ตอนที่ 945 แผนที่ส่วนที่ห้า (1) / ตอนที่ 946 แผนที่ส่วนที่ห้า (2)
ตอนที่ 945 แผนที่ส่วนที่ห้า (1)
“ทหาร จับสามคนนี้ไปขังรอการลงโทษ” ไทฮองไทเฮาทรงเหนื่อยมากแล้ว พระนางชำเลืองมองฮองเฮา อัครเสนาบดี และเหลยฝานที่อยู่ในท้องพระโรง แม้ว่าพระนางจะทำตามพระราชโองการของฮ่องเต้พระองค์แรกโดยการให้ฮ่องเต้องค์ปัจจุบันสละราชสมบัติ แต่พระนางก็ไม่อาจอภัยให้คนเนรคุณที่ทรยศความเมตตาของฮ่องเต้ทั้งสามคนนี้ได้
ไทฮองไทเฮาพาเหลยชิวกับฮ่องเต้กลับไปด้วยกันและเตรียมการสำหรับการสละราชสมบัติของฮ่องเต้
ในท้องพระโรง ชวีหลิงเย่ว์ยืนเหม่ออยู่กับที่ นางจ้องมองประตูที่เปิดกว้างออกสู่ข้างนอกโดยไม่ละสายตาจากทิศทางที่จวินอู๋เสียเพิ่งจากไปเลย
“คุณหนูชวี” เวินอวี่พูดขึ้นพร้อมกับมองใบหน้ามึนงงของชวีหลิงเย่ว์
ชวีหลิงเย่ว์ได้สติกลับมาอย่างรวดเร็ว เมื่อวานเหลยเชินพานางไปที่จวนของท่านราชครู และขอร้องให้ราชครูแอบพานางเข้ามาในวังหลวงและเชิญไทฮองไทเฮาให้เสด็จมาที่ท้องพระโรง แม้ว่าเหลยเชินจะเป็นคนพูดทั้งหมด แต่เขาก็พูดตามที่จวินอู๋เสียบอกมา
“ท่านราชครู ตอนนี้ท่านอาสยงและคนอื่นๆ อยู่ที่ไหนกันหรือเจ้าคะ” ดวงตาของชวีหลิงเย่ว์เป็นประกายขึ้นมาพร้อมกับถามอย่างร้อนใจ
ราชครูยิ้มและพานางไปที่ที่สยงป้าและคนอื่นๆ พักอยู่ ระบอบการปกครองของรัฐเหยียนได้เปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิงในวันนี้เอง
เมื่อสยงป้าและคนอื่นๆ เห็นชวีหลิงเย่ว์ตัวจริง พวกเขาก็ยิ้มกว้างกันทันที และรีบบอกลาราชครูก่อนจะออกจากวังหลวงไป
เมื่อพวกเขากลับไปที่โรงเตี๊ยม ชวีหลิงเย่ว์รู้สึกกระสับกระส่ายเล็กน้อย นางเชิญสยงป้ากับคนอื่นที่เหลือมาที่ห้องพักของนาง
“ท่านอาสยง ที่ท้องพระโรงวันนี้ข้าเห็นเรื่องน่าเหลือเชื่อเข้าด้วยล่ะ”
