บทที่ 530 การกระโดดหน้าผาของฮ่องเต้รุ่นแรก

หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป

บทที่ 530 การกระโดดหน้าผาของฮ่องเต้รุ่นแรก

เวลานี้ องครักษ์อ้างอู๋ที่เขาพามาเหลือไม่เท่าไหร่ แต่ละคนทั้งร่างเต็มไปด้วยเลือด ทั่วร่างกายมีแต่บาดแผล ที่ดีหน่อย ยังสามารถยืนได้อย่างมั่นคง ได้รับบาดเจ็บสาหัส ก็นั่งลงที่พื้นหลังพิงต้นไม้ใหญ่โดยตรง

ฮ่องเต้ที่สวมชุดสีดำ ยืนอยู่ที่นั่นเงียบๆ มองดูรอบๆที่เต็มไปเลือดสดแดงฉาน แววตาไม่มีจุดบรรจบกัน แต่กลับเย็นยะเยือกไร้ขอบเขต

มุมปากของเขาเลือดทะลัก แห้งกรังเป็นชั้นๆ

แต่เขายังคงยืนตรง ความทรงพลังของฮ่องเต้แสดงออกมาอย่างไร้ข้อสงสัย

องครักษ์อ้างอู๋ลากสังขารที่อ่อนล้าเดินมาถึงด้านหลังของฮ่องเต้ เปิดปากที่ย้อมด้วยเลือด

“ทูลฝ่าบาท นักฆ่าได้ถูกกำจัดสิ้นซากแล้วพ่ะย่ะค่ะ”

“นางก็ตายแล้ว?”

เสียงแผ่วเบา ราวกับเป็นเรื่องปกติในขณะที่ถาม แต่เรื่องนั้น ทำให้เขาค่อนข้างเผชิญหน้าได้อย่างยากเข็ญ

ที่ฮ่องเต้ถามคือฮองเฮาที่เขาแต่งตั้ง หัวหน้าองครักษ์อ้างอู๋ก็เข้าใจความหมายของเขา เพียงแค่พยักหน้าเล็กน้อย แล้วปริปากอีกครั้ง

“พ่ะย่ะค่ะ ถูกสังหารแล้วพ่ะย่ะค่ะ”

ได้ยินดังนั้น ฮ่องเต้กำหมัดเล็กน้อย ปิดตาลงเงียบๆ ในใจค่อนข้างว่างเปล่า

“อืม ข้ารู้แล้ว” ราวกับว่าแสงสว่างใจในนั้น ถูกมอดดับไปอย่างกะทันหันเช่นนั้น

ในขณะที่สมาธิของฮ่องเต้สั่นไหว แสงเย็นวาบมาทันใด ดาบยาวที่แหลมคมทะลุมาในอากาศ เห็นดาบยาวแทบจะแทงเข้าที่หน้าอก หลบหลีกไม่ทัน ฮ่องเต้ยื่นมือรับไว้โดยตรง

ดาบยาวที่เปล่งแสงอันเย็นยะเยือกถูกย้อมด้วยเลือดสดในพริบตา……

“ติ้ง ติ้ง……”

เลือดแต่ละหยดหยดลงพื้น จากนั้นก็ยิ่งมากขึ้นเรื่อยๆ กระทั่งสุดท้ายได้ก่อตัวเป็นเสาเลือดบางๆ

แต่ความเจ็บแสบบนมือของฮ่องเต้เวลานี้ไม่มีความรู้สึกแล้ว เพราะว่าดวงตาได้มองเห็นหัวหน้าองครักษ์อ้างอู๋ที่เขาไว้ใจที่สุดกำลังชักดาบแทงมาทางเขาพอดี

ที่แท้เป็นเขา!

และเป็นบุคคลที่เขาเชื่อใจที่สุดอีก

ถึงเวลานี้ฮ่องเต้จึงได้เข้าใจ

ที่แท้คนสอดแนมไม่ใช่นาง แต่เป็นเขา แต่ว่านางถูกคำสั่งของตัวเองฆ่าตายแล้ว……

ระหว่างช่วงคับขัน เงาร่างเล็กจิ้มลิ้มปรากฏด้านหน้าอย่างกะทันหัน กั้นดาบที่ถึงชีวิตแทนเขา

หลานเยาเยาแอบดีใจที่ตัวเองสามารถมาได้ทันเวลาสำคัญ หากว่าคนตายได้ เช่นนั้นเลือดก็สูญเสียประสิทธิภาพแล้ว

เพียงแค่ใช้แรงทั้งร่างไปกั้นการโจมตีครั้งหนึ่งที่ถึงชีวิต สั่นสะเทือนทั้งร่างไม่ว่า ที่หัวใจยังเจ็บปวดเป็นที่สุด จากนั้นเลือดลมแปรปรวน ความคาวหวานพุ่งออกมาจากคอ‘ฟู่’เสียงหนึ่ง กระอักเลือดออกมาล้วนๆ

นี่ก็คือที่เรียกว่าการถูกสั่นสะเทือนจนภายในได้รับบาดเจ็บ?

