บทที่ 458 การมาของอาจารย์

พิชิตใจหม่ามี๊ตัวแสบ

วารุณีปฏิเสธไม่ลง “นิดหน่อยล่ะ”

นิรุตติ์มีท่าทีราวกับว่าอารมณ์ดีเป็นอย่างมาก เลยหัวเราะขึ้นมา

หลังจากที่หัวเราะแล้ว เขาก็หยุดลง “ฉันกลับอยากให้คุณทำอย่างอื่นแทนคำขอบคุณ แต่ฉันรู้ว่าคุณไม่มีทางตอบรับ ดังนั้นเลยไปกินข้าวสักมื้อกับคุณดีกว่า”

วารุณีพยายามฝืนยิ้มขึ้นมา แต่ก็ไม่ได้พูดอะไร

นิรุตติ์ลุกขึ้นมา “เอาล่ะ คุณพักก่อนเถอะ ฉันออกไปทำธุระก่อน เดี๋ยวก่อนกินข้าวฉันจะมาหาคุณอีกที”

วารุณีตอบรับเบาๆ

นิรุตติ์เดินออกจากประตูไป

เมื่อเดินไปที่ประตู เขาก็คิดอะไรขึ้นมาได้กะทันหัน พลางหันหัวไปมองเธอ “จริงสิ ได้ยินว่าช่วงนี้นัทธีกำลังหาฉัน คุณคงจะไม่เอาเรื่องที่ฉันอยู่ที่นี่ ไปบอกนัทธีใช่ไหม?”

“ไม่มีทาง” วารุณีส่ายหัว ก่อนจะมองพวกเขาพลางตอบอย่างจริงจัง

ถ้าเกิดเธอไม่ได้เจอคนดำสองคนนั้น หรือไม่ได้ถูกเขาช่วยไว้ เธอจะบอกนัทธีแน่นอน

แต่เขามาช่วยเธอไว้ทันพอดี ดังนั้นเธอจะไม่มีทางแก้แค้นทั้งๆ ที่เขาช่วยเอาไว้เด็ดขาด

แต่ครั้งหน้า เธอจะบอกแน่นอน

นิรุตติ์ยิ้มเบาๆ “งั้นก็ดี”

เมื่อพูดไป พวกเขาก็เปิดประตูเดินออกไป

ในห้องพักผู้ป่วยเหลือเพียงวารุณีคนเดียวเท่านั้น

เธอเหมือนไร้เรี่ยวแรงแล้ว เลยพิงหมอนด้านหลัง

พูดตรงๆ นิรุตติ์เป็นชายที่เธอกลัวว่าจะเจอที่สุด การมาเจอกับเขาสองต่อสองนั้น มันแทบจะทำให้เธอดึงความระวังตัวทั้งหมดออกมารับมือกับเขา

ไม่อย่างนั้น เพียงการไม่ระวังตัวเล็กน้อยก็จะตกหลุมพรางของเขาแล้ว

ดีที่ในครั้งนี้ นิรุตติ์ไม่ได้ทำอะไรกับเธอ เกรงว่าเธอจะติดบุญคุณกับพวกเขา เขาเองก็ไม่เหมือนเมื่อก่อนแล้ว ที่จะเสนออะไรให้เธอมาตอบแทน

เขาเปลี่ยนไปแล้วจริงๆ หรือว่าเขาแค่คิดจะทำแผนร้ายอะไรกันแน่นะ?

วารุณีผลุบตาลง คิดอย่างไรก็คิดไม่ออก แล้วก็ไม่อยากคิดมากอีก แต่ความระวังในใจนั้นกลับวางไม่ลง

ไม่ว่าอย่างไร หลังจากกินข้าว เธอก็ต้องออกห่างจากนิรุตติ์ และจะไม่มีทางอยู่กับนิรุตติ์นานไปกว่านี้

ในตอนนั้นเอง จู่ๆ โทรศัพท์ก็ดังขึ้นมา

ความคิดของวารุณีนั้นถูกตัดไป ก่อนจะหยิบขึ้นมาดู ก็เห็นว่าเป็นเชอรีนที่โทรมา

“วารุณี คุณอยู่ไหน ทำไมยังไม่กลับมา?” เสียงปลายสายนั้นเป็นคำถามด้วยความเป็นห่วงจากเชอรีน

วารุณียิ้มพลางตอบ” ฉันอยู่ที่โรงพยาบาล มีอะไรเหรอ?”

