ตอนที่ 487 เรื่องน่ายินดี

ซื่อจิ่น หวนรักประดับใจ

บัดนี้​หากว่า​เสียน​เฟย​เอ่ยปาก​กล่าว​คำ​ใด​ขึ้น​ ​ยัง​พอ​ไว้หน้า​แก่​องค์​หญิง​ใหญ่​หรง​หยาง​ให้​ก้าว​ลงมา​จาก​จุด​นั้น​ได้​ ​แต่​เสียน​เฟ​ยก​ลับ​ไม่​กล่าว​สิ่งใด​ออกมา

นาง​ไม่พอใจ​สะใภ้​คน​นี้​มา​เป็นเวลา​นาน​แล้ว​ ​แต่​หากว่า​จะ​สร้าง​ปัญหา​ขึ้น​เอง​คง​ไม่ดี​ต่อ​ชื่อเสียง​ ​ดังนั้น​นาง​จึง​อยู่​เงียบๆ​ ​รอดู​ฉาก​เด็ด​ ​อีก​ประเดี๋ยว​เมื่อ​ทั้งสอง​ถกเถียง​กัน​จน​ทำตัว​ไม่​ถูก​แล้ว​นาง​ค่อย​เอ่ยปาก​ห้าม​ ​ต้องการ​ให้พระ​ชายา​เยี​่​ยน​อ๋อง​เข้าใจ​ว่า​ใน​พระราชวัง​ไม่ได้​ดีกว่า​ที่อื่น​ ​หาก​ไม่มี​ผู้อาวุโส​คอย​ปกป้อง​ ​นาง​ก็​จะ​เสียเปรียบ

ทุกคน​ที่อยู่​ใน​ที่​แห่ง​นั้น​ล้วน​ตกตะลึง​กับ​ความกล้าหาญ​ของ​เจียง​ซื่อ

พระ​ชายา​เยี​่​ยน​อ๋อง​ไม่​กลัว​หรือว่า​องค์​หญิง​ใหญ่​หรง​หยาง​จะ​นำ​เรื่อง​นี้​ไป​บอก​ไท​เฮา​หรือ​ฮ่องเต้

ต่อให้​องค์​หญิง​ใหญ่​หรง​หยาง​ไม่​กล่าวถึง​เรื่อง​นี้​ ​แต่​ใน​ฐานะ​ผู้อาวุโส​กว่า​ ​นอกจาก​ทำการ​ตักเตือน​พระ​ชายา​เยี​่​ยน​อ๋อง​แล้ว​นาง​จะ​ทำ​อะไร​ได้​บ้าง​นอกจาก​ทนทุกข์​?

ในขณะที่​ทุกคน​กำลัง​เฝ้ามอง​ถึง​สถานการณ์​อยู่​นั้น​ ​เจียง​ซื่อ​ก็​ขมวดคิ้ว​ขึ้น​ก่อนที่​องค์​หญิง​ใหญ่​หรง​หยาง​จะ​ทำการ​โจมตี​เข้ามา​อีกครั้ง​ ​นาง​กุม​ไป​ที่​ท้อง​แล้ว​กล่าวว่า​ ​“​เหนียง​เหนียง​เพ​คะ​ ​หม่อมฉัน​รู้สึก​ไม่สบาย​ตัว​ ​อยาก​จะ​หา​ที่พักผ่อน​สักหน่อย​”

องค์​หญิง​ใหญ่​หรง​หยาง​ยิ้ม​ขึ้น​ ​“​เมื่อ​ครู่​พระ​ชายา​เยี​่​ยน​อ๋อง​ยัง​สนทนา​กับ​ข้า​ด้วย​ใบหน้า​อัน​สดใส​ ​จู่ๆ​ ​เหตุใด​จึง​ไม่สบาย​ขึ้น​มา​เล่า​”

เจียง​ซื่อ​ยิ้ม​แล้ว​กล่าวว่า​ ​“​เพ​คะ​ ​จู่ๆ​ ​ก็​รู้สึก​ไม่สบาย​ขึ้น​มา​”

