ตอนที่ 933 ยืมมือตบหน้าครั้งที่สอง (3) ตอนที่ 934 ยืมมือตบหน้าครั้งที่สอง (4)

ทรราชหญิงเจ้าหัวใจจักรพรรดิมาร

ตอนที่ 933 ยืมมือตบหน้าครั้งที่สอง (3) / ตอนที่ 934 ยืมมือตบหน้าครั้งที่สอง (4)
ตอนที่ 933 ยืมมือตบหน้าครั้งที่สอง (3)

“กราบทูลฝ่าบาท! องค์ชายสามขอเข้าเฝ้าที่ท้องพระโรงพ่ะย่ะค่ะ! กล่าวว่ามีเรื่องสำคัญจะกราบทูลฝ่าบาท!”

ฮ่องเต้ขมวดพระขนงแล้วตรัสว่า “เวลาแบบนี้เนี่ยนะ มาทำไม ให้เขาเข้ามา”

ไม่นานนักองค์ชายสามเหลยชิวก็เดินเข้ามาในท้องพระโรง เหลยชิวอายุมากกว่าเหลยฝานเจ็ดปี แต่เนื่องจากเขามักจะเอาแต่อยู่ในตำหนักและไม่เคยก้าวออกมาข้างนอกเลย จึงตัวไม่สูงไปกว่าเหลยฝานสักเท่าไร ผิวของเขาเรียบเนียนมากกว่าคนส่วนใหญ่และดูซีดเซียว

หน้าตาของเหลยชิวไม่ได้แย่มากมายอะไรนัก แต่เมื่อเทียบกับเหลยเชินและเหลยฝาน เขาก็ดูด้อยกว่าอย่างเห็นได้ชัด ยิ่งเมื่อรวมกับนิสัยขี้ขลาดตาขาวของเขา ยิ่งทำให้เขาเป็นองค์ชายที่ถูกมองข้ามได้ง่ายที่สุดในหมู่องค์ชายทั้งสี่พระองค์ของรัฐเหยียน

แม้แต่ฮ่องเต้เองก็ทรงไม่รู้สึกว่าพระองค์รู้จักพระโอรสองค์นี้ดีเลยสักนิด

แต่เหลยชิวในวันนี้แตกต่างจากเมื่อวันก่อนๆ แววตาขี้ขลาดตามปกติของเขาหายไป และถูกแทนที่ด้วยความเด็ดเดี่ยวมุ่งมั่นอย่างแรงกล้า

เมื่อเขาเดินเข้ามาในท้องพระโรง เขาก็คุกเข่าลงตรงหน้าฮ่องเต้ทันที

“ถวายบังคมเสด็จพ่อ! ขอทรงพระเจริญหมื่นปีหมื่นหมื่นปี!”

“ลุกขึ้น เจ้ามาที่นี่ทำไม” ฮ่องเต้มีรับสั่งถามพร้อมกับนวดพระกรรเจียก

เหลยชิวลุกขึ้นยืนและหันไปมองฮองเฮาที่คุกเข่าอยู่บนพื้น นัยน์ตาส่องประกายเกลียดชังอย่างรุนแรง

“กราบทูลเสด็จพ่อ! ลูกมาที่นี่วันนี้ก็เพื่อเรียกร้องให้คนผิดต้องชดใช้พ่ะย่ะค่ะ!”

