บทที่ 526 หญ้าเฉียนยินของฮ่องเต้รุ่นแรก

หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป

บทที่ 526 หญ้าเฉียนยินของฮ่องเต้รุ่นแรก

หลานเยาเยาไม่ได้เข้าใจถึงความคิดเล็กๆน้อยๆของฮ่องเต้ รู้ว่านางเหน็บชาไปทั้งร่าง นางต้องการออกกำลังกายเล็กน้อย

หลังจากที่ลุกขึ้นโดยไม่ลังเล นางก็เดินไปทางนอกประตู ด้านหลังกลับมีเสียงซักถามที่ทรงพลังน่าเกรงขามของฮ่องเต้ดังมา

“ไปไหน?”

“วิ่งตอนเช้า เคลื่อนไหวกระดูกและกล้ามเนื้อ นี่เป็นความเคยชินในทุกวัน” ยังกลัวว่าจะหนีไปอีกหรือ?

ภารกิจยังไม่สำเร็จ ทิ้งนางไล่นางก็ยังต้องกลับมาอย่างเชื่อฟัง

ด้วยเหตุนี้ ฮ่องเต้ที่คิดว่าตัวเองแน่ที่สุดเห็นเป็นครั้งแรก เป็นถึงฮองเฮาของประเทศ สวมชุดคลุมที่ซับซ้อน วิ่งต่อติดกันสามรอบที่วังหลัง เหนื่อยจนเหงื่อไคลไหลย้อยเต็มหลังก็ยังวิ่งต่อ

นี่สำหรับคืนวันแต่งงานใหม่ ของฮ่องเต้ที่เพิ่งจะเข้าหอเสร็จ เป็นการดูถูกอย่างโจ่งแจ้งชนิดหนึ่ง

เหล่าองครักษ์อ้างอู๋ที่อยู่ในที่ลับมึนงง

ไม่ควรนี่!

ทำไมกำลังวังชาของฮองเฮาเปี่ยมไปด้วยพลังขนาดนี้ หรือว่าฮ่องเต้มีโรคที่ไม่อาจเปิดเผยได้ ทำให้ฮองเฮาพึงพอใจไม่ได้?

จากที่สายสืบสืบหาลับๆทั้งคืน หลังจากการลงโทษขุนนางผู้ใหญ่อย่างรุนแรงกลุ่มหนึ่ง ฮ่องเต้พุ่งเข้าพระราชวังด้วยสีหน้าเกรี้ยวโกรธ เห็นหลานเยาเยาที่รำคาญชุดวังหลวงของฮองเฮาที่มีความซับซ้อนไม่คล่องตัวเปลี่ยนเป็นสวมใส่ชุดที่คล่องแคล่วเรียบง่าย

นี่เหมือนฮองเฮาของประเทศที่ไหน?

เห็นได้ชัดว่าเป็นลูกลิงที่เคลื่อนไหวไปทุกทาง

นางรู้หรือไม่ว่าในราชสำนักมีขุนนางชั้นผู้ใหญ่จำนวนเท่าไหร่ที่ต้องการจะเอาแก้วตาดวงใจของตัวเองยัดเข้ามาในวังหลังของเขา ในโลกนี้มีผู้หญิงอีกเท่าไหร่ที่แย่งชิงกันเพื่อคิดต้องการเข้ามาในประตูวังที่ลึกๆแห่งนี้

นางกลับดี ทันทีที่มาก็ได้มอบตำแหน่งฮองเฮาที่สูงสุดให้แก่นาง คิดไม่ถึงว่าจะไม่ใส่ใจแม้สักนิด

ถึงกระทั่งยังเอาชุดเครื่องแบบทางการของฮองเฮาที่ได้จัดทำขึ้นอย่างประณีต แขวนไว้บนต้นไม้ตามอำเภอใจ ตัวนางเองกลับถือขนมจานหนึ่งและกินอย่างเต็มที่อยู่ข้างๆ

นับว่าเป็นระเบียบแบบแผนอย่างไรกัน?

“ฮองเฮา!”

เขาเอ็ดเสียงดังอย่างเย็นชาเสียงหนึ่ง เดินตรงรี่ไปทางนาง สีหน้าเย็นชา แววตากลัดกลุ้ม

“ห๊า?”

