ตอนที่ 504 เล่นใหญ่ไม่กลัว กลัวไม่ได้เล่นใหญ่

ซื่อจิ่น หวนรักประดับใจ

หัน​หราน​เดิน​ตรง​ออกมา​จาก​พระราชวัง​และ​พบ​อวี​้​จิ​่น​ยืน​รอ​อยู่​ใต้​ต้นไม้​ซึ่ง​ไม่​ไกล​ออก​ไป​นัก

ใน​ฤดูหนาว​ตามปกติ​แล้ว​ต้นไม้​จะ​เปลือยเปล่า​ไร้​ใบ​ ​เหลือ​เพียง​กิ่งก้าน​ ​แต่​เนื่องจาก​หิมะ​ที่​ตกลง​มาป​กค​ลุม​บน​กิ่งก้าน​ของ​มัน​ยัง​ไม่​ละลาย​ ​ต้นไม้​ธรรมดา​ซึ่ง​ค่อนข้าง​น่าเกลียด​ ​มอง​ไป​แล้วจึง​กลายเป็น​ต้นไม้​ที่​งดงาม​น่ามอง​ยิ่งนัก

ชายหนุ่ม​ที่​ยืน​อยู่​ข้างต้น​ไม้​ร่าง​สูงใหญ่​สง่างาม​ ​ดวงตา​แหลมคม​ ​มีเสน่ห์​ดึงดูด​ยิ่งกว่า​ต้นไม้​นั้น​เสียอีก

หัน​หรา​นลัง​เลอ​ยู่​ชั่วครู่​แล้ว​เดิน​ตรง​เข้าไป

“​ท่าน​อ๋อง​ยัง​ไม่​ไป​อีก​หรือ​”

“​รอ​ใต้เท้า​หันไป​ด้วยกัน​”

หัน​หราน​ยกมือ​ขึ้น​ลูบ​จมูก​ของ​ตน

เยี​่​ยน​อ๋อง​กล่าว​วาจา​ได้​ตรงไปตรงมา​เหลือเกิน

ด้วย​ตัวตน​ของ​เขา​ซึ่ง​เป็น​ผู้บัญชาการ​ของ​องครักษ์​จิ​่น​หลิน​ ​บรรดา​ขุนนาง​ขั้นสูง​มากมาย​ล้วน​พากัน​เคารพนับถือ​ ​ไม่มีใคร​อยาก​จะเข้า​มาส​นิท​ชิดเชื้อ​หรือ​เข้าใกล้​ ​โดยเฉพาะอย่างยิ่ง​เข้าใกล้​โดย​เปิดเผย

“​เชิญ​ท่าน​อ๋อง​ก่อน​”

ดวงตา​อัน​งดงาม​ของ​อวี​้​จิ​่น​ปรากฏ​รอยยิ้ม​ขึ้น​ ​“​ใต้เท้า​หัน​ ​จะ​กลับ​ไป​ที่​ศาลา​ว่าการ​หรือไม่​”

หัน​หราน​เงยหน้า​ขึ้น​มองดู​ท้องฟ้า​ตาม​สัญชาตญาณ​ก่อน​จะ​กล่าว​อย่าง​คลุมเครือ​ว่า​ ​“​ต้อง​กลับ​”

ท้องฟ้า​เพิ่งจะ​สว่าง​ขึ้น​ไม่นาน​นี้​ ​จะ​ให้​กลับบ้าน​นั่ง​ดื่ม​ชาคง​ไม่ได้

“​เช่นนั้น​ข้า​ขอ​ติดตาม​ท่าน​ไป​ด้วย​”

หัน​หรา​นรู​้​สึก​งงงวย​ยิ่งนัก

อวี​้​จิ​่น​ได้​อธิบาย​ด้วย​รอยยิ้ม​ว่า​ ​“​เมื่อ​สาม​วันก่อน​เสด็จ​พ่อ​สั่ง​ให้​ข้า​จัดการ​กับ​ชื่อเสียง​ซึ่ง​ถูก​อาชาย​ของ​พระ​ชายา​อ๋อง​ทำให้​เสียหาย​มิใช่​หรือ​ ​ข้า​ต้องการ​สนทนา​กับ​เขา​สักหน่อย​”​

