ตอนที่ 466

My Disciples Are All Villains

ตอนที่ 466 ความลับของยู่เฉิงไห่

ติดตามแฟนเพจอัพเดทข่าวสารอ่านนิยายก่อนใครได้ที่ FB: ND Translate นิยายแปลไทย

ไม่นานหลังจากที่จ้าวยู่ก็พาส์หยามายังศาลาทางตะวันออก

สภาพจิตใจของสีว์หยาดูดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัดเมื่อเทียบกับหลายวันก่อน สีรู่หยาเปิดป ระตูเข้าไปในห้องอย่างระมัดระวังในขณะที่จ้าวยู่ยังยืนอยู่ที่ด้านนอก เมื่อเข้ามายังศาลาสหยาก็ได้เห็นลูโจวที่กําลังนั่งหลับตาอยู่บนเบาะเก่าๆ ตั๋วเขาที่เห็นแบบนั้นก็ได้ส่งเสียงเรียกผู้เป็นอาจารย์เบาๆ “ท่านอาจารย์”

ลูโจวค่อยๆ ลืมตาตื่นขึ้นก่อนที่จะเหลือบมองสีหยา “นั่งลง”

“ข้าไม่กล้า”

“ถ้าอย่างนั้นมีอะไรกัน พูดมาซะ”

สีรู่หยาพยักหน้าก่อนที่จะเริ่มพูด “ข้าได้ใช้เวลาไตร่ตรองตัวเองภายในถ้ําแห่งเงาสะท้อนมาหลายวันในที่สุดข้าก็นึกอะไรบางอย่างเกี่ยวกับคริสตัลแห่งความทรงจําได้ ข้ารู้สึกว่าคริสตัลนี้จะอยู่ในหรงซีแทนที่จะอยู่ในหรงเป่ย”

“ทําไมเจ้าถึงพูดแบบนั้นล่ะ?”

“ หลังจากที่ท่านอาจารย์ผนึกความทรงจําของตัวเอง ท่านอาจารย์ก็เดินทางไปยังหรงซีภายในหรงซีมีดินแดนทั้งหมด 5 ดินแดน ได้แก่ฝึกง, เขียน, ซูเฉิน, ฉางกู และลัวหลานที่ดินแดนทั้ง 5 ต่างก็มีชนเผ่าอื่นอาศัยอยู่ พวกเขาต่างก็เชื่อและบูชาในสัตว์ร้าย หลังจากที่ท่านกลับมาจากการปิดผนึกความทรงจําของตัวเองท่านอาจารย์ก็ถูกยอดฝีมือจากสํานักใหญ่ทั้ง 10 เข้าโจมตี และเพื่อที่จะวางแผนใหญ่เช่นนั้น สํานักใหญ่จะต้องรู้เกี่ยวกับการเคลื่อนไหวของทํานอย่างละเอียดก่อนแน่ ในความเห็นของข้าลัวหลานเป็นดินแดนเดียวที่มีแรงจูงใจมากพอที่จะทําแบบนั้น”

“ลั่วหลานอย่างงั้นเหรอ?” ลูโจวรู้สึกงุนงง ในตอนที่ตัวเขามายังโลกใบนี้เป็นครั้งแรก ลูโจวคิดมาตลอดว่าปัญหาทั้งหมดจะเกิดจากศิษย์ไม่รักดีทั้งหลายโดยเฉพาะอย่างยิ่งยู่เฉิงไห้แต่เมื่อได้ ยินสิ่งที่สีหยาพูดดูเหมือนมันจะฟังดูสมเหตุสมผลจนน่าเชื่อถือ

สิวหยาพูดต่อ “ศิษย์พี่รองเคยสังหารชายาแห่งดินแดนทางตะวันตกไปท่านรู้เหตุผลเปล่าท่านอาจารย์?”

ลูโจวเหลือบมองสีรู่หยาก่อนที่จะขมวดคิ้วเล็กน้อย “เจ้าพยายามที่จะล้อข้าเล่นหรอ เจ้าศิษย์ไม่รักตัว”

สีรูหยาตกใจมากจนรีบพูดต่อ “ชายาที่ข้าพูดถึงเป็นคนทรงผู้ยิ่งใหญ่ นางได้จับตาดูศิษย์พี่รองก็เพื่อที่จะควบคุมเขา แต่ศิษย์พี่ไม่หลงกล หลังจากที่สังหารชายาคนนั้นทางราชวงศ์จึงต้องรับชายายู่ด้วยการแต่งงานเพื่อสร้างสัมพันธไมตรีขึ้นมาแทน ชายายู่เป็นคนธรรมดาแต่ถึงแบบนั้นนางก็ ถูกมอหลี่คอยชักใยอยู่เบื้องหลังม่อหลีเป็นคนที่ต้องการชักนําดินแดนหยานอันยิ่งใหญ่ให้ตกอยู่ในความสับสนวุ่นวาย แต่น่าเสียดายที่ศาลาปีศาจลอยฟ้าขวางนางไว้ได้”

ลูโจวพยักหน้า “สิ่งที่เจ้าต้องการจะบอกก็คือลั่วหลานวางแผนต่อด้านข้าอย่างงั้นสินะ?”