“ชดใช้หรือ ให้ใครกัน” ฮ่องเต้ตรัสถาม

“ให้เสด็จแม่ของลูกพ่ะย่ะค่ะ! และก็ให้น้องชายคนเล็กของลูกที่ถูกฆ่าตายอย่างโหดเหี้ยมทันทีที่เกิดมาด้วย!” เหลยชิวพูดเสียงดังพร้อมกับเงยหน้าขึ้น

“ว่าอย่างไรนะ!” ฮ่องเต้เบิกพระเนตรกว้างทันที

เหลยชิวพูดต่ออย่างไม่รอช้าว่า “ในปีนั้นพระสนมเฉินได้ให้กำเนิดองค์ชายสี่เหลยฝาน แต่พระนางก็เสียชีวิตจากการคลอดบุตร ไม่กี่วันต่อมาฮองเฮาได้รับน้องสี่ไปเลี้ยง ตอนนั้นตำหนักของเสด็จแม่ลูกอยู่ใกล้กับตำหนักของฮองเฮา เสด็จแม่จึงแวะเวียนไปหาฮองเฮาที่ตำหนักบ่อยๆ เพื่อรับการชี้แนะ”

“หยุดนะ! เหลยชิว! เจ้าคิดจะทำอะไร! เจ้าพยายามจะพูดอะไรกันแน่! ฝ่าบาท! ฝ่าบาทเพคะ! อย่าไปฟังคำโกหกของเหลยชิวนะเพคะ! ทุกอย่างที่เกิดขึ้นวันนี้ต้องเป็นเหลยชิวที่คอยบงการอยู่เป็นแน่! เขาเป็นคนจับตัวข้ารับใช้ทั้งหมดในตำหนักของหม่อมฉัน! เขามีเจตนาไม่ดีแน่ๆ เพคะ!” เมื่อได้ยินคำพูดของเหลยชิว ฮองเฮาก็สังหรณ์ร้ายขึ้นมาทันที พระนางรู้สึกว่าจะต้องหยุดเหลยชิวไม่ให้พูดต่อให้ได้ ไม่อย่างนั้นพระนางมีปัญหาหนักกว่าเดิมแน่!

ฮ่องเต้ไม่สนพระทัยเสียงร้องโวยวายของฮองเฮา พระองค์หันพระพักตร์ไปทางหยวนเปียวแล้วตรัสว่า “อุดปากนังแพศยานี่เสีย! เราไม่อยากได้ยินเสียงของมันอีก!”

หยวนเปียวก้าวขึ้นมาทันที และใช้ผ้าเช็ดหน้าอุดปากของฮองเฮา!

ฮองเฮาได้แต่ส่งเสียงอืออาอยู่ในลำคอ พระนางจ้องเหลยชิวเขม็ง ดูเหมือนพระนางไม่ปรารถนาอะไรมากไปกว่าฉีกเขาออกเป็นพันๆ ชิ้น!

เหลยชิวหัวเราะเสียงเย็นชาและพูดว่า “ฮองเฮาประเมินความสามารถของข้าสูงเกินไปแล้ว ถ้าข้าสามารถลากท่านลงมาได้แบบนี้จริงๆ ข้าคงไม่รอจนถึงวันนี้ค่อยบอกทุกสิ่งทุกอย่างให้เสด็จพ่อทราบหรอก”

“เหลยชิว! เล่าต่อ!” ฮ่องเต้มีความรู้สึกว่าสิ่งที่เหลยชิวกำลังจะพูดต่อไปนี้เป็นเรื่องที่สำคัญมาก

เหลยชิวพูดต่อว่า “วันนั้นเสด็จแม่ของลูกได้ยินว่าองค์ชายสี่จะถูกพาตัวมาที่ตำหนักของฮองเฮา เสด็จแม่จึงพาลูกไปดูน้องพ่ะย่ะค่ะ แต่ตอนนั้นลูกดื้อดึงและซุกซนนัก จึงวิ่งออกไปทันทีที่เรามาถึงตำหนักของฮองเฮา ไม่เคยคิดสักนิดว่านั่นจะเป็นการแยกจากกันตลอดกาล!”

