บทที่ 493 ตงเหมยจิตใจบิดเบี้ยว

ทะลุมิติไปเป็นสาวนาผู้ร่ำรวย

บทที่ 493 ตงเหมยจิตใจบิดเบี้ยว

บทที่ 493 ตงเหมยจิตใจบิดเบี้ยว

แต่นางไม่กล้าพูดต่อหน้ากุ้ยซื่อ

กุ้ยชุนเจียวอดทนจนกลับไปถึงห้อง ก่อนกุ้ยชุนเจียวจะถามกุ้ยตงเหมยว่าครานั้น นางได้ทาน้ำมันหมูบนเสื้อผ้าของตนใช่หรือไม่?

กุ้ยตงเหมยไม่ได้ปิดบัง นางพยักหน้าและพูดอย่างเย่อหยิ่ง “ใช่ ข้าป้ายมันด้วยน้ำมันหมูแล้วโยนมันลงใต้เตียงปล่อยให้หนูฉีกทึ้งเสื้อผ้าของท่าน มีอะไรหรือ?”

“เจ้า เจ้า… เหตุใดเจ้าถึงโหดร้ายนัก!” กุ้ยชุนเจียวมองน้องสาวที่คุ้นเคยตรงหน้านางซึ่งอาศัยอยู่ด้วยกันมาสิบปี นางคิดว่านางน่าจะรู้จักอีกฝ่ายดี แต่ทำไมตอนนี้เมื่อนางมองดูกุ้ยตงเหมยที่มีสีหน้าไม่พอใจ เหตุใดจู่ ๆ น้องสาวที่คุ้นเคยของนางถึงได้ดูห่างไกลขนาดนี้

“ข้าโหดร้ายหรือ?” กุ้ยตงเหมยกระตุกริมฝีปากราวกับว่าเคยได้ยินเรื่องตลก และพูดอย่างดูถูก “เหตุใดข้าถึงโหดร้ายนักน่ะหรือ? ถ้าข้าโหดร้ายจริง ข้าคงทิ้งเสื้อผ้าของท่านทั้งหมดไปซะ”

กุ้ยตงเหมยยังคงไม่พอใจ “ท่านบอกว่าข้าโหดร้าย แต่ตัวท่านไม่โหดร้ายหรือ! มันเป็นแค่เสื้อผ้าชิ้นหนึ่งไม่ใช่หรือ? ล้ำค่ามากนักหรือ? ข้าเป็นน้องสาวของท่านนะ เจ้าไม่ยอมให้ข้าสวมใส่หรือแตะต้องมันด้วยซ้ำ ท่านถนอมมันนักหรือ? ข้าทำลายมันแล้ว ดูสิว่าท่านยังจะถนอมมันอีกหรือไม่!”

คำพูดของกุ้ยตงเหมยเป็นเหมือนมีดคม ๆ นางไม่เคยคิดเลยว่า เพียงเพราะเสื้อผ้าชุดหนึ่งจะทำให้นางสามารถเห็นธาตุแท้ของกุ้ยตงเหมยได้ชัดเจนเยี่ยงนี้

เมื่อข้าไม่ได้ เจ้าก็ต้องไม่ได้เช่นกัน

กุ้ยตงเหมยมีความคิดเช่นนั้นจริง ๆ นางโหดเหี้ยมมากจนจัดการอีกฝ่ายด้วยวิธีที่น่ากลัวเช่นนี้

กุ้ยชุนเจียวพูดไม่ออก นางได้ยินเพียงเสียงของกุ้ยตงเหมยพูดข้างหูของนางว่า “กุ้ยชุนเจียว ตอนนี้คุณค่าของท่านเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่า แค่เสื้อผ้าชิ้นหนึ่ง ท่านยังทนให้ข้าที่เป็นน้องสาวของท่านสวมใส่ไม่ได้ ถ้าท่านบินขึ้นไปเกาะกิ่งไม้ในอนาคต ท่านจะไม่เหยียบย่ำข้าด้วยฝ่าเท้าของท่านหรือ! ข้าไม่ยอมหรอก! ถ้าข้าไม่ได้ ท่านก็ต้องไม่ได้ ข้าไม่มีช่วงเวลาดี ๆ ท่านก็อย่าได้หวัง!”

