ตอนที่ 454 แตะมือทำสัญญา

สตรีแกร่งตระกูลไป๋

ตอนที่ 454 แตะมือทำสัญญา

ไป๋ชิงเหยียนเม้มปากแน่น ไม่กล่าวสิ่งใดทั้งสิ้น พยายามสะบัดข้อมือของตัวเองออกจากการเกาะกุม ทว่า กลับถูกชายหนุ่มรั้งเอวเข้าไปแนบชิดยิ่งกว่าเดิม ใจของหญิงสาวเต้นแรงขึ้นเรื่อยๆ

“เจ้ามีใจให้ข้า ทว่า เป็นดังที่เจ้ากล่าว พวกเรามีภาระหน้าที่ของตัวเอง หนทางข้างหน้ายากลำบาก และเต็มไปด้วยอันตราย เจ้าไม่กล้าปันใจให้เรื่องอื่น ไม่กล้าเผลอใจให้กับความรักเป็นเรื่องที่สมควรแล้ว ข้าไม่ได้ขอร้องเจ้าให้ตอบรับข้าตอนนี้ แต่หมายถึงวันข้างหน้า”

เซียวหรงเหยียนยืนกรานด้วยท่าทีลึกซึ้ง ยอมถอยเพื่อพัฒนาต่อ มีเจตนาแน่วแน่ว่าต้องการทำสัญญาชีวิตกับนาง

ชายหนุ่มจ้องหญิงสาวนิ่ง ค่อยๆ ก้มหน้าลงต่ำ เอ่ยถามเสียงแหบพร่า “เจ้ากล้าหรือไม่”

ลำคอของไป๋ชิงเหยียนจุกแน่น ไม่อาจเปล่งเสียงออกมาได้

ไป๋ชิงเหยียนไม่ใช่ไม่มีใจให้เซียวหรงเหยี่ยน ชาติที่แล้วนางเคยปะทะฝีมือกับชายหนุ่ม คนของเซียวหรงเหยี่ยนช่วยเหลือนางออกมาจากกองทัพจิ้นในช่วงวินาทีเป็นวินาทีตาย ชายหนุ่มมอบป้ายหยกจักจั่นให้นางหนีเอาตัวรอด

ชาติที่แล้วไป๋ชิงเหยียนซาบซึ้งบุญคุณของเซียวหรงเหยี่ยน นอกจากนี้ยังรู้สึกชื่นชมนับถือชายหนุ่ม นับถือที่เขาสามารถทำให้แคว้นที่ยากจนอย่างต้าเยี่ยนกลายเป็นแคว้นที่ทุกแคว้นต่างหวาดกลัวเช่นเดียวกับจีโฮ่วผู้เป็นมารดาของเขา นับถือที่เขามีปณิธานในการรวบรวมใต้หล้าให้เป็นหนึ่งเช่นเดียวกับตระกูลไป๋ นับถือในสติปัญญาและความสามารถในการวางแผนของเขา

สตรีน้อยคนนักที่จะไม่หวั่นไหวไปกับบุรุษที่แข็งแกร่ง สุขุมและเก่งกาจอย่างเซียวหรงเหยี่ยน

ไป๋ชิงเหยียนได้กลิ่นหอมอ่อนๆ ของดอกมู่หลานจากร่างกายของเซียวหรงเหยี่ยน มือของหญิงสาวที่วาบทาบอยู่บนแผงอกของเซียวหรงเหยี่ยนกุมเสื้อของชายหนุ่มแน่นโดยไม่รู้ตัว นางมอบสบตาสีดำสนิทของเขา เอ่ยขึ้น

“ข้าเคยสาบานต่อหน้าดวงวิญญาณของท่านปู่ว่าจะไม่แต่งงานตลอดชีวิต!”

