ตอนที่ 445 นิดเดียวก็ทะลุปรุโปร่ง

สตรีแกร่งตระกูลไป๋

ตอนที่ 445 นิดเดียวก็ทะลุปรุโปร่ง

พระอนุชาที่ยังเหลืออยู่ของฮ่องเต้ก็ล้วนหวังแต่เกียรติยศเงินทอง ไม่ใช่คนทะเยอทะยานสักคน

หากยังมีอ๋องเหลืออยู่ก็คงจะเป็นอ๋องต่างสกุลอย่าง…หนานตูเสียนอ๋อง

ทว่า ฮ่องเต้ไม่ได้คิดจะกำจัดเขา บัดนี้เสียนอ๋องเป็นใหญ่อยู่คนเดียว แต่หากเสียนอ๋องมีใจทะเยอทะยานอยากเป็นใหญ่กว่านี้แล้วหลอกใช้เหลียงอ๋องเล่า

ทว่า เหลียงอ๋องใช้การกำจัดตระกูลไป๋ให้สิ้นซาก ทำลายชื่อเสียงของตระกูลไป๋เป็นข้อแลกเปลี่ยนในการร่วมมือกับคนผู้นั้น ไป๋ชิงเหยียนคิดว่านอกเหนือจากเสียนอ๋องแล้ว ท่านอ๋องจากแคว้นศัตรูก็มีโอกาสเป็นไปได้เช่นเดียวกัน!

เพราะหากมองจากสายตาของคนภายนอก บัดนี้นางคือแม่ทัพที่น่าหวาดกลัวที่สุดของแคว้นต้าจิ้น แคว้นอื่นจะไม่อยากกำจัดนางให้สิ้นซากอย่างนั้นหรือ

แคว้นต้าเหลียงอาจเป็นไปได้ ซีเหลียงยิ่งไม่ต้องกล่าวถึง แคว้นต้าเว่ยก็มีโอกาสเป็นไปได้ ส่วนต้าเยี่ยน…ก็ไม่ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้

ไป๋ชิงเหยียนไม่กลัวการสู้กันซึ่งๆ หน้า ทว่า หญิงสาวกลัวคนลอบแทงข้างหลังตระกูลไป๋ โดยเฉพาะตอนนี้ไป๋จิ่นซิ่วกำลังตั้งครรภ์อยู่ อีกทั้งอยู่ในเมืองหลวงคนเดียว พรุ่งนี้นางจะเดินทางกลับซั่วหยางแล้ว หากคนพุ่งเป้าไปที่ไป๋จิ่นซิ่วคงไม่ดีแน่

“เจ้าพาเขาออกไปก่อน!” องค์หญิงใหญ่กล่าวกับเว่ยจง

เว่ยจงพยักหน้าแล้วพาคนจากไป

ไป๋จิ่นซิ่วขมวดคิ้ว กำผ้าเช็ดหน้าในมือแน่น “ตอนนั้นเหลียงอ๋องถูกเลี้ยงดูโดยถงกุ้ยเฟย!”

“เหตุใดวันนี้เจ้าไม่พาอิ๋นซวงมาด้วย” ไป๋ชิงเหยียนมองไป๋จิ่นซิ่วแล้วถามออกมา

“พี่หญิงใหญ่คิดถึงอิ๋นซวงหรือเจ้าคะ พอกลับถึงเมืองหลวง ข้าจะให้อิ๋นซวงไปพบพี่หญิงใหญ่เจ้าค่ะ”

ไป๋ชิงเหยียนส่ายหน้า “ไม่รู้ว่าเหลียงอ๋องร่วมมือกับอ๋องของแคว้นศัตรูหรือหนานตูเสียนอ๋องกันแน่ แต่ไม่ว่าอย่างไร เหลียงอ๋องก็ต้องการกำจัดตระกูลไป๋ของพวกเราให้ได้ เจ้าอยู่เมืองหลวงคนเดียวอีกทั้งตั้งครรภ์อยู่ ต้องระวังตัวให้มาก ออกจากจวนต้องพาอิ๋นซวงไปด้วยเพื่อความปลอดภัย!”

