บทที่ 494 ไปหาเสี่ยวหวานอีกครั้ง

ทะลุมิติไปเป็นสาวนาผู้ร่ำรวย

บทที่ 494 ไปหาเสี่ยวหวานอีกครั้ง

บทที่ 494 ไปหาเสี่ยวหวานอีกครั้ง

ครอบครัวของกู้เสี่ยวหวานทานอาหารเสร็จแล้ว โดยหลังจากอาบน้ำเสร็จ พวกเขาก็กำลังจะเข้านอนและพักผ่อน แต่ทันใดนั้นเองมีเสียงเร่งเคาะประตูมาจากด้านนอก “เสี่ยวหวาน เสี่ยวหวาน เปิดประตู!”

มันเป็นเสียงของกุ้ยซื่อ

กู้เสี่ยวหวานขมวดคิ้วและเหลือบมองไปที่ฉินเย่จือ นึกสงสัยว่าทำไมกุ้ยซื่อจึงมาที่บ้านของนางยามมืดค่ำ

ดูจากเสียงเร่งรีบแล้วเหมือนว่ามีเรื่องที่สำคัญมาก

กู้หนิงผิงรู้สึกไม่พอใจเล็กน้อยและพูดว่า “ท่านพี่ ข้าจะออกไปถามว่าเกิดอะไรขึ้น!”

กู้หนิงผิงเดินนำออกไปก่อน

เมื่อกุ้ยซื่อและกุ้ยชุนเจียวมาถึง พวกเขารู้สึกโล่งใจเมื่อเห็นว่าไฟในบ้านของกู้เสี่ยวหวานยังสว่างอยู่ แต่ถึงแม้จะดับไฟพักผ่อนกันแล้ว วันนี้กุ้ยซื่อก็จะต้องพบกู้เสี่ยวหวานให้ได้

นี่คือสถานการณ์คอขาดบาดตาย!

กู้หนิงผิงออกไปเปิดประตู เมื่อเห็นว่าเป็นกุ้ยซื่อและกุ้ยชุนเจียว เขาก็พูดอย่างไม่พอใจว่า “พวกท่านมาทำอะไรที่นี่?”

เมื่อเห็นว่าเป็นกู้หนิงผิง กุ้ยซื่อรู้สึกผิดหวังเล็กน้อย ก่อนรีบพูดขึ้นว่า “น้องชายผิงตัวน้อย พี่สาวของเจ้าอยู่บ้านหรือไม่? ข้ามีเรื่องด่วนต้องพูดคุยกับพี่สาวของเจ้า!”

กู้หนิงผิงพึมพำอย่างไม่พอใจ “มันมืดแล้ว พวกเราทุกคนต้องพักผ่อน หากมีเรื่องสำคัญ พวกเราค่อยพูดกันใหม่พรุ่งนี้!”

พูดเสร็จแล้วก็หันหลังกลับ

เมื่อเห็นว่ากู้เสี่ยวหวานไม่ปรากฏตัวเลย ทั้งกู้หนิงผิงกำลังจะเข้าไป ด้วยความกังวลนางรีบตะโกนว่า “เป็นเรื่องคอขาดบาดตาย! เสี่ยวหวาน ช่วยชุนเจียว ช่วยชุนเจียวด้วย!”

น่าขัน กู้หนิงผิงหันศีรษะและชี้ไปที่กุ้ยชุนเจียวซึ่งยืนอยู่ข้าง ๆ พลางกล่าวว่า “อย่าลืมตาพูดเรื่องเหลวไหล กุ้ยชุนเจียวยืนอยู่ข้าง ๆ ท่านมิใช่รึ? เป็นเรื่องคอขาดบาดตายที่ไหนกัน!”

ใบหน้าของกุ้ยชุนเจียวซีดลง แต่ในความมืดจึงมิอาจมองเห็นนางได้ชัดเจน กู้หนิงผิงรู้เพียงว่าในขณะนี้กุ้ยชุนเจียวยืนอยู่ที่นี่และไม่มีใครกำลังจะตายอย่างที่กุ้ยซื่อกล่าว เห็นได้ชัดว่านางต้องการหลอกลวงพี่สาวของเขาให้ตกใจเพื่อให้นางออกมา

กู้หนิงผิงไม่พอใจมาก หลังจากพูดแล้วเขาก็หันหลังกลับและไม่สนใจกุ้ยซื่ออีก เดินตรงกลับห้องโดยไม่หันกลับไปมอง

