ตอนที่ 486

My Disciples Are All Villains

ตอนที่ 486 ผู้อาวุโสจี

ติดตามแฟนเพจอัพเดทข่าวสารอ่านนิยายก่อนใคร

D Translate นิยายแปลไทย RIN

ท่วงทํานองอันไพเราะทําให้ค่ําคืนที่เงียบเหงานี้ถูกเติมเต็ม เสียงที่เต็มไปด้วยความรื่นรมย์ช่วยทําให้ผู้ที่ได้ฟังรู้สึกผ่อนคลาย แม้ว่าเสียงที่ได้ฟังสามารถทําให้สัตว์ร้ายเคลื่อนไหวตามความประสงค์ได้ แต่ด้วยความไพเราะที่มีทําให้ผู้ที่ได้ฟังไม่รู้สึกถึงความอันตราย

สัตว์ร้ายทั้งหลายค่อยๆ คืบคลายเข้ามาใกล้

ลูโจวยกเท้าขึ้นมาเล็กน้อยก่อนจะกระทืบลงบนพื้น

แผ่นดินที่ถูกกระทืบสั่นสะเทือน!

ในตอนนั้นเองเกิดประกายแสงระยิบระยับไปทั่ว

สัตว์ร้ายที่เห็นแบบนั้นรีบวิ่งหนีไปในทันที

“เจ้าส่งฮั่วจงหยางไปที่แท่นบูชาสวรรค์ก็เพื่อใช้สาวน้อยคนนั้นทําลายเมืองมณฑลจิงอย่างงั้นสินะ?” ลูโจวถามออกมา

“เอ่อ…” ยู่เฉิงไห้รู้ดีว่าเรื่องทั้งหมดไม่ใช่เรื่องที่น่าอวดอ้าง เจ้าสํานักอย่างเขาคิดจะใช้เด็กสาวไร้เดียงสาเพื่อหาประโยชน์ส่วนตัว แต่ในฐานะที่เป็นเจ้าสํานักผู้ยิ่งใหญ่ ตัวเขาไม่คิดจะวิตกกังวลกับเรื่องเล็กน้อยแบบนั้น ในฐานะที่เป็นผู้นํายู่เฉิงไห่จะต้องใช้เบี้ยทั้งหมดที่มีในการเอาชนะศัตรู “ถูกต้อง” ยู่เฉิงไห้ตอบ

“ข้าอยากจะรู้ตัวตนที่แท้จริงของนาง” สู่โจวกล่าวออกมา

ยู่เฉิงไห้รู้สึกผิดเล็กน้อยเมื่อคิดถึงสาวน้อยที่บอกให้ตัวเขาไม่ยอมแพ้ จนถึงตอนนี้ยู่เฉิงไห่เคยผ่านเรื่องเลวร้ายมานับครั้งไม่ถ้วน ตัวเขาต้องใช้ความอดทนต่อความยากลําบากทั้งหมดจนเติบใหญ่ขึ้นมาได้ ชาวอู่เฉียนที่อพยพต้องถูกเข่นฆ่า พี่น้องที่เหลืออยู่ของเขาก็ถูกฆ่าตายต่อหน้ายู่เฉิงไห้ไม่มีพลังที่จะเปลี่ยนแปลงอะไรได้ ตัวเขาถูกขายให้กับชาวลั่วหลาน ถูกขายในฐานะทาสผู้ใช้แรงงาน ตัวเขาที่เป็นทาสถูกปฏิบัติราวกับของเล่น ยู่เฉิงไห่ที่ถูกทรมานอย่างหนักเสียเลือดจนตายการไม่ยอมแพ้เป็นสิ่งเดียวที่ทําให้ยู่เฉิงไห่มีวันนี้แล้วตัวเขาจะใช้งานสาวน้อยคนนั้นต่อได้ยังไง? ไม่ มีทางเลยที่ยู่เฉิงไห่จะไม่รู้สึกเสียใจ “หกเดือนเวลาหกเดือนเท่านั้นที่ข้าต้องการ”

“เจ้าไม่พอใจอาจารย์ของเจ้าที่พยายามใช้เจ้าเพื่อฝึกฝนตัวเองจนมีพลังอว ตารดอกบัวเก้ากลีบอย่างงั้นสินะ?” ลูโจวถามออกมาอีกครั้ง

