บทที่ 605 กลุ่มกิเลน
บทที่ 605 กลุ่มกิเลน
นั่นมันวิชารวมร่าง ! ใครจะไปคิดว่าแม่ทัพทั้ง 2 คนจะรู้วิชารวมร่าง ! และทันทีที่แม่ทัพกลุ่มเสือขาวและเต่าดำรวมร่างเสร็จ ร่างกายของเขาก็ยืดขยายกลายเป็นสัตว์ประหลาดตัวหนึ่ง !
สัตว์ประหลาดนั่นมีหัวเป็นเสือ มีใบหน้าน่าเกรงขาม กับอีก 4 ขาที่แข็งแกร่งราวกับขาเสือ ส่วนด้านหลังก็มีปีกคู่หนึ่งปีกออกมา ทำให้ดูแล้วทรงพลังยิ่ง ! และไม่ใช่แค่นั้น เพราะหางยาว ๆ ของมันยังมีลักษณะคล้ายโซ่เหล็กเส้นหนึ่ง กับแผ่นหลังที่ไม่ใช่หลังเสือ แต่เป็นกระดองเต่าที่ครอบเอาไว้ทั้งหลัง !!!
ซึ่งไอ้เจ้ากระดองเต่าขนาดใหญ่ที่ว่า มันก็สามารถป้องกันร่างกายได้หมดทั้งตัว ทำให้แบ่งเป็นเสือขาวที่ทำหน้าที่โจมตีศัตรู ส่วนเต่าดำทำหน้าที่ตั้งรับ !
ที่พวกเขาสามารถกลายร่างเช่นนี้ได้ ไม่ใช่เพราะพลังลมปราณของแม่ทัพเสือขาวและเต่าดำแต่อย่างใด แต่มันคือป้ายอาญาสิทธิ์แม่ทัพที่ทั้งสองถือไว้ต่างหาก ! ซึ่งไอ้เจ้าป้ายอาญาสิทธิ์นี้เอง ที่ทำให้ทั้งสองกลายร่างได้ !
หลังจากกลายร่างแล้ว พลังของพวกเขาก็พลันเพิ่มขึ้นสูงมาก และด้วยแบบนี้เอง ที่ทำให้แม่ทัพทั้งหลายมีอำนาจสั่งการลูกน้อง !!
เมื่อแม่ทัพทั้งสองรวมร่างกัน แม่ทัพกลุ่มหงส์เพลิงก็สีหน้าเปลี่ยนไปทันที ด้วยเขาสามารถสัมผัสได้ถึงพลังงานน่ากลัวที่แผ่ออกมาจะร่างสัตว์ประหลาดตรงหน้า ชนิดที่ว่าต่อให้เป็นตัวเองก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ !
ถ้าตอนนี้แม่ทัพมังกรเขียวอยู่ที่นี่ เขาก็คงพอจะมันใจมากกว่านี้ว่าจะสามารถต่อกรได้ !!! อย่างไรก็ตาม มาตอนนี้ก็มีเพียงตัวเองเท่านั้นที่อยู่ ดังนั้นเขาจึงได้แต่มองสัตว์ประหลาดตรงหน้าด้วยใบหน้าเคร่งเครียด เพราะอาศัยตัวเองและแม่ทัพนายกองของตัวเองคงจะเป็นไปไม่ได้ที่จะชนะอีกฝ่าย
เมื่อคิดแบบนี้ เขาก็ตั้งท่าจะถอยไปตั้งหลัก ทำให้ฉู่เหินที่เห็นขมวดคิ้วแน่นอย่างเคร่งเครียดเช่นกัน เพราะเขาสัมผัสได้ถึงอันตรายที่แผ่ออกมาจากตัวของสัตว์ประหลาดนี้
“มีวิชาเสือขาวแต่กลับไม่ฝึกฝนให้ดี กลับไปฝึกวิชานอกรีตเช่นนี้ได้ ! คิดว่าเช่นนี้แข็งแกร่งมากสินะ ที่แท้ก็แค่ความเละเทะที่พวกมันสร้างขึ้นมาเท่านั้น ! ทั้งสองคนนี้จะต้องได้รับผลกระทบที่หนักมากหลังจากนี้ ทำให้ร่างกายของพวกเขาอ่อนแอและกลายเป็นตัวไร้ประโยชน์อย่างสิ้นเชิง” ตอนนี้เองที่สัตว์เซียนเสือขาวที่อยู่ในตัวของฉู่เหินพูดขึ้น !
เมื่อได้ยินดังนั้น ฉู่เหินก็รีบสำรวจเจ้าสัตว์ประหลาดตรงหน้าอย่างละเอียดทันที ! และเมื่อกวาดสายตารอบหนึ่ง เขาก็พบเข้ากับอะไรบางอย่างเข้าจริง ๆ แน่นอนว่าเป็นเสือขาวที่บอกเตือนสติเขาก่อนหน้านี้ ไม่งั้นเขาก็คงดูไม่ออก !
