ตอนที่ 453 ข้อตกลงของวิญญูชน

สตรีแกร่งตระกูลไป๋

ตอนที่ 453 ข้อตกลงของวิญญูชน

เซียวหรงเหยี่ยนดื่มน้ำหวานดอกกุ้ยฮวาในถ้วยจนหมด “เหยี่ยนมีวาสนาได้ดื่มน้ำหวานฝีมือของพระชายา เป็นเกียรติยิ่งนักพ่ะย่ะค่ะ”

ไป๋ชิงเหยียนหันไปก้มศีรษะให้องค์รัชทายาทเล็กน้อยด้วยรอยยิ้มเช่นเดียวกัน “องค์รัชทายาททรงใส่พระทัยมาก เหยียนซาบซึ้งยิ่งนักเพคะ”

“เกรงใจเกินไปแล้ว เจ้ากับเราเป็นลูกพี่ลูกน้องกัน! เป็นครอบครัวเดียวกัน!” องค์รัชทายาทกล่าวยิ้มๆ

เนื่องจากไม่มีดนตรีบรรเลง ไม่มีสุรา งานเลี้ยงฉลองจึงจบลงอย่างรวดเร็ว

“เดี๋ยวเสด็จพ่อคงให้คนไปประกาศพระราชโองการที่จวนเจิ้นกั๋วจวิ้นจู่ เราไม่รั้งตัวจวิ้นจู่ไว้แล้ว หรงเหยี่ยน…เจ้าช่วยไปส่งจวิ้นจู่แทนเราด้วย” องค์รัชทายาทกล่าวยิ้มๆ

เขารั้งตัวไป๋ชิงเหยียนให้อยู่รับประทานอาหารที่จวนองค์รัชทายาทเพราะอยากเปิดโอกาสให้ไป๋ชิงเหยียนและเซียวหรงเหยี่ยนได้ใกล้ชิดกัน

ฉินซ่างจื้อมองไปทางไป๋ชิงเหยียนแวบหนึ่ง จากนั้นมองไปทางเซียวหรงเหยี่ยน เขาเข้าใจในทันทีว่าเหตุใดองค์รัชทายาทจึงทำเช่นนี้

ทว่า ฉินซ่างจื้อรู้สึกว่าการที่องค์รัชทายาทนำเรื่องการแต่งงานของไป๋ชิงเหยียนซึ่งเป็นเรื่องสำคัญที่สุดในชีวิตของสตรีมาแสวงหาผลประโยชน์จากเซียวหรงเหยี่ยนเป็นเรื่องที่เห็นแก่ตัวเกินไป

ด้วยสติปัญญาของไป๋ชิงเหยียน ฉินซ่างจื้อเชื่อว่าหญิงสาวมองจุดประสงค์ขององค์รัชทายาทออก องค์รัชทายาททำเช่นนี้คงทำให้หญิงสาวผิดหวังไม่น้อย

“เหยียนขอตัวก่อนเพคะ” ไป๋ชิงเหยียนทำความเคารพองค์รัชทายาท

ครั้งนี้เซียวหรงเหยี่ยนขี่ม้า ไม่ได้เตรียมรถม้ามา…

องค์รัชทายาทแสร้งทำเป็นลืม ไม่ได้สั่งให้คนเตรียมรถม้าให้ไป๋ชิงเหยียน จุดประสงค์ชัดเจนยิ่งนัก

เซียวหรงเหยี่ยนกล่าวกับไป๋ชิงเหยียน “ยังดีที่ถนนจากจวนองค์รัชทายาทไปยังจวนเจิ้นกั๋วจวิ้นจู่มีต้นไม้ให้ความร่มรื่นมากมาย สามารถเดินกลับได้โดยไม่ร้อน เหยี่ยนมีเรื่องอยากสนทนากับคุณหนูใหญ่ไป๋พอดีขอรับ”

ไป๋ชิงเหยียนกำมือที่ซ่อนอยู่ในแขนเสื้อแน่น พยักหน้า “เชิญเซียวเซียนเซิงเจ้าค่ะ!”

