“องค์หญิงอย่าได้หุนหันพลันแล่นไป…”
ดวงตาขององค์หญิงฝูชิงเป็นประกายสดใส นางเผยอริมฝีปากขึ้นแล้วกล่าวว่า “หมัวมัววางใจเถิด ข้าจะไม่กระทำการหุนหันพลันแล่นอย่างแน่นอน”
“องค์หญิงเพคะ องค์หญิงเป็นเช่นนี้ทำให้บ่าวกังวลใจจริงๆ วันพรุ่งนี้จะทรงกระทำอันตรายต่อฮองเฮาหรือ”
องค์หญิงสิบสี่ก้มลงมองดูมือทั้งสองข้างของนางแล้วกล่าวอย่างเย็นชาว่า “นางฆ่าเสด็จแม่ของข้า ข้ามิควรจะล้างแค้นหรือ”
“องค์หญิงเพคะ ฮองเฮาเสด็จไปไหนก็ตามแต่ จะมีคนติดตามมากมาย ต่อให้เดินทางมาเยี่ยมเยียนองค์หญิง ข้างกายก็คงมีบ่าวรับใช้ไม่น้อย บัดนี้องค์หญิงกำลังเจ็บป่วยอยู่ จะพึ่งพาการใช้กำลังหรือ หากเป็นเช่นนั้นคาดว่ายังไม่ทันไรก็คงล้มเหลวแล้ว เมื่อถึงเวลาองค์หญิงจะตอบแทนเหม่ยเหรินอย่างไรเล่า”
องค์หญิงสิบสี่พยายามกลั้นน้ำตาที่จะไหลออกมา “นอกจากร่างกายที่เจ็บป่วยแล้ว ข้ายังมีวิธีใดอื่นหรือ”
เสียงสะอื้นของเด็กหญิงดังก้องอยู่ในห้อง จากนั้นก็ค่อยๆ กังวานจางหายไป
“องค์หญิง เคยวางแผนจะใช้ยาพิษหรือไม่”
องค์หญิงสิบสี่หยุดร้องไห้แล้วมองไปทางตั่วหมัวมัว
ตั่วหมัวมัวเข้าสู่วัยกลางคนแล้ว มองไปช่างใจดีเหลือเกิน แต่ประโยคที่นางกล่าวออกมาเมื่อครู่ช่างเยือกเย็นอย่างอธิบายไม่ถูก
“ใช้ยาพิษหรือ” องค์หญิงสิบสี่เอ่ยถามด้วยใบหน้าอันว่างเปล่า “ทุกสิ่งทุกอย่างที่ข้าใช้ในแต่ละวันล้วนถูกกำหนดเอาไว้ ข้าจะเอายาพิษมาจากที่ใด”
ตั่วหมัวมัวหยิบของบางอย่างออกมาจากกระเป๋าแขนเสื้อแล้วส่งให้นาง
นั่นคือกล่องหยกขนาดเล็ก ที่ลักษณะภายนอกแสนจะธรรมดา
องค์หญิงสิบสี่มองไปด้วยท่าทางงงงวย
“ข้างในนี้คือหนอนพิษกู่ชนิดหนึ่ง เพียงแค่มีโอกาสปล่อยมันเข้าสู่ร่างกายของมนุษย์เพียงไม่นานคนผู้นั้นก็จะมีอาการหัวใจล้มเหลว และสิ้นชีวิตในที่สุด แม้แต่หมอหลวงก็ตรวจไม่พบ ด้วยวิธีนี้องค์หญิงก็จะสามารถตอบแทนบุญคุณและคืนความยุติธรรมให้แก่เสด็จแม่ได้แล้ว อีกทั้งความผิดก็ไม่สืบมาถึงตัว ช่างสมบูรณ์แบบใช่หรือไม่”
องค์หญิงสิบสี่จ้องไปที่กล่องหยกเล็กๆ นั้นแล้วพึมพำออกมาว่า “เหตุใดหมัวมัวจึงช่วยข้าเช่นนี้”