ตอนนี้เมื่อเขาตั้งใจดู ก็จะเห็นส่วนที่เชื่อมต่อของทั้งสอง ที่มีผืนแดงปรากฏอยู่ เพียงแต่สีของมันจางมาก ชนิดที่ว่าถ้าไม่ตั้งใจดูดี ๆ ก็จะมองแทบไม่เห็น !
ที่แท้ผื่นสีแดงนี้เองที่เป็นจุดอ่อนใหญ่ที่สุดของสัตว์ประหลาดตนนี้ และตามที่สัตว์เซียนเสือขาวบอก จุดนี้เองที่เป็นจุดที่มีการป้องกันอ่อนแอที่สุด !!
เมื่อคิดถึงตรงนี้ ฉู่เหินก็รีบส่งข้อมูลที่ได้มาให้แม่ทัพหงส์เพลิงรู้ ! อีกทั้งยังบอกตำแหน่งจุดอ่อนของอีกฝ่ายด้วย
กลุ่มหงส์เพลิงนั้นขึ้นชื่อเรื่องการใช้ไฟ อีกทั้งยังเคลื่อนไหวได้รวดเร็วมาก เพียงแค่แม่ทัพหงส์เพลิงกลายร่างเป็นหงส์เพลิง และอาศัยจุดอ่อนขนาดใหญ่ขนาดนี้ เขาย่อมสามารถจัดการอีกฝ่ายได้แน่ !!
เมื่อแม่ทัพหงส์เพลิงได้ยินดังนั้น นัยน์ตาก็เป็นประกาย ! จากนั้นเพียงพริบตาเดียวเขาก็กลายร่างเป็นหงส์เพลิงตัวใหญ่ ส่งเสียงเล็กแหลมคล้ายเสียงนกดังก้องไปทั่วฟ้า !
หงส์เพลิงร่ายระบำจนเกิดเป็นเปลวเพลิงลุกติดตามร่างกาย ดูแล้วคล้ายนกฟีนิกซ์เพลิง ให้ความรู้สึกที่ทั้งน่าเกรงขามและงดงามในเวลาเดียวกัน
จากนั้นทุกคนก็เห็นหงส์เพลิงเคลื่อนที่อย่างรวดเร็ว เพียงพริบตาเดียวก็บินรอบตัวสัตว์ประหลาดหลายรอบ อีกทั้งทุกครั้งที่บินผ่านกระดองเต่าขนาดใหญ่ ก็จะใช้จะงอยปากอันแหลมคมจิกเข้าไปที่ผื่นแดงตรงนั้นอย่างต่อเนื่อง !!!
เช่นนี้ทำให้ผ่านไปสักพัก ตำแหน่งที่เป็นรอยผื่นสีแดงก็จะเข้มชัดเจนยิ่งขึ้น อีกทั้งคล้ายจะมีความรู้สึกว่ามันสามารถพังทลายได้ทุกเมื่อ ซึ่งความรู้สึกนี้มันก็ทำให้แม่ทัพหงส์เพลิงรู้สึกยินดีมาก ทำให้เขามั่นใจว่าที่ฉู่เหินบอกนั้นถูกต้อง
เมื่อเห็นผลลัพธ์เป็นไปด้วยดี เขาก็เริ่มทำการโจมตีสัตว์ประหลาดนี้ทันที ด้วยกรงเล็บและงอยปากที่แข็งราวกับเหล็กกล้า
ทุกครั้งที่โจมตีสัตว์ประหลาด ก็จะได้ยินเสียงร้องด้วยความเจ็บปวดทุกครั้ง ! ทั้งหมดเกิดขึ้นไม่กี่ชั่วลมหายใจ ก่อนที่จะได้ยินเสียงดัง ตู้ม !! พร้อมกับร่างกายของสัตว์ประหลาดที่แยกร่างออกจากกัน
จากนั้นก็เห็นเพียงเสือขาวหนึ่งตัวและเต่าดำหนึ่งตัวปรากฏขึ้น ! ซึ่งทั้งสองก็ดูเหมือนจะได้รับบาดเจ็บตามตัวนิดหน่อย ไม่ได้อันตรายอะไรมากนัก ! กลับกัน เมื่อวินาทีที่ร่างกายของพวกเขาแยกออก ฉู่เหินก็รู้สึกหนังตาตัวเองกระตุก ราวกับว่ามันกำลังเกิดเหตุการณ์บางอย่างขึ้น !
“น่าสมเพชจริง ไม่คิดว่าสัตว์เซียนสองตัวจะถูกนกตัวเล็ก ๆ ตัวหนึ่งรังแก เกรงว่าพวกมันคงจะเหลืออดไม่น้อย !” เสือขาวในร่างของฉู่เหินพูดขึ้นอย่างเย็นชาอีกครั้ง ทำให้ชายหนุ่มพูดไม่ออก !