“เชิญคุณหนูใหญ่ไป๋ก่อนขอรับ!”

เยว่สือถือดาบพาบรรดาองครักษ์จูงเชือกม้ายืนอยู่ไม่ห่างออกไปนัก เขาลอบยิ้มอยู่ในใจ รู้สึกขอบคุณองค์รัชทายาทแห่งแคว้นต้าจิ้นผู้นี้มาก

“เซียวเซียนเซิงมีเรื่องอันใดจะกล่าวหรือเจ้าคะ” ไป๋ชิงเหยียนเอามือไขว้หลังเดินเคียงข้างเซียวหรงเหยี่ยนไปตามทางเดินอย่างช้าๆ

“เหยี่ยนทราบว่าคุณหนูใหญ่ไป๋ต้องการกล่าวสิ่งใด” เซียวหรงเหยี่ยนเอ่ยขึ้นอย่างไม่รีบร้อน “ในสายตาของคุณหนูใหญ่ เหยี่ยนคือคนของแคว้นอื่น มีความต้องการเช่นเดียวกับคุณหนูใหญ่ หากเราตกลงปลงใจกันตอนนี้อาจมีผลต่อการตัดสินใจในหลายๆ เรื่อง ความรักจะกลายเป็นตัวถ่วงของเรา”

เซียวหรงเหยี่ยนรู้ดี

ไป๋ชิงเหยียนหลุบตาลงพลางกล่าวขึ้น “หากไม่มีความรู้สึกเข้ามาเกี่ยวข้อง พวกเราจะแสวงหาผลประโยชน์ให้ตัวเองได้อย่างสบายใจ! ทว่า หากมีความรู้สึกเข้ามาเกี่ยวข้อง เราจะคาดหวังในตัวของอีกฝ่ายมากกว่าเดิม! ตอนนั้นองค์หญิงอันเล่อผู้เป็นพี่สาวแท้ๆ ของจักรพรรดิแห่งต้าจิ้นยอมแต่งงานไปเป็นพระสนมที่แคว้นสู่เพื่อสร้างความมั่นคงให้บัลลังก์ขององค์รัชทายาท สงครามแคว้นสู่ ข้าเป็นคนนำทหารเข้าไปควบคุมวังหลังด้วยตัวเอง องค์หญิงอันเล่อคิดว่าตนเองเป็นพี่สาวแท้ๆ ของจักรพรรดิต้าจิ้นจึงไม่ได้พาโอรสธิดาของตัวเองหลบหนี ทว่า กลับมายังเมืองหลวงต้าจิ้นพร้อมกับกองทัพ นางคิดว่าฮ่องเต้จะเห็นแก่ความสัมพันธ์พี่น้อง ไว้ชีวิตโอรสและธิดาของนาง นางเองก็ได้กลับมายังบ้านเกิดเมืองนอน ทว่า ฮ่องเต้ตัดสินใจกำจัดแบบถอนรากถอนโคน! องค์หญิงอันเล่อโกรธแค้นฮ่องเต้มาก นางลอบปลงพระชนม์ฮ่องเต้จนสุดท้ายถูกลูกธนูยิงปลิดชีพ”

“เรื่องนี้ฮ่องเต้ทำผิดหรือไม่ ในฐานะจักรพรรดิของแผ่นดิน เขากำจัดศัตรูแบบถอนรากถอนโคนไม่ใช่เรื่องผิด องค์หญิงอันเล่อผิดที่ลอบปลงพระชนม์ฮ่องเต้หรือไม่ นางก็ไม่ผิด! ความรู้สึกต่างหากที่ผิด! ฮ่องเต้สามารถกำจัดโอรสธิดาขององค์หญิงอันเล่อได้ ทว่า พระองค์ไม่อาจสังหารพี่สาวแท้ๆ ที่ยอมลดตัวแต่งงานไปเป็นสนมของแคว้นสู่เพื่อทำให้บัลลังก์ขององค์รัชทายาทอย่างเขามั่นคงได้ องค์หญิงอันเล่อมั่นใจว่าความสัมพันธ์พี่น้องระหว่างพวกนางแน่นแฟ้นจึงยอมกลับมาเมืองหลวง ทว่า โอรสธิดาของนางกลับถูกตัดศีรษะ นางตัดสินใจลอบปลงพระชนม์ฮ่องเต้เป็นเรื่องที่สมเหตุสมผล!”