ดวงตาของตั่วหมัวมัวเป็นประกาย “หม่อมฉันเองก็มีบุตรสาวบุญธรรมอยู่คนหนึ่ง เดิมทีนางรับใช้อยู่ในตำหนักคุนหนิง แต่เพียงเพราะนางบ่นออกมาไม่กี่คำ เมื่อเรื่องนี้ไปถึงหูของฮองเฮาจึงถูกฮองเฮาจัดการอย่างเงียบๆ หม่อมฉันไม่ต่างอันใดกับองค์หญิง แล้วเหตุใดจะไม่ต้องการแสวงหาความยุติธรรมให้แก่บุตรสาวบุญธรรมเล่า”
นิ้วมือเรียวยาวขาวผ่องขององค์หญิงสิบสี่ชี้ไปที่กล่องหยกใบนั้น ดวงตาของนางไม่อาจซ่อนความประหลาดใจและหวาดกลัวเล็กน้อยเอาไว้ได้ “พิษนี่ใช้อย่างไร”
“ง่ายยิ่งนัก เพียงแค่หาบาดแผลเล็กๆ ที่อยู่บนร่างของเป้าหมายก็พอ…” น้ำเสียงของตั่วหมัวมัวช่างมีเสน่ห์ยิ่งนัก
องค์หญิงสิบสี่เอื้อมมือไปหยิบกล่องหยกเล็กๆ ใบนั้นมาแล้วกระซิบว่า “เพียงเท่านี้หรือ”
เสียงฝีเท้าดังขึ้น จากนั้นม่านก็ถูกเปิดออก จิ่งหมิงฮ่องเต้และฮองเฮาปรากฏตัวขึ้นต่อหน้าตั่วหมัวมัว
ตั่วหมัวมัวตกตะลึงแล้วมองไปทางองค์หญิงสิบสี่โดยไม่รู้ตัว
องค์หญิงสิบสี่กำกล่องหยกใบนั้นไว้แล้วเดินไปทางฮองเฮา
“เสด็จแม่…”
ฮองเฮาลูบไปที่แขนขององค์หญิงสิบสี่เบาๆ จากนั้นดึงนางไปไว้ที่ด้านหลัง “สิบสี่ทำได้ดียิ่งนัก”
องค์หญิงสิบสี่ยิ้มขึ้นอย่างโล่งใจ นางเอนกายไปพิงนางกำนัลคนหนึ่งแล้วถอนหายใจออกมาเล็กน้อย ก่อนจะกล่าวว่า “ลูกโชคดีที่ทำภารกิจสำเร็จลุล่วง”
เมื่อนางกล่าวจบก็ยังคงไม่ได้หันไปมองดูตั่วหมัวมัวที่ยังคงไม่ได้สติกลับคืนมา น้ำตาของนางนองหน้า
นางรู้ดีว่าเสด็จแม่ของนางมีความผิด
ในวันนั้นที่เสด็จพ่อและฮองเฮาเดินทางมาหานาง จากนั้นมารดาของนางก็สิ้นชีวิตลง นางพยายามเอ่ยถามถึงเหตุผลการตายที่แท้จริงกับฮองเฮาอยู่หลายครั้ง แต่สิ่งที่นางได้กลับคืนมามีแต่แววตาอันขยะแขยง
จนกระทั่งในวันนี้ ฮองเฮาส่งคนมาตำหนิและได้บอกความจริงเกี่ยวกับการจากไปของเสด็จแม่ นางจึงได้รู้ว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้น
เสด็จแม่ของนางทำให้น้องสิบสามต้องตาบอด อีกทั้งเป็นฆาตกรฆ่าน้องสิบห้า
ความจริงที่ไม่อาจรับได้เช่นนี้ ต่อให้ไม่อยากเชื่อแต่นางก็รู้ดีว่าเป็นเรื่องจริง
ก่อนหน้านี้นานมาแล้วนางเคยได้ยินมารดาของนางเอ่ยบ่นโดยไม่ได้ตั้งใจ