หลานยาเยาที่ยัดของเต็มปาก หันหลังกลับมาก็เห็นเงาสูงใหญ่เงาหนึ่งปกคลุมตัวเองไว้ ทำให้นางอดที่จะเงยหน้าไม่ได้ มองเห็นคนที่มาชัดเจน

หลังจากเห็นว่าเป็นฮ่องเต้ ก็รีบทำตาโตกะพริบกะพริบทันที ปริปาก สีหน้าดีอกดีใจ

“ท่านมาแล้ว พอดีพอดี ข้าตรวจดูว่าพิษในร่างกายของท่านเป็นอย่างไรบ้าง ข้าจำเป็นต้องศึกษาศึกษาเพคะ”

แน่นอนว่าจะได้ตรวจไปด้วยเลยว่าเลือดของเขาเหมือนของตัวเองหรือไม่ คือกรุ๊ปเลือด A3ที่พิเศษมากๆ

อาจจะเพราะว่าเจ้าระบบเสนอขึ้นมาอย่างคลุมเครือว่าเขาเป็นเป้าหมายของภารกิจ ดังนั้นหลานเยาเยาทำเหมือนเขาเป็นเพื่อนที่สนิทมาก

เห็นว่าคนที่มาเป็นเขา นางกระโดดยืนขึ้นมา ดึงฮ่องเต้ให้นั่งบนเก้าอี้หินข้างๆ ไม่เห็นสีหน้าที่ดำดั่งหมึกของฮ่องเต้สักน้อย

หลังจากตรวจชีพจร สีหน้าของหลานเยาเยาก็เคร่งขรึมขึ้นมาอีกครั้ง

ร้อยละแปดสิบเป็นกรุ๊ปเลือด A3 แต่เพราะเลือดได้รับยาพิษชนิดเรื้อรังรุกเข้าเกาะกินเป็นเหตุ ดังนั้นแม้ว่าจะได้รับเลือดที่สารพิษปลอมปนก็ไม่มีทางที่จะเลื่อนขั้นภารกิจได้ นอกจากจะถอนพิษไปแล้ว

เห้อ!

ก็ว่าแล้ว เจ้าระบบไหนเลยจะชี้แนะด้วยความหวังดีขนาดนั้น?

ฮ่องเต้เห็นท่าทางของนาง ทั้งเป็นกังวลทั้งทอดถอนใจ อดที่จะถอนใจเฮือกหนึ่งไม่ได้

คาดว่าก็มีเพียงนางที่ไม่กลัวข้าแล้ว!

นึกถึงในราชสำนักวันนี้ขุนนางเหล่านั้นแต่ละคนท่าทางขี้ขลาดหวาดกลัว เพียงเขามีโทสะ พวกเขานอกจากประโยคนั้น “ฝ่าบาทระงับความโกรธพ่ะย่ะค่ะ” ก็เหลือเพียง “ข้าน้อยสมควรตายพ่ะย่ะค่ะ”แล้ว

แม้แต่ขันทีข้างกายและนางกำนัล หลังจากผ่านการปรับปรุงครั้งหนึ่งแล้ว

คนที่มาใหม่ยิ่งเป็นไม่กล้าหายใจเสียงดังออกมา เกรงว่าพวกเขาแม้แต่หายใจก็ล้วนทำให้เขาโมโหได้

ก็เพียงแค่นางผู้หญิงที่แปลกประหลาดผู้หนึ่ง ไม่ได้ให้ความสำคัญกับเขาโดยสิ้นเชิง

ขณะเดียวกับที่เขาถอนหายใจ หลานเยาเยาก็ถอนหายใจ นางถอนมือออกแล้ว ปล่อยมือลง อุ้งมือก็ปรากฏยาลูกกลอนขาวๆกลมๆสองเม็ดทันที สีไม่ใช่สีก่อนหน้านี้แล้ว คราวนี้เป็นสีแดงอ่อน

“ยานี้ท่านกินก่อน มันทำได้เพียงคลายยาพิษเรื้อรังในร่างกายของท่านให้เบาบางลง ไม่สามารถรักษาที่ต้นเหตุได้ อีกครู่ข้าใช้เข็มเงินเอาสารพิษในร่างกายของท่านออกมาส่วนหนึ่ง คิดต้องจะรักษาที่ต้นเหตุ จำเป็นต้องมีหญ้าเฉียนยินเพคะ”

อย่างไรเสียในระบบการรักษาโรคภัยไข้เจ็บของนางไม่ได้เลื่อนขั้น เอายาที่ค่อนข้างดีออกมาไม่ได้โดยสิ้นเชิง

ไม่มีทางพึ่งพาระบบการรักษาโรคภัยไข้เจ็บได้ ทำได้เพียงหายาสมุนไพรมาทดแทนเองแล้ว

แต่ว่า!

