ตอนที่ 505 ตอนพิเศษของสถานการณ์เผ่ามนุษย์ในปัจจุบัน

สตรีมเมอร์สาว กินพิชิตอวกาศ

ตอนที่ 505 ตอนพิเศษของสถานการณ์เผ่ามนุษย์ในปัจจุบัน

ตอนที่ 505 ตอนพิเศษของสถานการณ์เผ่ามนุษย์ในปัจจุบัน

ในกรณีนี้เขาจะต้องรีบรับสายวิดีโอ หากเขาไม่รับสายนานเท่าไหร่ สวี่หลิงอวิ๋นก็จะยิ่งสงสัยมากเท่านั้น!

หากเธอต้องรอต่ออีกสามถึงห้านาที เธอจะสั่งให้ใครบางคนจากแผนกเทคนิคแฮกรหัสผ่านเพื่อเชื่อมต่อ!

ทันทีที่รับสายวิดีโอ สวี่เทียนอวี๋ก็เห็นลูกสาวนั่งอยู่ที่อีกฝั่งของวิดีโอ จากนั้นจึงยิ้มและทักทาย “ฮัลโหล! ลูกรัก คิดถึงพ่องั้นเหรอ?”

“เป็นยังไงบ้าง? ดูแลสุขภาพร่างกายบ้างหรือเปล่า?”

สวี่เทียนอวี๋แทบจะลอยขึ้นทันทีที่เห็นรอยยิ้มบนใบหน้าของลูกสาว “พ่อรู้ว่าลูกเหนื่อยจากการดูแลงานราชการ แต่ลูกก็ต้องห่วงสุขภาพตัวเองบ้างนะ! ดูสิซูบลงไปตั้งเยอะหรือเปล่าเนี่ย?”

“ลูกไม่ได้ซูบลง แค่อ้วนขึ้นนิดหน่อย” สวี่หลิงอวิ๋นพูด เธอขมวดคิ้วขณะมองดูผู้เป็นพ่อ “ทำไมวันนี้เสด็จพ่อมาแปลก? แอบออกไปเล่นกับเป่าจูลับหลังลูกอีกแล้วใช่ไหม? ไปเล่นอะไรที่ไม่ควรเล่นหรือเปล่า?”

“จะเป็นแบบนั้นได้ยังไง? ลูกคิดว่าพ่อเป็นคนแบบไหน พ่อไม่พาหลานออกไปเล่นอะไรอันรายแบบนั้นหรอก เชื่อคำพ่อสิ!” สวี่เทียนอวี๋ทุบหน้าอกเสียงดังอัก เศร้าใจที่ลูกสาวเข้าใจผิด

“ถ้าไม่เชื่อก็ถามเป่าจูดู!”

สายตาของสวี่หลิงอวิ๋นจับจ้องไปที่เป่าจู “เป่าจู ท่านตาพูดความจริงหรือเปล่า?”

“ชะ…ไม่ค่ะ ขอโทษเพคะเสด็จแม่ หนูโกหก หนูกับท่านตามาเล่นบันจีจัมป์กัน!” เป่าจูเหลือบมองสายตาเชื่อใจจากผู้เป็นแม่ เธอไม่กล้าพูดโกหกและก้มหน้าลง

เธอก้มหน้าลงขณะที่ดวงตาเต็มไปด้วยความผิดหวัง “หนูไม่ใช่เด็กดี”

สวี่หลิงอวิ๋นถอนหายใจ ลูกสาวของเธอยังเด็ก ถึงอย่างนั้นก็มีความสามารถในการต่อสู้ยอดเยี่ยม และบางทีมันยากเกินไปที่จะให้เธอมาอยู่ภายใต้การดูแล ถ้าจำกัดการเล่นของเธอมันจะรุนแรงเกินไปหรือเปล่า?

ช่างเถอะ ปล่อยเธอไป!

“อย่าพูดแบบนั้นสิลูก เป่าจูไม่ได้พูดโกหกและเป็นเด็กดี เพราะฉะนั้นต่อจากนี้ไปถ้าลูกอยากจะเล่นเครื่องเล่นอันตรายอีก ลูกจะต้องบอกองครักษ์หรือพวกคุณลุงให้ไปเล่นกับลูกแทน ท่านตาอายุเยอะเกินกว่าจะมาเล่นของเล่นอันตรายพวกนี้แล้ว”

“ลูกทำได้ใช่ไหม?” สวี่หลิงอวิ๋นถาม

“ได้! ขอบคุณเพคะเสด็จแม่ หนูรักเสด็จแม่!” เป่าจูกระโดดโลดเต้นอย่างมีความสุขเมื่อเธอได้ยินว่าสวี่หลิงอวิ๋นไม่ได้ห้ามเธอให้เล่นเครื่องเล่นผาดโผน!

ขณะเดียวกัน สวี่เทียนอวี๋ก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก ในที่สุดต่อจากนี้เขาก็มีข้ออ้างให้กับหลานสาวเสียที!

อย่างน้อยพรุ่งนี้ก็ไม่ต้องกระโดดบันจีจัมป์!