ในตอนนั้นนางล้มป่วยและหลับไปในอ้อมแขนของเสด็จแม่ เสด็จแม่ของนางกอดนางเอาไว้แน่นแล้วกระซิบว่า “เป็นเพราะองค์หญิงฝูชิงที่แย่งโชคชะตาอันดีของลูกสาวข้าไปจนสิ้น หากองค์หญิงฝูชิงตายไปก็คงดี…”
น้ำตาอันขมขื่นของเสด็จแม่หล่นลงมาสู่ใบหน้าของนาง ส่วนตัวนางที่ตื่นขึ้นแล้วไม่กล้าแม้แต่จะกะพริบตา
ประโยคเช่นนี้ช่างน่ากลัวยิ่ง นางไม่อยากจะจินตนาการเลยว่าหากฮองเฮาได้ยินประโยคนี้แล้วจะมีปฏิกิริยาเช่นไร แสร้งทำเป็นไม่ได้ยินดีกว่า เสด็จแม่คงจะกล่าวออกมาด้วยความโมโหเนื่องด้วยสงสารนาง
แต่ประโยคดังกล่าวนี้หยั่งรากลงไปอยู่ในใจขององค์หญิงสิบสี่ และเมื่อความจริงปรากฏต่อหน้านาง นางก็ไม่มีเหตุผลใดที่จะสงสัยเลย
องค์หญิงสิบสี่ทั้งโมโหและขุ่นเคือง โมโหที่เสด็จแม่ช่างโง่งมเหลือเกิน กลับไปเชื่อเรื่องไร้สาระเหล่านั้นเเละทำร้ายผู้คนจนเสียชีวิตในที่สุด อีกทั้งนางเกลียดชังคนที่ยั่วยุมารดานางยิ่งนัก
คนผู้นี้จึงจะเป็นผู้ร้ายที่ก่อให้เกิดเรื่องทุกอย่างขึ้น การค้นหาผู้ร้ายคนนี้ออกมาจึงจะเป็นการแก้แค้นให้นางจริงๆ
ในมือขององค์หญิงสิบสี่ถือกล่องหยกเอาไว้ด้วยอาการสั่นเทา
นางบอกไม่ได้ว่าฉากเมื่อครู่นางแสดงไปได้อย่างไร รู้เพียงแค่ว่านางใช้กำลังทั้งหมดจนสิ้น
นางทำได้ ทำได้จริงๆ… องค์หญิงสิบสี่รู้สึกวิงเวียนศีรษะ กล่องหยกในมือร่วงลงสู่พื้นทันที
นางกำนัลคนหนึ่งท่าทางคล่องแคล่วว่องไว รีบเข้ามาคว้ากล่องหยกนั้นเอาไว้ “องค์หญิงเพคะ…”
ฮองเฮาตรัสขึ้นทันทีว่า “พยุงองค์หญิงไปพักผ่อนที่ห้องด้านข้าง”
องค์หญิงสิบสี่พยายามลืมตาขึ้นแล้วอ้อนวอนร้องขอว่า “เสด็จแม่เพคะ ลูกอยากฟัง”
ฮองเฮาหันมองไปยังจิ่งหมิงฮ่องเต้ด้วยความลังเล
จิ่งหมิงฮ่องเต้พยักหน้าเล็กน้อย “เช่นนั้นก็ฟังต่อเถิด”
เป็นดั่งที่เจ้าเจ็ดกล่าวเอาไว้ บัดนี้เจ้าสิบสี่ไม่ใช่เด็กแล้ว ไม่อาจปิดซ่อนเรื่องราวทุกเรื่องกับนางได้ เพราะในที่สุดแล้วอาจทำให้ถูกผู้มีเจตนาร้ายยุยงให้ทำสิ่งไม่ดีจนไม่อาจแก้ไขได้
เมื่อนึกถึงเรื่องที่ตั่วหมัวมัวพยายามยั่วยุให้องค์หญิงสิบสี่เกลียดชังฮองเฮา จิ่งหมิงฮ่องเต้ก็รู้สึกหวาดกลัว