หัน​หราน​เหลือบมอง​ไป​ที่​อวี​้​จิ​่น​ ​ความ​ไม่ไว้ใจ​ปรากฏ​ขึ้น​อย่างลึกซึ้ง

เพียงแค่​สนทนา​เท่านั้น​หรือ​ ​หาก​เป็น​เขา​ล่ะ​ก็​มี​ญาติห่างๆ​ ​ซึ่ง​ทำตัว​เกเร​ไม่เอา​การ​เอางาน​หาเรื่อง​มา​ให้​เช่นนี้​ ​เขา​คงจะ​โมโห​เสีย​จน​แทบ​บีบ​คอ​อีก​ฝ่าย​ตาย​ไป​แล้ว

ไม่ว่า​จะ​คิด​เช่นไร​ก็ตาม​ ​แต่​เมื่อ​หัน​หราน​ถูก​อวี​้​จิ​่​นร​้​อง​ขอ​เช่นนี้​ก็​ไม่​อาจ​ปฏิเสธ​ได้​ ​จึง​รีบ​พยักหน้า

ด้วย​การ​เตรียมการ​ของ​หัน​หราน​ ​ในไม่ช้า​อวี​้​จิ​่​นก​็​ได้​พบ​กับ​อาชาย​โต้ว

บัดนี้​อาชาย​โต้​วท​่า​ทาง​ห่อเหี่ยว​ดุจดั่ง​มะเขือ​เผา​ ​เมื่อ​เขา​เห็น​อวี​้​จิ​่น​ดวงตา​คู่​นั้น​ก็​เป็นประกาย​ ​“​ท่าน​อ๋อง​ ​ในที่สุด​ท่าน​ก็​มาช​่วย​ข้า​แล้ว​!​”

ครั้งสุดท้าย​ที่​เขา​เดินทาง​ไป​ยัง​จวนปั​๋ว​เพื่อ​ขอ​เงิน​จาก​น้องสาว​ ​จึง​ได้​รู้​ว่าน​้​อง​สาว​ของ​ตน​เข้าไป​อาศัย​อยู่​ใน​จวน​เยี​่​ยน​อ๋อง​แล้ว​ ​เขา​วนเวียน​อยู่​ด้านนอก​จวน​อ๋อง​จึง​ได้​รู้​ว่า​ชายหนุ่ม​ที่​ปรากฏ​กาย​อยู่​ตรงหน้า​ตน​ตอนนี้​ก็​คือ​เยี​่​ยน​อ๋อง​ ​หลาน​เขย​ของ​เขา​นั่นเอง

จะ​ว่า​ไป​แล้วก็​ช่าง​น่าเศร้า​เหลือเกิน​ ​จนกระทั่งบัดนี้​เขา​ก็​ยัง​ไม่ลืม​ภาพ​อัน​น่าสะพรึงกลัว​ที่​ตื่นขึ้น​มาก​ลาง​ดึก​แล้ว​ถูก​หลานสาว​ของ​ตน​นำ​กรรไกร​จ่อ​ไป​ที่​ร่างกาย​ส่วนล่าง​ของ​เขา​ ​จน​ทำให้​เขา​ไม่กล้า​แม้แต่​จะเข้า​ไป​ใกล้​ประตู​จวน​เยี​่​ยน​อ๋อง

เนื่องด้วย​เหตุนี้​เอง​เขา​จึง​ไม่มี​เงิน​ใช้​และ​เมื่อมี​คน​นำ​เงิน​มาตรง​หน้า​เขา​จึง​ทำให้​จิตใจ​สั่น​ไหว​…

“​ช่วย​เจ้า​?​”​ ​อวี​้​จิ​่น​ยิ้ม​ขึ้น​อย่าง​เย็นชา

ดูเหมือน​อาชาย​โต้​จะ​รู้สึก​หนาวเย็น​ที่​ลำคอ​จน​หด​คอก​ลับ​ไป

“​เจ้า​ทำ​เรื่อง​ชั่วร้าย​แล้ว​แอบอ้าง​ชื่อ​พระ​ชายา​อ๋อง​ ​เจ้า​ยัง​หวัง​ว่า​ข้า​จะ​ช่วย​เจ้า​อีก​งั้น​หรือ​ ​การ​ที่​ข้า​ไม่​ตัด​เจ้า​โลก​ของ​เจ้า​ทิ้ง​ไป​เสีย​ก็​นับว่า​บุญแล​้ว​”

ใบหน้า​ของ​อาชาย​โต้ว​ซีดเผือด​ลง​ทันใด​ ​เขามอ​งมา​ที่​อวี​้​จิ​่น​ด้วย​สายตา​อัน​ตื่นตระหนก

ตัดทิ้ง​…​เขา​ไม่​อยากได้​ยิน​สอง​คำ​นี้​เลย​!

