บทที่ 487 ซานเป่าผู้แปลกประหลาด

เสื้อผ้าที่ซานเป่าสวมใส่ในวันนี้ตันเหนียงทำขึ้นให้นางเป็นพิเศษ มีกระเป๋าด้านหน้าขนาดใหญ่ทำให้ใส่ของได้เยอะขึ้น พอซานเป่าเห็นของที่ชอบใจ นางจึงเก็บใส่กระเป๋าเอาไว้

ถังหลี่มีหน้าที่รับผิดชอบในการจ่ายเงิน

ไม่ช้ากระเป๋าของซานเป่าก็โป่งพองขึ้นมา

นางหยุดกะทันหัน คว้าแขนของมารดาถังหลี่ย่อตัวลง ซานเป่าเอียงตัวเข้ามาพูดซุบซิบกับถังหลี่

“ท่านแม่ดูสิ!” ถังหลี่มองไปตามทิศทางที่บุตรสาวบุ้ยใบ้ให้ดูจึงได้เห็นร่างหนุ่มสาวที่คุ้นเคยอยู่สองคนกำลังยืนอยู่ในร้าน

พวกเขาทั้งคู่ยืนหันหลังให้ถังหลี่ ชายและหญิงคู่หนึ่ง คนหนึ่งสูงอีกคนมีรูปร่างบางเพรียว ดูแล้วช่างเหมาะสมกันเป็นอย่างดี พวกเขาคือพี่ใหญ่ของนางและฝางเหมี่ยวนั่นเอง

งานแต่งงานของพี่ใหญ่และฝางเหมี่ยวใกล้เข้ามาแล้ว

“ท่านแม่ ข้าอยากให้ท่านลุงประหลาดใจ…” ซานเป่าเขย่งเท้าพูดกับมารดา

กู้หวนเนี่ยนกับฝางเหมี่ยวอยู่ในร้านขายเครื่องประดับ เขาไม่ค่อยเข้าใจความชื่นชอบของสาวๆ แต่เมื่อเห็นว่าฝางเหมี่ยวจ้องมองที่ปิ่นประดับผมอยู่ครู่ใหญ่เขาจึงได้ความคิดขึ้นมา

“ข้าอยากได้ชิ้นนี้”

ฝางเหมี่ยวรีบห้าม “นายท่าน ปิ่นนั่นดูราคาแพงเกินไปอย่าซื้อเลยเจ้าค่ะ”

หากใส่ทำงาน แล้วไม่ได้ดูแลให้ดีถ้าเสียหายไป นางคงทุกข์ใจแย่

“หากเจ้าชอบก็ซื้อเถอะ” กู้หวนเนี่ยนพูดขึ้น

“ไม่ต้องเจ้าค่ะ ข้าไม่ได้ชอบของแบบนี้”

ไม่ชอบ? หรือว่าเขาจะคาดเดาผิดไป

“เจ้าชอบอันไหนหรือ?”

ฝางเหมี่ยวมองไปรอบๆ พยายามเลือกชิ้นที่ราคาไม่แพงมากนัก

ในตอนนั้นเองมีศีรษะเล็กๆ โผล่เข้าไปแทรกระหว่างคนทั้งคู่ นางมองไปที่กู้หวนเนี่ยนที ฝางเหมี่ยวที ใบหน้าน้อยๆอ่อนเยาว์ประกอบกับดวงตาที่กลอกซ้ายขวาทำให้นางดูช่างน่าเอ็นดู

“ซานเป่า!” สายตาของกู้หวนเนี่ยนมองหลานตัวน้อยอย่างอ่อนโยน

“ท่านลุง”

ซานเป่าร้องเรียก จากนั้นจึงมองไปที่ฝางเหมี่ยวเอียงคอเล็กน้อยก่อนจะเอ่ยออกมาอย่างลังเลว่า

“ท่านป้า?”

ใบหน้าของฝางเหมี่ยวเปลี่ยนเป็นสีแดง

“ไม่ๆ ยังไม่ใช่ท่านป้า” ฝางเหมี่ยวตะกุกตะกัก

เสียงของซานเป่าทำให้นางเขินอายทว่ามีความสุข “อีกไม่นานก็จะเป็นท่านป้าแล้ว ซานเป่าของเราซ้อมเรียกไว้ก่อนล่วงหน้า”

เสียงหนึ่งดังขึ้น ฝางเหมี่ยวหันไปเห็นคนพูด นางมีความสุขขึ้นมาทันที

“ถังหลี่!”

