บทที่ 529 เห็นท่าไม่ดี

Lucky baby คุณพ่อ ต้องพยายามจีบแม่

เจียงหยุนเอ๋อได้ยินเสียงเท้าของลี่จุนซิน เธอเก็บอารมณ์ของเธอทันที หันกลับมายิ้มให้ :“พี่ กลับมาแล้ว ?”

เมื่อเห็นอาการของลี่จุนซินที่เปลี่ยนไป จึงเอ่ยถามด้วยความเป็นห่วงไปว่า :“พี่ค่ะ เป็นอะไรไป?ไม่สบายตรงไหนหรือเปล่า?”

ตอนที่ลี่จุนซินไป ยังคงยิ้มแย้มอยู่เลย แต่ตอนนี้สีหน้าของเธอดูเคร่งเครียดขึ้นมา

ลี่จุนซินมองไปยังเจียงหยุนเอ๋อแล้วก็คิดถึงสายตาที่ลี่จุนถิงมองตัวเธอเอง

ในใจคิดว่า หากเจียงหยุนเอ๋อเห็นสายตาที่เย็นชาของลี่จุนถิงมองมา คงจะรู้สึกแย่กว่าตัวเองหลายเท่า

เมื่อต้องเผชิญกับสายตาที่เป็นกังวลของเจียงหยุนเอ๋อลี่จุนซินคงจะโกหกออกไปไม่ได้ว่าเธอเองไม่ได้ไม่สบายอะไร

ในที่สุดลี่จุนซินก็พยักหน้ารับ:“รู้สึกไม่ค่อยสบายนิดหน่อย”

“เมื่อกี้เกิดอะไรขึ้นที่ห้องน้ำเหรอคะ?”เจียงหยุนเอ๋อที่อยากจะเข้าห้องน้ำก็เกิดเปลี่ยนใจ คงไม่ได้มีเรื่องอะไรเกิดขึ้นในห้องน้ำหรอกนะ

ลี่จุนซินเม้มริมฝีปากแล้วยิ้ม:“ไม่มีอะไร”

เจียงหยุนเอ๋ออยู่กับลี่จุนซินมานาน และพอจะรู้นิสัยของลี่จุนซิน หากเธอพูดแบบนี้ คงไม่อยากจะบอกเหตุผลกับเธอ

เจียงหยุนเอ๋อกัดริมฝีปาก ไม่รู้ว่าจะปลอบเธอยังไง ได้แต่ยิ้มแล้วพูดไปว่า :“พี่ค่ะ ไม่เป็นไรนะ เรากินข้าวกันก่อน เดี๋ยวกับข้าวจะเย็นซะเปล่า พี่คงอาจจะเหนื่อยเกินไป เรากินเสร็จ ก็กลับไปพักผ่อนกัน ”

ลี่จุนซินพยักหน้า แล้วหยิบตะเกียบขึ้นมา

ในระหว่างมื้ออาหาร เจียงหยุนเอ๋อก็คอยตักกับข้าวที่หญิงสาวชอบใส่จานให้เธอตลอด แต่ลี่จุนซินก็ยังคงดูกลัดกลุ้ม เจียงหยุนเอ๋อเองก็ทำอะไรไม่ถูก

ทั้งสองนั่งทานอาหารด้วยอารมณ์ความรู้สึกที่ไม่สบายใจ

หลังจบมื้ออาหาร เจียงหยุนเอ๋อก็กลับบ้านทันที

“คุณนาย กลับมาแล้ว”แม่บ้านก็ยังคงทักทายเจ้านายอย่างสนิทสนมอยู่เสมอทุกครั้งที่เธอกลับมาบ้าน

“ค่ะ แม่กับถวนจื่อล่ะ ? ”เจียงหยุนเอ๋อกำลังเปลี่ยนรองเท้าที่ห้องโถงทางเข้า

“นายน้อยกำลังฝึกคัดลายมือ และคุณนายซูก็อยู่เป็นเพื่อนกับนายน้อยค่ะ”

“อ๋อ ขอบคุณมากค่ะ”

เจียงหยุนเอ๋อเปลี่ยนรองเท้าเสร็จก็ขึ้นไปยังชั้นบน ทันทีที่เข้าไปในห้องของถวนจื่อ ก็เห็นเด็กน้อยนั่งอยู่ที่โต๊ะและกำลังตั้งอกตั้งใจคัดลายมืออย่างจริงจัง