ไป๋ชิงเหยียนหยุดฝีเท้าลง หมุนตัวกลับไป ดวงตาดำขลับของหญิงสาวไหววูบเล็กน้อย มองไปทางเซียวหรงเหยี่ยนด้วยแววตาจริงจัง “บนโลกนี้ทุกอย่างมีเหตุผลเสมอ เว้นแต่ความรู้สึกที่ไม่อาจหาเหตุผลมาอธิบายได้ ใจของคนก็เช่นกัน ไม่มีผู้ใดเป็นข้อยกเว้นทั้งสิ้น”

ความรู้สึกคือเรื่องที่ไร้เหตุผลที่สุดบนโลกใบนี้

ลมพัดใบไม้บนต้นไม้จนเกิดเสียงซู่ๆ

ความเย็นลอยปะทะชายกระโปรงยาวของไป๋ชิงเหยียน หญิงสาวโค้งกายทำความเคารพเซียวหรงเหยี่ยน “เซียวเซียนเซิงส่งแค่นี้ก็พอเจ้าค่ะ เหยียนจะเดินกลับไปเอง”

ไป๋ชิงเหยียนเตรียมเดินจากไป ทว่า ถูกเซียวหรงเหยี่ยนรั้งข้อมือไว้เสียก่อน

เยว่สือและบรรดาองครักษ์ซึ่งจูงม้าเดินตามโดยเว้นระยะห่างเห็นเหตุการณ์ต่างรีบหันหลังกลับทันที

“เซียวเซียนเซิง!” ไป๋ชิงเหยียนมองไปรอบๆ ด้าน บริเวณนี้คือที่พักของตระกูลสูงศักดิ์ ชาวบ้านไม่ค่อยมาเดินแถวนี้ บัดนี้เป็นเวลาเที่ยงวัน แดดแผดจ้า อีกทั้งเป็นเวลาพักผ่อน บนถนนจึงไม่มีผู้คน

มือของเซียวหรงเหยี่ยนเรียวยาวดูผอมไปสักนิด ทว่า กระดูกหนาและมีเรี่ยวแรงมาก

เขาเพียงแค่รั้งข้อมือของหญิงสาวเข้าหาตัวเบาๆ ดวงตาล้ำลึกจ้องไปยังใบหน้าขาวนวลของหญิงสาวนิ่ง

ทั้งสองคนอยู่ใกล้ชิดกันมาก ใกล้จนไป๋ชิงเหยียนมองเห็นแผงขนตายาวของเซียวหรงเหยี่ยน

“ข้าเข้าใจที่เจ้ากล่าว! มารดาของข้าที่มีสติปัญญาเหนือกว่าบุรุษไม่รู้ตั้งกี่ร้อยเท่ายังต้องจบชีวิตลงเพราะความรัก ตอนนั้นบิดาและมารดาของข้าเป็นคนแคว้นเดียวกัน ทว่า ยังมีจุดจบเช่นนั้น ข้าเข้าใจความกังวลของเจ้าดี!” แววตาของเซียวหรงเหยี่ยนสงบนิ่ง กล่าวด้วยน้ำเสียงจริงจัง “ข้าไม่บังคับเจ้า ทว่า อยากทำข้อตกลงอย่างวิญญูชน วันใดที่ใต้หล้ารวมเป็นหนึ่ง วันนั้นเจ้าและข้าจะกลายสามีภรรยากัน!”

