บทที่ 447 ถูกขังที่ห้องน้ำ

พิชิตใจหม่ามี๊ตัวแสบ

น่าจะเป็นคนเดินผ่าน

ทว่าร่างของคนๆนั้นคุ้นเคยมาก เหมือนเคยเจอที่ไหนมาก่อน

อารัณหรี่ตาลงแล้วครุ่นคิดไปไม่กี่วิ นึกไม่ออกว่ามีใครที่ร่างเหมือนคนเมื่อกี้นี้บ้าง สุดท้ายก็ไม่ได้คิดอะไรมาก แล้วก็พูดคุยกับแดดดี้ หม่ามี๊และน้องสาวต่อ

หลายสิบนาทีผ่านไป วารุณีเห็นว่าเวลาพอดีแล้ว จึงวางไอริณที่อุ้มอยู่ลง “ที่รัก ใกล้จะประกวดแล้ว คุณพาเด็กๆกลับวิลล่าไปก่อนเถอะ”

“ไม่เอา หนูอยากอยู่เป็นเพื่อนหม่ามี๊ที่นี่” ไอริณกอดขาเธอไว้ไม่ปล่อย

ถึงแม้อารัณไม่พูดไม่จา ทว่าความหมายที่สื่อผ่านแววตานั้นคล้ายๆกัน

วารุณีมองนัทธี

นัทธีดึงยัยหนูน้อยออก “ไม่เป็นไร พวกเรารอคุณที่ห้องพักผ่อน หลังจากประกวดเสร็จแล้วก็กลับพร้อมกันเถอะ”

ได้ยินแบบนี้ วารุณีก็ใจอ่อน สุดท้ายก็พยักหน้า “งั้นก็ดี พวกคุณไปพักผ่อนก่อนเถอะ ฉันจะกลับไปที่งานก่อน”

“อืม” นัทธีผงกหัว

วารุณีโบกมือให้พวกเขาทั้งสาม แล้วหันหลังเดินเข้าไปในงานประกวด

ทว่าตอนที่เดินไปประตู เธอก็ยังมีเวลาเหลืออีกสิบกว่านาที จึงไปห้องน้ำก่อน

ยังไงเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการทุจริต ระหว่างการประกวดไม่สามารถไปเข้าห้องน้ำได้

อีกอย่างการประกวดหนึ่งครั้งก็ต้องใช้เวลาหลายชั่วโมง ถ้าไม่เข้าห้องน้ำก่อนก็คงจะเป็นเรื่องลำบาก

ดังนั้นวารุณีจึงเดินกลับไปเข้าห้องน้ำก่อน

เธอเพิ่งจะเข้าไปที่ห้องย่อย ประตูห้องด้านข้างเปิดออก โสรยาเดินออกมาจากด้านนอก หนี่ตามองไปห้องย่อยที่วารุณีอยู่

ถึงแม้วารุณีไม่ได้พูดอะไร ทว่าตอนที่เพิ่งจะล็อคประตู ที่ล็อคประตูเหมือนจะมีปัญหา วารุณีจึงพูดด้วยความสงัสย

เสียงๆนั้นทำให้เธอมาได้ยินเข้า ดังนั้นจึงรู้ว่าเป็นวารุณี

โสรยานึกไม่ถึงว่าจะบังเอิญขนาดนี้ ได้เจอกับวารุณีที่ห้องน้ำแล้ว

ไหนๆก็เป็นแบบนี้ งั้นก็โทษเธอไม่ได้

“เหอะ…..” โสรยากระตุกมุมปากขึ้นอย่างร้ายกาจ แล้วรีบเดินไปที่ใส่อุปกรณ์ทำความสะอาดของห้องย่อยนี้ แล้วเปิดประตูออก เอาไม้กวาดด้านหลังออกมาหนึ่งอัน

มองความยาวของไม้กวาด แล้วมองความกว้างของห้องย่อยนี้

หลังจากโสรยาพึมพำด้วยความเย็นชา เดินไปตรงหน้าประตูห้องย่อยของวารุณี จากนั้นก็วางไม้กวาดบนตะขอที่เป็นแนวขวางของห้องย่อยนี้

ทำพวกนี้จนเสร็จ โสรยาถอยหลังไปหนึ่งก้าว แล้วตบมือกำลังยิ้มในใจด้วยความเย็นชา

ครั้งนี้ เธอจะดูว่าวารุณีจะออกมายังไง

เวลาอีกสิบกว่านาทีก่อนจะเริ่มการประกวด

แค่ในสิบนาทีนี้ วารุณีรีบกลับที่จัดงานประกวดไม่ทัน และไปสายก็จะถูกถีบออกจากทีมประกวดทันที

