นางน้อยจอมพลังของนายพลบ้านนา ตอนที่ 347 มีคนตาย2
น้ำโค้กนี่มีพิษฆ่าคนได้ด้วยหรือ? เด็กคนนี้อายุแค่สามหรือสี่ขวบเอง ส่วนผู้หญิงคนนี้อายุน่าจะแค่ยี่สิบต้นๆ เท่านั้น น่าสงสารจริงๆ …
“น้ำโค้กของท่านมีพิษฆ่าคนตายได้? นี่มันฆ่าคนเพื่อหวังเงินใช่ไหม?”
“ควรถูกจับไปที่หยาเหมิน! พวกเจ้ามันเพื่อหาเงินแล้วไม่กลัวกฎหมายบ้านเมืองเลยหรือไง!”
ในช่วงเวลานี้เริ่มเกิดความวุ่นวายขึ้น ประกอบกับเสียงร้องไห้โวยวายของแม่เด็ก คนเหล่านี้แทบอยากจะจุดไฟเผาร้านตรงหน้าให้มอดไหม้
ไป๋ยี่เซวียนเองก็เครียดเช่นกัน พอเห็นแม่ของเด็กร้องห่มร้องไห้ เขารู้ว่าหญิงสาวผู้นี้คงจะตกเป็นเหยื่อจริงๆ
เขาเม้มริมฝีปาก ยื่นมือออกไปห้าม พยายามให้ทุกคนสงบอารมณ์ลง
คนที่ยืนมุงดูรู้ว่าเขากำลังจะพูด จึงควบคุมอารมณ์ไว้
“ทุกท่าน เราจะตรวจสอบเรื่องนี้อย่างแน่นอน” ไป๋ยี่เซวียนตะโกนพูดเสียงดัง
“ยังมีอะไรให้ต้องตรวจสอบอีก หรือท่านคิดว่าผู้หญิงคนนี้จะวางยาลูกตัวเองเพื่อใส่ร้ายท่าน”
ชายคนหนึ่งในฝูงชนตะโกนออกมา แล้วคนอื่นๆ ที่เหลือก็รู้สึกว่าที่เขาพูดมามันสมเหตุสมผล เด็กตายอยู่ตรงหน้า แล้วยังต้องตรวจสอบอะไรอีก? นี่มันหลอกคนไม่ใช่หรือไง?
หญิงสาวผู้นั่งร้องไห้เสียใจพยายามดิ้นให้หลุด แต่นางถูกจับไว้แน่นไม่สามารถดิ้นหลุดได้ นางจึงหันไปกัดข้อมือของชายคนหนึ่ง จนชายคนนั้นปล่อยนางพร้อมกับอุทานอย่างเจ็บปวด นางหันไปกัดชายอีกคน ชายอีกคนก็เจ็บจนปล่อยมือออกเช่นกัน
ผู้หญิงคนนั้นวิ่งพุ่งเข้าหาไป๋ยี่เซวียนด้วยปากที่เต็มไปด้วยเลือด ตั้งใจจะพุ่งไปบีบคอของไป๋ยี่เซวียน
ไป๋ยี่เซวียนรีบก้าวถอยหลังหนึ่งก้าว แล้วปล่อยพัดในมือของเขาทิ้ง แล้วจับทั้งสองข้างของนางไว้ ป้องกันไม่ให้นางเข้าใกล้
ในตอนนี้ผู้หญิงคนนั้นไม่สนใจอะไรอีกต่อไปแล้ว นางคิดจะกัดไป๋ยี่เซวียน
ไป๋ยี่เซวียนขมวดคิ้ว แล้วก้าวถอยหลัง
พอเขาเงยหน้าขึ้น ก็เห็นดวงตาสีแดงของผู้หญิงตรงหน้า ที่เต็มไปด้วยความเคียดแค้นในตัวเขา เลือดในปากของนางทำให้นางดูน่ากลัว
เขาเริ่มเคร่งเครียด ผู้หญิงคนนี้คงจะเสียสติไปแล้ว
ไป๋ยี่เซวียนหันไปมองคนที่อยู่ข้างหลังเขา แล้วตะโกนอย่างฉุนเฉียวว่า “ยังไม่มาช่วยกันอีก”
เด็กหนุ่มที่ไปเรียกเขาเมื่อกี้รีบเข้ามาดึงผู้หญิงคนนั้นออกไป
แต่ตอนนี้เขาได้เรียนรู้วิธีป้องกันตัวแล้ว เขาเดินยืนข้างหลังผู้หญิงคนนั้น แล้วรวบมือของผู้หญิงคนนั้นไว้ด้านหลัง
“เอาลูกชายข้าคืนมา! เอาลูกชายข้าคืนมา! ไอ้ฆาตกร! แกฆ่าลูกชายข้าตาย!”