รู้สึกเหมือนอวัยวะภายในเคลื่อนที่หมดแล้ว คนทั้งคนเหมือนกับต้องการจะสลายแล้วเช่นนั้น

“ซู่เอ๋อ? !”

ฮ่องเต้ถูกการปรากฏตัวอย่างกะทันหันของหญิงสาวทำให้ตกตะลึง เห็นใบหน้าที่คุ้นเคย เขาพึมพำเรียกเสียงหนึ่ง

หลังจากเห็นเลือดทะลักออกจากปาก สีหน้าของเขาเปลี่ยนเป็นเศร้าหมองในพริบตา ขับเคลื่อนกำลังภายในโดยตรง ตีไปที่หัวหน้าองครักษ์อ้างอู๋จนล้มอยู่กับที่อย่างรุนแรงฝ่ามือหนึ่ง ไม่เคลื่อนไหวไม่ได้แล้ว

จากนั้นพลิกมือโอบหลานเยาเยาไว้ในอ้อมอก ในแววตาปรากฏความกังวลใจออกมา

“ซู่เอ๋อ เจ้าเป็นอย่างไรบ้าง?”

“ข้าไม่เป็นไร ท่านควรจะทำตามสัญญาแล้วเพคะ”

หลานเยาเยามีความคิดแต่จะทำภารกิจให้สำเร็จมาตลอด ตอนนี้ได้กำจัดความยุ่งยากแล้ว แต่นางมีบุญคุณช่วยชีวิตเขา เป็นเวลาที่ดีที่สุดที่จะใช้บุญคุณเพื่อขอการตอบแทน

“อะไร?”

“เลือด เลือดหนึ่งหยดของท่าน!”

ผ่านไปครึ่งชั่วโมง ยาพิษในร่างกายของฮ่องเต้ได้สลายไปหมดแล้ว มือของเขาบาดเจ็บพอดี ไม่เป็นการดีที่ปล่อยให้สิ้นเปลืองอยู่ที่พื้น นางรับไว้หยดหนึ่งก็ได้แล้ว

“ได้ เจ้าต้องการเท่าไหร่ข้าให้เจ้าหมด”

พูดจบ ฮ่องเต้ปล่อยหลานเยาเยา เอานางเอนพิงต้นไม้ใหญ่อย่างระมัดระวัง ตัวเองกลับชักมีดสั้นที่ประดับด้วยทับทิมออกมา ดึงเสื้อคลุมด้านบนออก กรีดลงไปที่ทรวงอกมีดหนึ่งโดยตรง โดยไม่กะพริบตาแม้แต่น้อย

เลือดสีแดงสดไหลรินลงมาตามรอยมีดอย่างรวดเร็วในพริบตา แต่จู่ๆเขากลับยิ้ม มองดูหลานเยาเยาแล้วกล่าว :

“ซู่เอ๋อ เลือดที่เจ้าต้องการ รีบรับไว้”

“ท่าน……”

หลานเยาเยาตกใจ

ฮ่องเต้คือได้รับความกระทบกระเทือนบ้าไปแล้ว หรือว่าไม่เอาชีวิตแล้ว?

ทีแรกนางคิดอยากได้เพียงเลือดบนมือที่ได้รับบาดเจ็บของเขาเท่านั้น คิดไม่ถึงว่าเขากลับกรีดเลือดเนื้อบนทรวงอกออก ใช้เลือดที่ทรวงอกใกล้กับหัวใจที่สุดให้นาง

ฮ่องเต้นั่งยองๆลงครึ่งหนึ่ง เอาร่างกายของตัวเองเข้าใกล้นาง น้ำเสียงอ่อนโยนกว่าที่เคย “ข้าโทษเจ้าผิดไปแล้ว เลือดที่เจ้าต้องการ รีบรับไว้”

“ได้”

หลานเยาเยายื่นมือไปสัมผัสบาดแผลที่ทรวงอกด้านล่าง รับเลือดที่ไหลรินลงมาไว้ในอุ้งมือ หลังจากที่เลือดสัมผัสอุ้งมือ ก็หายไปแล้ว