“ตอนนั้นลูกยังเล็กมาก ขณะที่กำลังซ่อนตัวอยู่ในสวนด้านหลังตำหนักของฮองเฮา ลูกก็เห็นภาพที่ลูกจะไม่มีวันลืมไปชั่วชีวิต!” เหลยชิวหันไปมองฮองเฮาอย่างโกรธแค้นเมื่อเล่ามาถึงตรงนี้ ดูเหมือนเขาอยากจะฉีกฮองเฮาออกเป็นชิ้นๆ ไม่ต่างกัน

ตอนที่ 934 ยืมมือตบหน้าครั้งที่สอง (4)

เหลยชิวตอนนั้นยังเด็กมาก เขาซ่อนตัวอยู่ด้านหลังก้อนหินที่คล้ายกับภูเขาขนาดย่อมในสวน ทันใดนั้นก็เห็นมารดาของตัวเองถูกมัดและถูกพวกขันทีหลายคนจับตัวไว้ในสวนด้านหลังโดยมีฮองเฮากับนางกำนัลของพระนางยืนรออยู่ข้างหลัง

ในอ้อมแขนของนางกำนัลที่ยืนรออยู่นั้น คือเด็กทารกที่เปื้อนคราบของเหลวสีแดงไปทั้งตัว!

เด็กทารกคนนั้นก็คือองค์ชายสี่เหลยฝานที่แท้จริงที่เพิ่งถูกพาตัวมาที่ตำหนักของฮองเฮา เหลยชิวกลัวมากเมื่อเห็นว่ามารดาของเขาถูกมัด เขาอยากจะวิ่งเข้าไปช่วยแต่ก็รู้ว่าตัวเองเป็นเพียงองค์ชายตัวเล็กจ้อย ถึงจะวิ่งออกไปเผชิญหน้ากับคนพวกนั้น เขาก็ไม่สามารถทำอะไรได้อยู่ดี จึงได้แต่ทนซ่อนตัวอยู่ตรงนั้นด้วยความหวาดกลัวจับใจ

แล้วมารดาของเขาก็ถูกขันทีคนหนึ่งใช้เชือกรัดคอจนตายต่อหน้าต่อตาเขา สุดท้ายร่างไร้ชีวิตของมารดาก็ถูกผูกกับก้อนหินพร้อมด้วยองค์ชายสี่ และถูกโยนลงไปในสระบัวในสวนด้านหลัง

“ลูกรู้ว่าลูกไม่มีความสามารถแก้แค้นให้เสด็จแม่ได้ แต่ลูกก็ไม่อยากจะเก็บความลับนี้ให้ถูกฝังไปตลอดกาล จึงได้แต่อดทนรอ รอให้ถึงวันที่สวรรค์มีตา ให้ลูกได้แก้แค้นให้กับเสด็จแม่และน้องสี่! แล้ววันนี้ก็มาถึง! ในที่สุดวันที่ลูกรอคอยก็มาถึง!” ความเศร้าโศกที่เหลยชิวทนเก็บไว้มาเนิ่นนานแสดงออกทางสีหน้าของเขา เขามีสติปัญญามากกว่าใครหลายๆ คน แต่เขาไม่มีทางเลือกนอกจากกลายเป็นองค์ชายผู้ขี้ขลาดตาขาวเพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้ฮองเฮาเกิดความระแวงในตัวเขาขึ้นมา

จากองค์ชายที่ฉลาดที่สุด กลายเป็นองค์ชายที่ห่วยแตกที่สุด เหลยชิวอดทนต่อความหวาดกลัวและความทรมานโดยไม่พูดให้ใครฟังเลย เขาแค่รอ และในที่สุดวันนี้ที่เขารอคอยก็มาถึง!

“อ้า!!!” ฮองเฮาเบิกตากว้างพลางดิ้นรนจะลุกขึ้น แต่หยวนเปียวก็กดตัวของพระนางเอาไว้

เหลยฝานมององค์ชายสามที่เขาดูถูกดูแคลนมาตลอดชีวิตอย่างไม่อยากจะเชื่อในสิ่งที่เพิ่งได้ยิน

“โกหก! ท่านโกหก!” เหลยฝานตื่นตระหนก เขาคุกเข่าลงตรงหน้าฮ่องเต้ทันทีและพูดพลางสะอึกสะอื้นว่า “เสด็จพ่อ! เสด็จพ่อพ่ะย่ะค่ะ! พี่สามใส่ร้ายลูก! ถ้าสิ่งที่พี่สามพูดเป็นความจริง แล้วลูกจะมีชีวิตอยู่ต่อจนถึงวันนี้ได้อย่างไร พี่สามเห็นเสด็จแม่หมดอำนาจเลยฉวยโอกาสนี้ใส่ร้ายลูก!”

