ตอนที่ 897 ลอบสังหาร (3) ตอนที่ 898 ลอบสังหาร (4)

ทรราชหญิงเจ้าหัวใจจักรพรรดิมาร

ตอนที่ 897 ลอบสังหาร (3) / ตอนที่ 898 ลอบสังหาร (4)
ตอนที่ 897 ลอบสังหาร (3)

จวินอู๋เสียหรี่ตาลงเล็กน้อย ไม่มีร่องรอยของความตื่นกลัวในแววตาของนางเลยสักนิด แต่ก่อนที่ดาบทั้งหลายจะแทงเข้ามาที่ร่างของนาง จวินอู๋เสียก็เงยหน้าขึ้นและพูดด้วยเสียงเย็นชาว่า “เจ้าแน่ใจหรือ”

บุรุษชุดดำผู้นั้นสะดุ้ง เขาไม่เข้าใจว่าเด็กหนุ่มคนนี้ยังใจเย็นอยู่ได้อย่างไรในสถานการณ์เช่นนี้

และในทันทีที่ดาบสองเล่มกำลังจะแทงจวินอู๋เสีย ร่างสูงร่างหนึ่งก็พลันปรากฏขึ้นตรงหน้าจวินอู๋เสีย! ดาบสองเล่มที่พุ่งตรงเข้าใส่ร่างบางถูกหยุดเอาไว้โดยผู้มาใหม่ซึ่งใช้สองนิ้วคีบดาบเอาไว้ข้างละเล่ม ดาบทั้งสองไม่สามารถขยับไปข้างหน้าได้เลยแม้แต่นิ้วเดียว!

พวกบุรุษชุดดำจ้องมองชายที่ปรากฏตัวขึ้นอย่างกะทันหัน พวกเขาแน่ใจว่าไม่มีคนอื่นอยู่แถวนี้แล้วตอนที่พวกเขาเข้ามา ทั้งหน้าต่างก็ยังปิดสนิท แล้วชายผู้นี้โผล่มาจากที่ไหนกัน

“ขออภัยที่ข้ามาช้าขอรับ คุณหนูใหญ่ต้องการให้ข้าเก็บไว้คนหนึ่งหรือไม่ขอรับ” เยี่ยซากวาดสายตาเย็นเยียบมองพวกบุรุษชุดดำในห้อง นัยน์ตาของเขาทอแววอำมหิต

“นอกจากเขา กำจัดคนที่เหลือทั้งหมดทิ้งเสีย” จวินอู๋เสียพูดพร้อมกับชี้นิ้วไปที่หัวหน้าของบุรุษชุดดำกลุ่มนั้น

“ขอรับ!” เยี่ยซาตอบรับทันที

บุรุษชุดดำรู้สึกประสาทเสียขึ้นมา จังหวะในการโจมตีของเขาเสียเพราะการปรากฏตัวอย่างกะทันหันของเยี่ยซา แต่เขาก็ได้สติอย่างรวดเร็วและพูดขึ้นว่า “ฆ่าพวกมันให้หมด!”

ทันใดนั้น บุรุษชุดดำทั้งเก้าคนก็กระโจนเข้าใส่เยี่ยซา จวินอู๋เสียถูกเยี่ยซากันไว้ในตำแหน่งที่ปลอดภัย ไม่ว่าพวกบุรุษชุดดำจะโจมตีเข้ามาหนักขนาดไหนก็ตาม พวกเขาก็ไม่สามารถทำลายการป้องกันของเยี่ยซาเพียงคนเดียวเพื่อเข้าไปสังหารจวินอู๋เสียได้ ไม่สามารถเข้าใกล้นางได้เลยแม้แต่นิ้วเดียว