หลังจากวางสายวิดีโอ สวี่หลิงอวิ๋นก็ลุกขึ้น

เธอเปิดม่านออก มองดูความเจริญรุ่งเรืองจากตึกรามบ้านช่องที่อยู่ด้านนอก

ที่แห่งนี้คือดาวโจรสลัดที่ถูกเปลี่ยนชื่อเป็นดาวเคราะห์กิเลน ตอนนี้กลายเป็นเมืองหลวงของจักรวรรดิชิงเหย้าในเขตดาวต่างแดน!

สิ่งมีชีวิตส่วนใหญ่ที่อาศัยอยู่บนดาวเคราะห์กิเลนล้วนเป็นเผ่ามนุษย์ และอีกสิ่งมีชีวิตมากมายจากเผ่าพันธุ์อื่น

ในช่วงเวลาหลายปีที่ผ่านมา เผ่ามนุษย์ได้ตั้งรากฐานอย่างมั่นคงในเขตดาวต่างแดน และจักรวรรดิชิงเหย้าของเผ่ามนุษย์ก็กลายเป็นจักรวรรดิที่แข็งแกร่งที่สุดในเขตดาวต่างแดน ไม่ใช่ใครอื่น!

ตลอดหลายปีที่ผ่านมา เผ่ามนุษย์ออกมาจากข้างนอกมาขึ้นเรื่อย ๆ พวกเขาฝึกฝนกันได้อย่างรวดเร็วขึ้น อาจเป็นเพราะพวกเขามีต้นไม้แห่งชีวิต เกือบทุกคนจึงอยู่ในระดับสิบสามดาวหรือมากกว่านั้น!

นอกจากนี้กองทัพทหารยังอยู่ในระดับสิบห้าดาว!

ด้วยความแข็งแกร่งนี้ทำให้แม้แต่จักรวรรดิที่ทรงอิทธิพลก็ไม่กล้ายั่วโมโห! จักรวรรดิอื่นที่มีกองกำลังระดับสิบห้าดาวป่าวประกาศอย่างหยิ่งผยองว่าพวกเขาเป็นกองกำลังอันดับหนึ่งแห่งจักรวาล!

แต่เผ่ามนุษย์ล่ะ? โธ่เอ๊ย! กองกำลังของพวกเขาไต่ระดับไปเป็นสิบห้าดาวหรือมากกว่านั้นได้สบาย ๆ แล้วหรือเปล่า?!

นอกจากนี้ ผู้คนยังมีต้นไม้แห่งชีวิตสาขาย่อยที่คอยปกป้องพวกเขา ต่อให้ออกไปสู้ยังไงก็ไม่ตาย เข้าใจใช่ไหม?!

ในขณะที่จักรวรรดิอื่นต้องต่อสู้สุดชีวิต คุณคิดว่าจักรวรรดิจะกล้าไหมล่ะ? ใครจะกล้า!

มันไม่ง่ายเลยที่จะฝึกฝนให้ถึงระดับสิบห้าดาว แต่จะยากสักแค่ไหนเชียว? มีใครบ้างที่ไม่อยากเชิดชูให้บรรพบุรุษ? ตราบเท่าที่มีชีวิตอยู่ก็ย่อมมีความหวัง!

ทั่วทั้งเขตดาวกลายเป็นโลกของเผ่ามนุษย์!

หลังจากที่จักรวรรดิเก่า ๆ เห็นเผ่ามนุษย์ ประชากรบางคนก็ถึงกับอุทานว่า โอ้! นี่คือเผ่ามนุษย์ที่เคยมีสติปัญญาต่ำจริง ๆ หรือเนี่ย?

แล้วตอนนี้ล่ะ?

“แม่คะ หนูจะไปศัลยกรรมให้เหมือนเผ่ามนุษย์!”

“ลูกรัก ถ้าศัลยกรรมทำให้ลูกเหมือนพวกมนุษย์ได้จริง แม่ก็คงจะศัลยกรรมไปนานแล้วจ้ะ!”

ตอนนี้เผ่ามนุษย์ได้กลายเป็นยอดมนุษย์! ไม่ว่าจะไปที่ไหนก็จะเห็นความอิจฉาริษยาอยู่ในสายตาของเผ่าพันธุ์อื่นเสมอ!

ไอ้หยา! ดูเผ่ามนุษย์สิ หุ่นนั่น หน้าตาแบบนั้น! หล่อจัง!

แล้วดูสารพัดอย่างของพวกมนุษย์สิ ไอ้หยา! ขนาดถ้วยกับตะเกียบยังเหลือเชื่อมาก!

ขนาดการนั่งยอง ๆ กินขนมเส้นหม่าล่ายังทำให้เผ่าพันธุ์อื่นต้องร้องไห้ แถมยังทำให้หลายเผ่าอิจฉาริษยา!

ฮึ่ม! มันไม่ง่ายเลยนะที่จะได้กินอาหารในร้านอาหารของเผ่ามนุษย์อย่างเสรี!

เว้นแต่ว่าจะเป็นเผ่ามนุษย์!

สวี่หลิงอวิ๋นขาดทุนไปเยอะมาก!