องค์​หญิง​ใหญ่​หรง​หยาง​รู้สึก​โมโห​ยิ่งนัก​ที่​เจียง​ซื่อ​หน้าหนา​ถึง​เพียงนี้​ ​นาง​พยายาม​ระงับ​ความโกรธ​แล้ว​กล่าวตอบ​เสียน​เฟย​ว่า​ ​“​เหนียง​เหนียง​ ​พระ​ชายา​เยี​่​ยน​อ๋อง​ตั้งครรภ์​อยู่​ ​การ​ที่นาง​รู้สึก​ไม่สบาย​กาย​ขึ้น​เช่นนี้​จะ​ละเลย​ไม่ได้​ ​เรา​ควรจะ​เชิญ​หมอ​หลวง​มาตร​วจ​ดู​อาการ​”

เหอะ​ๆ​ ​รอ​ให้​หมอ​หลวง​เดินทาง​มา​จับชีพจร​และ​พบ​ว่า​พระ​ชายา​เยี​่​ยน​อ๋อง​ปกติ​ดี​ ​อยาก​จะ​รู้​นัก​ว่านา​งค​นนี​้​จะ​เอาหน้า​ไป​ไว้​ที่ใด

เมื่อ​คิดได้​ดังนั้น​ริมฝีปาก​ของ​องค์​หญิง​ใหญ่​หรง​หยาง​ก็​โค้ง​ขึ้น​เล็กน้อย

เสียน​เฟ​ยก​็​มี​ความคิด​เช่นเดียวกัน​ ​นาง​อยาก​จะ​ให้​เจียง​ซื่อ​ลิ้มรส​ถึง​ความเจ็บปวด​สักหน่อย​ ​นาง​ทำ​สีหน้า​ลังเล​แล้ว​พยักหน้า​กล่าวว่า​ ​“​เชิญ​หมอ​หลวง​มาดู​หน่อย​ก็ดี​”

เจียง​ซื่อ​กล่าว​ขึ้น​ว่า​ ​“​เหนียง​เหนียง​เพ​คะ​ ​ใน​วันนี้​เป็น​วันเกิด​ของ​ท่าน​ ​เหตุใด​จึง​ต้อง​เชิญ​หมอ​หลวง​มา​เพื่อ​ทำให้​งาน​วันเกิด​จะ​ต้อง​หมดสนุก​เล่า​ ​หม่อมฉัน​ไป​พักผ่อน​ตามลำพัง​ก็​เพียงพอ​แล้ว​เพ​คะ​”

เมื่อ​องค์​หญิง​ใหญ่​หรง​หยาง​เห็น​เช่นนั้น​ก็​รู้สึก​ว่า​เจียง​ซื่อ​มีความรู้สึก​ผิด​ใน​ใจ​ ​นาง​จึง​กล่าว​ออกมา​เบา​ๆ​ ​“​เหตุใด​พระ​ชายา​เยี​่​ยน​อ๋อง​จึง​ได้​ปฏิเสธ​เช่นนี้​เล่า​ ​เจ้า​ตั้งครรภ์​หลาน​ของ​ฮ่องเต้​อยู่​ ​มิใช่​หมา​แมว​ที่ใด​ ​หาก​ร่างกาย​รู้สึก​ไม่สบาย​ก็​ควรจะ​เชิญ​หมอ​หลวง​ให้​มาตร​วจ​อาการ​ดู​”

เสียน​เฟ​ยพ​ยัก​หน้า​ ​“​องค์​หญิง​ใหญ่​กล่าว​ได้​ถูกต้อง​แล้ว​ ​เชิญ​หมอ​หลวง​มา​เถิด​ ​เพื่อให้​ทุกคน​จะ​ได้​วางใจ​”

เจียง​ซื่อ​เม้ม​ริมฝีปาก​เล็กน้อย​นาง​ ​หยุด​ยืนกราน​ถกเถียง

“​พระ​ชายา​ของ​เจ้า​สี่​ ​จง​ไปเป็นเพื่อน​พระ​ชายา​ของ​เจ้า​เจ็ด​เถิด​”

พระ​ชายา​ฉี​อ๋อง​รู้สึก​ยินดี​เป็น​ยิ่งนัก

แม่​สามี​คิด​แทน​นาง​และ​ท่าน​อ๋อง​ ​รู้ดี​ว่านาง​ต้องการ​ผูก​สัมพันธ์​กับ​พระ​ชายา​เยี​่​ยน​อ๋อง​ ​และ​นี่​เป็นการ​ให้โอกาส

