีอะไรต้องห่วง?”

อีกอย่างยาก็ยังไม่ได้ทำขึ้นมาเลย แล้วดูพูดเข้าสิ เด็ก ๆ จะคิดยังไง?

ชูฟางประมาทเกินไปจริง ๆ

แต่ภรรยากลับมองด้วยสายตาตำหนิแล้วบ่นอุบอิบ “ดูตัวคุณในแต่ละวันสิ ไม่เห็นเข้าใจอะไรเลย! ทำไมไม่เก่งเหมือนเด็กมันบ้าง!”

แต่ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมเขาถึงโดนบ่น

ทำไมเขาถึงไม่เก่งเหมือนเด็กคนนั้นบ้าง?

แล้วสิ่งที่เขาพูดนั้นผิดตรงไหนกัน?

ไม่ใช่ว่าเราควรเชื่อมั่นให้ถึงที่สุดหรือยังไง?

ฟ่านชูฟางมองออกเลยว่าสามีไม่เข้าใจในคำพูดของเสี่ยวเถียน จึงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากอธิบาย

“เสี่ยวเถียนรู้ว่าสถานะของคุณในตอนนี้ไม่เหมือนเดิมแล้ว ทำไมคุณถึงไม่เข้าใจอะไรง่าย ๆ หน่อยเนี่ย?”

“แล้วถ้าหมอส่วนตัวของคุณไม่เห็นด้วยกับยาที่เสี่ยวเถียนจ่ายให้ และทางโรงพยาบาลก็บอกว่าไม่เหมาะ สมมุติเกิดกินแล้วเป็นอะไรขึ้นมา ต่อให้มันไม่ใช่ยาไม่ดียังไงก็ต้องรับผิดชอบ!”

ฟ่านชูฟางพูดด้วยน้ำเสียงดังฟังชัด ด้วยสถานะของสามี เรื่องนี้ไม่มีทางเป็นเรื่องเล็กแน่นอน

แล้วเสี่ยวเถียนก็ทำเพื่อปกป้องเขา ทั้งยังปกป้องตัวเองด้วย ไม่เห็นแปลกเลย บนโลกนี้มีคนแข็งแกร่งหลบซ่อนน้อยเสียที่ไหนกันล่ะ?

พอต่งหยวนจงได้คิดก็รู้สึกว่ามันจริงอย่างที่ว่า เขาไม่อยากให้มีเรื่องอะไรเกิดขึ้นกับเสี่ยวเถียนและบ้านซูเลย ช่างเถอะ ถ้าเสี่ยวเถียนยินยอมให้คนมาตรวจ ก็ตรวจเถอะ!

“งั้นก็ได้ เรื่องนี้ฝากให้คุณจัดการแล้วกัน ชูฟาง หาหมอที่ไว้ใจได้ด้วยนะ”

อีกฝ่ายพยักหน้า

ชายชราเอ่ยกับเด็กสาวอีกครั้ง “เสี่ยวเถียน อย่าโทษปู่รองกับย่ารองเลยนะ ไม่ใช่เพราะว่าเราไม่เชื่อหลานหรอก แต่ก็เพื่อเป็นการป้องกันเอาไว้ก่อน!”

เสี่ยวเถียนยิ้ม “หนูรู้ค่ะ!”

ถ้าไม่รู้ก็คงไม่พูดขอแบบนั้นหรอก

หลังจากไปส่งพวกเขา บ้านซูก็กลับมาใช้ชีวิตตามปกติ

คุณปู่คุณย่าซูและเหลียงซิ่วยุ่งกับลูกค้าที่เข้า ๆ ออก ๆ ร้านอยู่ทุกวัน

ส่วนเสี่ยวเถียนเริ่มทำยาบ้างแล้ว เป็นสิ่งที่ทำนอกเหนือไปจากการอ่านหนังสือ

วัตถุดิบยาในเมืองหลวงยังมีมากพอ แต่สิ่งที่เธอต้องการมีหลายประเภทมาก ทั้งยังเป็นของหายากอีก

อีกอย่างคือวิธีการซื้อเนี่ยสิ เสี่ยวเถียนเคยจะใช้ทางลัด แต่ก็พบว่าร้านค้าในระบบไม่ได้ขายของครอบจักรวาลขนาดนั้น

อย่างน้อยก็ดูผ่าน ๆ เพื่อให้รู้ว่ามันไม่มีขายในนั้น

ไม่รู้ว่าระดับร้านยังไม่สูงพอ หรือไม่มีวัตถุดิบยาเนื่องด้วยเหตุผลอื่น นอกจากนี้ยังเจอด้วยว่าบางสินค้าไม่ได้สมบูรณ์เท่าไร