หัวหน้าของกลุ่มบุรุษชุดดำเห็นผู้ใช้พลังวิญญาณขั้นสีเขียวสองคนของฝั่งเขาถูกเยี่ยซาหักคออย่างรวดเร็วก็ใจหายวาบ คนของเขาทุกคนเป็นทหารรับจ้างที่มีความสามารถสูงซึ่งอัครเสนาบดีได้จ้างเอาไว้ พวกเขาถูกเรียกมาทำภารกิจนี้เพราะไม่อาจจะล้มเหลวได้เลยแม้แต่นิดเดียว แต่ชายที่อยู่ๆ ก็ปรากฏตัวขึ้นในห้องคนนี้เป็นใครกัน

ภายใต้การโจมตีประสานของผู้ใช้พลังวิญญาณขั้นสีเขียวและสีน้ำเงินพร้อมๆ กันเช่นนี้ ดูเหมือนเขาจะรับมือทุกคนได้อย่างสบาย สิ่งที่ทำให้เขารู้สึกหวาดกลัวขึ้นไปอีกก็คือ ชายคนนี้ฆ่าคนของเขาในสถานการณ์ที่ยากจะรับมือเช่นนี้ได้ด้วย!

ชายคนนี้แข็งแกร่งขนาดไหนกัน!

เขาเป็นผู้ใช้พลังวิญญาณขั้นสีครามอย่างนั้นหรือ

เป็นไปไม่ได้!

ไม่ใช่แค่ขั้นสีครามอย่างแน่นอน!

ตัวบุรุษชุดดำเองก็มีพลังวิญญาณขั้นสีคราม ในตอนที่เยี่ยซาต่อสู้กับคนของเขา เขาสามารถตรวจจับได้ว่าเยี่ยซามีพลังสูงกว่าเขาและไม่ใช่แค่นิดหน่อยด้วย

เป็นไปได้หรือไม่ว่าเขาเป็นผู้ใช้พลังวิญญาณขั้นสีม่วง

เขาตกใจขึ้นมาทันทีกับการคาดเดาของตัวเอง แต่เขาก็ไม่สามารถตรวจจับร่องรอยของพลังวิญญาณจากตัวเยี่ยซาได้เลย

บุรุษชุดดำเริ่มตื่นกลัวเมื่อเห็นคนของเขาอีกคนถูกเยี่ยซาฆ่าตาย ในใจร้อนรนกระวนกระวายขึ้นมา ถ้ายังเป็นแบบนี้ต่อไป พวกเขาจะไม่ใช่แค่ทำภารกิจล้มเหลว แต่ยังจะถูกฆ่าตายที่นี่ทั้งหมดอีกด้วย!

เขาจะยืนอยู่เฉยๆ ต่อไปไม่ได้แล้ว!

สายตาของเขาเหลือบมองไปที่จวินอู๋เสียที่ยืนใจเย็นอยู่ เขาหรี่ตาลงพร้อมกับยกดาบเข้าจู่โจมจวินอู๋เสียทันที

ต่อให้ต้องเสียคนไปอีกสักสองสามคน เขาก็ต้องกำจัดจวินอู๋เสียให้ได้!

พลังวิญญาณขั้นสีครามของเขาส่องแสงสว่างขึ้นมา บุรุษชุดดำโจมตีตรงไปที่จุดตายของจวินอู๋เสียด้วยพลังทั้งหมดของเขา

เขาเชื่ออย่างแรงกล้าว่าถ้าหากจวินอู๋เสียถูกโจมตีด้วยพลังของผู้ใช้พลังวิญญาณขั้นสีครามอย่างเขา จวินอู๋เสียจะไม่มีโอกาสรอดไปได้อย่างแน่นอน!

อย่างไรก็ตาม เมื่อบุรุษผู้นั้นเข้าใกล้จวินอู๋เสีย ดวงตาของจวินอู๋เสียก็หันมามองทางเขาทันที ใบหน้าเล็กๆ นั้นปรากฏรอยยิ้มเย้ยหยันเย็นชา

ความรู้สึกแปลกๆ คืบคลานเข้าสู่หัวใจของบุรุษชุดดำ แต่เขาโจมตีออกไปแล้วและไม่มีเวลาคิดอะไรอีกแล้ว!

