บทที่ 448 ความเข้าใจในความรัก

พิชิตใจหม่ามี๊ตัวแสบ

โสรยากำปากกาแน่นๆ วินาทีต่อไป ปากกาหักเป็นสองท่อน ดีไซเนอร์ที่อยู่ด้านข้างสะดุ้งตกใจทันที

“เธอเป็นอะไรไป?” ดีไซเนอร์ถามขึ้น

เสียงนั้นไม่เบา บางคนก็หันมามอง

โดยไปถึงวารุณีด้วย

วารุณีหรี่ตาลงมองโสรยา ริมฝีปากแดงเม้มขึ้น

เป็นเธอไหม?

วารุณีไม่ค่อยแน่ใจ

เธอกับโสรยาแม้จะไม่มีความแค้นอันใหญ่หลวง ทว่าโสรยาไม่ค่อยชอบเธออย่างชัดเจน

ถ้าเป็นโสรยา ความเป็นไปได้ก็มาพอสมควร

“ขอโทษค่ะ ปากกาของฉันหักไปแล้ว” โสรยารู้ว่ามีคนกำลังมองตัวเอง ยิ่งไม่กล้าเผยให้เห็นช่องโหว่ จึงยิ้มอย่างเกรงใจแล้วขอโทษกับดีไซเนอร์คนนั้น

ดีไซเนอร์เห็นปากกาที่หักของเธอ ก็ไม่ได้พูดอะไรอีก ถือว่ารับคำขอโทษของเธอ

ดีไซเนอร์คนอื่นต่างก็ละสายตาไปที่อื่น

เหลือแค่วารุณีที่ยังคงจับจ้องโสรยาอยู่

โสรยาก็รู้สึกได้ กลับทำเป็นไม่เห็น แล้วเอาปากกาแท่งใหม่ออกมา แล้วแกะออกด้วยความตั้งใจ สีหน้าดูนิ่งเฉยมากๆ

วารุณียังคงมองอะไรจากสีหน้าของโสรยาไม่ออก รวมไปถึงการแข่งขันจะเริ่มขึ้นแล้ว เธอก็ไม่อยากมองต่อ จึงหันหน้ากลับไป

โสรยารู้สึกถึงสายตาของวารุณีหายไป จึงถอนหายใจอย่างแรง ทว่าภายในใจกลับค่อนข้างหดหู่

ดูท่าแล้ว วารุณีก็สงสัยเธอ

คิดไปแล้ว โสรยากัดริมฝีปากล่าง แล้วยกมือขึ้นแตะตุ้มหู แล้วพูดด้วยเสียงต่ำ “มีเรื่องหนึ่ง ฉันอยากให้เธอช่วยแก้ปัญหาเรื่องหนึ่งให้ฉันที ไม่งั้นพวกเราไม่มีทางเข้าประกวดต่ออีกแน่นอน”

“เธอว่ามาเถอะ” ในตุ้มหูส่งเสียงแหบพร่าขึ้น

โสรยามองซ้ายมองขวา แล้วปิดริมฝีปากไว้ แล้วสั่งงานออกไป

ได้ยินคนๆนั้นตอบตกลง เธอถึงจะรู้สึกไว้วางใจมาก

การประกวดเริ่มขึ้นอย่างเป็นทางการ การแข่งขันวันนี้ ไม่ใช่การประกวดครั้งแรก แต่เริ่มจะคัดคนออก

ดังนั้น ดีไซเนอร์ทุกคนจึงแสดงท่าทางจริงจังเสียจนบรรยากาศในฉากการแข่งขันขนาดใหญ่นั้นตกต่ำและหนักอึ้งมาก

หลังจากการแข่งขันรอบนี้ สิบสองคนถูกคัดออก

ไม่มีใครอยากเป็นหนึ่งในสิบสองคนนั้น

คราวนี้การประกวดก็เหมือนกับครั้งที่แล้ว เป็นภาพดีไซน์ที่ดีไซเนอร์วาดเอง ดีไซน์เสื้อผ้าออกมา แล้วนำนางแบบมาใส่บนแคทวอล์ค

สิ่งเดียวที่แตกต่างก็คือหัวข้อ

คราวที่แล้วปล่อยให้ดีไซเนอร์แสดงไอเดียอย่างอิสระ คราวนี้เป็นหัวข้อเดียวกัน ซึ่งยุติธรรมกว่าสำหรับผู้เข้าประกวด

หัวข้อในครั้งนี้คือความรัก

หัวข้อแบบนี้ไม่เหมือน ‘ดอกไม้’ และ ‘ท้องฟ้าเต็มไปด้วยดวงดาว’ มันสามารถออกแบบได้จากตัวอักหนังสือ แต่ต้องเข้าใจว่าความรักคืออะไร เมื่อคุณเข้าใจว่าความรักคืออะไร คุณสามารถวาดการออกแบบที่สอดคล้องกันได้