คําถามนี้ทําให้ยู่เฉิงไห่นิ่งเงียบ ตัวเขาเองก็เคยคิดหาคําตอบเรื่องนี้มาแล้ว เรื่องนี้ดูเหมือนจะซับซ้อนเกินไป สิ่งต่างๆ ได้สูญหายไปตามกาลเวลา หลังจากที่ครุ่นคิดอยู่พักหนึ่งยู่เฉิงไร่ก็ตอบกลับมา“ชาวกู่เฉียนสามารถตายได้เพียงสามครั้งเท่านั้น…บอกตามตรงจนถึงตอนนี้ข้าได้ตายไปถึง 2 ครั้งแล้ว” ยู่เฉิงไห่พูดออกมาอย่างสงบ มันเป็นคําพูดที่ฟังดูเหมือนไม่ได้สําคัญอะไร

สายตาของลูโจวจับจ้องไปที่ยู่เฉิงไห่ ตัวเขาแทบจะนึกไม่ออกเลยว่าศิษย์คนแรกอย่างยู่เฉิงไห่ถูกจีเทียนเด้รับมาเป็นศิษย์ได้ไง สิ่งที่ลูโจวพอจะจําได้อย่างเลือนรางมีเพียงยู่เฉิงไห่ต้องเผชิญกับความยากลําบากมาโดยตลอด ตัวเขาใช้ความอดทนที่มีอเย่างเหลือล้นเพื่อที่จะทําเป้าหมายให้สําเร็จและเพราะสิ่งนั้นทําให้ลูกศิษย์คนนี้แข็งแกร่งมากขึ้น ลูโจวได้ถามออกมา “ครั้งแรกที่ลั่วหลานอย่างงั้นสินะ?”

ยู่เฉิงไห่พยักหน้า

“ครั้งที่สองเป็นเพราะฝีมือจีเทียนเด่?” ลูโจวพูดถึงชื่อร่างที่ตัวเขาใช้อยู่แทนที่จะเรียกว่า พี่จีหรืออาจารย์ของเจ้าความตายครั้งที่สองของยู่เฉิงไห้เป็นสิ่งที่ลูโจวอยากจะรู้มากที่สุดยู่เฉิงไห่ถูกสีรู่หยาช่วยเหลือหลังจากที่เสียชีวิต นี่คือสิ่งที่ลูโจวได้รู้มาจากบันทึกของสีรู่หยา

“เมื่อต้นเดือนที่สามของปีที่ 154 ของราชวงศ์หย่งชิงในดินแดนหยานอันยิ่งใหญ่ อา จารย์ของข้ากําลังนั่งสมาธิอยู่บนหุบเขาทอง ในตอนนั้นเขาสูญเสียการควบคุมตัวเองไปชั่วขณะอาจารย์ข้าได้พูดอะไรบางอย่างที่ข้าไม่อาจเข้าใจได้ก่อนที่จะฝึกฝนตัวเองเพื่อที่จะไปถึงขั้นที่เก้าในช่วงกลางเดือน ในตอนที่ข้ากําลังประลองกับศิษย์น้องรองที่ทะเลสาบฟินิกซ์บนหุบเขาสวรรค์ในตอนนั้นอาจารย์ของข้าระเบิดความโกรธออกมาและพวกเราทั้งสามคนก็ต่อสู้กัน…การต่อสู้ยาวนานถึงเจ็ดวันเจ็ดคืน พวกเราต่อสู้กันตั้งแต่ทะเลสาบฟินิกซ์จนไปถึงแม่น้ําเมฆาและหุบเขากล้วยไม้สีชาด ในที่สุดอาจารย์ก็เอาชนะพวกเราทั้งคู่ได้” ยู่เฉิงไห่ถอนหายใจไปชั่วครู่ก่อนที่จะพูดต่อ“อาจารย์ของข้ากลับไปที่ศาลาปีศาจลอยฟ้าส่วนศิษย์น้องรองกับข้าพักฟื้นอยู่ที่นั่น ในระหว่าง ที่พวกเราทั้งคู่พักฟื้นพวกเราทะเลาะกันเป็นเวลากว่าสามวันก่อนที่ศิษย์น้องรองจะจากไปเพราะความโกรธ

เมื่อจู่โจวได้ยินเรื่องราวทั้งหมด ในตอนนั้นเองก็มีอะไรบางอย่างกวนใจเขา สิ่งที่ยู่เฉิง ไห่เล่าออกมาไม่มีอยู่ในความทรงจําตามที่ยู่ฉางตงเคยบอกเอาไว้รวมกับข้อมูลที่มี จีเทียนเดําได้ผนึกความทรงจําทั้งหมดในการฝึกฝนตัวเองให้มีพลังอวตารดอกบัวเก้ากลีบในคริสตัลแห่งความทรงจําจีเทียนเด้เห็นอะไรกันแน่ถึงได้ปิดผนึกความทรงจําไว้?