มือ​ทั้งสอง​ข้าง​ของ​อวี​้​จิ​่น​ประสาน​เข้าด้วยกัน​แล้ว​กุม​เอาไว้​ ​ก่อน​จะ​กล่าว​อย่างใจ​ร้อน​ว่า​ ​“​เอาอย่าง​นี้​ ​หาก​เจ้า​ทำตาม​ที่​ข้า​บอก​ ​ข้า​รับประกัน​ว่า​จะ​รักษา​ชีวิต​เจ้า​เอาไว้​ได้​ ​ไม่เช่นนั้น​…​”

อาชาย​โต้ว​ตกตะลึง​กับ​แววตา​อำมหิต​ของ​อีก​ฝ่าย​ ​เขา​ได้​แต่​พยักหน้า​อย่าง​โง่เง่า

ผ่าน​ไป​ประมาณ​สอง​ชั่วโมง​ยาม​ ​อวี​้​จิ​่​นก​็​เดินทางออก​มาจาก​ศาลา​ว่าการ​ของ​องครักษ์​จิ​่น​หลิน​ ​แล้ว​เดินทาง​ไป​ยัง​ที่เกิดเหตุ

บัดนี้​หิมะ​ตกลง​มา​อีกแล้ว​ ​คราบเลือด​สีแดง​เข้ม​บน​ทาง​ที่​ปู​ไป​ด้วย​หิน​ถูก​ปกคลุม​ไป​แล้ว​ก่อนหน้า​ ​ราวกับ​มัน​ไม่มี​เรื่อง​ใด​เกิดขึ้น​ที่นั่น​ ​แต่​ผู้คน​ที่​อาศัย​อยู่​ใกล้​ๆ​ ​ยังคง​สนทนา​ถึง​เรื่องราว​ใน​วันนั้น​ยาม​ดื่ม​ชา​และ​รับประทาน​อาหารค่ำ​ ​โดยเฉพาะอย่างยิ่ง​ใน​ฤดูหนาว​ที่​ค่อนข้าง​น่าเบื่อหน่าย​ ​จึง​ทำให้​เรื่อง​นี้​แพร่สะพัด​ออก​ไป​กว้างขวาง

เนื่องจาก​เรื่อง​นี้​เกี่ยวข้อง​กับ​ราชวงศ์​ ​จึง​ทำให้​น่า​ติดตาม​เอา​เสีย​จริง​…

ตลอดทาง​ที่​อวี​้​จิ​่น​เดิน​มา​ ​เขา​ได้​ฟัง​เรื่อง​ซุบซิบนินทา​เหล่านี้​มากมาย

“​ข้าว​่า​แม่นาง​หลี​่​เสียชีวิต​เปล่าๆ​ ​อย่างแน่นอน​ ​ชิชะ​ ​คน​ผู้​นั้น​เป็น​ญาติ​ของ​พระ​ชายา​เยี​่​ยน​อ๋อง​เชียว​ ​เขา​มี​คน​คุ้มกัน​อยู่​”

“​เขา​ถูก​ผู้บัญชาการ​ของ​หน่วย​องครักษ์​จิ​่น​หลิน​จับตัว​ไป​แล้ว​ไม่ใช่​หรือ​ ​หน่วย​องครักษ์​จิ​่น​หลิน​นั้น​ไม่มี​ความเห็นอกเห็นใจ​ผู้ใด​ไม่ใช่​หรือ​”