“ถึงเวลานั้นใต้หล้าสงบสุข ต้าเยี่ยนปราศจากอันตราย ข้ามอบหน้าที่ดูแลบ้านเมืองให้เสด็จพี่”

เซียวหรงเหยี่ยนก้มหน้าต่ำลง ใบหน้าของทั้งสองใกล้กันมากขึ้นเรื่อยๆ ชายหนุ่มลองใช้จมูกสัมผัสกับปลายจมูกของหญิงสาว น้ำเสียงทุ้มกล่าวอย่างแผ่วเบา

“เจ้าไม่แต่งออก เหยี่ยนจะแต่งเข้าตระกูลไป๋เอง”

ตั้งแต่ต้นจนจบ เซียวหรงเหยี่ยนไม่ได้เอ่ยคำว่าแต่งงานออกเรือนเลยสักครั้ง เขากล่าวเพียงว่าทั้งสองคนเป็นสามีภรรยากัน

มือที่ขยำเสื้อของเซียวหรงเหยี่ยนอยู่มีเหงื่อซึมขึ้นทันที ใบหูของหญิงสาวร้อนผ่าว

“หากวันหนึ่งสองแคว้นทำสงครามกัน เจ้าและข้าห้ามออมมือให้อีกฝ่ายเด็ดขาด”

“ไม่ออมมือแน่ขอรับ!” เซียวหรงเหยี่ยนกล่าวอย่างหนักแน่น

หญิงสาวรู้สึกว่ามือที่โอบรอบเอวของนางกระชับแน่นขึ้น เขาเตรียมก้มลงจูบนางอย่างห้ามใจไม่อยู่ ไป๋ชิงเหยียนกลั้นหายใจ ใช้มือยันแผ่นอกของเซียวหรงเหยี่ยน

“แตะมือทำสัญญาของวิญญูชน”

ไป๋ชิงเหยียนอาศัยตอนที่เซียวหรงเหยี่ยนคลายมือออกถอยหลังไปก้าวหนึ่ง จากนั้นยกมือสัมผัสกับมือของเซียวหรงเหยี่ยน

ใบหน้าของเซียวหรงเหยี่ยนเต็มไปด้วยรอยยิ้มที่ยากจะควบคุม ยกมือขึ้นแตะกับมือของไป๋ชิงเหยียนอย่างแผ่วเบา “แตะมือให้สัญญาขอรับ!”

“ไปเถิด…” ไป๋ชิงเหยียนเดินไปด้านหน้า กำมือข้างที่ทำสัญญากับชายหนุ่มแน่น รู้สึกเหมือนไม่ใช่เรื่องจริง

นางไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าวันหนึ่งนางจะทำสัญญาใจกับบุรุษคนหนึ่งเช่นนี้ ยิ่งนึกไม่ถึงเลยว่านางจะมีความรักระหว่างบุรุษและสตรีเช่นนี้

เซียวหรงเหยี่ยนเดินเคียงข้างไปกับไป๋ชิงเหยียน ความเงียบครอบงำคนทั้งคู่ตลอดทาง

“เมื่อเช้าเหยี่ยนได้ข่าวมาว่าท่านหมอหงน่าจะเดินทางมาถึงเมืองหลวงในช่วงค่ำของวันนี้ขอรับ”

น้ำเสียงของเซียวหรงเหยี่ยนนุ่มนวลอ่อนโยนผิดกับท่าทีบีบคั้นจริงจรังเมื่อครู่ลิบลับ

“ท่านหมอหงจงรักภักดีต่อตระกูลไป๋ เขาเป็นห่วงความปลอดภัยของฮูหยินฉิน จึงเร่งเดินทางกลับมาโดยไม่หยุดพักผ่อนขอรับ”

“ท่านหมอหงเห็นพวกข้าเติบโตมาตั้งแต่เล็ก สำหรับเขา พวกข้าเป็นเหมือนหลานสาวแท้ๆ ของเขา”

ไป๋ชิงเหยียนคลายมือที่กำอยู่ออก อารมณ์สงบลงเนื่องจากน้ำเสียงอันอ่อนโยนของเซียวหรงเหยี่ยน

