บทที่ 466 ทะเลาะกันจนเละเป็นข้าวต้ม

ทะลุมิติไปเป็นสาวนาผู้ร่ำรวย

บทที่ 466 ทะเลาะกันจนเละเป็นข้าวต้ม

บทที่ 466 ทะเลาะกันจนเละเป็นข้าวต้ม

หัวหน้าหมู่บ้านเหลียงต้องไว้หน้ากู้ฉวนลู่

กู้เสี่ยวหวานและฉินเย่จือไม่สนใจกู้ซินเถา และเข้าไปในบ้านเก่าของตระกูลกู้ โดยไม่แม้แต่จะชายตามองไปด้านข้าง

ในอดีตสมัยที่พ่อเฒ่ากู้และแม่เฒ่ากู้ต่างก็ใช้เงินมหาศาลเพื่อไปสู่ขอเฉาซื่อมา ดูเหมือนว่าในตอนนั้นตระกูลกู้น่าจะมีเงินอยู่บ้าง แต่หลังจากนั้นก็ว่างเปล่า

กู้เสี่ยวหวานกวาดสายตามองอย่างนิ่งสงบ ทำความคุ้นเคยกับฉากโดยรอบ แล้วยืนอยู่ข้าง ๆ รอให้หัวหน้าหมู่บ้านเหลียงพูด

เมื่อเห็นว่าทุกคนมาถึงแล้ว หัวหน้าหมู่บ้านเหลียงก็วางถ้วยชาลง กระแอมเรียกความสนใจ

จากนั้นเขาก็มองไปที่กู้เสี่ยวหวานและพูดอย่างจริงจังว่า “สาวน้อยเสี่ยวหวาน วันนี้ที่ข้าเรียกพวกเจ้ามา เจ้าคงจะรู้แล้วว่าเป็นเรื่องอะไร”

หัวหน้าหมู่บ้านเหลียงเหลือบมองฉินเย่จือ ซึ่งอยู่ข้างหลังกู้เสี่ยวหวานโดยไม่ได้ตั้งใจ ใบหน้าที่หล่อเหลาของเขาไม่มีการแสดงออก

ในทางกลับกัน กู้ซินเถามองไปที่ฉินเย่จือด้วยใบหน้าหลงใหล นางลังเลที่จะพูด เกรงว่านางคงอยากจะมาคุยกับเขา

หัวหน้าหมู่บ้านเหลียงจะไม่เข้าใจอย่างไร คราวนี้เขาควรจะเข้าใจได้แล้ว

ในใจรู้สึกมีความสุข ดีแล้ว ถ้ากู้ซินเถาผู้นี้มีความคิดเช่นนั้นจริง เขาที่จะเป็นคนกลางก็จะจัดการได้ง่ายขึ้น

มันขึ้นอยู่กับว่ากู้เสี่ยวหวานเต็มใจหรือไม่ ถ้าไม่ ทุกคนก็จะมีความสุข

หัวหน้าหมู่บ้านเหลียงวางแผนที่จะออกจากบ้านเก่าของตระกูลกู้โดยไม่พูดอะไรสักคำ ให้เหลือเพียงเด็กสาวสองคนนี้

“เกิดอะไรขึ้น? ข้าไม่เข้าใจ!” กู้เสี่ยวหวานกล่าวด้วยใบหน้าที่เย็นชาอย่างไม่พอใจ

หัวหน้าหมู่บ้านเหลียงได้ยินว่ากู้เสี่ยวหวานไม่ไว้หน้าเขาเลย และรู้ได้ทันทีว่านางกำลังโกรธ

อย่างไรก็ตาม มันจะเป็นเหมือนเมื่อก่อนไม่ได้แล้วที่เขาชี้ไปที่กู้เสี่ยวหวานแล้วตำหนิ แต่วันนี้มันต่างจากเมื่อก่อน กู้เสี่ยวหวานผู้นี้สำคัญยิ่งกว่ากู้ซินเถาเสียอีก!