“​ก็​ต้อง​ดู​ว่า​เป็น​ผู้ใด​ ​กับ​พวกเรา​นั้น​แน่นอน​ว่า​จะ​ไม่​แสดง​ความเมตตา​ด้วย​ ​แต่​กับ​ญาติ​ของ​พระ​ชายา​เยี​่​ยน​อ๋อง​จะ​ไม่​ผ่อนปรน​เลย​หรือ​ ​เจ้าหน้าที่​มัก​ปกป้อง​กัน​ ​คอย​ดูเถิด​ท้ายที่สุด​แล้ว​เรื่อง​นี้​ก็​จะ​ถูก​ปล่อยไป​เงียบๆ​ ​ถึงอย่างไร​เสีย​พวกเรา​ก็​มองไม่เห็น​อยู่​แล้ว​”

“​น่าสงสาร​หลี​่​ต้า​หลัง​เหลือเกิน​ ​เขา​เพิ่ง​กลับมา​ใน​วันนี้​และ​ได้ยิน​ว่า​ภรรยา​ของ​เขา​ตาย​ไป​แล้วก็​ได้​อาเจียน​เป็น​เลือด​เสีย​หมดสติ​ไป​ ​เมื่อ​ตื่นขึ้น​มา​อีกครั้ง​ก็​พยายาม​ดิ้นรน​ร้องขอ​ความยุติธรรม​ ​กว่า​จะ​สงบ​ลง​ได้​ผู้คน​ต่าง​พากัน​หว่านล้อม​ปลอบโยน​…​”

“​อ้อ​จริง​สิ​ ​น้องชาย​ของ​แม่นาง​หลี​่​ถูก​พาตัว​ไป​ด้วย​ไม่ใช่​หรือ​ ​พวกเขา​ตั้งใจ​จะ​ทำ​เช่นไร​กับ​เด็ก​คน​นั้น​”

“​ผู้ใด​จะ​รู้​เล่า​ ​แต่​ถึงอย่างไร​ตระกูล​หลี​่​ก็​เหมือน​ถูก​ทำลาย​ลง​สิ้น​แล้ว​ ​น่าสมเพช​เหลือเกิน​…​”

เมื่อ​อวี​้​จิ​่น​ได้ยิน​เรื่องเล่า​เหล่านี้​กับ​หู​ตนเอง​ ​สีหน้า​ของ​เขา​ก็​ยิ่ง​มืดมน​ลง

ต่อให้​เขา​ไม่ได้​ให้​คำมั่นสัญญา​ต่อหน้า​เสด็จ​พ่อ​เอาไว้​ ​แต่​เขา​ก็​จะ​ปล่อย​เรื่อง​นี้​ต่อไป​ไม่ได้

เขา​เป็น​เพียง​อ๋อง​ในนาม​ ​ไม่ได้​มีชื่อเสียง​ที่​จำเป็นต้อง​ใส่ใจ​ ​แต่​อา​ซื่อ​ไม่ใช่​ ​ใน​โลก​นี้​โหดร้าย​กับ​สตรี​มาก​นัก

อวี​้​จิ​่น​หยุด​ยืน​อยู่​ตรง​มุม​ของ​กำแพง​ ​หลง​ต้าน​เดิน​ตรง​เข้ามา​ทันที​ ​“​ท่าน​อ๋อง​เริ่ม​เลย​ดี​หรือไม่​ขอรับ​”

“​อืม​”

หลง​ต้าน​โบกมือ​ของ​เขา​ ​จากนั้น​ก็​มี​คน​กลุ่ม​หนึ่ง​เข้าแถว​กลาง​ถนน​ ​ใน​มือ​มีทั​้ง​ฆ้อง​และ​กลอง​ตีเสียง​ดังสนั่น​หวั่นไหว

เหล่า​ผู้คน​ที่​รู้สึก​เบื่อหน่าย​ไม่มี​สิ่งใด​ทำ​พากัน​โผล่​ศีรษะ​ออกมา​จาก​ทั่ว​ทิศ​ ​พวก​ที่​มีประสบการณ์​ยัง​หนีบ​เก้าอี้พับ​ออกมา​ด้วย

คน​กลุ่ม​นั้น​ตี​กลอง​ตี​ฆ้อง​ใหญ่​อย่าง​สุดกำลัง​ ​ผู้คน​ภายใน​บริเวณ​นั้น​ต่าง​พากั​นอ​อก​มามุ​งดู​มากขึ้น​เรื่อยๆ​