เข้าใกล้​น้อง​สะใภ้​เจ็ด​ ​“​ระวัง​ด้วย​”​ ​พระ​ชายา​ฉี​อ๋อง​กล่าว​กับ​เจียง​ซื่อ​ด้วย​น้ำเสียง​อ่อนโยน

เจียง​ซื่อ​ลุกขึ้น​ยืน​พยักหน้า​เบา​ๆ​ ​แล้ว​สะบัด​แขน​เสื้อ​เดิน​ตรง​ไป​ด้านหน้า

ใน​ห้องโถง​นี้​ ​เมื่อ​ปราศจาก​พระ​ชายา​ทั้งสอง​ก็​ดูเหมือนว่า​จะ​น่าเบื่อ​ขึ้น​ทันใด

องค์​หญิง​ใหญ่​หรง​หยาง​ถือ​ถ้วย​น้ำชา​ไว้​ใน​มือ​แล้ว​กล่าว​ขึ้น​อย่าง​เย็นชา​ว่า​ ​“​เหนียง​เหนียง​ ​ไม่ใช่​ว่า​ข้า​อยาก​จะ​บ่น​ ​แต่​สะใภ้​ของ​เจ้า​คน​นี้​ปากร้าย​เหลือเกิน​ ​โชคดี​ที่​เจ้า​เป็น​คน​อารมณ์​เย็น​…​”

เสียน​เฟย​ได้​แต่​ยิ้ม

หลาย​ปี​มานี​้​นาง​พยายาม​รักษา​ชื่อเสียง​ผู้​เป็นธรรม​ของ​ตน​ ​หาก​ท้ายที่สุด​แล้ว​จะ​เสียหน้า​เพราะ​ลูกสะใภ้​คน​นี้​ ​นาง​จะ​ไม่​ทำให้​คนอื่น​หัวเราะเยาะ​เอา​หรือ

หากว่า​เป็น​เช่นนี้​ ​นาง​ยินดี​จะ​เห็น​คนอื่น​ฉีกหน้า​ลูกสะใภ้​ของ​ตน​เสียดี​กว่า

ภายใน​ห้อง​ ​เมื่อ​เห็น​ว่า​เจียง​ซื่อ​ไม่สน​ใจ​นาง​ ​เอาแต่​นอน​พัก​อยู่​บน​เตียง​ตั่ง​เพียงลำพัง​ ​พระ​ชายา​ฉี​อ๋อง​จึง​แอบ​ตำหนิ​นาง​อยู่​ใน​ใจ​ ​ทว่า​ใบหน้า​กลับ​ยิ้มแย้ม​ ​“​น้อง​สะใภ้​เจ็ด​ ​เจ้า​เป็น​อะไร​หรือไม่​”

เจียง​ซื่อ​เหลือบมอง​ดู​พระ​ชายา​ฉี​อ๋อง​ก่อน​จะ​ละสายตา​กลับมา

ใบหน้า​ของ​พระ​ชายา​ฉี​อ๋อง​ดู​เขินอาย​ขึ้น​กว่า​เดิม

พระ​ชายา​เยี​่​ยน​อ๋อง​ทำเกินไป​แล้ว​จริงๆ​ ​บัดนี้​มีนาง​ใน​อยู่​ที่นี่​ด้วย​ ​แต่กลับ​ไม่สน​ทนา​กับ​นาง

สตรี​ผู้​นี้​คิด​สิ่งใด​อยู่​กัน​แน่​ ​นาง​เคย​ทำให้​ต้อง​ขุ่นเคือง​ใจ​หรือ

พระ​ชายา​ฉี​อ๋อง​กำลัง​อดทน​ต่อ​ความโมโห​และ​งงงวย​ที่​เจียง​ซื่อ​ปฏิบัติ​เช่นนั้น​ ​นาง​เผยอ​ริมฝีปาก​ขึ้น​เล็กน้อย

สำหรับ​พระ​ชายา​ฉี​อ๋อง​ที่​เมื่อ​ใน​ชาติก่อน​ทำให้​นาง​ต้อง​ถึง​แก่​ความตาย​ ​นาง​คง​ไม่​อาจ​ปฏิบัติ​ด้วย​อย่างดี​ได้​ ​ชาติ​นี้​นาง​จะ​ไม่​ปฏิบัติ​ดีด​้วย​เป็นแน่