สายตาของอู่โจวจับจ้องไปที่ยู่เฉิงไห่ “การต่อสู้เกิดขึ้นเองอย่างงั้นเหรอ?” มันไม่สมเหตุสมผลเลยที่ทั้งสามคนจะต่อสู้กันอย่างไร้เหตุผล

ยู่เฉิงไห่ส่ายหัว ตัวเขาไม่รู้คําตอบเช่นกัน

เมื่อเห็นยู่เฉิงไห้ไม่ได้ตอบกลับอะไรลูโจวก็ได้พูดต่อ “เพราะแบบนั้นเจ้าก็เลยตายเพราะฝีมือเขาอย่างงั้นสินะ?”

“มันเกี่ยวข้องและไม่เกี่ยวข้อง” ยู่เฉิงไห่ส่ายหัวให้ก่อนที่จะยิ้มออกมาอย่างมีเล่ห์เหลี่ยมลง

“เจ้าหมายความว่าอะไรกัน?”

“มีคนแอบเข้ามาโจมตีข้าในตอนที่ข้าได้รับบาดเจ็บสาหัส แต่นั่นมันไม่สําคัญที่จะพูดถึง” ยู่เฉิงให้พูด

“ใครโจมตีเจ้ากัน?”

ยู่เฉิงไห่ส่ายหัว “ขอบคุณสําหรับความหวังดีผู้อาวุโสสู่ แต่เรื่องนั้นข้าจะต้องจัดการด้วยตัวเอง”

“ก็แล้วแต่เจ้า” ไม่มีประโยชน์ที่จะกดดันให้ยู่เฉิงไห่พูดเรื่องนี้ ลูโจวตัดสินใจปล่อยให้ยู่เฉิงไห่ทําสิ่งที่อยากทํา ตัวเขาก็แค่ต้องการรู้เรื่องราวที่เกิดขึ้นในอดีตอย่างคร่าวๆ เท่านั้น

ยู่เฉิงไห้ได้พูดถึงเรื่องนี้อย่างเรียบง่าย แต่ถึงแบบนั้นลูโจวก็รู้ดีว่ามันเต็มไปด้วยความยากลําบากมากแค่ไหน ยู่เฉิงให้เป็นผู้ที่มีนิสัยไม่ชอบเล่าหรือระบายปัญหาให้กับผู้อื่นได้ฟังยู่เฉิงให้เป็นเช่นนี้มาตั้งแต่เด็ก

ลูโจวรู้สึกประหลาดใจกับการกระทําของยู่เฉิงไห้ในวันนี้ เห็นได้ชัดว่ายู่เฉิงไห่อยากที่ จะครองโลกจริงๆหลังจากที่คิดเรื่องนี้มาสักพักตัวเขาก็เอามือไขว้หลังก่อนที่จะหันกลับไปลูโจวเดินไปที่ชายปาตัวเขาไม่ได้ตอบคําถามอะไรยู่เฉิงไห่

“ผู้อาวุโส” ยู่เฉิงไห่ที่ไม่ได้รับคําตอบงุนงง

“แม้ว่าข้าจะเป็นสหายเก่าของอาจารย์เจ้า แต่ข้าก็ตัดสินใจแทนเขาไม่ได้”

ยู่เฉิงไห่ลุกขึ้น “ถ้าหากเป็นแบบนั้นก็ช่วยส่งต่อข้อความข้าให้กับท่านอาจารย์ด้วย”

ลูโจวหยุดเดิน ตัวเขาพูดด้วยน้ําเสียงล้ําลึกโดยที่ไม่หันหลังกลับมา “รู้จักสถานะของเจ้าด้วย”

ยู่เฉิงไห่ตกตะลึง

ท้ายที่สุดแล้วยู่เฉิงไห่เป็นเพียงแค่ศิษย์ ศิษย์อย่างเขากล้าดียังไงที่ขอให้ผู้ที่อาวุโสกว่าส่งข้อความให้