ไป๋ชิงเหยียนถอยหลัง เซียวหรงเหยี่ยนขยับเข้าไปใกล้ โน้มกายเข้าไปแนบชิดกับร่างของหญิงสาว มือข้างหนึ่งกุมข้อมือของนางแน่น มืออีกข้างโอบบ่าที่ผอมเพรียวเอาไว้ กระซิบเสียงแหบพร่า “ข้อตกลงนี้ไม่ใช่สัญญาใจ ทว่า ทำเพื่อจะได้ไม่มีคนเข้ามาแทรกกลางระหว่างเจ้ากับข้า! หากเจ้าไป๋ชิงเหยียนจะมีสามี คนคนนั้นต้องเป็นข้า หากข้าจะมีภรรยา คนคนต้องเป็นไป๋ชิงเหยียน!”

ดวงตาล้ำลึกของเซียวหรงเหยี่ยนเต็มไปด้วยความหนักแน่นลึกซึ้ง “เจ้ากล้ารับปากหรือไม่”

ไป๋ชิงเหยียนกำมือแน่น

ลมร้อนเป่าผ่านลำคอเรียวระหงของไป๋ชิงเหยียน ใบหูของหญิงสาวแดงก่ำขึ้นทันที

แม้จะกล่าวอ้อมค้อม ทว่า นี่ก็คือการตกลงใช้ชีวิตร่วมกันอยู่ดี ยังไม่เรียกว่าสัญญาใจอีกหรือ

“หลายปีก่อนหน้านี้ข้าได้รับบาดเจ็บหนักจนอาจมีทายาทไม่ได้” น้ำเสียงของไป๋ชิงเหยียนแผ่วเบา “ท่านเป็นท่านอ๋องเก้าแห่งแคว้นต้าเยี่ยน หากไม่มีทายาท เสด็จพี่ของท่านคงไม่ตกลง”

“สตรีที่ให้กำเนิดทายาทได้มีอยู่ถมเถไป ทว่า ไป๋ชิงเหยียนมีเพียงคนเดียว เหยี่ยนต้องการภรรยา ไม่ใช่ทายาท!”

เซียวหรงเหยี่ยนขยับเข้าใกล้ กดเสียงต่ำกว่าเดิม ขณะกล่าวลมร้อนเป่าผ่านขนตาของนางจนแผงขนตาสั่นไหวระริก

“หากข้าไม่คิดทบทวนมาดีแล้ว ไม่มีทางกล่าวกับเจ้าเช่นนี้! องค์รัชทายาทเคยตรัสกับข้าว่าหากข้าแต่งเข้าตระกูลไป๋ ต่อให้คุณหนูใหญ่จะไม่อาจมีทายาทได้ ข้าในฐานะบุตรเขยก็คงไม่อาจรับอนุได้ง่ายๆ ข้าบอกกับองค์รัชทายาทว่าข้าแต่งงานเพราะต้องการคนรู้ใจร่วมใช้ชีวิตไปด้วยกันจนแก่เฒ่า ไม่ได้แต่งเพราะต้องการสืบทอดทายาท”

เซียวหรงเหยี่ยนกล่าวประโยคนี้อย่างหนักแน่นจนไป๋ชิงเหยียนไม่กล้าเอ่ยตอบ หญิงสาวรู้สึกราวกับมีสิ่งใดจุกแน่นอยู่ที่ลำคอ

ชายหนุ่มลูบไล้ไปที่เอวเล็กของหญิงสาว น้ำเสียงอ่อนโยน “เมื่อใดใต้หล้ารวมเป็นหนึ่ง เมื่อนั้นเจ้ากับข้าแต่งงานกัน ก่อนถึงวันนั้น เจ้ากับข้าแสวงหาผลประโยชน์จากอีกฝ่ายได้อย่างเต็มที่ ไม่มีความรู้สึกเข้ามาเกี่ยวข้อง เจ้ากล้ารับข้อตกลงของวิญญูชนเช่นนี้หรือไม่”