และซูม่านลีเองก็นั่งอยู่ใกล้ๆ กำลังเย็บผ้าอยู่หน้าโคมไฟตั้งโต๊ะ

เมื่อได้ยินเสียง ซูม่านลีก็เงยหน้าขึ้น เห็นว่าลูกสาวกลับมา ใบหน้าก็ยกยิ้ม :“เจียงหยุนเอ๋อกลับมาแล้วเหรอ ”

“ค่ะ”เจียงหยุนเอ๋อพยักหน้ารับ แล้วเดินไปที่โต๊ะเขียนหนังสือ

เมื่อถวนจื่อเห็นเจียงหยุนเอ๋อกลับมา เขาหันหน้ามายิ้มให้แล้วพูดกับเจียงหยุนเอ๋อไปว่า :“หม่ามี้ ถวนจื่อกำลังฝึกคัดลายมืออยู่ เล่นด้วยไม่ได้ในตอนนี้ หม่ามี้อยู่คนเดียวไปก่อนนะ ”

พูดจบถวนจื่อก็หันไปตั้งใจคัดลายมือต่อ

เมื่อได้ยินคำพูดที่โตเกินวัยของถวนจื่อ กับท่าทีที่จริงจัง เจียงหยุนเอ๋อก็อดไม่ได้ที่จะยิ้มออกมา

ซูม่านลีก็หยุดงานในมือที่ทำอยู่ ยิ้มแล้วหันไปมองที่ถวนจื่อ :“ดูเด็กคนนี้ เหมือนเป็นเด็กที่โตแล้วจริงๆ ”

เจียงหยุนเอ๋อมองไปที่ถวนจื่อด้วยความรัก แล้วพยักหน้า:“ใช่ค่ะ ถวนจื่อยิ่งโตก็ยิ่งรู้ความ ”

“ใช่ ไม่ต้องกังวลเรื่องลูก ลูกก็จะได้ไม่เหนื่อย”ซูม่านลีก็รักลูกสาวของเธอ อุ้มท้องที่โตขึ้นทุกวัน ออกจากบ้านแต่เช้าและกลับมามืดค่ำดึกดื่น จะไม่เหนื่อยได้ยังไง ถวนจื่อรู้ความ ก็ทำให้เจียงหยุนเอ๋อเหนื่อยน้อยลงไปบ้าง

“ใช่ค่ะ”เจียงหยุนเอ๋อก็รู้สึกโชคดี

พระเจ้ายังเอาใจใส่ตัวเอง ส่งเทวดาตัวน้อยมาอยู่ข้างๆ

เจียงหยุนเอ๋อไม่กล้าที่จะรบกวนถวนจื่อ จึงได้ยกเก้าอี้มาอย่างเงียบๆ แล้วมานั่งอยู่ข้างๆถวนจื่อ มองดูเขาเขียนตัวอักษรด้วยพู่กัน

เฝ้าดูถวนจื่อค่อยๆจรดปลายพู่กันลงบนสมุด เจียงหยุนเอ๋อเองก็รู้สึกจิตใจสงบ

หลังจากที่ถวนจื่อสนิทกับท่านปู่ลี่ ก็หลงใหลในการเขียนตัวอักษรด้วยพู่กัน ไม่รู้ว่าได้รับอิทธิพลมาจากท่านปู่ลี่หรือยังไง เขาจะใช้เวลาเพื่อฝึกฝนการเขียนตัวอักษรนี้เกือบทุกวัน

และในเวลานี้เอง ชิงโม่กับลี่จุนถิงก็แอบเข้ามาในวิลล่า

“คุณชายลี่ เวลานี้ นายน้อยคงกำลังฝึกคัดลายมืออยู่ในห้อง เท่าที่ผมรู้ คุณนายกลับมาถึงบ้านแล้ว”ชิงโม่กระซิบที่ข้างหูของลี่จุนถิง

“แล้วเราจะเข้าไปข้างในกันไหม ?”ลี่จุนถิงชี้ไปบานหน้าต่างที่อยู่ไม่ไกลและเปิดอยู่ครึ่งบาน

ชิงโม่ส่ายหัว:“ตอนนี้ที่วิลล่ายังมีคนรับใช้อยู่ เพราะคุณนายกำลังตั้งครรภ์ จึงมีคนรับใช้มากกว่าปรกติ หากคุณเข้าไปต้องมีคนเห็นแน่ เห็นผมก็คงจะไม่เท่าไร สำคัญที่คุณนี่สิ ”

ลี่จุนถิงเม้มปาก :“แล้วฉันจะดูพวกเขายังไง ?”