น่าเศร้าที่มันขายวัตถุดิบอาหารเป็นหลักและของใช้ในชีวิตประจำอีกนิดหน่อย

ถ้าเปิดแค่ร้านเดียวก็พออยู่แล้ว

แต่ถ้าอยากได้อย่างอื่น ร้านค้าไม่สามารถตอบสนองได้ทั้งหมด

ไม่รู้ว่าถ้าอัปเกรดแล้วจะมีของอื่น ๆ เพิ่มขึ้นไหม

เสี่ยวเถียนขบคิดก่อนจะคิดออกในที่สุด ภาระกิจหลักที่ระบบให้มาคือ “มีธัญพืชนานาชนิดในหนังสือ”

จนถึงตอนนี้เธอก็ยังทำไม่เสร็จ ที่จะพูดคือบ้านเรายังไม่ผ่านขั้นแรกตามเป้าหมายที่ระบบให้ไว้ ทั้งยังอยู่ในช่วงเริ่มต้นของการพัฒนาครอบครัวด้วย ต้องแก้ปัญหาเรื่องกินอิ่มนอนอุ่น!

เธอเข้าใจเหตุผลที่ว่าทำไมภารกิจถึงชื่อว่า มีธัญพืชนานาชนิดในหนังสือ ก็เพื่อแก้ปัญหาเรื่องปากท้อง

ไม่แปลกใจที่มีแต่ของกินขาย

ถึงจะเสียใจ แต่ก็ยังรู้สึกโล่งใจ

ได้กลับมามีชีวิตอีกครั้ง ทั้งยังได้อาวุธอันคมกริบมาไว้กับตัว แค่นี้ก็พอแล้ว ยังมีอะไรไม่น่าพอใจอีกล่ะ?

เพราะมีอุปกรณ์โกงตัวนี้ ชีวิตบ้านเราถึงได้ดีขึ้น แต่ก็ยังต้องดิ้นรนเรื่องของกินและเสื้อผ้าอยู่ดี

เสี่ยวเถียนคิดมาตลอดเลยว่า ต่อให้มันมีก็ควรจะพยายามด้วยตัวเองเพื่อที่จะได้มีชีวิตที่มีความสุข แทนที่จะรอให้เจ้าระบบช่วยเหลือทุกอย่าง

เรามาถึงขั้นนี้แล้ว เธอคิดว่าตัวเองทำได้ดีพอสมควรนะ

ถึงเงินจะมาจากระบบ แต่ก็ไม่ได้รู้ว่าการนั่งรอระบบก็ใช้ความพยายามเหมือนกัน มันไม่ได้มีแค่เธอเท่านั้น แต่ยังมีพี่ ๆ ที่ตั้งใจเรียนเหมือนกัน

พี่ ๆ หวังว่าจะเปลี่ยนแปลงโชคชะตาและอนาคตของครอบครัวได้ด้วยการอ่านหนังสือ

เป็นเพราะความพยายามของพี่ ๆ เธอถึงได้รับรางวัลจากระบบมามากมาย

เรียกได้ว่าที่ระบบเติบโตขึ้นไปทีละขั้น ๆ ครึ่งหนึ่งเป็นผลงานเธอ ส่วนที่เหลือเป็นของคนในบ้าน โดยเฉพาะพี่ชายทั้งเก้า

แต่คุณปู่ซูไม่เห็นด้วยที่หลานสาวจ่ายยาให้ต่งหยวนจง

สถานะของเขาสูงส่งเกินไป แถมข้างกายก็มีคนเก่ง ๆ ไม่ใช่หรือ?

เสี่ยวเถียนเคยอ่านหนังสือเกี่ยวกับยาแค่ไม่กี่เล่มเอง แล้วก็เรียนมาจากหลี่หมิงไฉมานิดหน่อยด้วย จะจ่ายยาให้ต่งหยวนจงได้ยังไง?

ถ้ากินแล้วเกิดผลเสียจะทำยังไง?

ชีวิตของเราไม่พอจะจ่ายคืนหรอกนะ

“คุณปู่ไม่ต้องห่วงนะคะ ทักษะการแพทย์ของหนูยังดีมากนะ!”

เสี่ยวเถียนรู้ว่าปู่กังวลอะไร

แต่เธอมีเหตุผลที่ต้องทำแบบนี้ จึงปลอบใจเขาเท่าที่จะทำได้

“เสี่ยวเถียน ปู่เป็นห่วง บ้านเราไม่จำเป็นต้องพึ่งพาตระกูลต่งก็มีชีวิตที่ดีได้นะ”

ชายชรามองหลานสาวก่อนถอนหายใจ เด็กคนนี้กระหายในความสำเร็จเพื่อที่จะได้มาดูแลพวกเรา

ตอนนี้บ้านเราดีขึ้นมากแล้ว ไม่ต้องให้ตระกูลต่งมาดูแลก็ใช้ชีวิตได้ ต่อให้หากไม่สามารถตั้งหลักได้อีก แต่ก็ยังกลับไปบ้านเกิดได้นะ!