ฮ่องเต้ขมวดพระขนงแน่น คำพูดของเหลยชิวทำให้พระองค์ตกพระทัยมากจริงๆ

ในปีที่มารดาของเหลยชิวตาย ร่างของนางถูกพบในสระบัวตื้นๆ ในสวนด้านหลังตำหนัก แต่พวกเขาพบช้าไปมาก ร่างของมารดาของเหลยชิวแช่อยู่ในน้ำมาเป็นเวลานานจนขึ้นอืดหมดแล้ว การระบุศพจึงเป็นไปไม่ได้ พวกเขาทำได้เพียงสันนิษฐานเอาจากอาภรณ์ เครื่องประดับ และสิ่งของที่ติดอยู่บนตัวศพเท่านั้น

เหลยชิวมองเหลยฝานที่สะอึกสะอื้นด้วยสายตาเย็นเยียบ

“ไอ้ลูกชู้! เจ้ายังกล้ามีหน้ามาหลอกลวงเสด็จพ่ออีกรึ!”

เหลยฝานสวนกลับไปทันทีว่า “นั่นเป็นเรื่องใส่ร้ายกันชัดๆ เลย!”

เหลยชิวลุกขึ้นยืน เขามองตรงไปที่ฮ่องเต้และพูดว่า “เสด็จพ่อ! ลูกรู้ว่าเสด็จพ่อลังเลเรื่องอะไรอยู่ ลูกรู้วิธีพิสูจน์ว่าสิ่งที่ลูกพูดเป็นความจริงอย่างแน่นอน!” พูดจบเหลยชิวก็แอบหยิบขวดกระเบื้องเคลือบที่ซ่อนอยู่ใต้แขนเสื้อของเขาออกมาพร้อมกับแอบชำเลืองมองไปทางเหลยเชิน

เหลยเชินเป็นคนให้ขวดนี้กับเขา เขาไม่รู้ว่ามันคืออะไร แต่เหลยเชินบอกเขาว่าถ้ามีขวดนี้ พวกเขาก็แน่ใจได้เลยว่าเหลยฝานจะต้องพังพินาศอย่างแน่นอน!

เหลยชิวเห็นมารดาของตัวเองถูกฆ่าตายอย่างโหดร้ายต่อหน้าต่อตา และต้องเก็บความลับอันเจ็บปวดนี้ไว้กับตัวเองมานานหลายปี เขาจะยอมละทิ้งโอกาสแก้แค้นที่ถูกยื่นมาให้ตรงหน้าเพียงหนึ่งเดียวนี้ไปได้อย่างไร

ต่อให้ไม่รู้ว่าในขวดนี้มีอะไร เขาก็เต็มใจจะเดิมพันทุกสิ่งทุกอย่างกับโอกาสเพียงหนึ่งเดียวนี้!

ทันใดนั้นเหลยชิวก็พุ่งเข้าใส่เหลยฝานที่คุกเข่าอยู่บนพื้น เหลยฝานร้องออกมาด้วยความหวาดกลัวและยื่นแขนของตัวเองออกไปเพื่อที่จะผลักเหลยชิวให้ออกห่าง แต่เหลยชิวไม่สนใจแขนที่โบกไปมานั้น เขาเปิดจุกขวดกระเบื้องเคลือบออกและกระโจนเข้าใส่เหลยฝาน เทของเหลวในขวดลงบนใบหน้าของเหลยฝานจนหมด!