หัวหน้าหมู่บ้านเหลียงอับอาย แต่ในขณะที่เขากำลังจะพูด เขาได้ยินกู้ซินเถาพูดเบา ๆ จากด้านข้าง “เสี่ยวหวาน ทำไมเจ้าถึงพูดกับท่านลุงเหลียงเช่นนั้น! เขาเป็นผู้อาวุโสในหมู่บ้านของเราและยังเป็นหัวหน้าหมู่บ้าน เมื่อพบกัน เจ้าจะเพิกเฉยต่อเขาได้อย่างไร เจ้าควรทักทายหัวหน้าหมู่บ้านเหลียงด้วย! ไม่เช่นนั้น คนอื่นจะพูดว่าเจ้าไม่มีคนสั่งสอน…” ประโยคสุดท้ายของกู้ซินเถาจงใจยืดเสียงของนางให้ยาว ให้ดูเหมือนว่ากู้เสี่ยวหวานเป็นคนไร้การศึกษาจริง ๆ

กู้ซินเถาตั้งใจกล่าวสิ่งนี้ และที่นางพูดก็เพราะต้องการให้ฉินเย่จือได้ยิน

กู้เสี่ยวหวานไม่สนใจการยั่วยุของกู้ซินเถาเลย นางถอนหายใจอย่างเย็นชาและเม้มริมฝีปากแน่น “จริงหรือ? ข้าสูญเสียพ่อแม่ตั้งแต่ยังเป็นเด็ก เดิมทีจึงไม่เคยถูกสั่งสอนและมันก็ไม่ใช่ว่าเจ้าเพิ่งจะรู้นี่!”

คำพูดของกู้เสี่ยวหวานนั้นยอดเยี่ยมมาก ราวกับจะหมายความว่า ก็ข้าเป็นเช่นนี้แล้วจะทำไม

อย่างไรก็ตาม การยั่วยุของกู้ซินเถาเป็นเหมือนฝ่ามือที่ตบลงบนก้อนฝ้ายอย่างเงียบ ๆ

กู้เสี่ยวหวานไม่สนใจสิ่งที่กู้ซินเถาพูดเลย

กู้ซินเถาสูญเสียคำพูดและจ้องไปที่กู้เสี่ยวหวานอย่างดุดัน จากนั้นเหลือบไปที่ฉินเย่จืออย่างเศร้าสร้อย

ฉินเย่จือไม่ได้มองนางเลย เขามีใบหน้าเรียบเฉย

กู้ซินเถากัดริมฝีปากแน่น อย่างไรก็ตาม กู้เสี่ยวหวานก็อยู่ที่นี่วันนี้แล้ว วันนี้เราต้องให้หัวหน้าหมู่บ้านเหลียงเป็นผู้นำในการขับไล่กู้เสี่ยวหวานและฉินเย่จือออกไป เมื่อถึงเวลานั้น เมื่อเขาไร้บ้าน ตนเองจึงค่อยโยนฟางช่วยชีวิต*[1] จากนั้นความปรารถนาของนางก็จะเป็นจริง

กู้ซินเถาคิดเรื่องนี้และยิ้มในใจ “เดิมทีเสี่ยวหวานเป็นคนหยาบคายและหยิ่งผยอง น่าแปลกที่ข้าคิดว่าเสี่ยวหวานเป็นคนมีความรู้และมีเหตุผล! กลับกลายเป็นว่าข้าคิดผิด”

หลังจากพูดจบ นางก็ปิดปากและหัวเราะ ใบหน้าเต็มไปด้วยความดูถูกเหยียดหยาม

“เจ้าเห็นถูกแล้ว!” กู้เสี่ยวหวานพูดตามคำพูดของกู้ซินเถา และพูดต่อว่า “ข้าเป็นเช่นนี้มาตลอด!”

หลังจากที่พูดจบ นางก็เหลือบมองกู้ซินเถาอย่างประชดประชัน หลังจากหยุดพักหนึ่ง นางก็พูดในประโยคที่ทำให้กู้ซินเถาแทบจะทนไม่ไหว

“ถึงข้าจะหยาบคาย แต่ข้ากู้เสี่ยวหวานยังคงมีความละอายและเข้าใจศีลธรรม ข้าไม่สามารถทำสิ่งที่ไร้ยางอายเช่นการตามผู้ชายทั้งวันได้ ไม่รู้ว่าท่านพี่ซินเถาที่มีการศึกษาและเฉลียวฉลาดเช่นนี้ถูกใครสั่งสอนมา ถึงได้ทำเรื่องไร้ยางอายเช่นนี้ได้!”