เซียวหรงเหยี่ยนนึกถึงจดหมายที่ต้าเยี่ยนส่งมาก่อนหน้านี้ ในจดหมายรายงานว่านอกจากหมอหงจะไปรักษาอาการป่วยของเสด็จพี่แล้ว เขายังออกตามหาสมุนไพรสำหรับรักษาอาการทนหนาวไม่ได้ของไป๋ชิงเหยียนด้วย

“เซียวเซียนเซิงรู้เรื่องที่ทูตของต้าเว่ยลอบเดินทางมายังแคว้นต้าจิ้นหรือไม่” ไป๋ชิงเหยียนเอ่ยถาม

เดิมทีเซียวหรงเหยี่ยนไม่อยากกล่าวเรื่องนี้กับไป๋ชิงเหยียน เขาไม่อยากให้หญิงสาวคิดว่าความรักที่เขาแสดงออกไปทั้งหมดเป็นเพราะต้องการหลอกสืบข้อมูลจากนาง

ทว่า ในเมื่อไป๋ชิงเหยียนกล่าวขึ้น เขาก็ไม่คิดจะปิดบัง

“ต้าเว่ยไม่เพียงลอบเข้ามาในต้าจิ้นเท่านั้น พวกเขายังไปที่ซีเหลียงและต้าเหลียงด้วย!”

“ข่าวของเซียวเซียนเซิงรวดเร็วเสียจริง…” ไป๋ชิงเหยียนหัวเราะออกมาเบาๆ

“เพราะทูตของต้าเว่ยที่ลอบมาในต้าจิ้น…มากับขบวนสินค้าของข้า” เซียวหรงเหยี่ยนกล่าวอย่างจนใจ

ไป๋ชิงเหยียนเข้าใจในทันที มิน่าเซียวหรงเหยี่ยนถึงรู้ข่าวได้รวดเร็วเพียงนี้ ที่แท้ก็รับรู้จากแหล่งข่าวนี่เอง

“ต้าเหลียงอยู่ห่างไกลจากต้าเยี่ยนมาก มีทั้งทะเล และแคว้นต้าจิ้นขวางกั้น หากเขาต้องการทำสงครามกับต้าเยี่ยน หากไม่เดินทางทางทะเลก็ต้องเดินทางผ่านต้าจิ้น ได้ไม่คุ้มเสีย ต้าเหลียงไม่มีทางร่วมมือกับต้าเว่ยแน่นอน บัดนี้จักรพรรดินีของซีเหลียงเพิ่งปราบปรามความวุ่นวายในแคว้นให้สงบลง ราชสำนักเริ่มมั่นคงขึ้นจากการช่วยเหลือของกองทัพของอวิ๋นพั่วสิง พวกเขาไม่มีทางเสี่ยงบุกโจมตีต้าเยี่ยน ส่วนต้าจิ้น ต้าจิ้นและต้าเว่ยล้วนต้องการหนานเยี่ยน ขอเพียงไม่ขัดผลประโยชน์กันเอง อาจร่วมมือกันได้!”

เซียวหรงเหยี่ยนวิเคราะห์อย่างละเอียด

“ทว่า หากมองระยะยาว ดูจากภูมิศาสตร์ของต้าจิ้น ฝั่งใต้ติดซีเหลียง ด้านเหนือติดต้าเหลียง ตะวันออกคือหรงตี๋ ตะวันตกคือหนานเยี่ยน หากครั้งนี้กำจัดต้าเยี่ยนได้ ภายภาคหน้าหากต้าจิ้นต้องการครอบครองใต้หล้าอาจถูกรุมจากศัตรูทั้งสี่ด้าน ทว่า ฝั่งตะวันตกจะกลายเป็นทางหนีของต้าจิ้นทันที ดังนั้นหากต้าจิ้นต้องการครอบครองใต้หล้าก็ควรจะกำจัดต้าเยี่ยนซึ่งอยู่ฝั่งตะวันตกหรือต้าเหลียงซึ่งอยู่ทางเหนือก่อน!”