ส่วน​เรื่อง​ความ​งุนงง​ของ​พระ​ชายา​ฉี​อ๋อง​น่ะ​หรือ​ ​หึๆ​ ​ให้​นาง​อึดอัด​ใจ​ตาย​ไป​เสีย

เจียง​ซื่อ​ครุ่นคิด​เช่นนั้น​ก่อน​จะ​ยิ้ม​ออกมา​ด้วย​ความเยือกเย็น​กว่า​เดิม​ ​ดวงตา​ที่​มอง​ไป​ยัง​พระ​ชายา​ฉี​อ๋อง​เต็มไปด้วย​ความ​ดูถูก​เหยียดหยาม

พระ​ชายา​ฉี​อ๋อง​ทนไม่ไหว​อีกต่อไป​จึง​ได้​เอ่ย​ถาม​เจียง​ซื่อ​ว่า​ ​“​น้อง​สะใภ้​เจ็ด​ ​ข้า​เคย​ทำ​สิ่งใด​ให้​เจ้า​ขุ่นเคือง​หรือไม่​”

เจียง​ซื่อ​ครุ่นคิด​แล้ว​ส่ายหน้า​ ​“​ไม่​”

ใน​ชาติ​นี้​นาง​ยัง​ไม่ทัน​จะ​ทำให้​ต้อง​ขุ่นเคือง

“​แล้ว​เหตุใด​ทุกครั้งที่​น้อง​สะใภ้​เจ็ด​พบ​หน้า​ข้า​ ​จึง​ได้​ทำท่า​ทาง​ไม่แยแส​เช่นนี้​เล่า​”​ ​พระ​ชายา​ฉี​อ๋อง​เอ่ย​ถาม​คำถาม​ที่​ค้างคา​ใจ​นาง​อยู่​เป็นเวลา​เนิ่นนาน​ออกมา

หาก​จะ​กล่าวว่า​นิสัย​ของ​พระ​ชายา​ฉี​อ๋อง​ช่าง​เย็นชา​แบบนี้​ก็​ไม่ใช่​ ​เพราะ​เมื่อ​ครั้น​ที่นาง​เดินทาง​ไป​เป็น​แขก​ของ​จวน​อันกั​๋​วกง​ ​นาง​ทำให้​จี้​ฟัง​หวา​ซึ่ง​ทำตัว​ไม่​ถูก​สามารถ​หัวเราะ​ยิ้มแย้ม​ออกมา​ได้​ ​เหตุใด​เมื่อ​อยู่​กับ​นาง​เพียงลำพัง​จึง​ดู​เยือกเย็น​และ​เฉยเมย​เช่นนี้

เจียง​ซื่อ​ยังคง​นอน​อยู่​บน​เตียง​ตั่ง​ ​เปลี่ยน​ท่าทาง​ให้​สบาย​กว่า​เดิม​แล้ว​กล่าว​เบา​ๆ​ ​ว่า​ ​“​เหตุใด​พี่สะใภ้​สี่​จึง​ต้อง​หมกมุ่น​อยู่​กับ​คำถาม​นี้​ ​บน​โลก​นี้​จะ​มีคำ​ถาม​อะไร​มากมาย​เพียงนั้น​”

บทสนทนา​กล่าว​มาถึง​ตรงนี้​ ​พระ​ชายา​ฉี​อ๋อง​ยัง​ไม่ได้​รับคำ​ตอบ​ที่​พึงพอใจ​ ​นาง​เม้ม​ริมฝีปาก​แล้ว​กล่าวว่า​ ​“​แต่​ปัญหา​นี้​ควรจะ​มีคำ​ตอบ​”

เมื่อม​อง​ไป​ยัง​ใบหน้า​อัน​เคร่งขรึม​และ​ดู​มีคุณ​ธรรม​ ​จึง​ทำให้​ใน​ใจ​ลึก​ๆ​ ​ของ​เจียง​ซื่อ​รู้สึก​เบื่อหน่าย​และ​เกลียด​แค้น​มากขึ้น

หาก​จะ​กล่าวว่า​บัดนี้​พระ​ชายา​ฉี​อ๋อง​ทำ​สิ่งใด​ไม่ดี​ต่อนาง​ ​ก็​คง​ยัง​ไม่มี

แต่​นาง​รู้ดี​จาก​ใจจริง​ว่า​ ​ไม่ใช่​สตรี​นาง​นี้​จะ​ไม่​ทำ​ ​เพียงแค่​ยัง​ไม่​ถึง​เวลา​ที่นาง​ต้อง​ทำ​เท่านั้น

