เมื่อได้ยินสิ่งที่เฟิงหย่าพูด สีหน้าเป๋าฮวนเปลี่ยนเป็นซีดเขียว
เธอเกือบจะเชื่อคำพูดของเฟิงหานชวน ในตอนนี้เฟิงหย่าได้ขุดข้อเท็จจริงออกมา
หลีซืออวิ๋นยังไงก็เป็นคุณหนูที่สูงส่ง และไม่ได้เป็นโรคประสาท ถ้าเฟิงหานชวนไม่มีคำใบ้ใด หลีซืออวิ๋นจะเป็นคนเริ่มพูดอย่างนั้นหรือ?
เป๋าฮวนแค่ใช้นิ้วเท้าคิดก็น่าจะรู้ เฟิงหานชวนหลอกเธออีกแล้ว
สีหน้าของเฟิงหานชวนตกตะลึง เมื่อเขาได้ยินน้ำเสียงที่เด็ดขาดของเฟิงหย่า ถึงกับสงสัยว่าตัวเองนอนละเมอไปหรือเปล่า หรือตัวเองไม่รู้ตัวว่าพูดอะไรกับหลีซืออวิ๋น?
เมื่อเห็นท่าทางที่งุนงงของเฟิงหานชวน เป๋าฮวนก็รู้สึกมั่นใจมากขึ้น รู้สึกว่าเฟิงหานชวนกลัวความผิดและไม่กล้ายอมรับมัน
“อาสาม ทำไมคุณถึงไม่พูดอะไร? ตอนนี้คุณอยู่ที่ไหนกันแน่? คุณใช้เงินจำนวนมากเพื่อประมูลไพลินของราชินีซีซาร์ในงานประมูล ไม่ได้ต้องการขอพี่อวิ๋นแต่งงานเหรอ?”
เสียงของเฟิงหย่ามาจากกระบอกฟังอีกครั้ง และยังมีความสับสนมากขึ้น: “หรือคุณไม่คิดจะขอพี่อวิ๋นแต่งงาน?”
“สวรรค์!” เฟิงหย่าอุทานเองอีกครั้ง เธอปิดปากและถามอย่างเหลือเชื่อว่า: “ข้างๆคุณมีพี่อวิ๋นที่เป็นเพศตรงข้ามเพียงคนเดียวและพวกคุณเป็นคู่กัน ถ้าไม่ใช่พี่อวิ๋น ยังจะมีใครอีก?”
แม้ว่าเฟิงหย่าจะถามเฟิงหานชวน แต่ก็เป็นการพึมพำพูดกับตัวเอง และเธอก็แปลกใจอยู่กับตัวเองอยู่นั่น
“พูดแบบนี้ หรือว่าฉันจะเข้าใจผิด? งั้น……ถ้าอย่างงั้นฉันจะอธิบายให้พี่อวิ๋นยังไง จบเห่แล้ว! นี่มันแย่เกินไปแล้ว!”
“เดี๋ยวก่อน อาสาม ถ้าไม่ใช่พี่อวิ๋น แล้วคุณประมูลไพลินเม็ดนั้นไปให้ผู้หญิงคนไหน พวกเรารู้จักไหม?”
เฟิงหย่าพูดเรื่อยเปื่อยเป็นเวลานาน แต่พูดจับต้นชนปลายจนแทบจะทำให้ละเอียดชัดเจนมากแล้ว
เป๋าฮวนตะลึงอยู่ที่เดิม
หนึ่งนาทีที่แล้ว เธอยังคิดอยากจะผลักหัวของเฟิงหานชวนเข้าไปในชักโครก แต่ตอนนี้หลังจากได้ยินคำพูดของเฟิงหย่า เธอถึงรู้ว่าทั้งหมดนี้เป็นความเข้าใจผิดเป็นทอดๆต่อกัน
เริ่มต้นจากงานประมูล เฟิงหานชวนได้ประมูลไพลินของราชินีซีซาร์ ซึ่งเป็นไพลินเม็ดที่เธอต้องการประมูล
ส่วนเฟิงหย่าหลังจากรู้เรื่องนี้ เธอคิดว่าเฟิงหานชวนต้องการใช้ไพลินขอหลีซืออวิ๋นแต่งงาน ส่วนหลีซืออวิ๋นก็เชื่อคำพูดของเฟิงหย่า คิดว่าเฟิงหานชวนกำลังจะขอเธอแต่งงาน แต่เธอรอไม่ไหวก็เลยส่งข้อความพวกนั้น
