ตอนที่ 455 เรื่องแต่งงาน

สตรีแกร่งตระกูลไป๋

ตอนที่ 455 เรื่องแต่งงาน

ทั้งสองคนเดินเข้าไปในห้อง ไล่บ่าวรับใช้ออกไปทั้งหมด นั่งลงตรงที่นั่งริมหน้าต่าง สั่งให้สาวใช้ปิดประตูหน้าต่างให้สนิท

ไป๋จิ่นซิ่วหยิบหมอนปักทรงกลมสีทองวางไว้ทางด้านหลังไป๋ชิงเหยียน จากนั้นนั่งลงรายงานรายการซื้อของของจวนเหลียงอ๋อง

“จวนเหลียงอ๋องไม่ได้ซื้อของจำพวกซานหวง ยางสน ซื้อแต่ดินประสิวจำนวนมากเจ้าค่ะ พ่อบ้านที่ข้าส่งไปสืบเรื่องสืบมาได้ว่าเหลียงอ๋องซื้อดินประสิวจำนวนมากเพราะต้องการแกะสลักรูปปั้นน้ำแข็งเอาใจฮ่องเต้เจ้าค่ะ!” ไป๋จิ่นซิ่วเท้าแขนลงบนโต๊ะพลางขยับกายเข้าไปใกล้ไป๋ชิงเหยียนอีกนิด “พี่หญิงใหญ่ข้าสงสัยว่าจวนเหลียงอ๋องมอบหมายให้คุณชายหวังแห่งซอยจิ่วชวีเป็นคนจัดซื้อซานหวงและยางสนเจ้าค่ะ”

“ส่งคนไปสืบแล้วหรือไม่” ไป๋ชิงเหยียนเอ่ยถาม

“ส่งไปแล้วเจ้าค่ะ อีกไม่นานก็คงมีคนมารายงานเจ้าค่ะ” ไป๋จิ่นซิ่วกล่าวจบก็ขมวดคิ้วแน่น “หากเหลียงอ๋องปรุงยาวิเศษให้ฮ่องเต้จริงๆ พี่หญิงใหญ่จะจัดการเช่นไรเจ้าคะ ข้าจะได้เตรียมตัวล่วงหน้า”

“ยังไม่ต้องทำสิ่งใดทั้งสิ้น บัดนี้เหลียงอ๋องกำลังเป็นที่โปรดปราน หากเรื่องถูกเปิดโปงตอนนี้ ต่อให้ฮ่องเต้จะสั่งลงโทษเหลียงอ๋อง ทว่า คงแอบชดเชยให้เขาอยู่ดี ไม่เป็นผลดีต่อเราสักนิด” ไป๋ชิงเหยียนกล่าว

ไม่นานรายการสั่งซื้อของของคุณชายหวังในช่วงหลายเดือนมานี้ถูกส่งมาที่จวนไป๋

ไป๋ชิงเหยียนเห็นไป๋จิ่นซิ่วร้อนจนต้องใช้พัดช่วยจึงสั่งให้บ่าวนำน้ำแข็งเข้ามาในห้อง

ไป๋ชิงเหยียนทนหนาวไม่ได้ ฤดูร้อนเรือนชิงฮุยจึงไม่จำเป็นต้องเตรียมน้ำแข็ง ทว่า หลังจากที่ไป๋จิ่นซิ่วตั้งครรภ์ หญิงสาวขี้ร้อนขึ้นทุกวัน ฤดูร้อนคือช่วงที่ทรมานมากที่สุด ปกติจวนฉินเตรียมน้ำแข็งไว้ไม่เคยขาด

“ไม่ต้องหรอกเจ้าค่ะพี่หญิงใหญ่ ครู่เดียวข้าทนไหวเจ้าค่ะ” ไป๋จิ่นซิ่วกลัวร่างกายของไป๋ชิงเหยียนจะรับไม่ได้ กล่าวขึ้นยิ้มๆ “หากพี่หญิงใหญ่กลัวว่าข้าจะร้อน ให้คนนำบ๊วยเย็นมาให้ข้าทานสักถ้วยเถิดเจ้าค่ะ”

“เจ้าทานไปสองถ้วยแล้ว ตั้งครรภ์ควรควบคุมอาหารให้ดี!” ไป๋ชิงเหยียนกล่าวจบก็หยิบรายการสิ่งของของจวนหวังขึ้นมาดู

สาวใช้นำน้ำแข็งเข้ามาด้านใน วางลงด้านข้างไป๋จิ่นซิ่ว อากาศเย็นสบายขึ้นไม่น้อย

รายการซื้อของของจวนหวังมีซานหวง ทว่า ซื้อในปริมาณปกติ ช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมาซื้อน้อยกว่าปกติเล็กน้อย