เซียวหรงเหยี่ยนรู้ดีว่าคำกล่าวของไป๋ชิงเหยียนตรงประเด็นและมองการไกลมาก

“คุณหนูใหญ่ไป๋มองการไกลมากขอรับ ทว่า ดูเหมือนว่าฮ่องเต้และองค์รัชทายาทจะไม่ทรงเห็นด้วย…”

เซียวหรงเหยี่ยนกล่าวยิ้มๆ

รัชทายาทของต้าจิ้นองค์นี้ทำสิ่งใดโดยดูจากความต้องการของจักรพรรดิต้าจิ้นเป็นหลัก เขาแค่อยากทำให้จักรพรรดิพอพระทัย ส่วนจักรพรรดิของต้าจิ้น…กลัวสงคราม ไม่ใช่จักรพรรดิที่มีใจทะเยอทะยานอยากครอบครองใต้หล้า

“นั่นนะสิ!” น้ำเสียงของไป๋ชิงเหยียนมีความเศร้าใจปนอยู่

“ข้ากล่าวสิ่งที่ควรกล่าวไปหมดแล้ว ต้องรอดูว่าทั้งสองพระองค์จะตัดสินพระทัยเช่นไร”

เซียวหรงเหยี่ยนพยักหน้า เดินไปส่งไป๋ชิงเหยียนที่จวนเจิ้นกั๋วจวิ้นจู่

เขาไม่คิดโทษไป๋ชิงเหยียนแม้แต่น้อย พวกเขาทั้งสองคนไม่ใช่คนแคว้นเดียวกัน ยืนอยู่กันคนละฝั่ง ที่ไป๋ชิงเหยียนไม่ยอมตกลงปลงใจกับเขาเสียทีก็เพราะเป็นกังวลเรื่องนี้

ก่อนที่ทำอย่างจะประสบความสำเร็จ พวกเขาคือศัตรูกัน ไม่ว่าอีกฝ่ายจะสร้างปัญหาเช่นไรล้วนเป็นเรื่องที่สมเหตุสมผล

เมื่อเป้าหมายสำเร็จลุล่วง พวกเขาถึงจะมีเวลาสนใจเรื่องความรัก

เซียวหรงเหยี่ยนส่งไป๋ชิงเหยียนถึงหน้าประตูจวน จากนั้นโค้งกายอำลา แววตามีความอาลัยอาวรณ์เล็กน้อย

มองส่งไป๋ชิงเหยียนเดินเข้าไปในจวน เยว่สือจูงม้าเดินเข้าไปใกล้ เอ่ยถามเสียงเบา

“นายท่าน เหตุใดจึงไม่เข้าไปนั่งพักสักครู่เล่าขอรับ”

วันนี้ทำสัญญาฝากชีวิตกับไป๋ชิงเหยียนสำเร็จแล้ว เซียวหรงเหยี่ยนรู้สึกพอใจมาก เขาจะได้คืบเอาศอกไม่ได้เด็ดขาด

ไป๋จิ่นซิ่วนั่งรอไป๋ชิงเหยียนอยู่ที่เรือนชิงฮุย เมื่อเห็นไป๋ชิงเหยียนเดินเข้ามาจึงลุกขึ้นยืนทักทายยิ้มๆ

“พี่หญิงใหญ่กลับมาแล้วหรือเจ้าคะ”

เมื่อวานไป๋ชิงเหยียนสั่งให้ไป๋จิ่นซิ่วส่งคนไปสืบเรื่องการใช้จ่ายของจวนเหลียงอ๋อง เมื่อได้เรื่องไป๋จิ่นซิ่วจึงรีบมารายงาน

เมื่อได้รับพระราชโองการในวันนี้ พรุ่งนี้ไป๋ชิงเหยียนจะเดินทางกลับซั่วหยาง ฉินหล่างรู้ว่าไป๋จิ่นซิ่วผูกพันกับไป๋ชิงเหยียนจึงเตรียมรถม้าให้ไป๋จิ่นซิ่วไปรับประทานอาหารเย็นที่จวนไป๋ ค่ำๆ เขาจะเดินทางมารับไป๋จิ่นซิ่วที่จวนไป๋ด้วยตัวเอง