“พี่หญิงใหญ่ไม่ต้องเป็นห่วงเจ้าค่ะ ข้าทราบแล้วเจ้าค่ะ” ไป๋จิ่นซิ่วพยักหน้า สายตาหยุดอยู่ที่องค์หญิงใหญ่ กล่าวยิ้มๆ “ไม่ว่าอย่างไรที่เมืองหลวงก็มีท่านย่าอยู่ ท่านย่าต้องปกป้องข้าอย่างแน่นอนเจ้าค่ะ”

เจี่ยงหมัวมัวพยักหน้ายิ้มๆ รู้สึกดีใจที่ไป๋จิ่นซิ่วกล่าวประโยคนี้ออกมา

มันคือความจริง ไป๋จิ่นซิ่วคือหลานสาวขององค์หญิงใหญ่ ท่านย่อมปกป้องไป๋จิ่นซิ่วอยู่แล้ว

ไม่นาน ไป๋จิ่นจื้อที่ไปเก็บดอกกุ้ยฮวากับไป๋จิ่นเซ่อเดินเข้ามาหยุดอยู่ข้างไป๋ชิงเหยียน กล่าวขึ้น “พี่หญิงใหญ่ตอนที่ข้าปีนขึ้นไปเก็บดอกกุ้ยฮวา ข้าเห็นเซียวเซียนเซิงนั่งจิบชาอยู่ด้านนอกเจ้าค่ะ เขาคงรอพี่หญิงใหญ่อยู่แน่เลยเจ้าค่ะ”

ไป๋ชิงเหยียนเอื้อมมือลูบไปที่ศีรษะของไป๋จิ่นจื้อ จากนั้นเจี่ยงหมัวมัวพานางไปถอดเกราะเงินออก เปลี่ยนเครื่องแต่งกายชุดใหม่ เมื่อปรนนิบัติให้องค์หญิงใหญ่พักผ่อนเรียบร้อย หญิงสาวจึงออกไปเดินเล่นกับไป๋จิ่นซิ่วด้านนอก

“สิ่งที่ต้องสืบในตอนนี้มีสามเรื่อง หนึ่งคือจวนเหลียงอ๋องซื้อซานหวง ดินประสิวและยางสนหรือไม่ สองคือสืบให้แน่ชัดว่าเหตุใดพ่อบ้านจวนเหลียงอ๋องจึงไปมาหาสู่กับคุณชายตระกูลหวังแห่งซอยจิ่วชวี” ไป๋ชิงเหยียนกล่าว

“แล้วต้องสืบเสียนอ๋องหรือไม่เจ้าคะ เราจะได้ตัดตัวเลือกออกได้” ไป๋จิ่นซิ่วอยากสืบให้แน่ใจว่าอ๋องที่ร่วมมือกับเหลียงอ๋องคือผู้ใด มิเช่นนั้นหากยังมืดบอดอยู่เช่นนี้มีแต่จะถูกเหลียงอ๋องโจมตี

“เจ้าไม่ต้องเป็นห่วงเรื่องนี้ พี่จะหาทางสืบเอง!” ไป๋ชิงเหยียนมองไปทางด้านนอกวัดแวบหนึ่ง แหล่งข่าวของเซียวหรงเหยี่ยนกว้างขวางกว่านางมากนัก

“เจ้าไปพักผ่อนที่เรือนของท่านย่าก่อน เดี๋ยวพี่กลับมา” ไป๋ชิงเหยียนกล่าวกับไป๋จิ่นซิ่ว

เซียวหรงเหยี่ยนยังไม่จากไปแสดงว่าเขาคงมีเรื่องจะกล่าวกับนาง

ไป๋จิ่นซิ่วรู้ว่าพี่หญิงใหญ่จะไปพบเซียวหรงเหยี่ยน แม้การที่บุรุษและสตรีลอบพบกันตามลำพังเป็นเรื่องที่ไม่เหมาะสม ทว่า พี่หญิงใหญ่เป็นคนรู้ขอบเขต ไป๋จิ่นซิ่วจึงไม่กล่าวให้มากความ หมุนกายเดินจากไปทันที

