บทที่ 462 เด็กมีปัญหา

พิชิตใจหม่ามี๊ตัวแสบ

วารุณีกัดริมฝีปาก“เปล่า ฉันแค่คิดว่า มีตรงไหนผิดปกติไป”

“ผิดปกติ?”เชอรีนกะพริบตา“หมายความว่าไง?”

วารุณีมองซ้ายมองเขา ตอบกลับเสียงเบา:“ฉันสงสัยหน่อยๆ เรื่องนี้ น่าจะไม่ใช่พวกเธอที่ทำ”

ดวงตาของเชอรีนเบิกโต“เธอ……”

วารุณีรีบปิดปากเธอไว้“เธอทำอะไร เบาๆหน่อยสิ”

เชอรีนพยักหน้าอย่างอู้อี้ สื่อว่าตัวเองจะพูดเสียงเบา

เห็นแบบนี้ วารุณีจึงปล่อยเธอ

เธอจับมือของวารุณีไว้“วารุณี เธอเพิ่งบอกว่า เธอสงสัยว่าไม่ใช่พวกเอมี่?”

วารุณีตอบอือ“ฉันสงสัยว่าจริงๆแล้วไม่ใช่พวกเอมี่ ว่าอย่างไรดีล่ะ ฉันกับพวกเอมี่ไม่เคยคุยกันเลย ฉันอยู่กลุ่มA เอมี่ก็อยู่กลุ่มA ดังนั้นว่ากันตามจริงแล้ว เราสองคนแทบจะไม่รู้จักกัน เธอไม่มีเหตุผลที่จะต้องอิจฉาฉันเลย”

“อันดับของเธอในกลุ่มA อยู่ต่ำกว่าเธอห้าคน”เชอรีนยื่นมือข้างหนึ่งแล้วพูด

วารุณีส่ายหน้า“อันดับฉันสูงกว่าเธอจริง แต่อยู่สูงกว่าฉันยังมีอีกสี่คน ดังนั้นถึงอิจฉาฉัน ก็น่าจะอิจฉาสี่คนนั้น ไม่ใช่ฉัน”

“แต่ตอนนั้นมีแค่เธออยู่ในห้องน้ำ ดังนั้นเอมี่จึงลงมือกับเธอก่อน”เชอรีนพูด

วารุณีหัวเราะ “ดังนั้นฉันแค่สงสัย บางทีอาจจะฉันคิดมากไปจริงๆ”

เพราะว่าเรื่องของทารีนา ทำให้เธอเข้าใจว่า บางครั้งอาชญากรที่หามาได้ ไม่จำเป็นต้องเป็นอาชญากรจริงๆ ดังนั้นเธอจริงสงสัยมากไปหน่อย

แต่ว่าทารีนาเป็นแพะรับบาปเพราะว่านายท่านบุญชัยปกปิดนวิยา แต่ที่นี่ ด้านการแข่งขันไม่มีเหตุผลที่จะไปปกปิดฆาตกรตัวจริง

ดังนั้น บางทีอาชญากรอาจจะเป็นเอมี่กับทิฟฟานี่สองคนนี้จริงๆ

ถึงแม้ในใจจะคิดแบบนี้ แต่วารุณีก็ยังตัดสินใจว่า หลังจากจบการแข่งขัน เธอจะไปดูพวกเอมี่ที่คุก

ไม่อย่างนั้น เธอก็ไม่วางใจ

ประชุมจบลง ทุกคนก็เดินไปที่สถานที่แข่งขัน

ระหว่างทาง โสรยามาด้านข้างวารุณี

“คุณวารุณี ดีจัง คนที่ทำร้ายคุณกับเชอรีนถูกจับแล้ว เป็นข่าวดีจริงๆ”โสรยาพูดยิ้มๆ

วารุณีก็ขี้เกียจไปคิดว่าเธอจริงใจหรือเสแสร้งกันแน่ จึงยิ้มบางๆ“ขอบคุณค่ะ”

“ไม่ต้องเกรงใจค่ะ”โสรยาส่ายมือ

คนๆนั้น แม้ว่าจะพังทลายลงแล้ว กลับให้คนไปเป็นแพะรับบาปได้อย่างง่ายดาย

ไม่เลวเลยจริงๆ

ตอนนี้ ในที่สุดเธอก็โล่งอกลงโดยสิ้นเชิง

การแข่งขันเริ่มขึ้นอย่างเป็นทางการ

วารุณียังคงแสดงความสามารถได้มั่นคงเหมือนเดิม จึงอยู่กลุ่มA

โสรยาก็เช่นกัน

การแข่งขันจบลง วารุณีก็ออกไปจากห้องประชุมแข่งขัน เตรียมไปดูที่คุก เชอรีนก็ไปด้วยกัน

ระหว่างทาง ในที่สุดอาจารย์เมอร์เซเดอก็ตอบข้อความมา

อ่านข้อความเสร็จ วารุณีจึงขมวดคิ้วขึ้นมา

เชอรีนเห็น จึงถามอย่างห่วงใย“วารุณี เป็นอะไร?”