“อะไรนะ คุณอยู่โรงพยาบาลเหรอ?” เชอรีนพูดเสียงดังขึ้นมา

วารุณีพยักหน้า “อือ”

“วารุณี คุณเป็นอะไรไป ทำไมเข้าโรงพยาบาลอีกแล้วล่ะ?เกิดอะไรขึ้นกับลูกหรือเปล่า?คุณอยู่ที่โรงพยาบาลไหน เดี๋ยวฉันจะไปหาคุณ” เชอรีนเดินไปที่ประตูของคฤหาสน์ พลางถามอย่างร้อนใจ

วารุณีลูบท้องดู

ท้องนั้นดูไม่มีอะไรผิดปกติ ดังนั้นตอนที่เธอหมดสติไป ลูกเลยไม่น่าจะเป็นอะไร

“ลูกไม่เป็นไรหรอก คุณไม่ต้องมาหรอก ฉันเป็นลมนิดหน่อย เลยมีคนมาส่งที่นี่” วารุณีตอบอย่างง่ายๆ

เธอไม่อยากบอกเรื่องที่ตัวเองเจอคนดำออกไป เพราะไม่อยากให้เชอรีนเป็นห่วงมากกว่าเดิม

ถ้าเกิดครั้งหน้านัทธีมา แล้วเชอรีนบอกนัทธีไปอย่างไม่ได้ตั้งใจ ผลที่จะเกิดขึ้นมันคงรุนแรงมาก

“หมดสติไปได้อย่างไรล่ะ?” เชอรีนได้ยินวารุณีพูดอย่างเต็มแรงเป็นอย่างมาก เลยเข้าใจว่าวารุณีไม่เป็นไรจริงๆ

แต่สำหรับเรื่องที่วารุณีหมดสติไป เธอก็ยังไม่วางใจเท่าไหร่

วารุณีมีแววตาเป็นประกาย “อาจจะเพราะช่วงนี้ยุ่งมาก เอาล่ะคุณเชอรีน ไม่ต้องพูดเรื่องนี้แล้ว คุณมีธุระอะไรกับฉันหรือเปล่า?”

“อ๋อ คืออย่างงี้” เชอรีนถูกดึงให้เปลี่ยนเรื่องได้สำเร็จ ก่อนจะตอบ” เมื่อครู่มีนายท่านคนหนึ่งมาที่คฤหาสน์ บอกว่ามาหาคุณ แต่คุณไม่อยู่ ฉันเลยบอกปัดไปว่าให้เขามาครั้งหน้า”

“นายท่านงั้นเหรอ?” วารุณีมึนงงคิดอะไรไม่ออก “นายท่านหน้าตาประมาณไหนงั้นเหรอ?”

“ก็ไว้หนวดเครา บนหน้ามีไฝด้วย แล้วก็ใส่ชุดเว่อวังอลังการประมาณนั้นน่ะ” เชอรีนคิดถึงตอนที่เห็นคนแก่คนนั้น ก่อนจะอธิบายออกไป

วารุณีมุมปากกระตุกเล็กน้อย ก่อนจะคิดออกว่าเธอกำลังหมายถึงใคร จากนั้นเลยกุมหน้าผากอย่างไม่รู้จะแสดงออกอย่างไร “คุณเชอรีน นายท่านที่คุณบอกน่ะ ชื่อเมอร์เซเดอหรือเปล่า?”

“ใช่ๆ เขาชื่อเมอร์เซเดอ” เชอรีนตบหน้าผาก “ชื่อของคนต่างชาติจำยากมากเลย นายท่านคนนั้นแนะนำตัวให้ฉันฟังแล้ว ตอนนั้นฉันจำได้นะ แต่จากนั้นไม่นานก็ลืม ดีที่คุณเตือนฉัน แต่วารุณี คุณรู้ว่าเขาชื่อเมอร์เซเดอได้อย่างไร คุณเคยเจอเหรอ?”

“คุณลืมแล้วเหรอ ว่าอาจารย์ฉันชื่อเมอร์เซเดอ” วารุณีตอบอย่างตลก

เชอรีนอ้าปากค้าง “เอ่อ……ฉันลืมแล้วจริงๆ ที่แท้คนคนนั้นก็คืออาจารย์ของคุณนี่เอง”

“อือ” วารุณีพยักหน้า “ตอนที่ฉันมาเข้าร่วมการแข่งขัน ก็บอกที่อยู่ของฉันกับอาจารย์ไป อาจารย์บอกว่าจะมาหาฉัน แต่คิดไม่ถึงว่าจะมาเร็วขนาดนี้”

อาจารย์เองก็เป็นกรรมการของการแข่งขันนานาชาติ

แต่เป็นกรรมการตัดสินรอบสุดท้าย ดังนั้นอาจารย์มาหาตอนนี้ เลยทำให้เธออดตกใจไม่ได้

“ขอโทษนะวารุณี ตอนนั้นฉันไม่ทันตั้งตัวว่าเขาเป็นอาจารย์ของคุณจริงๆ ถ้าเกิดฉันนึกได้ทัน ฉันจะได้ช่วยคุณต้อนรับทำดีกับเขาหน่อย ฉัน……”

เชอรีนรู้สึกไม่ดีเป็นอย่างมาก

วารุณียิ้มขึ้น “เอาล่ะ ไม่เป็นไร เดี๋ยวฉันจะโทรหาอาจารย์เอง”

“โอเค” เชอรีนพยักหน้า

หลังจากที่วางสายไป วารุณีก็รีบโทรหาอาจารย์เมอร์เซเดอ เพราะอยากรู้ว่าอาจารย์มาเร็วขนาดนี้ทำไม น่าจะไปเข้าร่วมงานของเหล่านักออกแบบระดับสูงไม่ใช่เหรอ?