คงเป็นเพราะรออยู่นานแล้วก็ยังไม่เห็นไป๋ชิงเหยียนออกมา องครักษ์ของเซียวหรงเหยี่ยนจึงผูกผ้าม่านผืนบางไว้บนต้นกุ้ยฮวา จากนั้นวางกระดานหมากลงบนโต๊ะไม้ จัดเตรียมชุดเครื่องชาที่เซียวหรงเหยี่ยนใช้เป็นประจำและของว่างซึ่งทำอย่างประณีตวางไว้บนโต๊ะข้างๆ กับกระดานหมาก ด้านข้างมีตะเกียบไม้หยกสลักด้วยลวดลายดอกเหมยซึ่งวางอยู่ถัดจากของว่างมีตะเกียบเงินสลักด้วยทองคำอย่างประณีตวางอยู่ ด้านข้างโต๊ะไม้คือเตาผิงขนาดเล็กที่สะดวกเคลื่อนย้าย เปลวไฟในเตาผิงร้อนระอุ เสียงน้ำสำหรับต้มชาเดือดปุดๆ

ชายหนุ่มนั่งคุกเข่าอยู่ใต้ต้นกุ้ยฮวา มือหนึ่งถือม้วนไม้ไผ่ อีกมือจิบน้ำชา เล่นหมากล้อมอย่างเพลิดเพลิน

บรรยากาศโดยรอบของวัดแห่งราชวงศ์มีต้นไม้หลากหลายชนิดขึ้นปนกันอยู่ทั้งสี่ทิศ ดอกไม้แบ่งบานตลอดปี ทิศใดมีดอกไม้แบ่งบานก็จะเปิดประตูทิศนั้นชมบรรยากาศ

ได้ยินว่าจักรพรรดิหมิงเจาผู้ก่อตั้งแคว้นต้าจิ้นไม่ได้แต่งตั้งฮองเฮาเพราะสตรีที่พระองค์หลงรักอาศัยอยู่ที่วัดชิงหมิงไม่ยอมแต่งงานกับพระองค์ จักรพรรดิหมิงเจาเคยสัญญาไว้ว่าหากสตรีที่ตนรักยอมแต่งงานกับตน พระองค์จะมอบตำแหน่งฮองเฮาให้ ดังนั้นกุ้ยเฟยข้างกายของจักรพรรดิหมิงเจาต้องรอจนเสียชีวิตถึงได้รับการแต่งตั้งเป็นฮองเฮา

เพื่อเอาใจสตรีที่ตนรัก จักรพรรดิหมิงเจาปลูกดอกไม้ซึ่งไม่เหมือนกันทั้งสี่ฤดูไว้รอบสี่ทิศของวัดชิงอันเพื่อให้สตรีที่ตนรักได้เห็นดอกไม้แบ่งบานตลอดทั้งปี ไม่ว่าจะเป็นฤดูใดก็ตาม

เยว่สือถือดาบยืนอยู่ด้านหลังเซียวหรงเหยี่ยน ทันใดนั้นใบหูของเขากระตุกเล็กน้อย เขาหันไปมองด้านในวัดชิงอัน

เซียวหรงเหยี่ยนวางหมากลงบนกระดาน จากนั้นลุกขึ้นยืนปัดกลีบดอกกุ้ยฮวาออกจากเครื่องแต่งกาย หันไปมองทางวัดชิงอันยิ้มๆ

ไป๋ชิงเหยียนซึ่งเปลี่ยนเครื่องแต่งกายใหม่เดินออกมาจากด้านใน เซียวหรงเหยี่ยนโค้งคำนับ “คุณหนูใหญ่ไป๋…”

ไป๋ชิงเหยียนกวาดสายตามองไปทางโต๊ะหิน น้ำเสียงอ่อนโยน “เซียวเซียนเซิงดูเพลิดเพลินดีนะเจ้าคะ”

“เหยี่ยนทราบดีว่าคุณหนูใหญ่เพิ่งกลับมาจากสงครามที่เป่ยเจียง ย่อมมีเรื่องต้องสนทนากับองค์หญิงใหญ่นานหน่อย ทว่า เหยี่ยนก็มีเรื่องต้องสนทนากับคุณหนูใหญ่เช่นเดียวกันจึงได้แต่เล่นหมากล้อมรออยู่ตรงนี้ขอรับ” เซียวหรงเหยี่ยนกล่าวด้วยท่าทีสบายๆ ดวงตาลึกล้ำมองจ้องไปทางไป๋ชิงเหยียน ผายมือเชิญ “เชิญขอรับ!”