หญิงสาวมองนางแล้วอดยิ้มไม่ได้ นางไม่ได้เจอฝางเหมี่ยวมาสองเดือนแล้ว ฝางเหมี่ยวดูเปลี่ยนไปมาก ที่จริงแล้วรูปร่างหน้าตาของนางไม่ได้เปลี่ยนไปมากนัก คงจะเป็นเพราะความสุขและความสมหวังที่เปล่งประกายออกมาจากจิตวิญญาณภายในทำให้นางดูเจิดจรัสมากขึ้น นั่นคงเป็นเพราะได้ความรักหล่อเลี้ยง

ถังหลี่มองใบหน้าของกู้หวนเนี่ยนที่ดูอ่อนโยนมากขึ้น เมื่อคนทั้งสองรักกันและได้อยู่ด้วยกันก็ย่อมทำให้พวกเขาดูงดงามมากขึ้นเรื่อยๆ

“โอ้ ปิ่นปักผมสวยจัง!” ซานเป่าร้องอุทานออกมา

“มีอันไหนที่เหมาะกับท่านป้าของเจ้าหรือไม่?”

ซานเป่าชี้มือไปชิ้นที่สวยที่สุด

“อันนี้!” นั่นเป็นอันที่ฝางเหมี่ยวชอบ แต่คิดว่าราคาแพงเกินไปนั่นเอง กู้หวนเนี่ยนซื้อทันที

“หนึ่งร้อยตำลึง…เงิน” เมื่อกู้หวนเนี่ยนจ่ายเงิน ฝางเหมี่ยวอ้าปากค้างอย่างตกตะลึง

“เหมี่ยวเหมี่ยว ไม่ต้องกังวล พี่ชายข้าเขาไม่ได้ขาดแคลนเงิน” ถังหลี่อดเสริมออกมาไม่ได้ “นอกจากนี้เขายินดีที่จะซื้อให้ เขารักเจ้ามาก”

ใบหน้าของฝางเหมี่ยวเป็นสีแดง หัวใจของนางเต็มไปด้วยความหวานชื่น นางไม่ปฏิเสธอีกต่อไป ผ่านไปหลายเดือนแล้วแต่ฝางเหมี่ยวยังอดคิดไม่ได้ว่า นางกำลังฝันอยู่

ใต้เท้าจะชอบนางมากเช่นนี้ได้อย่างไร? ทั้งเขายังรักใคร่เอ็นดูนางมาก นางกำลังจะได้แต่งงานกับเขานับได้ว่าเป็นพรของนางจริงๆ

ไม่นานมานี้ฝางเหมี่ยวฝัน ฉากในฝันช่างตรงข้ามจากชีวิตจริงเสียเหลือเกิน

ในความฝันนั้น นางได้แต่งงานกับช่างไม้หลี่คงผู้นั้น หลังจากแต่งงานแล้ว แม่สามีก็หาแต่เรื่องให้นางลำบากใจ ชีวิตของนางดำเนินไปอย่างยากลำบาก หลังคลอดลูกนางก็มีความสุขขึ้นมาบ้าง แต่ไม่นานนักโชคชะตาก็เล่นตลกกับนาง หลี่คงเสียชีวิตลง นางทั้งดูแลบุตรและคนสูงอายุตามลำพังแต่ผู้เดียว ชีวิตเต็มไปด้วยความยากลำบากกว่าเดิม

นางยอมรับชะตากรรมของตนเองและดำเนินชีวิตไปเช่นนั้น แต่คาดไม่ถึงว่าเมื่อนางได้พบกับกู้หวนเนี่ยนอีกครั้ง เขาเองก็มีชีวิตที่เลวร้ายเช่นกัน เขาใช้ชีวิตอยู่ข้างถนน ร่างกายทรุดโทรม ปราศจากความโอ่อ่าและอำนาจบารมีน่าเกรงขามเช่นเดิม

ใต้เท้าเป็นคนดี เหตุไฉนเขาถึงได้ประสบชะตากรรมที่เลวร้ายเช่นนี้ได้ ตำแหน่งขุนนางเอย ชื่อเสียงเอย แม้แต่ครอบครัวก็สูญสิ้น

ทำไม! ฝางเหมี่ยวเคืองแค้นต่อโชคชะตาที่ไม่ยุติธรรม แม้แต่ใต้เท้าก็ไม่อาจหลีกพ้นชะตากรรมของตนเองไปได้

ฝางเหมี่ยวเหมี่ยวตื่นจากฝันร้าย โชคดีที่เป็นแค่ความฝันเท่านั้น เมื่อเทียบกับชีวิตในตอนนี้แล้ว ฝางเหมี่ยวรู้สึกถึงความสุขและหวงแหนวันเวลาเล่านี้มากขึ้น