แต่ว่าเรื่องทั้งหมดก็เป็นไปตามที่เสือขาวสัตว์เซียนตัวนี้พูดจริง ๆ เพราะสัตว์เซียน 2 ตัวนี้เข้าโจมตีใส่หงส์เพลิงพร้อม ๆ กันในทันที ทำให้หงส์เพลิงได้แต่บินหลบไปมา คล้ายจะไม่สามารถตอบโต้ได้เลย ! ส่งผลให้ฉู่เหินที่เห็นดังนั้นร้อนใจขึ้นมา
เขาอยากจะเข้าไปช่วย แต่เขาไม่รู้ว่าความสามารถของตัวเองจะมีประโยชน์หรือไม่ ? และด้วยความจนใจ เขาจึงเดินวนไปวนมาอย่างกระวนกระวายเช่นนี้ ก่อนที่ในตอนนี้เอง ที่ทั่วทั้งท้องฟ้าจะสั่นสะเทือน จากนั้นก็ได้ยินเสียงเยือกเย็นของสัตว์ดังขึ้น !
สนามรบชิงคงนั้นนอกจากกลุ่มเสือขาว เต่าดำ หงส์เพลิงและมังกรเขียวแล้ว ยังมีอีกกลุ่มคือกลุ่มกิเลน ว่าแต่กลุ่มกิเลนเป็นใคร ? อยู่ที่ไหน ! ไม่เพียงแค่ฉู่เหินที่ไม่รู้ เพราะทุกคนเองก็สงสัยเช่นกัน !
ในตอนที่พวกเขากำลังทำหน้าสงสัยอยู่นั้นเอง จู่ ๆ บนท้องฟ้าก็มีแสงสว่างวาบขึ้นไปทั่วทั้งบริเวณ ทำให้ชั่วพริบตานั้นทุกคนที่อยู่รอบ ๆ ถูกแสงสว่างหุ้มเอาไว้ทั้งหมด
และทันทีที่โดนแสงนั่น ฉู่เหินก็รู้สึกราวกับว่าตัวเองเบาสบายเหมือนมีปีกบินได้ !!!
ซึ่งก็ไม่ใช่แค่นั้น เพราะจู่ ๆ พลังขั้นจอมปราชญ์ระดับสูงของเขาก็ทะลวงขึ้นไปในพริบตา ! ถ้าไม่ใช่ว่าเขาควบคุมเอาไว้อย่างเอาเป็นตาย เกรงว่าตอนนี้คงจะทะลวงเป็นขั้นเซียนระดับสูงสุดไปแล้ว !
แต่แม้ว่าพลังวรยุทธ์จะถูกกดเอาไว้ได้ ทว่ากล้ามเนื้อของเขากลับไม่สามารถควบคุมได้เนี่ยสิ ! ทำให้ตอนนี้กล้ามเนื้อของเขาน่าจะทะลวงขั้นเทพดาราไปแล้ว
อีกทั้งหลังจากทะลวงขั้นเซียนไป ชายหนุ่มก็ไม่ได้หยุดแค่นั้น กลับพัฒนาต่อไปอย่างรวดเร็ว จนกระทั่งถึงที่ระดับสูงสุดถึงได้หยุดลง !
ก่อนที่ในเวลาเดียวกันนั้นเอง เขาจะสัมผัสได้ว่าจุดตันเถียนของตัวเองมีพลังมหาศาลที่น่าสงสัยรวบรวมอยู่ในนั้น ทำให้เชื่อว่าขอแค่เพียงตัวเองฝึกฝนพลังต่อไป ก็น่ากลัวว่าพลังวรยุทธ์ตัวเองคงจะทะลวงขั้นเซียนระดับสูงสุดได้เลย !
แต่ฉู่เหินไม่ได้ทำแบบนี้ เพราะถ้าเขาทะลวงขั้นเร็วเกินไปจะส่งผลกระทบกับแก่นพลังตัวเองได้ ! ยิ่งไปกว่านั้นพลังที่ไม่รู้ที่มาที่ไปเช่นนี้ มันก็ทำให้เขารู้สึกไม่ไว้ใจ ดังนั้นจึงไม่กล้าที่จะทำต่อ แต่หลังจากรับพลังมากแล้ว ในสมองของเขาก็ได้รับข้อมูลอย่างหนึ่งมาด้วย !!
เมื่อเขาตรวจสอบดู ชายหนุ่มก็เข้าใจในที่สุด ว่าที่สนามรบชิงคงนั้นเพียงคุณมีทหารเกิน 1 ล้านคนที่ยอมสวามิภักดิ์ให้ งั้นแล้วมันก็จะเกิดเป็นอีกกลุ่มขึ้นมา ! ทำให้ผู้เป็นหัวหน้ากลายเป็นแม่ทัพคนแรกของกลุ่ม ! ซึ่งก็คือป้ายอาญาสิทธิ์ที่มาอยู่ข้างกายของเขาในตอนนี้นี่เอง !
แม้ว่าจะมีสักวันที่เขาต้องจากที่นี่ไป แต่ป้ายอาญาสิทธิ์กิเลนนี้ก็จะตามเขาไปด้วย ! และเพียงแค่มีป้ายนี้ เขาก็จะสามารถกลายร่างเป็นกิเลนได้
เมื่อมีข้อดีมากขนาดนี้ มันก็ทำให้นัยน์ของฉู่เหินสั่นระริกอย่างตื่นเต้นยินดี ด้วยคิดไม่ถึงว่าตัวเขาจะได้รับโชคโดยไม่ได้ตั้งใจแบบนี้ !