“อะไรหรือขอรับ จวินเสียก่อเรื่องเข้าอีกแล้วหรือ ข้าบอกแล้วว่าเราไม่ควรตกลงทำตามคำขอร้องของเจ้าเด็กนั่น อย่ามองว่าคุณชายจวินเป็นแค่เด็กหนุ่มตัวเล็กๆ คนหนึ่ง สมองของเขาสามารถก่อเรื่องได้เยอะแยะเชียวล่ะ” สยงป้าพูดพลางนึกถึงสิ่งที่เขาเจอมาตอนที่เข้าไปในวังหลวงวันนั้น แล้วตัดสินใจว่าพวกเขาควรจะอยู่ให้ห่างจากจวินอู๋เสียเข้าไว้
เขาเองก็เห็นอยู่ว่าชวีหลิงเย่ว์ไม่ได้ไม่ชอบจวินอู๋เสีย เพราะอย่างนั้นเขาจึงพูดเรื่องที่เกิดขึ้นระหว่างจวินอู๋เสียกับเหลยฝานที่อุทยานหลวง
ชวีหลิงเย่ว์รับฟังอย่างปลาบปลื้ม ที่ท้องพระโรงในวันนี้นางเข้าใจภาพรวมทุกอย่างที่เกิดขึ้นแล้ว และนางรู้แน่ชัดว่าแผนการอันสมบูรณ์แบบนี้เป็นการวางแผนของเด็กหนุ่มคนนั้น
นางค่อนข้างมั่นใจว่าตอนที่เหลยเชินเชิญพวกเขาไปที่ตำหนักรัชทายาทในตอนแรก เด็กหนุ่มคนนั้นก็ได้วางแผนทุกอย่างเอาไว้แล้ว
“ท่านอาสยง! ท่านว่าความฉลาดและสติปัญญาเหนือคนธรรมดาของจวินเสียจะสามารถช่วยท่านพ่อได้หรือไม่…” ดวงตาของชวีหลิงเย่ว์เป็นประกายด้วยความหวัง
เมื่อสยงป้าได้ยินคำพูดพวกนั้นจากปากนาง เขาก็เข้าใจทันทีว่านางหมายความว่าอย่างไร สีหน้าของเขาเปลี่ยนไปทันที น้ำเสียงก็แปรเปลี่ยนเป็นเข้มงวดจริงจัง
“คุณหนูใหญ่ ปัญหาของท่านเจ้าเมืองไม่ใช่เรื่องที่เด็กคนหนึ่งจะเข้ามายุ่งได้ ถึงจวินเสียจะฉลาดเป็นกรด แต่คนประเภทนี้อันตรายมากหากยังไม่แน่ใจว่าเขาเป็นมิตรหรือศัตรู”
ชวีหลิงเย่ว์กลับเถียงว่า “แต่…เขาไม่น่าจะเป็นศัตรูของพวกเราไม่ใช่หรือ”
สยงป้าขมวดคิ้วแล้วพูดว่า “เขาร่วมมือกับเราครั้งนี้ก็เพราะเป้าหมายของพวกเราตรงกัน เราอยากได้รับการชดใช้ในความอยุติธรรมที่รัฐเหยียนทำกับเรา ขณะที่เขาเองก็อยากบรรลุเป้าหมายของตัวเอง มันมีผลประโยชน์ทับซ้อนกันทั้งสองฝ่าย เรายังแน่ใจในความสัมพันธ์ระหว่างเรากับเขาไม่ได้หรอก”
“แต่…ถ้ามีบางอย่างที่ทำให้เป้าหมายของเขาตรงกับเราเล่า” ชวีหลิงเย่ว์ถามพลางคิดย้อนไปถึงเหตุการณ์ที่จวินอู๋เสียถามหากล่องกำมะหยี่จากฮ่องเต้