หลังจากเห็นข้อความพวกนั้น เข้าใจผิดคิดว่าเฟิงหานชวนจะขอหลีซืออวิ๋นแต่งงาน เข้าใจผิดคิดว่าเฟิงหานชวนหลอกลวงเธอโดยอ้างว่าตัวเองเป็นโสด ทั้งที่จริงๆแล้วคิดจะแต่งงานกับผู้หญิงคนอื่น
เฟิงหย่าเข้าใจเฟิงหานชวนผิด ทำให้หลีซืออวิ๋นเข้าใจเฟิงหานชวนผิดด้วย และหลีซืออวิ๋นก็ทำให้ตัวเองเข้าใจเฟิงหานชวนผิดอีก……
ล้วนเป็นความเข้าใจผิดทั้งหมด
“พวกคุณรู้จักกัน”
ทันทีที่เป๋าฮวนจัดการความคิดเสร็จ เสียงทุ้มของชายหนุ่มก็ค่อยๆดังขึ้น
เธอตกใจและนึกถึงคำถามของเฟิงหย่าที่ถามเฟิงหานชวนเมื่อครู่ทันที และเดาคำตอบที่เฟิงหายชวนกำลังจะตอบได้โดยไม่รู้ตัว
เธอยื่นมือออกเพื่อปิดปากของเฟิงหานชวน แต่ในวินาทีต่อมา ชายหนุ่มก็พูดไปว่า: “เฉินฮวนฮวน”
“อะไรนะ? เฉินฮวนฮวน?” เฟิงหย่ารู้สึกอธิบายไม่ถูก เธอไม่รู้ว่าตัวเองฟังผิดหรือเปล่า
เฉินฮวนฮวน……เธอตายไปแล้วไม่ใช่เหรอ?
ดังนั้น……
“อาสาม คุณประมูลอัญมณีเม็ดนั้นเพื่อมอบให้เฉินฮวนฮวนหรือ?” เฟิงหย่าผงะและกลืนน้ำลาย แล้วดวงตาของเธอเบิกกว้างพร้อมกับยืนยันอีกครั้ง
“ใช่” เฟิงหานชวนตอบ
เป๋าฮวนได้ยินอยู่ข้างๆอย่างชัดถ้อยชัดคำและเข้าอกเข้าใจ
พอได้แล้ว!
ตอนนี้เธอ “ตายแล้วฟื้นคืนชีพ” เป็นที่คาดเดาว่าทุกคนคงรู้แล้ว
“อาสาม ดังนั้นคุณเอาไพลินราคาแพงขนาดนั้นไปให้คนตายเหรอ?” เฟิงหย่าไม่เคยคาดคิดว่าผลลัพธ์จะเป็นเช่นนี้
เธอคิดว่าอาสามของตัวเองประมูลไพลินที่สุภาพสตรีชอบ มอบให้กับเพศตรงข้าม และเพศตรงข้ามที่เหมาะสมคนนั้นมีเพียงหลีซืออวิ๋นคนเดียวเท่านั้น
แต่เธอไม่เคยคิดว่าจะยังมีคนตายอีกหนึ่งคน ภรรยาที่เสียชีวิตไปของอาสาม——เฉินฮวนฮวน
“เธอยังไม่ตาย” เสียงของเฟิงหานชวนสงบนิ่ง
เขาไม่ได้ขอความยินยอมจากเป๋าฮวนก็เปิดเผยความจริงที่ว่าเธอยังมีชีวิตอยู่ เพราะเขาต้องการให้เธอ “มีชีวิตอยู่” ให้เธอกลับมาอยู่เคียงข้างตัวเอง
เมื่อเป๋าฮวนได้ยินเฟิงหานชวนบอกเฟิงหย่าแบบนี้ ก็ไม่สามารถหยุดมันได้อีกแล้ว ดังนั้นจึงทำใจให้สงบ
ให้ทุกคนรู้ว่าเธอยังมีชีวิตอยู่ ก็ไม่ได้มีอะไรมารบกวนเธอ
เพียงแต่ว่า ปลายอีกด้านของโทรศัพท์เงียบไปครู่หนึ่ง
ทั้งเฟิงหานชวนและเป๋าฮวนคิดว่าเฟิงหย่าวางสายแล้ว แต่ในวินาทีต่อมา เสียงกรีดร้องของหญิงสาวดังออกมาจากอีกฝั่งของโทรศัพท์: “อ๊า—”
“อาสาม คุณบ้าไปแล้ว! คุณป่วยหนักกว่าเดิมอีก!!!”
“อาสาม ฉันจะบอกเรื่องนี้กับคุณปู่ พวกเราจะส่งคุณไปโรงพยาบาลเพื่อรับการรักษาให้ดีอย่างแน่นอน! พวกเราจะไม่ทิ้งคุณ!”
