ตอนที่ 951 แผนที่ส่วนที่ห้า (7) / ตอนที่ 952 แผนที่ส่วนที่ห้า (8)
ตอนที่ 951 แผนที่ส่วนที่ห้า (7)
หลังจากแน่ใจแล้วว่าแผนที่ส่วนที่ห้าอยู่ที่ไหน จวินอู๋เสียก็เดินออกไปจากห้อง ทิ้งชวีหลิงเย่ว์กับสยงป้าไว้ที่ห้องเพื่อสงบสติอารมณ์ชั่วคราว
ในโรงเตี๊ยม เฉียวฉู่ ฮวาเหยา และคนอื่นๆ ยังคงยุ่งอยู่กับการขนของขึ้นรถม้า
ฟ่านจิ่นกำลังขอบคุณเถ้าแก่โรงเตี๊ยมสำหรับการดูแลในช่วงที่พวกเขาพักอยู่ที่นี่ ด้านนอกโรงเตี๊ยมรถม้าของสำนักศึกษาเฟิงหัวพร้อมที่จะออกเดินทางแล้ว รอแค่ผู้โดยสารขึ้นรถม้าเท่านั้น
เมื่อเฉียวฉู่เห็นจวินอู๋เสียเดินลงบันไดมา เขาก็ยิ้มออกมาทันทีพร้อมกับพุ่งเข้าไปหานาง
“พวกเราเก็บของกันหมดแล้ว! พร้อมออกเดินทางทุกเมื่อ เอ่อใช่ ชวีหลิงเย่ว์ต้องการอะไรจากเจ้าหรือ เมื่อสักครู่ข้าเห็นนางรีบวิ่งเข้าไปพร้อมกับพี่หมียักษ์นั่น ดูท่าทางร้อนใจมากทีเดียว” เฉียวฉู่ยื่นแขนออกมาทำท่าทางล้อเลียนขนาดตัวของสยงป้า ร่างที่ดูใหญ่โตสูงตระหง่านของสยงป้าเท่ากับเฉียวฉู่สองคนรวมกันเลยทีเดียว
จวินอู๋เสียพูดว่า “เราไม่กลับไปที่สำนักศึกษาเฟิงหัวแล้ว”
เฉียวฉู่ที่กำลังยิ้มอย่างรื่นเริงยิ้มค้างทันทีที่ได้ยินคำพูดของจวินอู๋เสีย
“อะไรนะ ไม่กลับไปแล้ว ทำไมเล่า อย่าบอกนะว่า…เจ้าอยากอยู่ที่นี่เป็นฮ่องเต้ของรัฐเหยียนจริงๆ” ขณะที่พูดเขาก็รู้สึกว่ามันไม่น่าจะเป็นไปได้เลย
จวินอู๋เสียกลอกตา
“เราจะไปที่เมืองพันอสูร”
“เมืองพันอสูรหรือ” เฉียวฉู่เกาหัว “เป็นเพราะชวีหลิงเย่ว์มาตามหาเจ้าหรือเปล่า นางพูดอะไรกับเจ้ากันถึงทำให้เจ้าเปลี่ยนใจกะทันหันได้”
ดูเหมือนเขาจะจำได้ว่าน้องเสียกับชวีหลิงเย่ว์ไม่ได้สนิทสนมกันเลยนี่นา
“แผนที่หนังมนุษย์” จวินอู๋เสียตอบเสียงห้วน
เฉียวฉู่ตัวแข็งค้างทันที เขาทำตาโตจ้องจวินอู๋เสีย
“อะ…อะไร…เจ้าว่าอะไรนะ”
“เมืองพันอสูรมีอยู่ส่วนหนึ่ง” จวินอู๋เสียพูดต่อ
เฉียวฉู่อ้าปากค้างทันที เขามองจวินอู๋เสียด้วยสีหน้าตกตะลึง
เฟยเยียนยังไม่ได้รวบรวมข้อมูลที่ตั้งของแผนที่ส่วนที่ห้าเลย และเขาก็คิดว่าพวกเขาอาจจะต้องใช้เวลาอีกสักสองถึงสามเดือนกว่าจะได้ข่าวอะไรบ้าง แต่สุดท้ายก็…
พวกเขาเพิ่งได้แผนที่ส่วนที่สี่มา แผนที่ส่วนที่ห้าก็มาเคาะถึงหน้าประตูบ้านของพวกเขาแล้วหรือ!
เรื่องน่ายินดีมาเร็วเกินไปหรือไม่เนี่ย!