หลังจากที่กุ้ยชุนเจียวได้ยินคำพูดเหล่านี้ นางก็รู้สึกหนาวกระดูกสันหลัง ก่อนความเย็นก็จะพัดผ่านร่างของนาง

เมื่อมองไปที่กุ้ยตงเหมยที่มีใบหน้าที่ดุร้าย กุ้ยชุนเจียวก็เต็มไปด้วยความหวาดกลัว

ถ้ากุ้ยตงเหมยรู้เรื่องของนาง อีกฝ่ายจะต้องป่าวประกาศเกินจริงและบีบนางให้ตายเป็นแน่!

เมื่อเห็นว่ากุ้ยชุนเจียวไม่พูดจา กุ้ยซื่อก็นึกกลัวเล็กน้อย นางบีบมือกุ้ยชุนเจียวและถามด้วยความเป็นห่วง “ชุนเจียว เจ้าเป็นอะไร? ข้าเพิ่งคุยกับเจ้า!”

กุ้ยชุนเจียวคิดเกี่ยวกับชุดอยู่ตลอดเวลา ซึ่งนางไม่ได้รับรู้ถึงคำถามของกุ้ยซื่อเลย

“ชุนเจียว เป็นอะไรไป? เจ้าคิดอะไรอยู่ถึงได้สีหน้าจึงย่ำแย่เช่นนี้?” กุ้ยซื่อถามด้วยความเป็นห่วง

หลังจากประสบกับฉากนั้นเมื่อครู่นี้ กุ้ยซื่อก็รู้สึกหวาดกลัว เพราะกลัวว่ากุ้ยชุนเจียวจะทำอะไรโง่ ๆ อีก

“ท่านแม่ ท่านยังจำเสื้อผ้าที่เถ้าแก่หลี่มอบให้ข้าในครั้งนั้นได้หรือไม่?” กุ้ยชุนเจียวเปิดปากของนาง ขณะมีรอยยิ้มที่น่าสังเวชบนใบหน้าของนาง

“จำได้สิ! ไม่ใช่ว่ามันหายไปในภายหลังหรือ?” กุ้ยซื่อจำได้อย่างแน่นอน ในเวลานั้น เมื่อหลี่ฝานให้คนไปส่งเสื้อผ้า กุ้ยซื่อพลันตาตั้ง นางไม่เคยเห็นเสื้อผ้าที่งดงามเช่นนี้มาก่อน ยิ่งไปกว่านั้น ชุดนี้ยังคงสวมบนร่างของลูกสาวนางด้วย

เวลานั้น กุ้ยชุนเจียวสวมชุดดังกล่าว กุ้ยซื่อพลันรู้สึกว่าชุนเจียวเป็นเหมือนเทพธิดาบนสวรรค์ที่งดงามยิ่งนัก

แน่นอนว่าชุดที่งดงามเช่นนี้ยังฉายชัดอยู่ในความทรงจำของนาง

น่าเสียดายที่นางหามันไม่พบ ซึ่งภายหลังกุ้ยซื่อได้กล่าวถึงอย่างเสียใจอยู่สองครั้ง

เมื่อมองย้อนกลับไป นางก็เห็นใบหน้าที่ไร้อารมณ์ของกุ้ยชุนเจียว

“ท่านแม่ ตงเหมยทาน้ำมันหมูลงบนชุดนั้น แล้วนางก็โยนมันลงไปใต้เตียง! มันถูกหนูลากไปแทะเป็นชิ้น ๆ!”

ทันทีที่นางได้ยินเรื่องนี้ กุ้ยซื่อก็หยุดฝีเท้าด้วยท่าทางไม่อยากเชื่อ “ชุนเจียว เจ้ากำลังพูดถึงอะไร? เจ้าบอกว่าตงเหม่ยเอาน้ำมันหมูทาเสื้อผ้าของเจ้าแล้วโยนลงไปใต้เตียงให้หนูถูกกัดเป็นชิ้น ๆ หรือ? นางจงใจทำงั้นหรือ?”

กุ้ยซื่อเชื่อไม่ลง กุ้ยตงเหมยเป็นลูกของนาง เป็นเด็กที่นางเลี้ยงมากับมือของนางเอง แม้ว่าอีกฝ่ายจะเย่อหยิ่งและเอาแต่ใจเล็กน้อย แต่ก็ไม่น่าจะทำอย่างนั้น!