“เจ้ารีบตายขนาดนั้นเลยหรือ” เสียงของจวินอู๋เสียดังขึ้น

ตอนที่ 898 ลอบสังหาร (4)

ทันทีที่ดาบของบุรุษชุดดำแทงตรงเข้าไปที่ลำคอของจวินอู๋เสีย พลังวิญญาณขั้นสีเขียวที่อยู่รอบตัวนางก็พลันแปรเปลี่ยนเป็นสีม่วง!

ชั่วพริบตาพลังวิญญาณขั้นสีม่วงก็กระจายไปทั่วร่างของจวินอู๋เสีย นางยกมือขึ้นจับดาบที่พุ่งตรงเข้ามาหน้าตาเฉย เนื่องจากพลังวิญญาณที่ห่อหุ้มอยู่รอบมือ นางจึงไม่กลัวคมดาบ เมื่อบุรุษชุดดำเห็นพลังวิญญาณขั้นสีม่วงที่ส่องแสงจ้าอยู่รอบตัวจวินอู๋เสีย ตาของเขาก็เบิกกว้างอย่างตกใจและเหลือเชื่อ ก่อนที่เขาจะได้สติ จวินอู๋เสียก็ดึงดาบเข้าหาตัว ส่งผลให้บุรุษชุดดำถูกดึงเข้ามาใกล้นาง ฝ่ามือหนึ่งถูกซัดออกมาโจมตีตรงเข้าที่หน้าอกของบุรุษชุดดำผู้นั้นอย่างจัง!

บุรุษชุดดำผู้นั้นส่งเสียงร้องโหยหวนออกมา ร่างสูงปลิวไปกระแทกตู้เสื้อผ้าในห้องจนแตกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย จากนั้นเขาก็หล่นลงมาชักกระตุกอยู่บนพื้น ไม่สามารถลุกขึ้นยืนได้อีก

เขารู้สึกเหมือนว่ากระดูกทั่วทั้งร่างแตกละเอียด บุรุษชุดดำนอนเหยียดกายอยู่บนพื้น พยายามจะยกศีรษะขึ้นเพื่อมองแสงสีม่วงสว่างเจิดจ้าที่ส่องออกมาจากร่างของเด็กหนุ่มตรงหน้าอย่างตกใจสุดขีด

“พลังวิญญาณขั้นสีม่วง…เป็นพลังขั้นสีม่วงได้อย่างไร…” กระทั่งในฝันร้ายที่สุดของเขาก็ยังไม่เคยคิดว่าเป้าหมายลอบสังหารของพวกเขาในวันนี้จะเป็นผู้ใช้พลังวิญญาณขั้นสีม่วงในตำนาน!

เป็นไปได้อย่างไร พลังที่เด็กหนุ่มคนนี้แสดงออกมาตลอดศึกประลองภูติวิญญาณเป็นแค่ขั้นสีเขียวเท่านั้นนี่!

ผู้ใช้พลังวิญญาณขั้นสีเขียวที่อายุสิบห้าปีก็น่าเหลือเชื่อมากพออยู่แล้ว แล้วนี่มาพูดถึงเรื่องเพิ่มพลังวิญญาณขึ้นเป็นขั้นสีม่วง…

บุรุษชุดดำไม่เคยเชื่อว่ามนุษย์ที่มีความสามารถต้านสวรรค์เช่นนั้นจะมีอยู่จริง

แต่แสงสีม่วงที่อยู่รอบตัวของจวินอู๋เสียก็ชัดเจนเสียจนทิ่มตา มันเป็นความจริงที่เขาไม่อาจปฏิเสธได้ แม้ว่าเขาจะอยากปฏิเสธมันแค่ไหนก็ตาม

การที่มีพลังวิญญาณขั้นสีคราม เขาก็คิดว่าจะสามารถล้มจวินอู๋เสียที่มีพลังวิญญาณขั้นสีเขียวได้ด้วยการโจมตีแค่ครั้งเดียว เขาไม่เคยคิดเลยว่าจวินอู๋เสียจะเพิ่มพลังวิญญาณของตัวเองขึ้นไปที่ขั้นสีม่วงได้อย่างกะทันหัน!