แต่เพื่อแก้แค้นมนุษย์ต่างดาวเหล่านี้ และเพื่อให้เผ่ามนุษย์สุขใจไร้ความกังวลในการปรับตัวเข้ากับเขตดาวต่างแดน เธอจึงขายเครื่องปรุงรสและส่วนผสมให้กับเผ่ามนุษย์เท่านั้น ในกรณีนี้มนุษย์คนไหนที่ยังหาช่องทางสร้างรายได้ไม่ได้ พวกเขาสามารถเปิดร้านอาหารโดยป้อนโปรแกรมคำสั่งให้แขนกล!

ค่าใช้จ่ายค่อนข้างถูก และยังเป็นขั้นตอนที่ง่าย! บนท้องถนนเต็มไปด้วยร้านอาหารของเผ่ามนุษย์ที่ถูกจับจองที่นั่งจนเต็ม และไม่มีที่ว่างเหลือ!

เพราะอะไรน่ะเหรอ? นั่นเป็นเพราะว่ามีอาหารหลายประเภทจนทำให้ทุกคนตื่นตาตื่นใจ วันนี้กินอันนี้ พรุ่งนี้กินอันนั้น!

นับตั้งแต่เผ่ามนุษย์มาถึง สิ่งมีชีวิตในเขตดาวต่างแดนก็ได้รับรู้หนึ่งสิ่ง นั่นคือพวกเขากินเนื้ออสุรกายยักษ์กันมาตลอดทั้งปี

ต้องขอบคุณเผ่ามนุษย์!

แน่นอนว่ายังมีเรื่องน่าสลดใจอีกหลายอย่าง เช่น มีคนแย่งของกินเยอะจนต้องต่อคิวยาวทุกครั้งที่อยากกิน

แต่ก็ดี การต่อคิวถือว่าไม่เลว แต่สิ่งที่เกลียดที่สุดคือเผ่ามนุษย์ค่อนข้างทำอะไรตามอำเภอใจ คิดจะเปิดร้านก็เปิด ไม่อยากเปิดร้านก็ปิดประตูแล้วหนีไปเลย

ทว่าพวกเขาก็ไม่กล้ายั่วโมโหพวกมนุษย์อยู่ดี เนื่องจากมนุษย์ที่กล้าออกมาข้างนอกค่อนข้างแข็งแกร่ง อย่างน้อยก็มีพละกำลังมากกว่าสิบห้าดาว

อย่าว่าแต่พวกเขาไม่กล้ายั่วโมโหเลย แม้แต่จักรวรรดิของพวกเขาก็ไม่กล้ายั่วโมโหเหมือนกัน

ตอนนี้นอกเหนือจากการกินแล้ว พวกเขายังชอบเล่นเกมออนไลน์

เกมออนไลน์สามารถช่วยพวกเขาให้ฝึกฝนพลังจิตและประสิทธิภาพการต่อสู้

แม้แต่สถาบันการศึกษาหลายแห่งก็เปลี่ยนหลักสูตรการสอนมาเป็นเกมออนไลน์โดยตรง ที่นี่พวกเขาสามารถต่อสู้กับเผ่าพันธุ์ต่าง ๆ และสามารถเล่นเกมผจญภัยที่น่าตื่นตาตื่นใจได้มากมาย

พวกเขาบางส่วนถึงกับแต่งตั้งกลุ่มขนาดเล็กที่มีจำนวนสามถึงห้าคน บางส่วนชอบต่อสู้กับอสุรกายร้ายต่าง ๆ นอกจากนี้ในเกมยังมีอสุรกายขนาดมหึมาอยู่สองตัว

อสุรกายที่ว่านั่นคือเสี่ยวอ้ายกับบอนาร์

เสี่ยวอ้ายกับบอนาร์เป็นอสุรกายยักษ์ และยังเป็นสองเทพผู้ทรงพลังที่สุดในเกมออนไลน์ เป้าหมายที่ยิ่งใหญ่ของกลุ่มผู้เล่นเล็ก ๆ คือการท้าทายสองเทพอสุรกาย

ทว่าจุดจบมักจะน่าสังเวชเสมอ เพราะเสี่ยวอ้ายมักจะใช้หางกวาดล้างทุกอย่างบนพื้นและทำลายจนสิ้นซาก

ในขณะที่บอนาร์มักจะพูดโอ้อวด และเพียงแค่มันพ่นลมเพียงครั้งเดียว กลุ่มเล็ก ๆ ก็ตายเรียบไร้ซึ่งแม้แต่ที่ฝังศพ

สิ่งที่ชาวเน็ตทั้งหลายชอบดูมากที่สุดคือเสี่ยวอ้ายกับบอนาร์ฝึกฝนพลังการต่อสู้จากทั่วทั้งจักรวาลทุกวัน และเฝ้าดูกลุ่มพวกเด็กที่มีพรสวรรค์ถูกสุดยอดอสุรกายทั้งสองทุบตีราวกับกระสอบทราย

มันให้ความรู้สึกเหมือนกับนักเรียนหัวกะทิที่มาเจอกับเด็กเก่ง เด็กเก่งที่มาเจอกับเด็กเทพ เด็กเทพที่มาเจอกับเด็กวิชาการ!