ฝั่งตรงข้ามโต๊ะม้าหินมีเบาะรองนั่งลายเมฆมงคลสีทองวางอยู่ บนนั้นมีกลีบดอกกุ้ยฮวาซึ่งตกลงมาจากบนต้นไม้สองสามกลีบ เซียวหรงเหยี่ยนคงเดาได้ว่านางจะต้องออกมา

เยว่สือทำความเคารพไป๋ชิงเหยียน จากนั้นถอยออกไปยืนอยู่ห่างๆ พร้อมกับองครักษ์คนอื่นๆ อย่างรู้งานเพื่อไม่เป็นการรบกวนการสนทนาระหว่างเซียวหรงเหยี่ยนและไป๋ชิงเหยียน

ไป๋ชิงเหยียนนั่งลงที่ฝั่งตรงข้ามเซียวหรงเหยี่ยน เห็นชายหนุ่มหยิบผ้าเช็ดหน้าออกมาจับหูกาน้ำชา รินน้ำชาให้แก่นาง

“ไม่ทราบว่าเซียวเซียนเซิงมีเรื่องอันใดหรือเจ้าคะ” ไป๋ชิงเหยียนเอ่ยถาม

เซียวหรงเหยี่ยนก้มหน้าวางกาน้ำชาลงบนเตาผิงตามเดิม จากนั้นหันไปมองไป๋ชิงเหยียน “คุณหนูใหญ่ไป๋โปรดระวังเหลียงอ๋องให้ดีนะขอรับ!”

ไป๋ชิงเหยียนบีบมือที่วางไว้บนหน้าตักแน่น จู่ๆ ก็นึกถึงเรื่องที่ขันทีผู้นั่นเล่าขึ้นมาได้ เขากล่าวว่าเหลียงอ๋องเรียกชายชุดดำที่ลอบพบว่าท่านอ๋อง

ไป๋ชิงเหยียนเข้าใจเรื่องราวทั้งหมดทันที หญิงสาวยกยิ้มมุมปากเล็กน้อยโดยไม่รู้ตัว “เหลียงอ๋องต้องการร่วมมือกับเซียวเซียนเซิงอย่างนั้นหรือเจ้าคะ”

เซียวหรงเหยี่ยนประหลาดใจ ทว่า ไม่ได้คิดปิดบัง พยักหน้าเล็กน้อย “กล่าวให้ถูกต้องคือต้องการร่วมมือกับอ๋องเก้าแห่งแคว้นต้าเยี่ยน”

“เซียวเซียนเซิงต้องการจะสื่อว่าท่านอ๋องเก้าแห่งต้าเยี่ยนร่วมมือกับเหลียงอ๋อง ส่วนในสายตาของเหลียงอ๋อง ท่านยังเป็นเพียงพ่อค้าเซียวหรงเหยี่ยนจากแคว้นเว่ยอย่างนั้นหรือเจ้าคะ”

หากเซียวหรงเหยี่ยนไม่ได้ไปพบเหลียงอ๋องด้วยใบหน้าที่แท้จริง อีกทั้งบอกความจริงเรื่องนี้แก่นางก็แสดงว่าชายหนุ่มไม่ได้ต้องการร่วมมือกับเหลียงอ๋องอย่างจริงใจ เพียงแค่ต้องการหลอกใช้เหลียงอ๋องฝ่ายเดียวเท่านั้น หรือไม่ก็ไม่ได้ต้องการร่วมมือกับเหลียงอ๋องตั้งแต่แรก

ไป๋ชิงเหยียนเป็นคนฉลาด ไม่ว่าเซียวหรงเหยี่ยนจะกล่าวสิ่งใดออกมา นางฟังเพียงนิดเดียวก็เข้าใจทะลุปรุโปร่ง