แม้ว่าพลังวิญญาณขั้นสีครามกับพลังวิญญาณขั้นสีม่วงจะต่างกันแค่ขั้นเดียว แต่ความแตกต่างขั้นเดียวนั้นก็เป็นช่องว่างที่ผู้คนจำนวนนับไม่ถ้วนไม่อาจก้าวข้ามไปได้ต่อให้ใช้พยายามกันทั้งชีวิตก็ตาม!

ไม่นานเยี่ยซาก็จัดการบุรุษชุดดำคนอื่นๆ ลงได้ทั้งหมด ร่างที่กระจัดกระจายอยู่บนพื้นไม่มีผู้รอดชีวิตอยู่เลย และทุกร่างไม่มีบาดแผลเลยสักแผลเดียว แม้ว่าการต่อสู้อันดุเดือดเพิ่งจะจบลง และมีคนเสียชีวิตไปเก้าคน แต่กลับไม่มีกลิ่นโลหิตแปดเปื้อนห้องของจวินอู๋เสียเลยแม้แต่น้อย

เยี่ยซายืนเคร่งขรึมอยู่ด้านหนึ่ง มือแนบลงข้างลำตัว เขาขัยบเข้ามายืนข้างๆ จวินอู๋เสีย

“ไม่เลว” จวินอู๋เสียกวาดสายตามองพื้นที่สะอาดหมดจด ดูเหมือนเยี่ยซาจะรู้จักนางดี เขารู้ว่านางไม่ชอบกลิ่นโลหิต จึงฆ่าคนทั้งหมดโดยไม่ให้มีโลหิตไหลออกมาเลยสักหยด

เยี่ยซาสามารถจัดการคนทั้งหมดได้ในไม่กี่วินาที แต่เพื่อไม่ให้ห้องของจวินอู๋เสียแปดเปื้อน เขาจึงพยายามเป็นพิเศษที่จะไม่ให้กลิ่นคาวโลหิตอันน่าขยะแขยงปนอยู่ในห้อง

“เป็นคำสั่งของคุณชายอู๋เย่าขอรับ ข้าน้อยไม่กล้าลืม” เยี่ยซาพูดเสียงต่ำ แม้แต่ในสถานการณ์เช่นนี้ เขาก็ไม่ลืมที่จะช่วยนายท่านให้มีตัวตนต่อหน้าคุณหนูใหญ่

ประกายแปลกๆ แวบเข้ามาในดวงตาของจวินอู๋เสีย แต่มันก็แค่แวบเดียวก่อนจะกลับเป็นปกติอย่างรวดเร็ว

“ไปกำจัดคนที่เหลือข้างนอกห้องด้วย” จวินอู๋เสียพูด ดวงตาจับจ้องไปที่ร่างของบุรุษชุดดำที่นอนอยู่บนพื้นซึ่งไม่สามารถขยับได้อีกแล้ว

แต่เยี่ยซากลับตอบว่า “สำหรับพวกข้างนอกนั่น ข้าเชื่อว่าไม่มีความจำเป็นที่ข้าจะต้องลงมือแล้วล่ะขอรับ”

เยี่ยซาพูดไม่ทันขาดคำ ประตูห้องของจวินอู๋เสียก็ถูกผลักเปิดออก เมื่อประตูเปิดกว้าง กลิ่นโลหิตฉุนกึกก็ลอยเข้ามาในห้องทำเอาจวินอู๋เสียขมวดคิ้วทันที