นางไม่ได้กังวลใจแต่อย่างใด มีฮ่องเต้อยู่ทั้งคน ทั้งโลกล้วนเป็นของเขา อีกทั้งยังกำลังรักษาอาการป่วยให้เขา หญ้าเฉียนยินจิ๊บจ๊อยไม่ใช่แค่เรื่องออกคำสั่งเสียงหนึ่งหรอ เชื่อว่าโรงหมอหลวงคงมีอยู่มากมาย

แต่ว่า……

ความแปลกใจแวบหนึ่งที่ผ่านไปเช่นนั้นของฮ่องเต้คือเรื่องอะไร?

ในใจมีความคิดเล็กน้อย หลานเยาเยาลองถามหยั่งเชิง :

“หญ้าเฉียนยินไม่น่าจะหายากหรอกนะเพคะ?”

คำพูดนี้โพล่งออกไป

สายตาของฮ่องเต้ก็สบตานางทันที เขาขยับลูกกระเดือก ริมฝีปากบางๆเปิดขึ้นเล็กน้อย สุดท้ายไม่พูดออกมา

หลังจากนั้นเห็นเพียงฮ่องเต้โบกมือเล็กน้อย องครักษ์อ้างอู๋ในเครื่องแบบพิเศษผู้หนึ่งก็ปรากฏตัวขึ้นทันใด คุกเข่าข้างหนึ่งที่พื้นด้านหน้าฮ่องเต้ทันที ยกมือสองข้าทำความเคารพ รอฟังคำสั่ง

“ออกเดินทางทันที ไปยังอี๋หมาน ยึดชิงหญ้าเฉียนยิน”

เสียงเย็นยะเยือก น้ำเสียงที่พูดว่ายึดชิงมาด้วยอำนาจ ยังพูดอย่างสมเหตุผลเป็นธรรมชาติอีก

หลานเยาเยาเบิกตากว้างทันที รีบโบกมือหยุดยั้ง

“เดี๋ยวก่อน เดี๋ยวก่อน หญ้าเฉียนยินนี้ก็ไม่ได้หายาก ทำไมต้องไปแย่งเพคะ?”

อีกทั้ง ที่แย่งมายังไม่ใช่ของประเทศตัวเองหรือ

อี๋หมาน?

จากที่เจ้าระบบได้อธิบายความรู้ข้อมูลให้นาง แผ่นดินใหญ่ผืนนี้มีประเทศมหาอำนาจเพียงประเทศเดียว ก็คือฮ่องเต้ที่ปกครองประเทศหยิ่งเย่ มีความคงอยู่เฉกเช่นเทพพระเจ้า ถูกประชาชนหยิ่งเย่เคารพบูชาเป็นวิญญาณแห่งเทพเจ้า

อี๋หมานเป็นไปได้มากที่จะเป็นเพียงชนเผ่าหนึ่ง

อีกทั้งมีบุญคุณความแค้นกับประเทศหยิ่งเย่ ไม่เช่นนั้นขณะที่ฮ่องเต้กล่าวคำว่ายึดชิงออกไป ก็คงไม่มีสีหน้าที่จริงจังเช่นนั้นแล้ว

“หญ้าเฉียนยินถูกอี๋หมานมองเหมือนดั่งหญ้าศักดิ์สิทธิ์ และประจวบเหมาะกับประเทศของข้าไม่มี”

ไม่มี?เป็นไปได้อย่างไร?

แม้ว่าเงื่อนไขในการในการเติบโตของหญ้าเฉียนยินจะยากเป็นที่สุด แต่เงื่อนไขความยากเป็นที่สุดเหล่านั้นล้วนได้รับความเพียงพอได้ในหนองน้ำ

แน่นอน!