เฉียวฉู่รู้สึกตื่นเต้นขึ้นมาทันที
“จริงหรือ ชวีหลิงเย่ว์พูดแบบนั้นจริงๆ หรือ” เฉียวฉู่ถามพลางมองจวินอู๋เสียอย่างตื่นเต้น
จวินอู๋เสียพยักหน้า
เฉียวฉู่พูดขึ้นมาทันทีว่า “ข้าจะไปบอกพี่ฮวาและคนอื่นๆ ให้หยุดเก็บของ! เราจะไปเมืองพันอสูรกัน! ไปเดี๋ยวนี้เลย! ตอนนี้เลย! ตอนไหนก็ได้ที่เจ้าต้องการ!” พูดจบเฉียวฉู่ก็พุ่งออกไปแจ้งข่าวพรรคพวกคนอื่นๆ ทันทีว่ามีการเปลี่ยนแปลงแผนการเดินทาง เขาบอกทุกคนอย่างที่จวินอู๋เสียบอกเขา
ข่าวนั้นทำให้ฮวาเหยาและคนอื่นๆ ประหลาดใจมาก พวกเขาโยนข้าวของในมือทิ้งทันทีและรีบลากจวินอู๋เสียเข้าไปในห้องของฟ่านจัว ทั้งหกคนพากันเบียดเข้าไปในห้องแล้วปิดประตู จากนั้นก็ระดมยิงคำถามใส่จวินอู๋เสียเพื่อให้เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น
จวินอู๋เสียสรุปคำพูดที่ชวีหลิงเย่ว์กับสยงป้าบอกนางเมื่อครู่ให้ฮวาเหยาและคนอื่นๆ ฟัง และบอกพวกเขาถึงสถานการณ์ปัจจุบันในเมืองพันอสูรทั้งหมด
เมื่อได้ยินข่าวเรื่องแผนที่ส่วนที่ห้า พวกเขาก็ตื่นเต้นกันมาก แต่หลังจากนั้นไม่นานความตื่นเต้นก็หายไปและกลับสู่ความสงบเหมือนเดิม
“เจ้ากำลังบอกว่าไม่ใช่แค่แผนที่ที่อยู่ในเมืองพันอสูร แต่ยังมีคนจากสิบสองตำหนักอยู่ที่นั่นด้วยอย่างนั้นหรือ” ฮวาเหยาถามพร้อมกับขมวดคิ้ว ความทรงจำในการเผชิญหน้ากับคนจากสิบสองตำหนักของเขาไม่น่าพอใจนัก
จวินอู๋เสียพยักหน้า
ท่านยายที่ชวีหลิงเย่ว์พูดถึง ดูเหมือนนางจะอยู่ในเมืองพันอสูรแบบถาวรเพื่อคอยควบคุมการค้นหาสุสานเทพปีศาจเจ้าจักรพรรดิ ถ้าพวกเขาไปที่เมืองพันอสูรกันทั้งๆ แบบนี้ พวกเขาจะต้องได้เผชิญหน้ากับศัตรูเร็วมากๆ แน่!
ตอนที่ 952 แผนที่ส่วนที่ห้า (8)
“ศัตรูมีจำนวนกี่คน” ฮวาเหยาถามอย่างรอบคอบ นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่พวกเขายังคงยืนกรานจะเดินทางไปยังสถานที่ที่รู้ว่ามีคนของสิบสองตำหนักอยู่
“ชวีหลิงเย่ว์ก็ไม่แน่ใจในเรื่องนั้น นอกจากท่านยายนั่น ก็มีอีกประมาณสามคนที่อยู่ในเมืองพันอสูร จะมีคนอื่นอีกหรือไม่ก็ไม่แน่ใจ” จวินอู๋เสียพูด
“ที่รู้แน่ๆ คือมีสี่คนแล้ว” เฟยเยียนพูดพร้อมกับลูบคาง พยายามประเมินอันตรายที่พวกเขาจะเดินเข้าไปหาในภารกิจครั้งนี้ว่ามากแค่ไหน
“ไม่แย่อย่างที่เราคิดหรอก ครั้งนี้คนจากสิบสองตำหนักไม่ใช่แค่ศัตรูของเราฝ่ายเดียว พวกนั้นยังเป็นศัตรูของคนในเมืองพันอสูรด้วย ตราบใดที่พวกเราทำให้แน่ใจได้ว่าคนที่ถูกลักพาตัวไปจะปลอดภัย ทุกคนในเมืองพันอสูรจะยินดีช่วยเหลือพวกเราแน่นอน” จวินอู๋เสียพูดพร้อมกับหรี่ตาลง ความเกลียดชังที่คนของเมืองพันอสูรมีต่อสิบสองตำหนักอาจจะไม่น้อยไปกว่าพวกเขาเลย แต่เพราะครอบครัวของพวกเขาอยู่ในมือของศัตรู พวกเขาจึงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากทำตามคำสั่งของพวกนั้น
แต่ถ้าครอบครัวของพวกเขาเป็นอิสระแล้วละก็ ทำไมพวกเขาจะต้องยอมเชื่อฟังต่อด้วยเล่า
“ดูเหมือนคราวนี้เราก็ยังคงต้องพึ่งสมองของเจ้าเหมือนเดิมสินะ” พอเฉียวฉู่ได้ยินจวินอู๋เสียพูดอย่างนั้น เขาก็นึกถึงเรื่องที่เกิดขึ้นในรัฐเหยียนนี้ได้ทันที ถึงพวกเขาจะรู้ว่าพลังของพวกเขาทุกคนยังเทียบกับคนจากสิบสองตำหนักไม่ได้ แต่พวกเขามีจวินอู๋เสียที่ทั้งเก่งกาจและฉลาดเฉลียวเป็นพวกเดียวกับพวกเขา!