“อาสาม คุณอยู่ที่ไหน ตอนนี้คุณอยู่ที่ไหน ฉันจะเรียกพี่ชายมาด้วย แล้วเราจะไปรับคุณไปที่โรงพยาบาล——”
เมื่อได้ยินเฟิงหย่าตะโกนอย่างต่อเนื่องและคิดว่าเฟิงหานชวนกลายเป็นโรคประสาท เป๋าฮวนก็ทนฟังไม่ได้อีกต่อไป
เธอตะโกนใส่โทรศัพท์มือถือของเฟิงหานชวนทันที: “ไม่ต้องตะโกนแล้ว! อาสามของคุณไม่ได้บ้า!”
“เธอเป็นใคร? อาสามของฉันบ้าไปแล้ว เขาบ้าไปแล้วจริงๆ! เขาคิดว่าภรรยาที่ตายไปแล้วของเขายังไม่ตาย เขาไม่ได้เป็นบ้าจะเป็นอะไร? เขาบ้าเข้าขั้นรุนแรงแล้ว……”
เฟิงหย่ายังพูดไม่ทันจบ เป๋าฮวนก็ขัดจังหวะทันที: “ขอโทษค่ะ คุณหยุดสักครู่”
“เธออยากจะพูดอะไร? เธอเป็นใคร?” เฟิงหย่ารู้สึกกังวลใจมากในตอนนี้ ผู้หญิงที่อยู่ตรงข้ามยังสามารถพูดอย่างใจเย็นได้ ทำให้เธอโกรธจัด
ขณะเฟิงหย่าต้องการดุด่าใครซักคน เธอก็ได้ยินเสียงที่ไม่แยแสของเป๋าฮวนจากปลายสายอีกด้าน: “ฉันก็คือเฉินฮวนฮวน”
“เธอรีบเอาโทรศัพท์มือถือให้อาสามของฉัน ฉันรำคาญคุณ!” เฟิงหย่าที่ยังคงตะโกนจู่ๆก็หยุดกะทันหัน
หลังจากนั้น เธอตกใจและเปิดปากพูดด้วยเสียงตะกุกตะกัก: “เธอ……เธอ……เธอพูดว่าอะไร เธอ……เธอคือเฉินฮวนฮวน?”
“อืม ฉันยังไม่ตาย ฉันคือเฉินฮวนฮวนจริงแท้ และอาสามของคุณก็ไม่ได้บ้า” เป๋าฮวนอธิบายอย่างจริงจัง
หากเธอไม่ยอมรับสถานะของเธอในตอนนี้ เฟิงหานชวนก็จะถูกคิดว่าเป็นคนบ้า คิดว่าเป็นโรคประสาท
เมื่อมองไปที่ใบหน้าที่จริงจังของเป๋าฮวน เฟิงหานชวนซึ่งยืนอยู่ข้างเธอไม่ได้พูดอะไร แต่มุมปากของเขาเผยอขึ้นเล็กน้อยและรอยยิ้มก็ปรากฏขึ้น
ในความเห็นของเขา ตราบใดที่เป๋าฮวนยอมรับ เขาก็มีโอกาส
มีโอกาสที่เป๋าฮวนจะกลับมาหาเขา
จู่ๆไม่มีเสียงที่ปลายอีกด้านของโทรศัพท์
เป๋าฮวนขมวดคิ้วหันศีรษะมองเฟิงหานชวนด้วยความสงสัยบนใบหน้า แล้วยักไหล่แสดงอาการงุนงง
ในเมื่อเธอก็ยอมรับแล้ว ทำไมเฟิงหย่าถึงไม่ยอมพูดอะไรเลย?
“ฮวนฮวน เสี่ยวหย่าน่าจะแปลกใจเล็กน้อย คราวหน้าผมจะพาคุณไปเจอเธอ” เฟิงหานชวนเอื้อมมือออกไปจับมือเล็กของหญิงสาว แล้วใช้นิ้วลูบหลังมือของเธอเบาๆ
เจอเฟิงหย่า?
พาเธอไปเจอเฟิงหย่า?
เป๋าฮวนชะงักงัน เธอตอบตกลงไปเจอเฟิงหย่าเมื่อไหร่? เฟิงหานชวนคิดตัดสินใจเองมากเกินไปแล้ว!
“อา——อ๊าอ๊าอ๊า——”
ในขณะเดียวกันนี้ เสียงกรีดร้องอันน่าสะพรึงกลัวของผู้หญิงดังขึ้นจากปลายสายอีกด้าน:“ผี!!!”