“น่าจะเป็นเช่นนั้น”

“เรื่องนี้มันเกี่ยวข้องกับคริสตัลแห่งความทรงจําด้วยสินะ?”

สีรู่หยาตอบ “เป็นเพราะผู้คนจากลั่วหลานรู้ถึงการเคลื่อนไหวของท่านเป็นอย่างดี ข้าแน่ ใจว่าพวกเขาจะต้องรู้ว่าท่านอาจารย์เคยไปเยือนที่ไหนในหรงซีมาแล้วถ้าหากพวกเราสืบหาต้นทางได้ บางที่พวกเราอาจจะค้นพบคริสตัลแห่งความทรงจําเป็นได้”

ลูโจวลูบเคราในขณะที่ไตร่ตรองในสิ่งที่ได้ยิน ศิษย์ไม่รักดีคนนี้พูดมีเหตุผลแต่ถึงแบบนั้นตัวเขาควรจะเริ่มจากอะไร?

สีหยาดูเหมือนจะคาดการณ์สิ่งที่ลูโจวสงสัยไว้ล่วงหน้าแล้ว “ ท่านอาจารย์ข้าเคยวางแผนงคนของตัวเองไปแฝงตัวอยู่กับชนเผ่าอื่น และในลั่วหลานเองข้าก็ได้ส่งไป”

ลูโจวเหลือบมองสีรู่หยาอีกครั้ง ตัวเขาสังเกตเห็นถึงค่าความจงรักภักดีที่ศิษย์คนนี้มี มันมีสูงกว่าแต่ก่อน แต่ถึงแบบนั้นมันก็ยังไม่ได้สูงอะไรมากมายนัก

“ท่านอาจารย์ ข้าเป็นคนเดียวที่สามารถทํางานนี้ได้ แม้ว่าเจียงอาเฉียนจะมีแหล่งข่าวมากมายแค่ไหน แต่เขาก็ยังไม่เข้าใจชนเผ่าอื่นที่พอนอกจากนี้เจียงอาเฉียนที่รักอิสระยังเกียจคร้านเขาคงจะไม่ได้ทําทุกอย่างอย่างเต็มที่แน่ ก่อนหน้านี้ข้าได้บอกข้อมูลหลายอย่างกับศาลาปีศาจลอยฟ้าในนามของสํานักแห่งความมืด แต่เพียงอาเฉียนทําได้เพียง

“เจียงอาเฉียนไว้ใจได้ “

ในช่วงเวลาที่ดูอันตรายหยาก็เลือกที่จะเงียบไป ตัวเขาสังเกตเห็นถึงความน่ากลัวจากสายตาของผู้เป็นอาจารย์ได้ดี และเพราะแบบนั้นสิวหยาจึงได้แต่สันกลัวตัวเขาคุกเข่าลงอย่างสํานึกผิด “ข้าไม่ได้ตั้งใจที่จะพูดให้ร้ายเจียงอาเฉียน! ได้โปรดยกโทษให้ข้าด้วย ท่านอาจารย์!” 26

ลูโจวลูบเคราก่อนที่จะพยักหน้า “เจ้ารู้ไหมว่าทําไมข้าถึงอยากให้เจ้าไตร่ตรองตัวเองในถ้ำแห่งเงาสะท้อน?”