“ตอนฉันมาที่นี่ ฉันไม่ได้ถามอาจารย์แล้วเหรอว่าโสรยาสืบทอดจากอาจารย์ท่านไหน?”วารุณีพูด

เชอรีนพยักหน้า“ใช่ แต่ตอนนั้นอาจารย์เธอบอกว่า บรรดาอาจารย์ชั้นนำต่างไม่มีลูกศิษย์ที่ชื่อโสรยานี่?”

“อือ ใช่ แต่เมื่อกี๊อาจารย์กลับบอกว่า มีอาจารย์ชั้นนำคนหนึ่งโดนเขาละเลย และโสรยาก็เป็นลูกศิษย์ของท่านนั้นพอดี”วารุณีเม้มริมฝีปาก

เชอรีนรีบถาม“ใครเหรอ?”

“อาจารย์ลินดานั่นเอง”

“อาจารย์ลินดา?ชื่อคุ้นๆจัง”เชอรีนเอียงศีรษะ แต่กลับคิดไม่ออก

วารุณีหัวเราะอธิบายออกไป“ข่าวที่สองสามปีก่อนอาจารย์ชั้นนำท่านหนึ่งถูกไฟไหม้เสียโฉม ยังจำได้ไหม?”

พอพูดแบบนี้ เชอรีนก็คิดขึ้นได้“เธอนี่เอง”

“ถูกต้อง”วารุณีพยักหน้า

อาจารย์ลินดาท่านนั้น เหมือนกับอาจารย์ เป็นอาจารย์ชั้นนำเช่นกัน และเป็นคนที่อายุน้อยที่สุดคนหนึ่ง แต่ว่าพฤติกรรมไม่ดีเท่าไหร่นัก

ตามรายงานข่าวเมื่อสองสามปีก่อน อาจารย์ลินดาชอบสามีของเจ้าของรางวัลภาพยนตร์นานาชาติ และแอบเป็นกิ๊ก ต่อมาถูกเจ้าของรางวัลภาพยนตร์จับได้ และแฉออกไป หลังจากชื่อเสียงของอาจารย์ลินดาถูกทำลาย จึงทำการแก้แค้นเจ้าของรางวัลภาพยนตร์ ลงมือกับชุดของเจ้าของรางวัลภาพยนตร์ ให้เจ้าของรางวัลภาพยนตร์เดินโป๊ เสียหน้าอย่างมาก

จากนั้นเจ้าของรางวัลภาพยนตร์ โกรธ จึงตีอาจารย์ลินดาจนสลบ แล้วเอาถุงพลาสติกครอบหัวของอาจารย์ลินดา ใช้ไฟจุดเผา สุดท้ายถ้าไม่ใช่ว่ามีคนปรากฏตัวช่วยอาจารย์ลินดาได้ทันเวลา อาจารย์ลินดาก็คงไม่ใช่แค่เสียโฉมอย่างเดียวแน่ แต่คงถูกเผาตายทั้งเป็น

ถึงแม้สุดท้ายเจ้าของรางวัลภาพยนตร์จะต้องชดเชยค่าเสียหาย แต่อาจารย์ลินดาก็ไม่ได้ดีไปกว่ากัน ตั้งแต่ตอนนั้นที่เธอลงมือกับชุด ก็ไม่เหมาะที่จะเป็นดีไซเนอร์อีกต่อไป ดังนั้นสุดท้ายแล้วจึงถูกสมาคมออกแบบสำนักงานใหญ่ร่วมกันแบน และยกเลิกตำแหน่งของนักออกแบบชั้นนำของอาจารย์ลินดา

คิดไม่ถึงว่า โสรยาจะเป็นลูกศิษย์ของเธอ

งั้นเมื่อวานซืนที่เธอเจอในร้านอาหาร ผู้หญิงข้างโสรยาคนนั้นนี่มองหน้าไม่ค่อยชัด บางทีอาจจะเป็นอาจารย์ของโสรยาแหละมั้ง

“เมื่อวานอาจารย์เมอร์เซเดอมาที่นี่ล่วงหน้า คงไม่ใช่ว่าบอกเธอเรื่องนี้โดยเฉพาะหรอกนะ?”เชอรีนมองวารุณี

วารุณีส่ายหน้า“ไม่ใช่แน่นอน อาจารย์บอกแล้ว เขามาที่นี่เพื่อมาดูโชว์ของเพื่อนเก่าคนหนึ่ง จากนั้นก็ไปเข้าร่วมการประชุมแลกเปลี่ยน ตอนนี้อยู่บนเครื่องบินเพื่อไปประชุมแล้ว”