ชิงโม่ชวนลี่จุนถิงว่าไปเยี่ยมครอบครัวของเขา ลี่จุนถิงจึงได้มาด้วย

ใครจะไปรู้ว่าต้องมาปืนกำแพงดูแบบนี้

คนอื่นมาเยี่ยมดูภรรยาก็เข้าออกตามประตูอย่างเปิดเผย แต่แล้วทำไมพอถึงคราวตัวเองถึงเป็นแบบนี้ไปได้

เมื่อคิดมาถึงตรงนี้ ใบหน้าของลี่จุนถิงก็หมองลง

“คุณชายลี่ อย่าเป็นกังวลไป ตามผมมาครับ”ชิงโม่พูดแล้วก็เดินไปข้างหน้า หันกลับมากวักมือเรียกลี่จุนถิง

ลี่จุนถิงก็รีบตามไป:“ไปดูที่ไหน?”

“นายน้อยตอนนี้คงกำลังอยู่ในห้องนี้ ห้องของเขาอยู่บนชั้นสอง พวกเขาต้องอ้อมไปด้านหลังของวิลล่า เท่าที่ผมรู้ โต๊ะเขียนหนังสือของนายน้อยน่าจะอยู่ริมหน้าต่าง พวกเราอยู่ด้านล่างไม่แน่ว่าอาจจะมองเห็น ”

ชิงโม่เดินนำลี่จุนถิง โดยใช้ใบไม้อำพรางตัว และมองขึ้นไปยังบานหน้าต่างที่สว่างอยู่

เมื่อได้ยินเช่นนั้น ลี่จุนถิงก็เงยหน้าขึ้น และจังหวะที่กำลังเคลื่อนไหว เขามองเห็นเด็กชายตัวน้อยที่หน้าตาหล่อเหลา นั่งทาบก้มหน้าอยู่ที่โต๊ะริมหน้าต่าง

และข้างตัวของเด็กชายมีผู้หญิงที่เขาเห็นในร้านอาหารนั่งอยู่ ผู้หญิงที่ทำให้ใจเขารู้สึกวูบวาบ

ผู้หญิงคนนั้นคอยนั่งกับเด็กชายตัวน้อยเขียนหนังสืออยู่ตลอด และบางครั้งก็ยังมีเสียงเตือนจากเธอออกมาอยู่สักสองสามคำ และมีท่าทีที่ตั้งใจอบรมสั่งสอน

ช่างเป็นภาพที่งดงามและสงบสุขจริงๆ

คราวนี้จากแสงภายในห้อง เขามองเห็นใบหน้าของหญิงสาว ใบหน้าที่เรียวเล็ก คิ้วโค้งมน ดูสวยเหมือนเทพธิดาบนสวรรค์ ลี่จุนถิงจ้องมองจนเคลิ้ม

และในขณะนี้เอง เจียงหยุนเอ๋อก็ลุกขึ้นยืน เดินออกจากห้องมายังสวนด้านนอก

เมื่อชิงโม่เห็น ในใจกังวลท่าจะไม่ดีแน่ แสงที่สาดส่องจากในห้อง เจียงหยุนเอ๋อต้องเห็นพวกเขาแน่ๆ

ชิงโม่ดึงลี่จุนถิง ถอยกลับไปยังพุ่มไม้ที่อยู่ข้างๆ ซ่อนตัวอยู่ในที่ที่คิดว่าจะไม่สามารถมองเห็น

ลี่จุนถิงหมอบลง มองผ่านใบไม้ที่บางตา ก็เห็นเจียงหยุนเอ๋อที่ยืนอยู่ตรงนั้น

มองเห็นเจียงหยุนเอ๋อค่อยๆลูบไปที่ท้องของตัวเอง แล้วค่อยๆนั่งลงบนเก้าอี้ที่ระเบียง

เจียงหยุนเอ๋อเอนกายบนเก้าอี้ เงยหน้ามองขึ้นไปที่พระจันทร์ ก็ไม่รู้ว่ากำลังคิดอะไรอยู่

แสงจันทร์นวลเย็นสาดส่องบนร่างของเจียงหยุนเอ๋อ และด้านที่หันไปทางลี่จุนถิงนั้นมืดดำ

ได้ยินเพียงเสียงเงียบในยามค่ำคืน เสียงถอนหายใจดังมาไกลๆ มันคือเสียงถอนหายใจของเจียงหยุนเอ๋อ

ลี่จุนถิงเงยหน้าขึ้น มองดูภาพของเจียงหยุนเอ๋อ ความรู้สึกอ้างว้างโดดเดี่ยวที่อธิบายไม่ได้ รู้สึกเพียงหัวใจตัวเองมันเหมือนจะหายใจไม่ออก