หนองน้ำที่กล่าวถึงตอนนี้ ไม่ใช่เหมือนกับหนองน้ำที่เปียกชื้นทั้งหมดในความหมายกว้างๆ แต่เป็นหนองน้ำที่มีโคลนถ่านปริมาณมาก

มองดูอย่างผิวเผินไม่ต่างกันมากกับหนองน้ำโดยทั่วไป ในความจริงไม่ว่าจะเป็นสัตว์หรือคนเหยียบขึ้นไป ล้วนต้องค่อยๆตกลงไป ในส่วนของตกลงไปลึกเท่าไหร่ กลับจำเป็นต้องสำรวจดูภูมิประเทศของหนองน้ำ

ขณะที่นางตกลงมาจากท้องฟ้า สังเกตผ่านตาทุกที่ที่มองเห็นแล้ว ไม่เหมือนประเทศที่ไม่มีหนองน้ำ

“ไม่แน่”

คำพูดของนางทำให้ฮ่องเต้ค่อนข้างงงงัน คิดอยู่ครู่หนึ่ง พูดความจริงน่าจะดีกว่า :

“สถานที่หญ้าเฉียนยินเติบโตนั้นยากยิ่ง และไม่ใช่หนองน้ำที่เห็นได้ทั่วไป มีเพียงอี๋หมานสถานที่ที่โหดร้ายทารุณประเภทนั้นจึงจะมี”

เดิมทีหญ้าเฉียนยินก็พบได้ยาก อีกทั้งการปรุงยาลูกกลอนยาถอนพิษมากมายล้วนจำเป็นต้องใช้

แม้ว่าจะเป็นอี๋หมานสถานที่ประเภทนั้น หญ้าเฉียนยินก็หาได้ยากเป็นพิเศษ

เพราะอี๋หมานที่ไร้อารยธรรมกลุ่มนั้นรู้จุดนี้ ดังนั้นได้ปรุงยาพิษที่จำเป็นต้องใช้หญ้าเฉียนยินปรุงยาถอนพิษโดยเฉพาะ มาวางยาพิษทำร้ายคนที่มีความสำคัญต่อราชสำนัก

และเรื่องที่เขาโดนยาพิษเรื้อรัง

มองอย่างผิวเผินเป็นเรื่องภายในของราชสำนัก ความจริงกลับคาดเดาคนเหล่านั้นที่ทำร้ายเขาได้ไม่ยาก สมคบคิดกับอี๋หมานตั้งนานแล้ว

“สิ่งนี้ข้ารู้ หญ้าเฉียนยินดีก็จริง แต่การเติบโตโดยรอบๆของมันเต็มไปด้วยอันตราย ก็เหมือนดั่งของศักดิ์สิทธิ์ที่จำเป็นต้องมีสัตว์ประหลาดดุร้ายปกป้องไว้เช่นนั้น

ข้ารู้สึกว่าประเทศหยิ่งเย่มีหนองน้ำที่เลวร้ายชนิดนั้นอยู่ อีกทั้งก็ไม่ได้มีเพียงสถานที่เป็นหนองน้ำถึงจะมีหญ้าเฉียนยินปรากฏ

เพียงมีเงื่อนไขเพียงพอสามประการ ก็มีหญ้าเฉียนยินเหมือนกันเพคะ”

หลานเยาเยามองไปรอบๆแวบหนึ่ง และไม่ได้พูดเงื่อนไขสามประการที่เพียงพอต่อสภาพแวดล้อมการเติบโตของหญ้าเฉียนยินออกมา แต่เป็นเอามือจุ่มน้ำชา เขียนอักษรสองคำสองคำออกมาบนโต๊ะหิน

หลังจากเห็นน้ำชาแห้งสนิทไปอย่างรวดเร็ว

สีหน้าของฮ่องเต้ก็เปลี่ยนไป แววตาที่มองดูหลานเยาเยาก็ลึกซึ้งมากขึ้น

เงียบอยู่นาน!

ฮ่องเต้จึงค่อยๆเปิดปาก :

“มีอยู่ที่หนึ่งที่เพียงพอต่อเงื่อนไขนี้ แต่ว่า.