“ข้ารู้ดีว่าการทรยศของข้าไม่ควรที่จะได้รับการอภัย ไม่ว่าท่านอาจารย์จะลงโทษข้าแบบไหนแต่ข้าจะยอมรับการลงโทษแต่โดยดี”

“ผิดแล้วละ”

เห็นได้ชัดว่าลูโจวไม่มีเหตุผลที่จะลงโทษสีหยาสถานหนักเพียงเพราะเรื่องในอดีต เรื่องที่ตัวเขาได้จากที่นี้ไปท้ายที่สุดแล้วศิษย์คนนี้ก็ได้คุกเข่าอยู่นอกวิหารทางเลือกแห่งสวรรค์งสามวันสามคนเพียงเพื่อที่จะช่วยซ่ฮ่องกงยิ่งไปกว่านั้นเพื่อช่วยยู่ฉางดง สี่ว์หยาถึงกับศึกษาเรื่องของอักษรโบราณให้กับผู้เป็นศิษย์พี่ และในบันทึกส่วนตัวสีว์หยาก็ยังคงช่วยยู่เฉิง ให้ไว้ได้ถ้าหากลูโจวยังคงคิดตําหนิจากสิ่งที่สี่หยาเคยทํา การตัดสินใจของตัวเขาก็คงจะเต็มไปด้วยอคติ

ลูโจวพูดต่อ “เจ้าก็เหมือนกับยู่ฉางตง เจ้าน่ะมีความภาคภูมิใจในตัวเองมากจนเกินไป”

“ความภาคภูมิใจ ?”

“การมั่นใจในตัวเองเป็นสิ่งที่ดี แต่การที่เจ้ามั่นใจในตัวเองมากไปมีแต่จะทําให้เจ้ากลายเป็นคนอวดดี ความภาคภูมิใจที่เจ้ามีท้ายที่สุดแล้วมันก็บดบังดวงตาของเจ้าเอง”

สีหยาตกตะลึง ตัวเขาจํากระดาษทุกแผ่นที่อยู่ในถ้ําแห่งเงาสะท้อนได้ดีทุกวินาทีที่สรู่หยาพยายามจะแก้โจทย์ปัญหา ตัวเขาก็มีแต่จะรู้สึกร้อนมากยิ่งขึ้น สีรู่หยาที่ภาคภูมิใจในตัวเองที่ตัวเขาฉลาดหลักแหลมและสามารถคิตกลยุทธ์ต่างๆ เพื่อเอาชนะอุปสรรคได้ แต่ท้ายที่สุดตัวเขาก็ไม่อาจตอบคําถามของผู้เป็นอาจารย์ได้ ท้ายที่สุดสีนูหยาก็เข้าใจ “ท่านพูดถูกแล้วท่าน อาจารย์ ขาเข้าใจทุกอย่างแล้ว”

ลิโจวเดินไปที่เก้าอี้ตัวที่ใกล้ที่สุดก่อนจะนั่งลง “จนถึงตอนนี้ เจ้าก็ยังไม่คิดจะบอกว่าเกิดอะไรขึ้นกับยู่เฉิงให้สินะ?”

สี่ว์หยาตัวสั่น “ข้าเคยให้สัญญากับศิษย์พี่ใหญ่เอาไว้แล้ว”

ลูโจวขมวดคิ้วเมื่อเห็นความมุ่งมั่นที่สีหยามียังคงอยู่ สบู่หยาบอกว่าเข้าใจทุกอย่าง แต่ถึงแบบนั้นตัวเขาก็ยังดื้อรั้นอยู่ดี

สีหน้าของลูโจวดูเข้มงวดมากยิ่งขึ้นก่อนที่จะพูดออกมาด้วยน้ําเสียงที่ลึกล้ํา “ดี ถ้าหากเจ้ายืนกรานที่จะไม่บอกข้า ข้าก็จะขับไล่เจ้าออกจากศาลาปีศาจลอยฟ้านับตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปเจ้าจะ ไม่มีความผู้พันใดๆ กับศาลาปีศาจลอยฟ้าอีกข้าจะเป็นผู้คนพัดขนนกยูงให้กับเจ้าเอง” ปน

ลิโจวได้พลิกฝ่ามือของตัวเอง ในตอนนั้นพัดขนนกยูงก็ปรากฏขึ้น ตัวเขาไม่ลังเลเลยที่จะโยนมันคืนให้กับสีหยา

สี่ว์หยายังคงนิ่งเงียบ

ลูโจวมองไปที่สีว์หยาด้วยตวงตาอันเฉียบแหลมก่อนที่จะรอคําตอบของเขา “ออกไปได้ทุกเมื่อตามที่เจ้าต้องการ ถ้าหากพวกเราพบกันอีกครั้งพวกเราก็คงจะพบกันในฐานะศัตรูอย่าคิดว่าข้าจะ เมตตาต่อเจ้าอีก”

โจวไม่เชื่อว่าความมุ่งมั่นที่ส่วหยามในการรักษาสัญญาที่ให้ไว้กับยู่เฉิงให้จะเป็นสิ่งสํา คัญจริงๆ ถ้าหากสิวหยาศิตจะทรยศอาจารย์ของตัวเองได้ฉันก็ไม่เชื่อหรอกว่าคนอย่างเจ้านี้ จะรักษาสัญญาที่มีไว้กับยู่เฉิงให้ได้ น่าขันซะจริง!