หากว่าความจริงเรื่องการเสียชีวิตของเฉินเหม่ยเหรินไม่ได้ถูกเปิดเผยกับเจ้าสิบสี่ก่อนหน้า คาดว่าธิดาองค์นี้อาจจะเดินตามรอยของเฉินเหม่ยเหรินและหยางเฟย ถูกผู้อื่นใช้เป็นดาบคม
แต่บัดนี้เขารู้สึกโล่งใจยิ่งนัก
เขาคิดไม่ถึงว่าเจ้าสิบสี่จะแสดงได้ดีเช่นนี้ นางสามารถให้อีกฝ่ายเปิดเผยตัวตนของตนเองออกมาได้อย่างเงียบๆ
เมื่อคิดได้ดังนี้ การประเมินค่าความสามารถของอวี้จิ่นก็มากขึ้นไม่น้อย
เสด็จแม่ ฮองเฮาเหนียงเหนียงและฮองเฮา การเปลี่ยนแปลงในการเรียกชื่อทั้งสามอย่างนี้เป็นอวี้จิ่นที่เสนอขึ้น
เจ้าเด็กคนนี้ช่างฉลาดเหลือเกิน
“ตั่วหมัวมัว เจ้าเป็นคนของเผ่าอูเหมียว เมื่อสิบห้าปีก่อนได้แทรกกายเข้ามาในพระราชวัง เจ้าต้องการสิ่งใดกันแน่” จิ่งหมิงฮ่องเต้ จัดการกับความคิดก่อนหน้าแล้วหันมาจ้องตั่วหมัวมัว
ตั่วหมัวมัวได้แต่นิ่งเงียบ
“เจ้ายุยงให้คนทำร้ายองค์หญิง ทำร้ายองค์รัชทายาท และจะทำร้ายฮองเฮา สิ่งเหล่านี้เจ้าทำเพื่อสิ่งใด”
“หม่อมฉันไม่ทราบว่าฝ่าบาทกำลังกล่าวถึงเรื่องใด”
จิ่งหมิงฮ่องเต้โมโหยิ่งนัก “เมื่อสักครู่เจ้ายุยงให้องค์หญิงสิบสี่ใช้หนอนพิษกู่ในการทำร้ายฮองเฮา ข้าได้ยินชัดเจนยิ่งนัก เจ้าอยากปฏิเสธหรือ”
“ฮองเฮาฆ่าบุตรสาวบุญธรรมของหม่อมฉัน หม่อมฉันเพียงแค่อยากจะคืนความยุติธรรมให้แก่บุตรสาวบุญธรรมก็เท่านั้น ส่วนที่ฝ่าบาทกล่าวว่าทำร้ายองค์หญิงและองค์รัชทายาท หม่อมฉันไม่เข้าใจว่าทรงกล่าวเรื่องใดอยู่”
เมื่อมองไปที่ตั่วหมัวมัวซึ่งดูท่าทีสงบนิ่ง จิ่งหมิงฮ่องเต้ก็โมโหหนัก ทรงเยาะเย้ยออกมาว่า “หากเจ้ารู้ว่าพรรคพวกของเจ้าที่อยู่ในเมืองหลวงถูกสับเป็นพันชิ้น เจ้าจะยังแสร้งทำมึนงงอยู่หรือไม่”
ใบหน้าอันสงบนิ่งของตั่วหมัวมัวเปลี่ยนไปเล็กน้อย “ฝ่าบาทหมายความว่าอย่างไร”
จิ่งหมิงฮ่องเต้ตรัสด้วยความเยือกเย็นว่า “หึๆ สองยายหลานเผ่าอูเหมียวนั่นถูกหั่นนับพันชิ้นแล้ว ตั่วหมัวมัว หากเจ้ายอมรับถึงจุดประสงค์ในการทำครั้งนี้ของเจ้าออกมาตรงๆ ข้าสัญญาว่าศพเจ้าจะยังสมบูรณ์ หากไม่เป็นเช่นนั้นพวกนางก็จะกลายเป็นแบบอย่างของเจ้า!”
ในครั้งนี้กลับเป็นตั่วหมัวมัวที่หัวเราะเยาะขึ้น “ฝ่าบาทจะสับข้าให้เป็นชิ้น หึๆ ไม่ทราบว่าทรงเอ่ยถามไทเฮาแล้วหรือไม่”