จะ​ให้​นาง​ละทิ้ง​ความเกลียดชัง​ใน​ครั้งก่อน​ ​เพียง​เพราะว่า​ใน​ชาติ​นี้​นาง​ยัง​ไม่ทัน​ได้​ทำ​สิ่งใด​ ​รอ​ให้​อีก​ฝ่าย​ทำ​สิ่ง​ที่​น่าเกลียด​ชัง​เหล่านั้น​ขึ้น​มาก​่อน​แล้ว​ค่อย​โมโห​หรือ

นาง​ไม่ได้​ใจดี​เช่น​นักบุญ​เหล่านั้น

เจียง​ซื่อ​มอง​ไป​ที่​พระ​ชายา​ฉี​อ๋อง​แล้ว​ยิ้ม​ขึ้น​ด้วย​ท่าทาง​อัน​เกียจคร้าน​เช่นเดียวกับ​อวี​้​จิ​่น​ ​“​ที่จริง​แล้ว​คำตอบ​ง่าย​ยิ่งนัก​ ​ตั้งแต่​ครั้งแรก​ที่​ข้า​เห็น​พี่สะใภ้​สี่​ก็​รู้สึก​สะอิดสะเอียน​ไม่สบายใจ​ ​ที่จริง​ข้า​เอง​ก็​ไม่​อยาก​ทำ​เช่นนี้​ ​แต่​มัน​ไม่​อาจ​ควบคุม​ได้​…​”

“​น้อง​สะใภ้​เจ็ด​ ​เจ้า​ ​เจ้า​ทำเกินไป​แล้ว​…​”​ ​พระ​ชายา​ฉี​อ๋อง​คาดไม่ถึง​ว่านาง​จะ​กล่าว​วาจา​ไร้เหตุผล​ ​ไร้ค​วาม​ปรานี​เช่นนี้​ ​แววตา​เต็มไปด้วย​ความมืด​มน​เพราะ​ความโกรธ

ท่ามกลาง​สายตา​ที่​พร่ามัว​ ​มี​เพียง​ริมฝีปาก​แดง​เรื่อง​ของ​หญิงสาว​งดงาม​ผู้​นั้น​ที่​ดู​สว่างไสว​เป็นพิเศษ

พระ​ชายา​ฉี​อ๋อง​อ้า​ปาก​ ​แล้ว​อาเจียน​ออกมา

นางใน​สอง​คนที​่​ติดตาม​มาด​้วย​ได้​แต่​ตื่นตระหนก​

ใน​นั้น​รีบ​เข้าไป​พยุง​พระ​ชายา​ฉี​อ๋อง​เอาไว้​แล้ว​เอ่ย​ถาม​ว่า​ ​“​พระ​ชายา​เพ​คะ​ ​เป็น​อะไร​หรือไม่​”

นางใน​อีก​คน​หนึ่ง​วิ่ง​เข้าไป​ใน​ห้องโถง​ทันใด

หมอ​หลวง​ที่​รีบ​เดินทาง​มาตร​วจ​อาการ​ ​เพิ่งจะ​คารวะ​เสียน​เฟย​และ​คนอื่น​เสร็จ​เรียบร้อย​ ​เสียน​เฟย​เห็น​นางใน​ผู้​นั้น​วิ่ง​เข้ามา​ด้วย​ท่าทาง​ตื่นตระหนก​จึง​เอ่ย​ถาม​ว่า​ ​“​เกิดเรื่อง​อัน​ใด​ขึ้น​”

นางใน​รีบ​กล่าวว่า​ ​“​จู่ๆ​ ​พระ​ชายา​ก็​อาเจียน​และ​เวียนหัว​เพ​คะ​”

องค์​หญิง​ใหญ่​หรง​หยาง​ตกตะลึง

เมื่อ​ครู่​ที่​พระ​ชายา​เยี​่​ยน​อ๋อง​กล่าวว่า​นาง​รู้สึก​ไม่สบาย​เป็นเรื่อง​จริง​หรือ​?