สีหยามองดูพัดขนนกยูงอย่างตกตะลึง จิตใจของเขาว่างเปล่า

“อึ้ง! ชี้แนะสีหยา ได้รับรางวัลแต้มบุญ: 500”

คราวนี้สีอู่หยาคุกเข่าอย่างสุดตัว “ข้าจะบอกทุกอย่างที่ท่านอาจารย์ต้องการจะรู้ แต่ท่านต้องสัญญากับข้าอย่างหนึ่งก่อน”

“เจ้าพยายามจะต่อรองกับข้าอย่างงั้นเหรอ?”

สีหยารีบพูด “ ข้าไม่ได้ตั้งใจที่จะขัดคําสั่งท่าน และข้าเองก็ไม่กล้าที่จะเจรจากับท่าน”

“แล้วตอนนี้ไม่ใช่ว่าเจ้าพยายามเจรจาอยู่เหรอไงกัน?” ลูโจวจ้องไปที่สีว์หยาด้วยดวงตาที่เกรี้ยวกราด

“ข้า สีหยารู้สึกอึดอัดใจเป็นอย่างมาก ความมั่นใจและความเยือกเย็นที่มีดูเหมือนจะหายจางไป สายตาของผู้เป็นอาจารย์ได้ลบทุกอย่างจากตัวของสี่ว์หยาไป ในตอนนี้ตัวเขาสูญเสียความเยือกเย็นไปอย่างสมบูรณ์แบบ

ลูโจวได้หยิบบันทึกของสี่ว์หยาออกมาจากแขนเสื้อของตนก่อนที่จะวางมันลงบนโต๊ะ

ภายในห้องกลับมาเงียบสงบ

หนึ่งอาจารย์ หนึ่งลูกศิษย์ คนหนึ่งกําลังนั่ง อีกคนกําลังคุกเข่า

หลังจากที่เงียบไปนานลูโจวก็ได้พูดขึ้น “เจ้าคิดว่าข้าจะไม่มีทางรู้เรื่องนี้เพียงเพราะเจ้าปฏิเสธที่จะบอกข้าอย่างงั้นสินะ?”

สีหยามองไปที่ลูโจวก่อนที่จะพูดออกมาอย่างตื่นตกใจ “ท่านอาจารย์รู้อยู่แล้ว?”

“ชาวหนี้แม้ตัวจะตายแต่หัวใจของพวกเขาจะยังคงทํางานต่อไปได้ พวกเขาสามา รถฟื้นคืนกลับมาใหม่ได้เมื่อถูกฝังและรดน้ำ”

” ดวงตาของสีหยาเบิกกว้าง ตัวเขาเหลือบมองบันทึกที่อยู่บนโต๊ะ สิ่งที่ตัวเขาทํามัน ชัดเจนจนเกินไปคงจะยากที่จะปิดบังเรื่องนี้เอาไว้ ท้ายที่สุดแล้วอาจารย์ของเขาก็รู้เรื่องนี้เข้า สี หยาไม่กล้าที่จะเงยหน้าขึ้นมาอีก “ศิษย์พี่ใหญ่ใช้ชีวิตอย่างยากลําบากแล้ว!”

“เจ้านั่นน่ะเหรอ? ลูโจวทําหน้าสงสัย ยู่เฉิงให้เป็นผู้ที่ก่อตั้งสํานักอเวจีและยังหลอมรวมผู้คนจากทั่วทุกที่ให้มาร่วมกับตน สุดยอดผู้พิทักษ์ทั้งสีที่มีก็ล้วนแต่ทําหน้าที่ได้อย่างกล้าหาญตอนนี้สํา นักฝ่ายอธรรมทั้งหมดก็ล้วนแต่อยู่ภายใต้การควบคุมของเขาแล้ว ยู่เฉิงให้สามารถใช้รถม้าเดินทางไปทั่วทุกหนทุกแห่งเพื่อยึดครองดินแดนเหล่านั้นให้ตกอยู่ภายใต้การควบคุมของตัวเองได้ ชีวิตแบบนั้นน่ะเหรอยากลําบาก?

ติดตามแฟนเพจอัพเดทข่าวสารอ่านนิยายก่อนใครได้ที่ FB: ND Translate นิยายแปลไทย