แต่เมื่อโทรไปกลับไม่มีคนรับสาย

วารุณีไม่ได้คิดว่าอาจารย์เมอร์เซเดอไม่รับสายเพราะเกิดอะไรขึ้น ถึงอย่างไรอาจารย์เมอร์เซเดอก็เป็นนักออกแบบระดับสูง คงจะไม่มีบอดี้การ์ดรอบตัวไม่ได้

ดังนั้นน่าจะมีเรื่องยุ่งอะไรเข้ามา ดังนั้นเลยไม่ได้รับสายเพียงเท่านั้น

เมื่อคิดไป วารุณีก็วางโทรศัพท์ลง ก่อนจะเปลี่ยนเป็นการส่งข้อความสั้นๆ ให้อาจารย์เมอร์เซเดอ

เชื่อว่าหลังจากที่อาจารย์เห็น คงจะโทรกลับมา

ตกดึก วารุณีกับนิรุตติ์นัดกันไปกินข้าวที่โรงแรมแห่งหนึ่ง

วารุณีไม่ได้เลือกห้องรับรอง แต่เลือกที่จะกินในโถงใหญ่

โถงใหญ่มันมีคนมากมาย มีคนผ่านไปมา แม้จะเสียงดังหนึ่ง แต่มันจะปลอดภัย เธอเองก็ไม่ต้องกังวลว่านิรุตติ์ทำอะไรกับเธอ

ถึงอย่างไร เธอก็กลัวที่จะต้องอยู่ในห้องรับรองกับนิรุตติ์ที่เป็นปีศาจบ้าแบบนี้

นิรุตติ์เหมือนอ่านใจวารุณีออกว่ากำลังคิดอะไร เลยมองเธออย่างยิ้มกรุ้มกริ่ม “เป็นอะไรเหรอ กลัวฉันขนาดนั้นเลยเหรอ?”

วารุณียกมุมปากขึ้นเล็กน้อย “ใช่สิ ถึงอย่างไรผู้อำนวยการนิรุตติ์ก็ชอบพาคนลงเหวลึกไปอยู่แล้ว ใครจะไม่กลัวบ้างล่ะ?”

นิรุตติ์หัวเราะขึ้นมา “ที่แท้วารุณีก็ยังจำเรื่องครั้งก่อนได้ดี”

“เรื่องครั้งก่อน ฉันไม่มีทางลืมได้เลยทั้งชีวิตนี้” วารุณีดื่มน้ำเปล่า ก่อนจะตอบเบาๆ ” แล้วก็ ฉันเป็นลูกพี่ลูกน้องของคุณ ผู้อำนวยการนิรุตติ์ยังเรียกชื่อเต็มของฉันหรือไม่ก็เรียกว่าสะใภ้เถอะ”

นิรุตติ์ทำเหมือนไม่ได้ยิน พลางมองเธออย่างลึกซึ้ง “แต่ฉันชอบเรียกว่าคุณวารุณี”

วารุณีกลอกตามองบน และขี้เกียจจะแก้ให้มันถูกแล้ว

ถึงอย่างไรคนแบบนั้น ยิ่งคุณไปแก้ให้มันถูก เขาก็ยิ่งไม่ฟัง

ดังนั้นแก้ให้มันถูกไปก็ไม่มีประโยชน์ มีแต่จะโกรธเปล่าๆ

เมื่อเห็นว่าวารุณีไม่สนใจการเรียกชื่อ นิรุตติ์เหมือนจะเสียดายมาก ก่อนจะแกว่งไวน์แดง “เวลาในช่วงนี้ คุณสบายดีไหม?ฉันได้ยินมาว่า ก่อนหน้านี้คุณกับนัทธีเกิดปัญหากันขึ้น จนเกือบจะทำให้ต้องหย่าแล้ว”

วารุณีเงยหน้ามองเขา “คุณรู้ด้วยเหรอ ดูเหมือนผู้อำนวยการนิรุตติ์อยู่ต่างประเทศ แต่ก็ยังรู้ข่าวภายในประเทศดีนะ”

นิรุตติ์ยิ้มขึ้น “นัทธีอยากจะจับฉัน ส่วนฉันเพื่อไม่ให้ถูกพวกเขาจับ เลยต้องจับตามองความเคลื่อนไหวของเขา ดังนั้นเลยรู้เป็นปกติน่ะ”

“งั้น คุณรู้ไหมว่าฉันมีปัญหากับนัทธีเพราะอะไร?” วารุณีมองเขาอย่างสงสัย

ในแววตาของนิรุตติ์นั้นมีความมืดมน พลางยิ้มแล้วดื่มไวน์แดง “แน่นอน เพราะความตายของลุงรองน้ารองของฉัน”

“ในเมื่อคุณรู้แล้ว คุณเองก็น่าจะรู้ ว่านัทธีหาตัวฆาตกรที่ฆ่าพ่อแม่ของเขาแล้วผลออกมาว่าเป็นพ่อคุณแล้วใช่ไหม” วารุณีพูดต่อ