ขณะที่​ตกตะลึง​ไป​อยู่​ชั่วครู่​ ​ใน​ใจ​นาง​ก็​แอบ​ดีใจ​ว่า​หาก​ลูก​ใน​ครรภ์​ของ​พระ​ชายา​เยี​่​ยน​อ๋อง​เกิดเรื่อง​ใด​ขึ้น​ละ​ก็​ ​นาง​คงจะ​โล่งใจ​ยิ่งนัก

เสียน​เฟย​ได้ยิน​ดังนั้น​ก็​ลุกขึ้น​ด้วย​ความประหม่า​ ​“​รีบ​เชิญ​หมอ​หลวง​ไป​ตรวจดู​พระ​อาการ​ของ​พระ​ชายา​เยี​่​ยน​อ๋อง​เร็ว​”

แม้นาง​จะ​ไม่พอใจ​และ​ไม่​อยาก​พบ​ลูกสะใภ้​คน​นี้​สัก​เพียงไร​ ​แต่​การ​ที่​พระ​ชายา​เยี​่​ยน​อ๋อง​ซึ่ง​กำลัง​ตั้งครรภ์​เกิดเรื่อง​ขึ้น​ใน​งานเลี้ยง​วันเกิด​นาง​ก็​คงจะ​เป็น​โชคร้าย​ครั้ง​ใหญ่

นางใน​ผู้​นั้น​รีบ​กล่าว​ขึ้น​ว่า​ ​“​เป็น​พระ​ชายา​ฉี​อ๋อง​เพ​คะ​”

ทุกคน​ได้​แต่​ตกตะลึง

เสียน​เฟย​จึง​ได้​รีบ​ให้​หมอ​หลวง​เดินทาง​ไป​ที่​ห้อง​ด้าน​ข้าง​ ​องค์​หญิง​ใหญ่​หรง​หยาง​ก็​ติดตาม​ไป​ด้วย​เช่นกัน

บัดนี้​พระ​ชายา​ฉี​อ๋อง​เพิ่งจะ​รู้สึก​ดีขึ้น​ ​ใบหน้า​ของ​นาง​ดู​ไม่น่า​มอง​นัก

ระหว่างทาง​มานี​้​ ​เสียน​เฟย​รู้​จาก​ปากของ​นางใน​ทั้งสอง​ว่า​ลูกสะใภ้​ของ​นาง​สอง​คน​ไม่​ถูกกัน​ ​แม้ว่า​นางใน​จะ​ไม่กล้า​กล่าว​สิ่งใด​มาก​นัก​ ​แต่​ก็​พอ​จะ​ฟังออก​ว่า​สะใภ้​เจ็ด​ทำให้​สะใภ้​สี่​ต้อง​อึดอัด​ใจ

ทันทีที่​เข้ามา​ก็ได้​กลิ่น​เหม็นเปรี้ยว​จาก​ภายใน​ห้อง​ ​เสียน​เฟย​ทำ​สีหน้า​มืดมน​ลง​แล้ว​กล่าว​ด้วย​ความเยือกเย็น​ว่า​ ​“​สะใภ้​เจ็ด​ ​เจ้า​จำเป็น​จะ​ต้อง​จัดการ​ทุกคน​อย่างเด็ดขาด​เช่นนี้​เชียว​หรือ​ ​การ​ที่​ทำให้​คนอื่น​ไม่พอใจ​และ​โชคร้าย​เพราะ​เจ้า​ ​พอใจ​แล้ว​หรือไม่​”

เมื่อ​เผชิญหน้า​กับ​การ​ซักถาม​เช่นนี้​ ​เจียง​ซื่อ​กลับ​ยิ้ม​ขึ้น​แล้ว​กล่าวว่า​ ​“​เหตุใด​เหนียง​เหนียง​จึง​กล่าวว่า​ข้า​นำ​ความ​โชคร้าย​มา​ให้​ผู้อื่น​ ​เป็นไปไม่ได้​หรือ​ที่​ผู้อื่น​จะ​ได้รับ​ความโชคดี​จาก​ข้า​”

ขณะที่​เสียน​เฟ​ยกำ​ลัง​จะ​หัวเราะเยาะ​เย้ย​ออกมา​ด้วย​ความเยือกเย็น​ ​ก็ได้​ยิน​หมอ​หลวง​กล่าว​ขึ้น​ว่า​ ​“​ขอแสดงความยินดี​ด้วย​พ่ะ​ย่ะ​ค่ะ​เหนียง​เหนียง​ ​พระ​ชายา​ทรง​ตั้งครรภ์​”