เช่นนั้นคุณชายหวังกับพ่อบ้านจวนเหลียงอ๋องไปมาหาสู่กันเพราะเหตุใดกันแน่นะ

ไป๋ชิงเหยียนก้มหน้าใช้ความคิด สาวใช้แหวกม่านเดินเข้ามาในห้อง ทำความเคารพไป๋ชิงเหยียนและไป๋จิ่นซิ่วผ่านฉากกั้นหยกแผ่นบาง “คุณหนูใหญ่ คุณหนูรอง คุณหนูทั้งสามของตระกูลต่งมาเยี่ยมคุณหนูใหญ่เจ้าค่ะ ฮูหยินสองให้บ่าวมาเชิญคุณหนูทั้งสองเจ้าค่ะ”

“ข้ารู้แล้ว” ไป๋ชิงเหยียนรับคำ “ให้คุณหนูสี่ออกไปต้อนรับคุณหนูทั้งสามที่ศาลาริมทะเลสาบก่อน”

“เจ้าค่ะ!”

เมื่อสาวใช้เดินจากไป ไป๋ชิงเหยียนเผากระดาษรายการสิ่งของของจวนหวังทิ้ง จากนั้นเอ่ยกำชับไป๋จิ่นซิ่ว “สืบเรื่องการไปมาหาสู่ระหว่างจวนหวังและพ่อบ้านจวนเหลียงอ๋องอย่างละเอียด หากเจ้าจัดการไม่ได้จงส่งคนไปเรียนให้ท่านย่าทราบ ข้างกายของท่านย่ามีเว่ยจงอยู่ คนผู้นั้นมีความสามารถมาก”

บัดนี้องค์หญิงใหญ่ก็กำลังระวังเหลียงอ๋องอยู่เช่นกัน ท่านย่าต้องสืบเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างจวนหวังกับพ่อบ้านจวนเหลียงอ๋องอย่างเต็มที่แน่นอน

ไป๋ชิงเหยียนเปลี่ยนเครื่องแต่งกาย จากนั้นเดินไปที่ศาลาริมน้ำพร้อมกับไป๋จิ่นซิ่ว เมื่อไปถึง ต่งถิงเจินใบหน้าแดงก่ำ เมื่อเห็นไป๋ชิงเหยียนเดินเข้ามาจึงรีบลุกขึ้นยืนทำความเคารพ “พี่หญิงดูพวกนางสิเจ้าคะ”

ไป๋จิ่นซิ่วใช้ผ้าเช็ดหน้าปิดปากหัวเราะ “ปกติถิงเจินเป็นคนใจเย็นที่สุด วันนี้เป็นเช่นนี้ ต้องเป็นความผิดของผู้อื่นแน่นอน!”

ต่งถิงอวี๋กล่าวออกมายิ้มๆ “เจ้าค่ะๆ เป็นความผิดของน้องเอง ต่อไปพวกเราจะไม่หยอกพี่สาวเรื่องแต่งงานแล้วเจ้าค่ะ”

“แหม! ล้วนเป็นพี่น้องกันทั้งสิ้น กล่าวหยอกเล่นจะเป็นอันใดไป ไป๋จิ่นจื้อยักคิ้วให้ต่งถิงเจิน “ท่านพี่ถิงเจิน ท่านพี่เคยพบหลานชายของท่านราชครูเฉินมาก่อนหรือไม่เจ้าคะ ข้าได้ยินมาว่าหากไม่มีเรื่องทุจริตในการสอบครั้งนี้ เฉินเจาลู่ต้องได้ตำแหน่งจอหงวนแน่เจ้าค่ะ”

ใบหน้าของต่งถิงเจินแดงก่ำ แสดงท่าทางโมโห “หากพวกเจ้ายังเป็นเช่นนี้ ข้าจะไม่สนใจพวกเจ้าแล้วนะ!”

“พวกเจ้านี่จริงๆ เลย เอาเรื่องการแต่งงานของผู้อื่นมาหยอกเล่นเช่นนี้ได้อย่างไรกัน” ไป๋จิ่นซิ่วเอื้อมมือไปลูบศีรษะของไป๋จิ่นจื้อ

“แม่สื่อของราชครูเฉินมาสู่ขอแล้วอย่างนั้นหรือ” ไป๋ชิงเหยียนถามต่งถิงเจินยิ้มๆ

ต่งถิงเจินมีสีหน้าหงุดหงิดเล็กน้อย นั่งลงบนเก้าอี้ด้วยสีหน้าแดงก่ำ พยักหน้า ขยำผ้าเช็ดหน้าพลางกล่าวขึ้น “เช้าวันนี้ถานเหล่าไท่จวินมากล่าวเรื่องนี้กับท่านแม่เจ้าค่ะ ท่านแม่บอกเพียงว่าขอปรึกษากับท่านพ่อก่อน ยังไม่ได้ตอบตกลงเจ้าค่ะ แต่สองคนนี้ดันกล่าวมากความเจ้าค่ะ!”