“​เกิดเรื่อง​ใด​ขึ้น​หรือ​”​ ​ผู้​ที่​เดินทาง​มาที​หลัง​เอ่ย​ถาม​ขึ้น​อย่างกระตือรือร้น​แล้ว​เขย่ง​เท้า​มอง

“​ยัง​ไม่รู้​เลย​”​ ​เมื่อ​ถูก​ถาม​เช่นนั้น​ก็​ตบ​ไป​ที่​บ่า​คน​ด้านหน้า​ ​“​พี่น้อง​ ​ด้านใน​เกิดเรื่อง​ใด​ขึ้น​หรือ​”

คนที​่​อยู่​ด้านหน้า​ตอบกลับ​มา​ว่า​ ​“​บัดนี้​ยัง​ตี​กลอง​อยู่​ไม่มี​เรื่อง​อื่นใด​”

ทุกคน​ต่าง​ชำเลือง​มอง​มา​อย่างรวดเร็ว​ด้วย​ท่าทาง​ตื่นเต้น​ ​บรรดา​พวก​มีประสบการณ์​พากัน​ซุบซิบนินทา​ว่า​กำลังจะ​เกิดเรื่อง​ใหญ่​ขึ้น​แล้ว​!​

ในที่สุด​เสียง​ฆ้อง​และ​กลอง​ก็​หยุด​ลง​ ​กลุ่มคน​เมื่อ​ครู่​ไม่รู้​ว่านำ​เก้าอี้​มาจาก​ที่ใด​ ​พวกเขา​นำ​มัน​มา​วางซ้อน​กัน​อยู่​ตรงกลาง​ของ​ผู้​ที่​กำลัง​มุง​ดู

เมื่อ​เสียง​ฆ้อง​และ​กลอง​หยุด​ลง​ ​ผู้​ที่​มุง​ดู​อยู่​ด้านนอก​จึง​ไม่เห็น​เหตุการณ์​ด้านใน​ ​ได้​แต่​ยกมือ​ขึ้น​เกา​ศีรษะ​อย่าง​กังวลใจ​และ​ยังคง​เอ่ย​ถาม​คน​ด้านหน้า​ไม่​หยุด​ว่า​ ​“​อะไร​กัน​ ​เกิดเรื่อง​อะไร​ขึ้น​”

“​พวกเขา​นำ​เก้าอี้​ขึ้น​มาซ​้อ​นกัน​เรื่อยๆ​ ​ดูเหมือน​กำลัง​สร้าง​บันได​สูง​”

“​พวกเขา​ใช้​เก้าอี้​ก่อสร้าง​เป็น​บันได​สูง​หรือ​ ​พวกเขา​จะ​แสดง​กายกรรม​หรือ​อย่างไร​”

ในไม่ช้า​ผู้คน​ที่อยู่​วงนอก​ก็​หยุด​ถาม​ ​เนื่องจาก​เก้าอี้​ที่อยู่​ตรงกลาง​ซ้อน​กัน​สูง​ขึ้น​เรื่อยๆ​ ​ชั่วพริบตา​เดียว​มัน​สูง​ถึง​ยี่สิบ​จั้ง​ ​ซึ่ง​เพียงพอ​ที่​ผู้คน​ด้านนอก​จะ​เงยหน้า​ขึ้น​มองเห็น

มี​ชาย​ร่าง​ผอม​คน​หนึ่ง​ยืน​อยู่​บน​เก้าอี้​นั้น​ ​และ​คน​ด้าน​ข้าง​โยน​เก้าอี้​ขึ้นไป​ ​เขา​รับ​มัน​เอาไว้​แล้ว​วาง​เก้าอี้​อย่างระมัดระวัง​ ​ก่อน​จะ​กระโดด​ขึ้นไป​บน​เก้าอี้​ที่อยู่​สูง

ฝูงชน​พากัน​ปรบมือ​แล้ว​เอ่ย​ชม​ว่า​ ​“​ยอดเยี่ยม​!​”

เมื่อ​เห็น​ว่า​บันได​เก้าอี้​นั้น​สูง​ประมาณ​สาม​จั้ง​แล้ว​ ​ทุกคน​ก็​พากัน​เงียบเสียง​ลง