กุ้ยซื่อมองดูอย่างไร้หนทาง ขณะที่ประตูปิดลงตรงหน้านาง หัวใจของนางเย็นยะเยือก นางทั้งหวาดกลัวและเป็นกังวล

โดยไม่คิดอะไรอีก แรงมือของนางเพิ่มขึ้นขณะที่ตะโกนเคาะประตูเรียก “เสี่ยวหวาน เสี่ยวหวาน เสี่ยวหวาน…”

ดูเหมือนว่านางจะไม่ยอมแพ้จนกว่าจะได้เห็นกู้เสี่ยวหวาน

กู้เสี่ยวหวานอยู่ข้างในและไม่พอใจอย่างยิ่ง กุ้ยซื่อผู้นี้ให้สีเล็กน้อยก็คิดเปิดร้านย้อมผ้า คราวที่แล้วเพราะนางเห็นแก่กุ้ยชุนเจียวที่เป็นสตรีเหมือนกัน หากเสียชื่อเสียงไป ชีวิตของนางคงพังพินาศ

กู้เสี่ยวหวานมิใช่คนโหดเหี้ยม หากสามารถช่วยได้นางก็จะช่วย

แต่ไม่ได้หมายความว่านางจะต้องใส่ใจเกี่ยวกับชีวิตและความตายของกุ้ยชุนเจียวตลอด หากนางช่วยชีวิตได้ครั้งหนึ่งก็ถือว่านางทำดีที่สุดแล้ว

กู้หนิงผิงเข้ามาในห้องและพูดอย่างไม่พอใจเกี่ยวกับสถานการณ์ด้านนอก “กุ้ยซื่อผู้นั้นช่างเลวร้ายจริง ๆ!”

เสียงเคาะประตูข้างนอกดังขึ้นเรื่อย ๆ ดูเหมือนว่าถ้าวันนี้กุ้ยซื่อไม่เจอนาง เกรงว่าจะไม่ยอมเลิกรา

แทนที่จะปล่อยให้นางตะโกนปาว ๆ อยู่ข้างนอกจนพวกเขานอนไม่หลับ ก็ออกไปดูแล้วกันว่าในน้ำเต้าของกุ้ยซื่อขายยาอันใด!

กู้เสี่ยวหวานกำลังจะออกไปข้างนอก เมื่อเห็นว่าพี่สาวของเขากำลังจะออกไป กู้หนิงผิงก็รีบคว้ากู้เสี่ยวหวานไว้อย่างรวดเร็ว “ท่านพี่ ท่านทำอะไร? อย่าออกไป! กุ้ยซื่อผู้นั้นไร้ยางอาย!”

กู้เสี่ยวหวานยิ้มอย่างช่วยไม่ได้ “แล้วเจ้าคิดว่าถ้านางเคาะประตูอยู่แบบนี้ พวกเราจะยังอยู่กันอย่างสงบในห้องนี้ได้หรือ?”

กู้หนิงผิงเองคิดได้จึงปล่อยมือของกู้เสี่ยวหวาน

ก่อนที่กู้เสี่ยวหวานจะออกไป นางบอกกู้หนิงผิงกับกู้เสี่ยวอี้ให้อยู่ในบ้าน อย่าออกไปเด็ดขาด

นางและฉินเย่จือเดินออกมาที่ลานบ้าน

เมื่อเห็นว่าในที่สุดกู้เสี่ยวหวานก็ออกมา กุ้ยซื่อก็หยุดเคาะประตูเช่นกัน

กู้เสี่ยวหวานไม่พอใจมาก “กุ้ยซื่อ ถ้าท่านเคาะแรงเพียงนั้น ข้าเกรงว่าประตูบ้านของข้าจะถูกท่านทุบจนแตกกระมัง”

กู้เสี่ยวหวานย่อมต่อว่ากุ้ยซื่อ ตอนนี้กุ้ยซื่อไม่สนใจอะไรแล้ว นางพูดว่า “เสี่ยวหวาน ได้โปรดช่วยชุนเจียวของข้าด้วย! ข้ารู้ว่าเจ้าสามารถช่วยนางได้ อย่าปล่อยให้ชื่อเสียงของนางพังพินาศอีก!”