“ท่านพี่อย่าโกรธสิเจ้าคะ ข้าไม่ได้กล่าวที่อื่นเสียหน่อย ที่นี่มีแต่พี่น้องกันเอง ข้าจึงหยอกเล่นนิดหน่อยเท่านั้น ท่านพี่อย่าโกรธเลยนะเจ้าคะ ต่อไปข้าจะไม่กล่าวเรื่องนี้อีกแล้วเจ้าค่ะ!” ต่งถิงฟางใช้ผ้าเช็ดหน้าปิดปากลอบยิ้ม

“ถานเหล่าไท่จวินแห่งตระกูลราชครูของฝ่าบาทอย่างนั้นหรือ” ไป๋ชิงเหยียนเอ่ยถาม

แม้ราชครูถานซงของจักรพรรดิจะเกษียณแล้ว ทว่า ยังคงเป็นที่ยกย่องนับถือของคนในเมืองหลวง หากราชครูเฉินขอให้ถานเหล่าไท่จวินเป็นแม่สื่อให้แสดงว่าเขาจริงใจต่อการแต่งงานในครั้งนี้

“ข้าได้ยินฉินหล่างกล่าวว่าฉินเจาลู่เป็นสุภาพบุรุษที่น่ายกย่อง อีกทั้งมีความสามารถมาก ตระกูลสูงศักดิ์ในเมืองหลวงต่างอยากเป็นดองกับเขา หากเขาได้ครองคู่กับน้องถิงเจินถือเป็นเรื่องที่น่ายินดี เป็นวาสนาที่ดีมาก”

ต่งถิงเจินขมวดคิ้วแน่นขึ้นกว่าเดิม หญิงสาวขยำผ้าเช็ดหน้าในมือแน่นพลางมองออกไปทางทะเลสาบ รู้สึกไม่ชอบใจเป็นอย่างยิ่ง

“ถิงเจิน เจ้ามีคนในใจแล้วอย่างนั้นหรือ” ไป๋ชิงเหยียนถาม

ต่งถิงเจินตะลึง หยัดแผ่นหลังตรง ดวงตาไหววูบ ก้มหน้าลูบกำไลหยกที่ข้อมือพลางเอ่ยขึ้น “ไม่มีเจ้าค่ะ พี่หญิงใหญ่คิดมากไปแล้วเจ้าค่ะ”

“ถิงเจิน การแต่งงานคือการกำหนดชีวิตที่เหลืออยู่ทั้งหมด ท่านลุงและท่านป้าสะใภ้รักเจ้ามาก พวกเขาไม่มีทางทนเห็นเจ้าทรมานกับชีวิตแต่งงานหรอก หากเจ้ามีคนที่ชอบอยู่แล้วก็ควรบอกให้ท่านทั้งสองทราบ หากเป็นคนที่เหมาะสม พวกท่านไม่มีทางบีบบังคับให้เจ้าแต่งงานกับเฉินเจาลู่เพียงเพราะเขาอาจได้ตำแหน่งจอหงวนหรอก”

ได้ยินไป๋ชิงเหยียนกล่าวชี้แนะด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน ต่งถิงเจินคิดตามอย่างละเอียด จากนั้นเงยหน้ามองไป๋ชิงเหยียน “พี่หญิงใหญ่วางใจเถิดเจ้าค่ะ ข้าแค่รู้สึกใจหายเท่านั้น หากข้ามีคนที่ชอบพอจริงๆ ต้องบอกท่านพ่อท่านแม่แน่นอนเจ้าค่ะ! จริงสิ พี่ฉางหยวนทราบว่าพี่หญิงและน้องหญิงสี่จะได้เลื่อนบรรดาศักดิ์จึงให้พวกเราสามคนนำของขวัญมาแสดงความยินดีเจ้าค่ะ”

ต่งถิงเจินกล่าวเปลี่ยนเรื่อง ยืนกล่องสองใบไปให้ไป๋ชิงเหยียนและไป๋จิ่นจื้อ ด้านในมีตราประทับหินโซ่วซานซึ่งต่งฉางหยวนแกะสลักด้วยตัวเอง

“ว้าว เป็นตราประทับที่สวยมากเจ้าค่ะ! ฝากขอบคุณท่านพี่ฉางหยวนด้วยนะเจ้าคะ” ไป๋จิ่นจื้อลูบไปยังรูปแมวแกะสลักตัวเล็กราวกับมีชีวิตตรงบริเวณหัวของตราประทับ อุทานออกมาอย่างอดไม่ได้ “ฝีมือของคนตระกูลต่งประณีตกันทุกคนเลยนะเจ้าคะ พวกพี่หญิงเป็นเช่นนั้น ท่านพี่ฉางหยวนก็เช่นกัน”

ไป๋ชิงเหยียนลูบไปที่ดอกเหมยบนตราประทับ ประณีตจริงๆ ด้วย

มองดูลายแกะสลักบนตราประทับ ไป๋ชิงเหยียนนึกถึงปิ่นปักผมหยกที่เซียวหรงเหยี่ยนแกะสลักให้นางด้วยตัวเองขึ้นมา ใบหูของนางเริ่มร้อนผ่าว

หญิงสาววางตราประทับลงไปในกล่องตามเดิม