“ที่แท้ก็แบบนี้เอง”เชอรีนพยักหน้าทันที

ทันใดนั้น โทรศัพท์ของวารุณีจึงดังขึ้นอีกครั้ง เป็นเบอร์แปลก

วารุณีคิดเล็กน้อย แล้วกดรับไป“สวัสดีค่ะ ฉันวารุณีเอง”

“วารุณี ผมเอง”ที่ปลายสายมีเสียงร้ายกาจของนิรุตติ์เข้ามา

วารุณีขมวดคิ้ว จะวางสายอย่างไม่รู้ตัว

เหมือนนิรุตติ์จะเดาได้อยู่แล้ว จึงรีบพูดว่า:“วารุณี มีเรื่องเกี่ยวกับเด็กในท้องของคุณ คุณแน่ใจว่าจะวางจริงเหรอ?”

พอได้ยิน วารุณีก็ชะงักไป เม้มริมฝีปากแล้วพูดว่า“คุณพูดอะไร?”

“เมื่อวานหลังจากผมส่งคุณเข้าโรงพยาบาล หมอบอกว่าเด็กในท้องคุณมีปัญหาเล็กน้อย ที่จริงผมคิดจะรอคุณฟื้นมาแล้วค่อยบอกคุณ แต่จู่ๆก็ลืมไป เมื่อกี๊ผมคิดขึ้นได้ ดังนั้นจึงรีบโทรมาเตือนคุณ เป็นไง ผมใส่ใจมากเลยใช่ไหมล่ะ?”

วารุณีไม่มีเวลาไปสนใจคาวมเอ้อระเหยลอยชายของเขา กำโทรศัพท์แน่น เสียงนั้นถามอย่างกังวล “คุณบอกว่า เด็กในท้องของฉันมีปัญหาหน่อยๆ?”

“วารุณี เด็กในท้องเธอมีปัญหาเหรอ?”เชอรีนได้ยินคำนี้ ก็ตะลึงไปทั้งตัว

วารุณีไม่ตอบเธอ แต่เอาความสนใจทั้งหมดไปไว้ที่สาย รอนิรุตติ์ตอบกลับอย่างไม่สบายใจ

สายตานิรุตติ์หม่นลง แล้วเปลี่ยนไปอย่างเร็ว“ใช่”

“ปัญหาอะไร?”วารุณีกัดริมฝีปากแน่น

นิรุตติ์ดันแว่น“รายละเอียดผมไม่รู้หรอก คุณไปหาหมอแล้วเข้าใจให้ละเอียด โอเค ที่ควรพูดผมพูดไปหมดแล้ว ผมจะไปจากนี่แล้ว พวกเราค่อยเจอกันครั้งหน้า”

พูดจบ เขาก็วางสายไป

วารุณีวางโทรศัพท์ลง สีหน้านั้นดูไม่ดีเล็กน้อย

เชอรีนมองเธอ“วารุณี คนนั้นบอกว่าเด็กในท้องของเธอมีปัญหาเหรอ?”

“อือ”วารุณีพยักหน้า

เธอไม่เชื่อนิรุตติ์

แต่นิรุตติ์บอกว่าให้เธอไปหาหมอ เขากล้าให้เธอไปหาหมอ นั่นหมายความว่า เด็กในท้องของเธอ เป็นไปได้ที่จะมีปัญหาจริงๆใช่ไหม

“เป็นไปไม่ได้”เชอรีนขมวดคิ้ว“ช่วงก่อนหน้านี้ ก็ครั้งนั้นที่ประธานนัทธีถูกเล่นงาน เธอก็เข้าโรงพยาบาล หมอก็ไม่ได้บอกว่ามีปัญหาอะไรนี่ ทำไมตอนนี้ถึงมีได้?”

วารุณีได้ยิน ถึงแม้จะถูกปลอบใจไปบ้าง แต่ในใจก็ยังไม่ค่อยสบายใจนัก

เชอรีนมองออก จึงบีบฝ่ามือของเธอ “วางใจเถอะ ไม่เป็นอะไรแน่ ฉันไปหาหมอที่โรงพยาบาลเป็นเพื่อนเธอด้วยเอาไหม?”

“อือ”วารุณีพยักหน้าด้วยสีหน้าซีดขาว “แต่เดี๋ยวค่อยไปเถอะ มาถึงคุกแล้ว”

เธอจอดรถไว้ ลงไปด้วยกันกับเชอรีน

เชอรีนไปที่ห้องโถงของคุกเพื่อขอเยี่ยม

อย่างไรก็ตามผลลัพธ์ที่ทางคุกบอกมา กลับทำให้วารุณีกับเชอรีนตกใจ