“อย่างนั้นก็ลองดู ใช้คนจากสิบสองตำหนักพวกนี้เป็นการทดสอบของพวกเราก็แล้วกัน อย่างไรพวกเราก็ต้องเผชิญหน้ากับพวกนั้นอยู่ดีไม่ช้าก็เร็ว” ฟ่านจัวพูดยิ้มๆ ก่อนหน้านี้ที่สำนักศึกษาเฟิงหัว พวกเขาได้ลองดูแล้วว่ามันเป็นอย่างไร และพวกเขาก็ไม่กลัวที่จะต้องลองอีกครั้ง!
“ฮะๆ แต่มีอย่างหนึ่งที่ข้าอยากจะถามน้องเสียน่ะ” อยู่ๆ เฉียวฉู่ก็พูดขึ้นพร้อมกับยิ้มอย่างชั่วร้ายหน้าไม่อาย
จวินอู๋เสียมองเขาแล้วพูดว่า “พูดมา”
“เอ่อ…พี่ใหญ่อู๋เย่า…เขาจะกลับมาเมื่อไรหรือ” เฉียวฉู่ถามพลางกะพริบตาปริบๆ แบบใสซื่อไร้เดียงสา ความจริงแล้วเฉียวฉู่ชื่นชมเขามากจนถึงขั้นบูชา ถ้าจวินอู๋เย่าเข้าร่วมกับพวกเขาได้ ก็ไม่ต้องกังวลเรื่องคนจากสิบสองตำหนักพวกนั้นอีก ต่อให้พวกนั้นมีคนมากกว่านี้สองเท่า ก็ไม่สามารถเป็นภัยคุกคามพวกเขาได้เลย
บางครั้งพวกเขาก็อยากรู้จริงๆ ว่าจวินอู๋เย่ามาจากที่ไหน เขาถึงได้แข็งแกร่งมากขนาดที่คนจากสิบสองตำหนักต้องตกอยู่สถานการณ์ที่ไม่มีทางรอดเมื่อเผชิญหน้ากับเขา
จวินอู๋เสียชะงักค้าง นางไม่เคยคิดว่าเฉียวฉู่จะพูดถึงจวินอู๋เย่าขึ้นมากะทันหันแบบนี้
ครั้งล่าสุดนี้จวินอู๋เย่าไปค่อนข้างนาน นางคิดว่าเขาจะกลับมาในไม่กี่วัน แต่พอเวลาผ่านไปนางก็เริ่มรู้ว่าเขาต้องหายตัวไปอีกแล้ว
“ตนเป็นที่พึ่งแห่งตนเถอะ” จวินอู๋เสียพูดพร้อมกับก้มหน้าลง ไม่รู้ทำไมพอเฉียวฉู่พูดถึงจวินอู๋เย่า ความรู้สึกที่อธิบายไม่ถูกก็ผุดขึ้นมาทำให้รู้สึกไม่สบายใจ
“แค่กๆ ข้าแค่พูดน่ะ อย่าใส่ใจเลย ข้ารู้อยู่แล้วน่า พวกเราต้องแก้แค้นด้วยตัวเองสิ แบบนั้นถึงจะน่าพอใจ” เฉียวฉู่พูดขึ้น ไม่ใช่ว่าเขาอยากจะอาศัยมือคนอื่นหรอก แต่เป็นเพราะจวินอู๋เย่าเป็นคนที่เขาชื่นชมมากต่างหาก
เมื่อรู้สึกว่าอารมณ์ของจวินอู๋เสียไม่ค่อยดี ฮวาเหยาและคนอื่นๆ ก็ไม่พูดอะไรอีก พวกเขาแยกย้ายกันไปเตรียมตัวเพื่อจุดหมายต่อไปของพวกเขา…เมืองพันอสูร!
จวินอู๋เสียยังคงนั่งอยู่ในห้องของฟ่านจัว ขณะที่ฮวาเหยาไปปรึกษากับชวีหลิงเย่ว์และสยงป้า
ฟ่านจิ่นมีความสุขที่เห็นพวกเขากำลังจะกลับไปที่สำนักศึกษาเฟิงหัว แต่ฟ่านจัวก็มาบอกเขาอย่างกะทันหันว่าพวกเขากลับไปกับเขาไม่ได้แล้ว ฟ่านจิ่นเพียงแค่ยิ้มและไม่ได้พูดอะไรมาก แค่บอกให้ฟ่านจัวดูแลตัวเองให้ดี