“ท่านอาสยง ฮ่องเต้ของรัฐเหยียนมีแผนที่ที่เหมือนกับที่เรามีอยู่ด้วย และจวินเสียต้องการพวกมัน ถ้าข้าบอกเขาว่าเมืองพันอสูรก็มีแผนที่นั้นเหมือนกันเล่า ท่านว่าเขาจะ…” ชวีหลิงเย่ว์ถามอย่างร้อนรน
สยงป้าเบิกตากว้างทันที
ตอนที่ 946 แผนที่ส่วนที่ห้า (2)
หลังจากจวินอู๋เสียออกจากวังหลวง ใต้เท้าแบ๊ะแบ๊ะก็เปลี่ยนร่างกลับมาตัวเล็กเหมือนเดิม หลังจากนั้นไม่นานเหลยเชินก็ตามมา
ก่อนที่เหลยเชินจะทันได้พูดอะไร จวินอู๋เสียก็พูดขัดขึ้นก่อนว่า “สั่งให้พวกทหารที่ล้อมโรงเตี๊ยมตำหนักเซียนอยู่กลับไปให้หมด”
เหลยเชินอึ้งไปครู่หนึ่งก่อนจะนึกขึ้นได้ว่าฮ่องเต้สั่งให้พวกทหารคอยเฝ้าดูโรงเตี๊ยมตำหนักเซียนที่มีเฉียวฉู่และคนอื่นๆ อยู่ข้างใน สำหรับประชาชนในรัฐเหยียน โลกได้เปลี่ยนไปในเวลาแค่ไม่กี่วัน ไม่กี่ชั่วยามต่อมาก็มีประกาศว่าฮ่องเต้ได้สละราชสมบัติแล้ว
“ได้สิ เอ่อ น้องจวิน เรื่องบัลลังก์น่ะ เจ้ากลับไปคิดทบทวนดูดีๆ อีกสักครั้งได้หรือไม่” เหลยเชินตกลงทำตามความต้องการของจวินอู๋เสีย แต่เขาก็ไม่ลืมเกลี้ยกล่อมให้จวินอู๋เสียไปคิดทบทวนดูใหม่
แต่จวินอู๋เสียไม่แม้แต่จะปรายตามองเขา นางแค่เดินจากไปตามทางของนาง
ไม่นานนักพวกทหารที่ล้อมโรงเตี๊ยมตำหนักเซียนอยู่ก็ล่าถอยกลับไป เฉียวฉู่และคนอื่นๆ ไม่ได้ทุกข์ร้อนอะไรมากมายนักในช่วงไม่กี่วันมานี้ แค่อยู่ว่างๆ ไม่มีอะไรทำในโรงเตี๊ยมเท่านั้น
เมื่อพวกเขาเห็นจวินอู๋เสียกลับมา เฉียวฉู่ก็กระโดดมาตรงหน้านางทันที
“เป็นอย่างไรบ้าง สำเร็จหรือไม่”
จวินอู๋เสียพยักหน้า นางส่งกล่องกำมะหยี่ที่มีชิ้นส่วนแผนที่หนังมนุษย์อยู่ให้ฮวาเหยาที่ยืนอยู่ด้านข้าง
เมื่อรวมแผนที่ส่วนนี้ด้วย พวกเขาก็มีแผนที่ทั้งหมดสี่ส่วนแล้ว เป้าหมายรวบรวมแผนที่ทั้งแปดส่วน พวกเขาทำสำเร็จไปครึ่งหนึ่งแล้ว!
พอได้จวินอู๋เสียมาเป็นพวก พวกเขาก็รวบรวมแผนที่กันได้เร็วมาก ทุกคนเชื่อว่าอีกไม่นานพวกเขาจะสามารถหาแผนที่อีกสี่ส่วนที่เหลือพบ และสามารถเปิดเส้นทางเข้าสุสานที่ถูกปิดผนึกเอาไว้เป็นเวลานานได้!