ผู้หญิงคนนั้นพยายามดีดดิ้นอย่างรุนแรง ปากก็พูดสาปแช่ง และพุ่งเข้าหาไป๋ยี่เซวียน แต่ชายที่อยู่ข้างหลังจับมือนางไว้แน่นเพื่อห้ามนาง
ไป๋ยี่เซวียนจัดแจงเสื้อผ้าของเขา แล้วตะโกนบอกคนที่กำลังคุยกันอยู่ข้างนอก “ทุกท่าน ข้า ไป๋ยี่เซวียน จะตรวจสอบเรื่องนี้ให้ละเอียดอย่างแน่นอน และข้าจะให้คำตอบทุกท่านเมื่อถึงเวลา ส่วนเรื่องน้ำโค้ก ข้าสามารถดื่มต่อหน้าทุกท่านเพื่อยืนยัน!”
พอเขาบอกว่าเขาจะดื่มเพื่อยืนยัน คนอื่นๆ ต่างก็มองหน้ากันด้วยความตกตะลึง
ไป๋ยี่เซวียนเรียกคนงานสองคนที่ถูกผู้หญิงคนนั้นกัดจนเลือดไหล “เข้าไปข้างในแล้วเอาน้ำโค้กมาให้ข้า”
ผู้ชายคนนั้นเอามือที่เปื้อนเลือดออก แล้วตอบรับด้วยสีหน้าเจ็บปวด ก่อนจะรีบเดินเข้าไปในร้าน
ทันทีที่คำพูดเหล่านี้ออกมา คนมายืนมุงดูก็เริ่มลังเลเล็กน้อย
คนเหล่านี้ล้วนอาศัยอยู่ใกล้ๆ นี้ พวกเขาเองก็เคยกินไก่ทอดและดื่มน้ำโค้กเหมือนกัน เด็กในบ้านก็ชอบอาหารของพวกเขา ถ้ามีอะไรผิดปกติ เขาและลูกๆ ของพวกเขาก็คงเป็นอะไรไปแล้ว
“อาจจะเป็นเรื่องเข้าใจผิดก็ได้ พวกเราเองก็เคยดื่มน้ำโค้ก ไม่เห็นจะเป็นอะไร”
ชายฉกรรจ์คนหนึ่งกระซิบถามคนข้างๆ
คนที่อยู่ข้างๆ เขาก็ลังเลใจเช่นกัน แต่มีชายคนหนึ่งที่อยู่ข้างหลังพวกเขารีบพูดออกมาด้วยความโกรธ “นั่นก็เพราะร่างกายของพวกเจ้าแข็งแรงดี ข้าว่าสิ่งนี้มันต้องไม่ดีต่อสุขภาพแน่ๆ เด็กคนนี้คงสุขภาพไม่ดีแล้วดื่มเข้าก็เลยเป็นเช่นนี้?”
“ใช่แล้ว พวกเจ้าไม่เห็นหรือว่าผู้หญิงคนนี้เป็นบ้าไปแล้ว ลูกชายของนางตายไปแล้ว จะเป็นเรื่องโกหกได้อย่างไร?
คนที่อยู่ข้างหลังก็ตะโกนตาม
สองคนที่ลังเลก็หยุดชะงักไปเช่นกัน พอมองไปที่หญิงสาวที่ร้องไห้โวยวาย ก็รู้สึกสงสาร สุดท้ายก็กลืนคำพูดของพวกเขากลับไป
ลูกใครไม่เป็นลูกรักกัน? เกิดเรื่องขึ้นกับเด็ก แต่พวกเขายังมาสงสัยแม่ของเด็กอีก?