ด้วย​ความสูง​เช่นนี้​หาก​ตกลง​มา​อาจ​เสียชีวิต​ได้​ ​พวกเขา​ควรจะ​อยู่​เงียบๆ​ ​ดีกว่า​ ​เพราะ​เสียงดัง​อาจจะ​ทำให้​คน​ผู้​นั้น​ตกใจ​ได้

แต่​คนที​่​ยืน​อยู่​บน​ที่สูง​กลางอากาศ​นั้น​กลับ​ไม่มี​ท่าที​ประหม่า​เลย

เขา​เป็น​นัก​กายกรรม​ที่​เก่ง​ที่สุด​ใน​เมือง​ ​และ​นี่​คือ​สิ่ง​ที่​เขา​ถนัด​ยิ่ง​ ​ความสูง​เช่นนี้​สำหรับ​เขา​แล้ว​ไม่ได้​น่ากลัว​แต่อย่างใด​ ​หากว่า​เขา​ทำ​ภารกิจ​ใน​วันนี้​สำเร็จ​ ​รางวัล​ที่​ได้รับ​จะ​มาก​พอ​เทียบเท่า​กับ​การ​เล่น​กายกรรม​เป็นเวลา​ถึง​สาม​ปี​เชียว

“​ความสูง​เท่านี้​คง​เพียงพอ​แล้ว​สำหรับ​ผู้​ที่​มอง​อยู่​ด้านนอก​กระมัง​?​”​ ​อวี​้​จิ​่น​เอ่ย​ถาม​ขึ้น​เบา​ๆ​

หลง​ต้าน​ยกมือ​ขึ้น​เช็ดหน้า​ ​“​ข้า​น้อย​คิด​ว่า​ผู้คน​ที่อยู่​นอกเมือง​คง​มองเห็น​ได้​”

กำแพงเมือง​สูง​เพียงแค่​สอง​สาม​จั้ง​เท่านั้นเอง

วิธี​เช่นนี้​คงมี​เพียง​ท่าน​อ๋อง​เท่านั้น​ที่​คิดได้

อวี​้​จิ​่น​เงยหน้า​ขึ้น​ ​มุม​ปากของ​เขา​ปรากฏ​รอยยิ้ม​จางๆ​ ​“​เช่นนั้น​ก็ดี​”

ในเมื่อ​เรื่อง​นี้​ถูก​เผยแพร่​ไป​ทั่ว​แล้ว​ ​ก็​ทำให้​ครึกครื้น​ไป​เลย​ ​ยิ่ง​มาก​ยิ่ง​ดี

ผู้คน​ที่​มุง​ดู​ไม่มีใคร​เบื่อหน่าย​หาก​เรื่อง​จะ​ครึกครื้น​ขึ้น​กว่า​เดิม​ ​แน่นอน​ว่า​เรื่อง​ที่​เขา​สร้าง​ขึ้น​ด้วย​ความสนุก​สนาน​เหล่านี้​เขา​ก็​ไม่รังเกียจ​ถ้า​มัน​จะ​เผยแพร่​ออก​ไป​กว้างไกล​เช่นกัน

นัก​กายกรรม​ยืน​อยู่​บน​เก้าอี้​อย่างมั่นคง​ ​เขามอง​ไปร​อบ​ๆ​ ​แล้ว​ยกมือ​คารวะ​ผู้ชม​

ผู้ชม​ที่​ยืน​ชม​อยู่​นั้น​พากั​นกลั​้น​หายใจ​ ​และ​รอการ​เคลื่อนไหว​ต่อไป​ของ​เขา

นัก​กายกรรม​ยื่นมือ​ออก​ไป​หยิบ​สิ่งของ​บางอย่าง​ออกมา​จาก​กระเป๋าเสื้อ​แล้ว​ขว้าง​ออก​ไป​เต็มแรง​ ​กระดาษ​แถบ​ยาว​โบกสะบัด​ตาม​แรงลม​ ​บน​กระดาษสี​ฟ้า​มีตั​วอั​กษ​รสี​ดำ​เข้ม​อัน​เด่นชัด​

“​ข้างบน​นั้น​เขียน​อะไร​ไว้​”​ ​ผู้​ที่​ไม่รู้​หนังสือ​เอ่ย​ถาม​ขึ้น​อย่าง​อยากรู้อยากเห็น