เมื่อคิดถึงเรื่องราวที่ผ่านมา ฝางเหมี่ยวรู้สึกได้ว่าชะตากรรมของนางเปลี่ยนไปนับตั้งแต่ที่นางได้พบกับถังหลี่

นางมองถังหลี่แล้วยิ้ม

“เหมี่ยวเหมี่ยว หากเจ้ายังมองข้าเช่นนั้นอีก พี่ใหญ่คงจะอิจฉาเป็นแน่!” ถังหลี่กระซิบ

ใบหน้าของฝางเหมี่ยวแดงขึ้นมาอีกครั้ง

“อะไรกัน…” ว่ากันว่าความรักมักทำให้คนเปลี่ยนไป นิสัยของฝางเหมี่ยวเป็นคนตรงไปตรงมา พูดจาแข็งๆ ทว่ายามอยู่ต่อหน้าพี่ชายของนาง ฝางเหมี่ยวกลับกลายเป็นหญิงสาวบอบบางและนุ่มนวล ดูน่ารักแตกต่างออกไป

ในขณะเดียวกันพี่ใหญ่ของนาง เป็นเสมือนภูเขาน้ำแข็งก้อนหนึ่ง แต่ด้านในกลับเป็นลาวาที่ร้อนแรง สองคนนี้เป็นคู่ที่เหมาะเจาะสมบูรณ์แบบที่สุด

หลังจากทั้งสี่คนเดินกลับไปด้วยกันสักพัก ถังหลี่ก็หาข้อแก้ตัวแล้วแยกจากไปพร้อมซานเป่า

“ท่านแม่…ข้าไม่อยากกลับไปฝึกดาบเลย ข้าไม่ฝึกได้ไหม?” ซานเป่าพูดด้วยอารมณ์ขี้เกียจ

“นั่นเป็นข้ออ้างที่จะไม่ฝึก ถ้าเช่นนั้นเจ้าจะเป็นหลอดไฟ”

“หลอดไฟ?”

“ของบางอย่างที่เรืองแสง ทำให้เสียบรรยากาศ เป็นอุปสรรค” ซานเป่าฉลาด นางเข้าใจได้ในทันที

“ท่านแม่ ถ้าเช่นนั้นบางครั้งที่ท่านพ่อกับท่านแม่อยู่ด้วยกัน ซานเป่าก็เป็นหลอดไฟด้วยหรือไม่?” เมื่อเห็นดวงตากลมโตของบุตรสาวที่จ้องมองมาอย่างใครรู้ ถังหลี่อดที่จะละอายใจไม่ได้ เมื่อคิดว่านางกับสามีชอบที่จะกอดกันต่อหน้าลูกๆ

ถังหลี่พาซานเป่ากลับบ้านทันเวลาอาหารเที่ยงพอดี ซานเป่ากินของว่างไปเยอะแล้วนางจึงกินอาหารกลางวันไม่มากนัก

หลังจากนั้นนางจึงได้ไปหาตู้เย่ หยิบขวดออกมาจากกระเป๋ายื่นให้ตู้เย่

เขากอดอกมองซานเป่านิ่งเฉย

“อะไร?” ตู้เย่ถาม

“ผลไม้เชื่อม มันเชื่อมของโปรด” ซานเป่าตอบ

“เจ้ารู้ได้อย่างไรว่าข้าชอบกิน” ตู้เย่เลิกคิ้ว นางแอบเห็นอาจารย์กินของเช่นนี้ ไม่คิดเลยว่าอาจารย์ที่เย็นชาจะชอบกินผลไม้เชื่อม

ซานเป่าเชิดคางขึ้นอย่างโอ้อวด

“มีอะไรที่ซานเป่าไม่รู้บ้างล่ะ?”

ตู้เย่มองใบหน้าอวดรู้ของลูกศิษย์อย่างหมั่นไส้

“ข้าไม่ชอบกิน!”

“โอ้…” ซานเป่าลากเสียง

“ถ้าอาจารย์ไม่ชอบ ข้าจะเก็บไว้ให้พี่รองของข้าแทนก็ได้ เขาชอบกินของหวาน”

ว่าแล้วนางก็เก็บขวดใส่กระเป๋า กลับมีมือของใครบางคนเอื้อมมือมาหยิบไป

“อาจารย์อยากกินหรือ?” ซานเป่ายิ้มกลอกตาอย่างหยอกล้อ

เด็กคนนี้ช่างประหลาดจริงๆ

“ในเมื่อเป็นน้ำใจจากลูกศิษย์ แม้ข้าไม่ชอบก็กินได้!” ตู้เย่เอ็ดนาง

เขาหยิบขวดใส่ผลไม้เชื่อม เปิดฝาแล้วโยนผลไม้เข้าปาก

หวาน

…………….