ถึงเวลา วารุณีจะกลายเป็นดีไซเนอร์แรกในประวัติศาสตร์การประกวดนานาชาติที่เพราะว่ามาสาย จึงถูกถีบออกจากการประกวด แม้กระทั่งประเทศที่อยู่เบื้องหลังก็ยังต้องอับอายเพราะว่าเธอ

เธอสามารถจินตนาการได้ถึงจุดจบที่วารุณีถูกชาวเน็ตในประเทศด่า ถูกโซเชียลตราหน้านั้นเป็นยังไง

นึกถึงแบบนี้ โสรยาก็จากไปด้วยรอยยิ้ม

ตั้งแต่เริ่มจนถึงสุดท้าย เธอกระทำด้วยเสียงเบามาก วารุณีไม่ได้ยินอะไรเลย

รอให้เธอจัดระเบียบเสื้อผ้าเรียบร้อย แล้วกำลังเตรียมตัวเปิดประตูเดินออกไป

กลับสังเกตเห็นว่าประตูเปิดไม่ออก

ไม่ว่าจะผลักยังไง หรือจะดึงยังไงก็ไม่ได้

และก็หมายความว่า ถ้าไม่ใช่เพราะประตูเสีย ก็ต้องมีคนทำอะไรไม่ดีไม่ร้าย

ด้านหน้าคงเป็นไปไม่ได้ เมื่อกี้ตอนเธอเข้ามา ประตูยังดีๆอยู่เลย ที่ล็อคไม่เสีย ทำไมตอนนี้ถึงมีปัญหาได้ล่ะ

นี่ชัดเจนว่าเป็นไปไม่ได้ ดังนั้นความเป็นไปได้ที่มากที่สุด ประตูต้องเป็นฝีมือของคนแน่นอน

วารุณีทำสีหน้าที่ย่ำแย่มาก

เธอกลับไม่ได้สังเกตเห็นแม้แต่น้อย ตัวเองถูกขังไว้ด้านในตั้งแต่เมื่อไหร่กันน

พูดได้แค่ว่าเธอประมาทเกินไป

เธอสูดลมหายใจเข้าลึกๆ วารุณีอดกลั้นความโมโหในใจ แล้วเอามือถืออกมาโทรหาเชอรีน

เสียงของเชอรีนดังขึ้นทันที น้ำเสียงเต็มไปด้วยความกระวนกระวาย “วารุณี เธอไปไหน ยังเหลืออีกห้านาทีก็จะเริ่มประกวดแล้ว ทุกคนมาถึงแล้ว เหลือแค่เธอ เธอจะทำอะไรกันแน่?”

วารุณีนั่งบนโถส้วม สีหน้าแย่มาก “ฉันถูกขังไว้ในห้องน้ำ”

“อะไรนะ?” เชอรีนขึ้นเสียงสูง แล้วรู้สึกโมโหมา “ใครเป็นคนทำ?”

“ยังไม่รู้ เชอรีน เธอรีบมาช่วยฉันเปิดประตู จำไว้ต้องให้เร็ว”

ตั้งแต่ออกไป เธอเกลียดรองเท้าส้นสูงที่ตนเองใส่อยู่ มันเป็นปัญหาในการวิ่งมาก จึงถอดออกแล้วหิ้วโดยเฉพาะ จากนั้นก็วิ่งไปที่ห้องน้ำด้วยเท้าเปล่า

เธอมีรูปร่างสูงขาที่เรียวยาว เมื่อไม่มีรองเท้าส้นสูงแล้ว ความเร็วในการวิ่งจึงว่องไวมากขึ้น ไม่ถึงหนึ่งนาทีก็วิ่งไปถึงห้องน้ำแล้ว

“วารุณี?” เชอรีนเข้าไปแล้วตะโกนขึ้น

วารุณียืนขึ้น แล้วตบประตูห้องที่ตนอยู่ “ฉันอยู่นี่”

เชอรีนเห็นบานประตูที่สั่นสะเทือนแล้ว ก็เดินไป จากนั้นเอาไม้กวาดบนประตูออก “เสร็จแล้ว”

วารุณีที่อยู่ด้านในได้ยิน ก็ดึงเข้าประตู ประตูถูกเปิดออกจริงๆ

เธอเดินออกมาก็เห็นเชอรีนถือไม้กวาดไว้

ดูๆแล้ว สิ่งที่ขวางประตูไว้ก็คือไม้กวาด

“ให้ตายเถอะ ใครเป็นคนเอาไม้กวาดมาขวางประตูกันแน่” เชอรีนโยนไม้กวาดที่น่ารังเกียจลงบนพื้น

วารุณีทำสีหน้าหม่นหมอง “ไม่ว่าใครเป็นคนทำ เรื่องนี้ฉันต้องหาคำตอบอย่างชัดเจนแน่นอน เชอรีน รบกวนเธอเอาไม้กวาดนี่ไปด้วย ฉันจะเอาไปตรวจว่าด้านบนมีลายนิ้วมือหรือไม่”