มิฉะนั้น เสื้อผ้าที่ออกแบบจะเหมือนหัวมงกุท้ายมังกร เบี่ยงเบนไปจากธีมความรัก และคุณจะไม่ได้รับคะแนนเลย

นี่สำหรับดีไซเนอร์ที่โสดและไม่เคยมีประสบการณ์ด้านความรักมาก่อน ถือว่าเป็นหัวข้อที่ยากมากพอสมควร

“สมกับเป็นการประกวดนานาชาติ หลังจากแบ่งกลุ่มแล้วเริ่มการประกวดรอบแรกอย่างเป็นทางการ ก็มาหัวข้อที่ยากขนาดนี้แล้ว” อารัณยืนอยู่ตรงหน้าทีวี แล้วจับคาง กำลังทำท่าทางวิเคราะห์แยกย้ายเหมือนผู้ใหญ่น้อย

นัทธีอุ้มไอริณที่หลับไป แล้วเหลือบตามองเขา “ทำไมถึงรู้ว่ายากล่ะ”

“ดูจากสีหน้าแล้ว ดีไซเนอร์พวกนั้นทำสีหน้าที่บูดบึ้งทุกวัน ถึงตอนนี้ก็ยังไม่ได้เริ่ม ก็รู้ทุกอย่างแล้ว” อารัณชี้ไปยังดีไซเนอร์ผิวดำคนหนึ่งในจอทีวี

นัทธียิ้ม “ไม่เลว สังเกตเห็นละเอียดมาก”

“นั่นแหละ” อารัณพึมพำอย่างภาคภูมิใจ “ช่วงนี้ผมอ่านหนังสือสืบสวน รู้สึกว่าการวิเคราะห์สีหน้านั้นน่าสนใจ”

“อ้อ?” นัทธีเลิกคิ้ว “ทำไมจู่ๆ ถึงดูนี่ได้ล่ะ?”

“วันข้างหน้าผมจะเป็นผู้สร้างโปรไฟล์ครับ” อารัณกะพริบตาตอบกลับ

ทีแรก เขาอยากจะเหมือนพ่อยืนอยู่บนตึกที่สูงใหญ่ กลายเป็นผู้ควบคุม แล้วมองลงมาที่ทุกคน

ทว่าภายหลังจู่ๆ เขาก็เข้าใจ เขาไม่ใช่ลูกแท้ๆของพ่อ ทางที่ดีที่สุดก็จะไม่หวังอะไรกับบริษัท ไชยรัตน์ กรุ๊ปอีก ดังนั้นถึงได้เปลี่ยนทิศทางที่จะพัฒนาในอนาคต

นัทธีมองอารัณด้วยแววตาลุ่มลึกเล็กน้อย เหมือนกำลังครุ่นคิดว่าคำพูดของเขาเป็นจริงหรือปลอม

ผ่านไปสักพัก นัทธีลูบหัวของอารัณ “ตอนนี้นายยังเด็ก เรื่องของวันข้างหน้าค่อยว่ากันในวันข้างหน้าอีกที”

“อืม” อารัณผงกหัวเล็กๆ แล้วกลับมาพูดประเด็นเมื่อกี้ต่อ “หม่ามี๊คงไม่เป็นไรใช่ไหม?”

นัทธีได้ยิน สายตามองไปที่จอทีวี

ถึงแม้ตอนนี้วารุณียังไม่โดนถ่ายเข้ามา เขามองไม่เห็นเธอ ทว่าเขาเชื่อ หัวข้อนี้ ต้องไม่ยากเกินความสามารถของเธอ

ดั่งที่คาด เหมือนอย่างที่นัทธีคิด ขณะที่ดีไซเนอร์คนอื่นกำลังคิดว่าความรักคืออะไร ตอนที่กำลังจะหาแรงบันดาลใจ วารุณีก็เริ่มลงมือด้วยรอยยิ้มแล้ว

ในมุมมองของเธอ ความเข้าใจในความรัก สามารถกว้างขวางมาก

วัยรุ่นที่งอกใหม่ในช่วงเวลาวัยรุ่น ความกล้าหาญดุเดือดในช่วงเวลาวัยรุ่น ความนิ่งสงบเหมือนน้ำในช่วงเวลาวัยกลางคน การช่วยเหลือกันและนในช่วงเวลาตอนแก่เฒ่า พวกนี้ก็คือความรัก