นี่มันจิตใจของเด็กที่ไหน เกรงว่าแม้แต่ผู้ใหญ่ก็คิดวิธีชั่วร้ายแบบนี้ไม่ได้

หัวใจของกุ้ยซื่อตื่นตระหนก สีหน้าว่างเปล่าโดยสมบูรณ์

แต่จากการแสดงออกอย่างสงบของกุ้ยชุนเจียว มันไม่เหมือนว่านางกำลังโกหกเลย

กุ้ยตงเหมยกับกุ้ยชุนเจียวเป็นลูกของนางทั้งคู่ นางรู้ว่านิสัยของเด็กสองคนนี้ดีว่าเป็นอย่างไร!

ชุนเจียวแก่กว่าและย่อมฉลาดกว่า หากไม่มีเรื่องถูหมิ่น กุ้ยชุนเจียว เด็กคนนี้ก็ไม่มีอะไรให้กังวล

และครั้งนี้ เนื่องจากเรื่องของถูหมิ่น กุ้ยชุนเจียวจึงเอาใจใส่และสงบมากขึ้นกว่าเมื่อก่อน

นั่นจึงเป็นที่มาของการหกล้มครั้งหนึ่งทำให้เกิดปัญญา

แต่กุ้ยตงเหมยนั้นแตกต่าง เด็กคนนี้ซุกซน ขี้เล่น เหลวไหล และเห็นแก่ตัวเล็กน้อย ไม่ว่าจะซื้อของดีอะไรมาที่บ้าน กุ้ยตงเหมยต้องเลือกก่อน อาจเป็นไปได้ว่ากุ้ยชุนเจียวรู้สึกว่านางเป็นพี่สาวจึงยอมกุ้ยตงเหมยอยู่เสมอ

กุ้ยซื่อดูหวาดกลัว “จริงหรือ?”

กุ้ยชุนเจียวพยักหน้าอย่างสิ้นหวัง “อืม ท่านแม่ เป็นความจริง ตงเหมยยอมรับออกมาเอง! นางยังบอกด้วยว่าถ้านางไม่มีช่วงเวลาดี ๆ นางก็จะทำให้ข้ารู้สึกแย่ด้วย สิ่งที่นางไม่ได้รับ นางก็จะไม่ยอมให้ข้าได้มันไป!”

กุ้ยซื่อรู้สึกเหมือถูกฟ้าฝ่าในวันที่มีแดดจัด และยืนไม่ไหว

นางไม่ได้คาดหวังว่ากุ้ยตงเหมยจะมีจิตใจที่เลวร้ายเช่นนี้

ไม่น่าแปลกใจที่กุ้ยชุนเจียวรู้สึกคลื่นไส้จนอยากจะกระโดดลงไปในแม่น้ำ ตงเหมยคนนี้ต้องการจะฆ่าพี่สาวของนาง!

กุ้ยซื่อสาปแช่งอย่างโกรธเคือง “ตงเหมยชั่วร้ายจริง ๆ เจ้าเป็นพี่สาวของนาง นางทำเช่นนี้ได้อย่างไร!”

หลังจากที่กุ้ยชุนเจียวได้ยินเช่นนี้ นางก็ร้องไห้ออกมาด้วยความคับแค้นใจในอ้อมแขนของกุ้ยซื่อ “ท่านแม่ ตอนนี้ข้าไม่กลัวอะไรนอกจากตงเหมย ถ้าเถ้าแก่หลี่ถูกนางทำให้โกรธแล้วบอกทุกอย่างกับนาง ถึงตอนนั้นชีวิตของข้าคงพังพินาศ ฮือ … ท่านแม่ ท่านแม่!”

กุ้ยซื่อก็เป็นกังวลมากเช่นกัน นางดึงกุ้ยชุนเจียวและวิ่งไปที่บ้านของกู้เสี่ยวหวานไม่หยุด “ไปกันเถอะ ไปหากู้เสี่ยวหวาน ดูว่านางจะพอทำอะไรได้บ้าง!”

ต้องไม่ปล่อยให้กุ้ยตงเหมยทำลายกุ้ยชุนเจียว พวกนางสองคนเป็นพี่น้องกัน และเมื่อเกิดเรื่อง พวกนางก็ยังคงเชื่อมต่อกันดังหยิกเล็บเจ็บเนื้อ นางหวังว่ากุ้ยตงเหมยจะยังไม่รู้!