กู้เสี่ยวหวานมองไปที่กุ้ยชุนเจียว ใบหน้าของอีกฝ่ายเปลี่ยนเป็นสีขาวด้วยหวาดความกลัว ผมยุ่งเหยิงไปหมด นางคิดว่าเป็นถูหมิ่นที่กลับมาจึงย่นคิ้วเข้าหากัน “เกิดอะไรขึ้น หรือว่าถูหมิ่นกลับมาข่มขู่เจ้า?”

เมื่อกุ้ยซื่อได้ยินเช่นนี้ นางก็โบกมืออย่างรวดเร็วและบอกว่าไม่ใช่

“ถ้าไม่ใช่ แล้วเป็นเรื่องอะไรเล่า?” สีหน้าของกู้เสี่ยวหวานย่ำแย่ยิ่ง ดูไม่พอใจนัก

สีหน้าของกุ้ยซื่อดูหมดหนทางและเป็นกังวล “มันเป็นตงเหมยที่น่าผิดหวังจากครอบครัวของข้า!”

กู้เสี่ยวหวานขมวดคิ้ว เหตุใดเรื่องนี้ถึงเกี่ยวข้องกับกุ้ยตงเหมยอีกแล้ว?

กู้เสี่ยวหวานงงงวยและมองไปที่กุ้ยซื่อกับกุ้ยชุนเจียวอย่างสงสัย ความกลัวและความกังวลบนใบหน้าของพวกนางไม่ได้แสร้งทำ

“เสี่ยวหวาน ตงเหมย ตงเหมย นาง…” ก่อนที่นางจะพูดได้เต็มประโยค กุ้ยชุนเจียวก็ปาดน้ำตาด้วยความละอายและเศร้าใจยิ่งนัก

เป็นไปได้หรือไม่ว่ากุ้ยตงเหมยจะรู้เกี่ยวกับการหนีตามกันระหว่างกุ้ยชุนเจียวกับถูหมิ่น?

ทว่าถึงแม้ว่ากุ้ยตงเหมยจะรู้เรื่องนี้ แต่ก็ไม่น่ามีอะไร!

เป็นไปได้ไหมว่านางจะไปป่าวประกาศรอบ ๆ ว่าพี่สาวของนางหนีตามไปกับผู้ใด?

แต่พวกนางเป็นพี่น้องกัน คนหนึ่งรุ่งโรจน์ย่อมรุ่งโรจน์ตาม คนหนึ่งตกต่ำย่อมตกต่ำไปด้วย กุ้ยตงเหมยจะไม่เข้าใจความจริงนี้หรือ?

ยิ่งกว่านั้น แม้ว่านางจะไม่เข้าใจความจริงเหล่านี้ แต่พวกนางก็คือพี่น้องกันสายเลือดเดียวกัน ความสัมพันธ์ระหว่างพี่น้องทั่วไปล้วนแต่อยากให้อีกฝ่ายได้ดิบได้ดี

“เกิดอะไรขึ้นกับตงเหมย?” กู้เสี่ยวหวานเอ่ยถามพลางขมวดคิ้ว

“ตงเหม่ย นาง…นางไปหาเถ้าแก่หลี่?” ในที่สุดกุ้ยซื่อก็สามารถพูดประโยคที่สมบูรณ์ได้

เมื่อกู้เสี่ยวหวานได้ยินเช่นนี้ สีหน้าของนางก็มืดลงกว่าเดิม

กุ้ยตงเหมยไปหาหลี่ฝาน?

“แล้วนางจะไปหาหลี่ฝานเพื่ออะไร?” น้ำเสียงของกู้เสี่ยวหวานดูย่ำแย่เล็กน้อยและใบหน้าของนางก็ไร้อารมณ์ แต่จากแววตาของนางจะเห็นได้ว่าตอนนี้กู้เสี่ยวหวานไม่มีความสุข

กู้เสี่ยวหวานไม่ใช่คนโง่ ในเวลานี้กุ้ยซื่อเข้ามาบอกกับนางว่ากุ้ยตงเหมยกำลังมองหาหลี่ฝาน

แม้จะใช้นิ้วเท้าคิดก็สามารถรู้ได้ว่ากุ้ยตงเหมยคิดจะไปหาหลี่ฝานเพื่ออะไร!

“นาง… นางบอกว่าครอบครัวของหลี่ฝานมีเงิน และต้องการไปหาหลี่ฝานเพื่อขอความช่วยเหลือจากเขา!” กุ้ยซื่อลังเลที่จะพูดประโยคนี้ แต่คำพูดกุ้ยตงเหมยที่น่าเกลียดที่สุด กุ้ยซื่อไม่ได้พูดออกมา