หลังจากพูดจบ ทุกคนก็มองไปทางไป๋ยี่เซวียนอย่างสงสัย
หลังจากนั้นไม่นาน ผู้ชายคนที่เข้าไปเอาน้ำโค้กก็รีบวิ่งกลับมา เขาเปิดฝาขวด แล้วเทออกมา น้ำโค้กหยดลงพื้น ทุกคนต่างก็เห็นว่ามันคือสีของน้ำโค้กจริงๆ
พอคนข้างหน้าเห็นไป๋ยี่เซวียนหยิบน้ำโค้กขึ้นมาดื่มอึกใหญ่ ไม่นาน น้ำโค้กก็หมดลง
ทุกคนเฝ้าดูเขาดื่มน้ำโค้กลงท้องจนหมดขวด จากนั้น เขาก็คว่ำขวดลง แล้วเขย่าให้ดู เพื่อยืนยันว่าเขาดื่มจนหมดแล้ว
“ทุกท่าน ข้าดื่มน้ำโค้กขวดนี้หมดแล้ว ถ้ามันมีพิษจริงๆ ข้าไม่กลัวตายหรือไง?” เสียงของไป๋ยี่เซวียนไม่ดัง แต่ทุกคำพูดจับใจของทุกคน
กลุ่มคนที่ยืนมุงดูมองหน้ากัน แต่พูดไม่ออกไปสักพัก
“ไอ้ฆาตกร เป็นเจ้า เป็นเจ้าที่ฆ่าลูกของข้า!” หญิงสาวคนนั้นยังคงคร่ำครวญ
ไป๋ยี่เซวียนหันไปมองนาง จากนั้นก็หันกลับมาอีกครั้ง “ทุกท่าน เรื่องนี้ต้องมีอะไรผิดปกติแน่ๆ ตอนนี้เราควรขอให้ท่านหมอมารักษาแม่นางท่านนี้ก่อน แล้วค่อยตรวจสอบความจริง ทุกท่านคิดว่าอย่างไร?”
“ไม่ได้! พวกพ่อค้าอย่างพวกเจ้ามันเจ้าเล่ห์ที่สุด ถ้าเจ้าฆ่าคนปิดปากขึ้นมาจะทำอย่างไร”
เสียงของชายคนหนึ่งดังมาจากในฝูงชน ไป๋ยี่เซวียนมองไปตามเสียง แต่ไม่สามารถระบุได้ว่าใครเป็นคนพูด
เขาเอามือไพล่หลัง ยืนตัวตรง แล้วพูดเสียงดัง “งั้นก็ไปเชิญท่านหมอมาที่นี่”
เขาพูด ก่อนจะชี้ไปที่พื้นข้างหน้าเขา แล้วพูดว่า “ถ้าไม่เชิญท่านหมอมารักษา แล้วเกิดอะไรขึ้นกับแม่นางผู้นี้ ใครจะรับผิดชอบ”
พอได้ยินเช่นนี้ ทุกคนต่างก็ตกใจ และไม่มีใครกล้าพูดอะไรอีก
“ในเมื่อรักษาที่นี่ พวกเราก็จะอยู่ดูด้วย!” ผู้หญิงคนหนึ่งตะโกนพูด สายตาของนางมองไปที่ผู้หญิงคนนั้นที่ดูเหมือนจะบ้าเล็กน้อย นางก็สงสาร
ยังไงก็เป็นผู้หญิงด้วยกัน มีลูกเหมือนกัน จะไม่เสียใจที่ลูกตายได้อย่างไร
คนอื่นๆ ก็เห็นด้วย พวกเขาก็รับผิดชอบเรื่องนี้ไม่ไหว
“เถ้า… เถ้าแก่ ข้า… ข้าจับนางไม่อยู่แล้วขอรับ!” ผู้ชายที่พยายามดึงผู้หญิงคนนั้นเหงื่อแตกพลั่ก
ทำไมผู้หญิงคนนี้ถึงแรงเยอะเช่นนี้?
ไป๋ยี่เซวียนทำได้เพียงสั่งให้คนงานสองคนออกไปเรียกท่านหมอ โดยบอกให้พวกเขาไปเชิญท่านหมอมาคนละคน ไปเชิญท่านหมอที่ไกลหน่อย
ชายทั้งสองทำตามคำสั่ง แล้วเบียดตัวออกจากฝูงชนไป
ไป๋ยี่เซวียนเดินไปตั้งใจจะยื่นมือไปช่วยผู้ชายคนนั้น แต่พอผู้หญิงที่กำลังดิ้นรนเห็นเขาเดินเข้ามา นางก็โกรธจนเป็นลมหมดสติไป
ไป๋ยี่เซวียนทำได้เพียงบอกให้คนงานกลับไปที่ห้องของเขา พอเอาผ้านวมมาปูบนพื้น แล้วขอให้ผู้หญิงที่ยืนมุงดูช่วยพยุงผู้หญิงคนนั้นให้นอนบนผ้าห่ม แล้วทุกคนก็รอหมอมาอย่างเงียบๆ