“พอน้องเสียมาทำภารกิจด้วย เรื่องต่างๆ ก็สำเร็จได้อย่างรวดเร็ว ราบรื่น และงดงามมากจริงๆ! แล้วนี่เจ้าวางแผนว่าจะทำอะไรต่อไปหรือ” เฉียวฉู่ถามพร้อมกับฉีกยิ้มกว้าง จุดประสงค์ที่พวกเขามายังรัฐเหยียนก็บรรลุแล้ว พวกเขาจะเริ่มต้นการเดินทางครั้งใหม่จากที่นี่ เฟยเยียนยังไม่พบร่องรอยของที่ตั้งชิ้นส่วนแผนที่หนังมนุษย์ส่วนอื่นๆ พวกเขาจึงยังไม่มีจุดหมายปลายทางต่อไปที่ชัดเจน
“กลับไปที่สำนักศึกษาเฟิงหัวกันก่อน” จวินอู๋เสียพูด
ทุกคนยิ้มและพยักหน้า จากนั้นก็ไปเก็บข้าวของกันทันที พวกเขาไม่อยากอยู่ที่นี่ต่อแล้ว
ไม่มีใครถามนางเรื่องพระธำมรงค์ของฮ่องเต้แห่งรัฐเหยียน ทุกคนรู้ดีว่าจวินอู๋เสียไม่สนใจราชบัลลังก์เลยสักนิด
เฉียวฉู่และคนอื่นๆ พากันเก็บข้าวของเตรียมพร้อมที่จะกลับสำนักศึกษาเฟิงหัว
ตอนนั้นเองจู่ๆ รถม้าของเมืองพันอสูรก็มาจอดลงตรงที่หน้าประตูของโรงเตี๊ยมตำหนักเซียน
สยงป้ากับชวีหลิงเย่ว์ก้าวลงมาจากรถม้า เมื่อเห็นเฉียวฉู่และคนอื่นๆ กำลังขนของขึ้นรถม้ากัน ชวีหลิงเย่ว์ก็มีสีหน้าร้อนใจขึ้นมาทันที
“พวกเจ้ากำลังจะไปไหนหรือ” ชวีหลิงเย่ว์รีบเดินเข้ามาถามเฉียวฉู่
“พวกเราเตรียมจะกลับสำนักศึกษาเฟิงหัวกันแล้วน่ะ” เฉียวฉู่พูดพร้อมหัวเราะ
“จวินเสีย…จวินเสียอยู่หรือไม่” ชวีหลิงเย่ว์ชะงักไป จากนั้นก็รีบร้อนถามขึ้นทันที
“ยังเก็บของอยู่ข้างใน” เฉียวฉู่ไม่ได้คิดอะไรมาก เขาชี้ขึ้นไปที่บันไดอย่างง่ายๆ
แต่พอเขาพูดจบ ชวีหลิงเย่ว์กับสยงป้าก็พุ่งเข้าไปข้างในอย่างรวดเร็วราวกับสายฟ้า สีหน้าร้อนรนของพวกเขาทำให้เฉียวฉู่สับสนเล็กน้อย
จวินอู๋เสียยังคงเก็บของอยู่ นางไม่มีข้าวของมามากนัก ดังนั้นจึงจัดเก็บได้อย่างรวดเร็วและใส่พวกมันเข้าไปในถุงเอกภพ พอนางเดินออกจากประตู ก็เห็นชวีหลิงเย่ว์กำลังยืนหอบอยู่หน้าประตูห้องของนาง ส่วนที่อยู่ด้านหลังชวีหลิงเย่ว์ก็คือร่างอันสูงใหญ่ของสยงป้า
“มีอะไรกันหรือ” จวินอู๋เสียมองชวีหลิงเย่ว์ที่ใบหน้าเป็นสีแดงระเรื่อเล็กน้อยจากความเหนื่อย นางสามารถล้มล้างอำนาจของฮ่องเต้แห่งรัฐเหยียนได้อย่างราบรื่นในครั้งนี้ ส่วนหนึ่งก็เนื่องมาจากความช่วยเหลือของชวีหลิงเย่ว์ และในเมื่อจวินอู๋เสียไม่ได้มีความบาดหมางอะไรกับชวีหลิงเย่ว์ นางจึงไม่แสดงความเย็นชาจนเกินไปนัก
“เจ้า…ท่านกำลังจะไปแล้วหรือ” ชวีหลิงเย่ว์อึกอักเล็กน้อย ก่อนจะถามขึ้นในที่สุด
“อืม” จวินอู๋เสียพยักหน้าเล็กน้อย