จู่ๆเธอมาเข้าห้องน้ำ ดังนั้นไม่มีทางที่จะมีคนวางแผนขังเธอไว้ในห้องน้ำล่วงหน้าแน่นอน

สิ่งที่มีความเป็นไปได้มากที่สุด มีคนเข้ามาในห้องน้ำห้องก่อน แล้วก็สังเกตเห็นเธอมา ถึงจะมีความคิดแปลกๆผุดขึ้นมา แล้วขังเธอไว้ในห้องน้ำ

สำหรับเหตุผล ก็คงเพื่อที่จะให้เธอไปประกวดสาย

ยังไงตอนนี้ห่างจากเวลาการประกวดแค่ไม่กี่นาที ถ้าคนๆนั้นคิดจะขังตัวเองไว้จริงๆ ทำไมไม่แย่งมือถือที่สามารถติดต่อคนที่อยู่ด้านนอกของเธอไปล่ะ?

ดังนั้นเธอเดาว่าคนๆนั้นคิดจะขังเธอไว้กะทันหัน ก็อยากให้เธอไปสาย อีกอย่างยังมั่นใจมาก รู้สึกว่าเธอต่อให้เธอมีมือถือ สามารถติดต่อให้คนอื่นมาเปิดประตูได้ เธอก็ไม่มีทางกลับไปทันเวลาแน่นอน

เหอะ นี่มั่นใจจนกลายเป็นทรงนงตัวเองแล้ว

“เชอรีน เธอช่วยเช็คกล้องวงจรให้ที ดูว่าก่อนที่ฉันจะเข้าห้องน้ำ มีใครบ้างที่เข้ามาที่ห้องน้ำ แล้วมีใครบ้างที่ออกไป” วารุณีมองเชอรีน

เชอรีนพยักหน้า “ได้ โอเค เธอรีบไปประกวดเถอะ”

“อืม” วารุณีขอบคุณ ก็ไม่ได้ชักช้าอีก จึงรีบวิ่งไปที่จัดงาน

เธอใช้ความเร็วสูงสุดวิ่งไป ยังดีที่สุดท้ายสวรรค์ยังคงคุ้มครองเธอ

สิบกว่าวิสุดท้าย ก็สามารถไปถึงที่จัดงานประกวดสำเร็จ

พอพิธีกรเห็นเธอที่เหงื่อท่วมหัว ท่าทางที่หายใจแรง แล้วอดขมวดคิ้วไม่ได้

เขาไม่ชอบผู้เข้าประกวดที่เป็นแบบนี้ ถึงแม้ไม่ได้มาสาย ทว่าก็ทิ้งทัศนคติไม่ดีให้กับคนอื่น

“รีบไปนั่งบนที่นั่งเถอะ” พิธีกรพูดด้ยเสียงเย็นชาเล็กน้อย

วารุณีก็รู้ว่าตัวเองทำไม่ถูก จึงฝืนยิ้มหนึ่งที แล้วจับท้องที่ปวดเล็กน้อยของตัวเอง พลางเดินไปที่นั่งตัวเอง

เหล่าดีไซเนอร์คนอื่นๆ ต่างก็มองเธอ บ้างก็เป็นห่วง บ้างก็เย็นชาใส่เธอ และบ้างก็รอชมเรื่องสนุกๆ

ตอนที่พวกเขามองวารุณี วารุณีก็แอบสังเกตพวกเขาในที่ลับ

เพราะว่าเธออยากหาคนที่ขังเธอไว้ในห้องน้ำ

โดยทั่วไปแล้ว คนๆนั้นอยากให้เธอสาย ถ้าเห็นว่าเธอไม่ได้กลับมาสาย อารมณ์ของเธอต้องไม่เหมือนกันแน่นอน

แค่เธอหาคนที่ตอบสนองต่างจากคนอื่น ก็แทบจะสามารถมั่นใจได้ว่าคือใครกันแน่

ฉะนั้นวารุณีกวาดสายตาไปหนึ่งรอบ ก็ไม่เห็นคนที่น่าสงสัย

นี่ทำให้ภายในใจของเธออดไม่ได้ที่จะหม่นหมองลง

ดูๆแล้ว คนๆนั้นมีสภาพจิตใจที่ไม่เลว เห็นเธอกลับมาก็ไม่ได้ตอบสนองใดๆเลย

วารุณีดึงเก้าอี้นั่งลง สีหน้าดูไม่ค่อยดี

สองสามถอยด้านหลัง โสรยามองเธอนั่งลง สีหน้าดูไร้อารมณ์ใดๆ สุดท้ายก็เผยให้เห็นความไม่พอใจและความโหดเหี้ยม

วารุณีกลับทันกลับมา!

ในไม่กี่นาทีแบบนี้ เธอกลับมาทันได้ยังไง?