คำพูดของกู้เสี่ยวหวานกระแทกไปที่ใบหน้าของกู้ซินเถาราวกับโดนตบหน้าหลายครั้งติดกัน

มุมปากของกู้เสี่ยวหวานยกยิ้ม แววตาเย้ยหยัน กู้ซินเถาที่กำลังเฝ้าดูอยู่พลันหายใจไม่ออก ทำได้แต่ยืนตกตะลึงอยู่กับที่ จ้องไปที่กู้เสี่ยวหวานด้วยดวงตาที่คุกรุ่นไปด้วยไฟแห่งความโกรธ

กู้เสี่ยวหวานคร้านที่จะสนใจนาง และหันศีรษะไปพูดกับหัวหน้าหมู่บ้านเหลียงซึ่งนั่งอยู่ว่า “หัวหน้าหมู่บ้านเหลียงคงรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นในตอนนี้แล้ว เนื่องจากหัวหน้าหมู่บ้านเหลียงเรียกพวกเรามา เราจึงต้องไว้หน้าท่านด้วย พอดีเลยจะได้ให้ท่านตัดสินให้เด็ดขาด”

“ฉินเย่จือผู้นี้เป็นสมาชิกในครอบครัวข้า กู้ซินเถาผู้นี้ไล่ตามและมายั่วยวนเขาตลอดทั้งวันและต้องการพาฉินเย่จือออกไป ข้าแค่อยากถามว่าเด็กสาวที่ยังไม่ถึงวัยแต่งงานมาทำเรื่องไร้ยางอายเช่นนี้ หากเรื่องนี้มาทำลายชื่อเสียงของหมู่บ้านอู๋ซี เราควรทำอย่างไร?” สิ่งที่กู้เสี่ยวหวานพูด เห็นได้ชัดว่าเป็นเรื่องที่กู้ซินเถาพูดกับหัวหน้าหมู่บ้านเหลียงเมื่อคืนนี้

เมื่อคืนนี้คนที่ไร้ยางอายคือกู้เสี่ยวหวาน แต่วันนี้คนที่ไร้ยางอายคือกู้ซินเถา

เมื่อคืนนี้ เนื่องจากหัวหน้าหมู่บ้านเหลียงยังคงสงสัยในความน่าเชื่อถือในคำพูดของกู้ซินเถา แต่เมื่อได้เห็นสถานการณ์ดังกล่าวในวันนี้ เขาจึงเชื่อมั่นในคำพูดของกู้เสี่ยวหวาน

ใบหน้าของเขามืดมน หากกู้ซินเถาผู้นี้ทำสิ่งที่ชั่วร้ายจริง ๆ เขาก็ต้องบอกกู้ฉวนลู่ว่าอย่าปล่อยให้ลูกสาวของเขาหมกมุ่นกับเรื่องผู้ชายและทำในสิ่งที่ไร้ยางอาย

สายตาของหัวหน้าหมู่บ้านเหลียงมีความไม่พอใจ เมื่อเขากระแอมออกมา กู้ซินเถาก็ตกใจและมองไปรอบ ๆ อย่างรวดเร็วก็เห็นว่าหัวหน้าหมู่บ้านเหลียงจ้องมาที่ตนเอง ดูเหมือนว่าหัวหน้าหมู่บ้านเหลียงจะเชื่อคำพูดของกู้เสี่ยวหวาน

กู้ซินเถากังวลและรีบแก้ตัว “ท่านลุง อย่าเชื่อคำพูดของกู้เสี่ยวหวาน!”

ไม่เชื่อหรือ? กู้ซินเถามองไปที่รูปลักษณ์ที่น่าหลงใหลของฉินเย่จือ มีเพียงคนโง่เท่านั้นมองไม่เห็นสิ่งที่นางคิด!

หรือจะเข้าข้างกู้เสี่ยวหวาน? ไม่ต้องการที่จะทำลายชื่อเสียงของกู้เสี่ยวหวาน? แล้วฉินเย่จือล่ะ จะทำอย่างไร? ยกให้นางไปหรือ? ปล่อยให้นางถูกทำลาย?

หัวหน้าหมู่บ้านเหลียงเริ่มไม่พอใจกู้ซินเถามากขึ้นเรื่อย ๆ เมื่อคืนนี้ นางมาตั้งคำถามถึงการตัดสินใจของเขาที่จะเก็บฉินเย่จือไว้ วันนี้การกระทำของกู้ซินเถาชัดเจนมาก แต่นางก็ยังจะเล่นลิ้น!

*[1] ที่พึ่งสุดท้าย