เมื่อลูโจวเดินมาถึงสถานที่ที่เกิดการต่อสู้ ตัวเขาก็เหลือบมองดวงจันทร์

เสียงท่วงทํานองหยุดลงแล้ว

เฉินเหลียงซูได้ปรากฏตัวจากรูบนกําแพง ท่ามกลางแสงจันทร์เฉินเหลียงซูได้คารวะจู่โจวก่อนที่จะพูดขึ้น “ผู้อาวุโสสู่ ท่านมีพลังที่น่าทึ่งจริงๆ”

ลูโจวเหลือบมองไปที่คนประจบประแจงก่อนจะพูดขึ้น “เฉินเหลียงซู”

เฉินเหลียงซูดีใจมากที่ถูกเรียก “ข้าไม่คิดมาก่อนว่าผู้อาวุโสสู่จะรู้จักข้าข้ารู้สึกเป็นเกียรติจริงๆ” เฉินเหลียงซูพอใจในตัวเอง การที่ตัวเขามีชื่ออยู่บนอันดับสูงสุดของบัญชีขาวไม่ใช่เรื่องที่ไร้ประโยชน์ไปซะทีเดียว ผู้อาวุโสสู่ไม่รู้จักหวางชื่อเจียที่เป็นยอดฝีมือผู้มีพลังอวตารดอกบัวแปดกลีบแต่กลับรู้จักตัวเขาเฉินเหลียงซูที่คิดถึงเรื่องนี้อดไม่ได้ที่จะภาคภูมิใจ

“เจ้าเข้าร่วมกับสํานักเพิ่งไหลอย่างงั้นสินะ?” ลูโจวถามออกมา

“ไม่ ไม่ ไม่ใช่แบบนั้น…” เฉินเหลียงซูโค้งคํานับก่อนจะตอบกลับ “ข้าได้เข้าร่วมกับสํานักแก่นแท้แห่งหยางแล้ว ในตอนนี้ข้ากําลังพาผู้อาวุโสหวางไปส่งยาช่วยชีวิต”

“เจ้าควรจะคิดทบทวนตัวเองถึงสิ่งที่ควรทําและไม่ควรทําให้มากกว่านี้” ลูโจวพูดต่อ

เฉินเหลียงซูที่ได้ฟังแบบนั้นรู้สึกคลุมเครือแต่ทันใดนั้นเองตัวเขาก็พูดออกมา “ผู้อาวุโสจีเองก็พูดแบบนั้น ช่างบังเอิญจริงๆ”

หม?”

“คงจะมีแต่ผู้อาวุโสจีเท่านั้นที่จะเข้าถึงสิ่งที่ท่านคิดได้ ผู้อาวุโส” เฉินเหลียงซูพูดต่อ

ภายใต้แสงจันทร์ในยามค่ําคืนหวางชื่อเจีย, ธิดาหอยสังข์, สีหยาและยั่วจงหยางอยู่ใกล้ๆกับรูบนกําแพง

ลูโจวสังเกตเห็นธิดาหอยสังข์กําลังถือขลุ่ยสั่นอยู่ในมือ ดูเหมือนนางจะชอบขลุ่ยที่ถือมาก

ยู่เฉิงไห่ตามออกมาจากปาเช่นกัน ตัวเขาเดินไปข้างหน้าโดยที่มีดวงจันทร์อยู่ทางด้านหลัง

สายตาของทุกคนจับจ้องไปที่ยอดฝีมือผู้มีพลังอวตารดอกบัวแปดกลีบและยอดฝีมือผู้มีพลังอวตารดอกบัวเก้ากลีบ

ลูโจวไม่ได้หันมองกลับมา “เข้าถึงอย่างงั้นเหรอ?”

“ถูกต้องแล้วผู้อาวุโสสู่เอ๋? ใบหน้าของท่าน…” เฉินเหลียงซูที่เงยหน้าขึ้นมาถึงกับพูดไม่ออก

ภายใต้แสงจันทร์ดูเหมือนใบหน้าของลูโจวจะดูบิดเบี้ยว

สู่โจวยกเลิกการใช้งานการ์ดแปลงกาย

ในตอนนั้นมีแสงสว่างส่องออกมาจากตัวลูโจวชั่วครู่ ก่อนที่ท้ายที่สุดเส้นผมสีดําที่มีและร่างกายอันเพรียวบางก็ได้หายไป ท้ายที่สุดแล้วร่างของผู้เป็นอาจารย์สุดเคร่งขรึมก็ปรากฏขึ้นต่อสายตาทุกคนแทน

“ผะ…”

เฉินเหลียงซูเดินโซเซไปที่ด้านหลัง ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความกลัว “ผะ..ผะ…ผู้อาวุโสจี?”