ความรักในทุกช่วงอายุไม่เหมือนกัน และความรักของคู่รักทุกคู่ก็ไม่เหมือนกัน

ทว่าสิ่งที่เหมือนกันกลับมีอยู่อย่างหนึ่ง คือทั่วโลกยอมรับ นั่นก็คือการแต่งงาน

การแต่งงานไม่ได้หมายความว่ามีความรัก ทว่าในความรักนั้นต้องมีการแต่งงาน

ดังนั้นเธอมีความเข้าใจในความรักได้ดีที่สุดคือการแต่งงาน

ไม่นาน ภาพดีไซน์ของวารุณีก็จบลง ก็คือภาพขาวดำ เป็นการประหยัดมาก

“เอาเถอะ” หลังจากวาดจบ วารุณีลุกขึ้นไปที่โซนผ้า

ทุกคนต่างก็ตกตะลึง

บางคนยังไม่ได้เริ่มวาดจริงๆ บางคนเพิ่งจะเริ่มวาด และบางคนวาดไปครึ่งหนึ่ง ทำไมเธอถึงวาดเสร็จแล้ว

ดีไซเนอร์ที่เหมือนกันบอกว่าทำไมเธอถึงยอดเยี่ยมขนาดนี้?

อีกด้าน โสรยามองไปยังวารุณีวาดเร็วขนาดนี้ ภายในใจก็รู้สึกกระวนกระวายขึ้นมา เพราะว่าเธอคือคนที่ยังไม่ได้ลงไม้ลงมือ

ถ้ายังแบบนี้ต่อ เธอยังจะมีเวลาทำเสื้อได้ยังไง?

โสรยากัดริมฝีปาก แล้วแตะตุ้มหู “เธอกลับมาแล้วหรือยัง?”

“กลับมาแล้ว” เสียงแหบพร่าทางโน้นดังขึ้น ทำให้รู้สึกเร่งรีบอย่างมาก

โสรยาไม่สนว่าเธอกำลังเร่งรีบอะไรอยู่จึงถอนใจ “งั้นก็เริ่มวาดเถอะ เร็วเข้า ฉันตามไม่ทันแล้ว หัวข้อคือความรัก ภายในครึ่งชั่วโมง เธอต้องรีบสแกนภาพออกแบบมา ได้ยินไหม”

“รู้แล้ว” คนฝั่งโน้นตอบกลับ

โสรยาตบหน้าอก แล้วตัดขาดการติดต่อ

ในห้องพักผ่อน อารัณหรี่ตามองเธอ “พ่อ ผู้หญิงคนนี้น่าแปลกมากครับ”

เขาหมายถึงโสรยา

นัทธีออกไปก็ไม่ได้รู้จัก จึงดึงสายตากลับมา ไม่ได้มองอะไรมากอีก

“มีตรงไหนน่าแปลก?” เขาถาม

อารัณส่ายหัว “พูดไม่ถูกเหมือนกัน ก่อนหน้านี้ผมเห็นเธอเดินอยู่บนระเบียงประตูตะวันตก ผมรู้สึกคุ้นกับเธอมาก แต่นึกไม่ออกว่าไปเจอที่ไหน”

“อ้อ?” นัทธีเลิกคิ้ว

ไหนๆ อารัณรู้สึกคุ้นหน้ามาก งั้นก็ต้องเป็นเรื่องจริง

“ผ่านไปสักพัก พ่อจะไปสืบหาประวัติของเธอกับเหล่าคณะกรรมการในการประกวด” นัทธีพูดไป

อารัณพยักหน้า “ต้องสืบให้ได้ ผมรู้สึกว่าเธอทำไม่ดีกับหม่ามี๊มาก”

“ความหมายว่าอะไร?” ได้ยินเด็กน้อยบอกว่ามีคนทำไม่ดีกับวารุณี สีหน้าของนัทธีก็หม่นหมองไปทันที

อารัณจับจ้องโสรยาไว้ “เมื่อครู่ตอนที่กล้องถ่ายหม่ามี๊ ผมเห็นสายตาที่ผู้หญิงคนนั้นมองหม่ามี๊ ไม่เป็นมิตรเลยครับ”

“พ่อรู้แล้ว” นัทธีหรี่ตาตอบกลับ จากนั้นก็สั่งให้พนักงานหนึ่งคนเข้ามา บอกสั่งการไปสองสามประโยค

พนักงานรู้ว่าเขาคือหนึ่งในผู้ลงทุนการประกวดครั้งนี้ จึงทำตามคำสั่งด้วยความเคารพ

ไม่นาน ข้อมูลของโสรยาก็มาถึงในทือของนัทธีแล้ว

หลังจากเขาพลิกอ่าน ไม่ได้มีอะไรผิดปกติ มีเพียงประวัติทั่วไป

ดูๆแล้วโสรยาไม่เป็นมิตรกับวารุณีจริงๆ น่าจะเป็นเพราะอิจฉา

อิจฉาในความสามารถและพรสวรรค์ของวารุณี

คนแบบนี้ ต้องจับจ้องไว้ไม่บ่อย ไม่งั้นอาจจะก็คงจะเพราะว่าอิจฉาและ และทำลายคู่แข่ง