กับในเวลาเดียวกัน

ในสมองก็มีเสียงเตือนดังขึ้น เสียงที่ดังมาเป็นเสียงแหบแห้งที่แฝงด้วยลักษณะของปัญญาชน

[แสดงความยินดีกับเจ้านายสำเร็จภารกิจการเลื่อนขั้นชั้นที่หนึ่ง กำลังเปิดใช้บริการยาชั้นที่หนึ่งและเครื่องมือทางการแพทย์เพื่อท่าน เชิญเจ้านายตรวจสอบ]

เมื่อดูการเปิดบริการของยาและเครื่องมือทางการแพทย์เหล่านั้น หลานเยาเยาเบิกตาโตทันที กระโดดยืนขึ้นจากพื้น เกือบหัวเราะออกเสียงแล้ว

สุดยอดเกินไปแล้ว

ก่อนหน้านี้สามารถดูได้ไม่สามารถใช้ได้ ตอนนี้ในที่สุดเปิดบริการแล้ว อยากทดลงใช้จริงๆว่าประสิทธิภาพของยาชั้นที่หนึ่งเหล่านี้เป็นอย่างไร

“ซู่เอ๋อ เจ้า……”

มองดูเลือดที่หยดลงที่อุ้งมือของนางหายสาบสูญไป แล้วมองดูท่าทางการแสดงออกที่ปีติยินดีบนใบหน้าของนาง ความคิดที่ไม่น่าเชื่อก็เกิดขึ้น

แต่กลับเพราะใบหน้ายิ้มแย้มของนาง ทำให้เขาอดยิ้มมุมปากขึ้นมาไม่ได้

เมื่อครู่ยังเป็นท่าทางร่อแร่แทบไม่รอด หลังจากที่ได้รับเลือดของเขา สีหน้าอารมณ์ก็เปลี่ยนทันที เหมือนเปลี่ยนเป็นคนละคน

ยิ่งสอดคล้องกับรสนิยมของเขามากขึ้นเรื่อยๆแล้ว

“ไม่เป็นไร ดีเป็นอย่างมากเพคะ อารมณ์ดีเป็นที่สุด”

บาดเจ็บภายในอะไร ระบบการรักษาโรคภัยไข้เจ็บจะจัดการโดยอัตโนมัติ ไม่จำเป็นต้องเป็นห่วงหลานเยาเยาโดยสิ้นเชิง เพียงแค่ตอนนี้นางร้อนใจจะใช้ยา เมื่อเห็นบาดแผลในมือกับทรวงอกของฮ่องเต้ รวมถึงรอยเลือดที่แทบจะแข็งตัวตรงมุมปาก ทันใดนั้นในดวงตาของนางก็เปล่งประกาย

“ฝ่าบาท ท่านบาดเจ็บสาหัสนะเพคะ~ให้ข้ารักษาให้ท่าน”

พูดพลาง หลานเยาเยาก็คว้ามือที่บาดเจ็บของฮ่องเต้ ฮ่องเต้อยากชักกลับมาก็ไม่สามารถ หลังจากขัดแย้งกันสองสามที ก็ไม่ได้ขัดขืนอีก

ฮ่องเต้พบว่า มือของนางเล็กๆ อ่อนช้อย สัมผัสถูกผิวของเขา กลับสามารถทำให้เขารู้สึกร้อนรุ่ม หัวใจเหมือนโดนแมวข่วนเช่นนั้น มีความหุนหันชนิดที่อดไม่ได้คิดจะจับมือนางไว้ในอุ้งมือแน่นๆ

ทำความสะอาดบาดแผล ฆ่าเชื้อ ใส่ยา บาดแผลที่อุ้งมือและทรวงอกล้วนจัดการได้อย่างง่ายดายมาก ไม่จำเป็นต้องใช้ยาชั้นที่หนึ่ง

กลับเป็นอาการบาดเจ็บภายในของฮ่องเต้ ถึงจะต้องใช้ยาชั้นที่หนึ่งที่เพิ่งเปิดบริการเมื่อครู่

ทันทีหลังจากที่ให้เขาใช้ ก็รีบถามทันที :

“เป็นอย่างไงบ้าง? เป็นอย่างไรบ้างเพคะ? กินยาลูกกลอนนั้นแล้วรู้สึกอย่างไรเพคะ? ดีกว่ายาลูกกลอนรักษาอาการบาดเจ็บภายในที่กินก่อนหน้านี้มากใช่หรือไม่เพคะ?”

ภายใต้สายตาที่คาดหวัง ฮ่องเต้พยักหน้าโดยไม่รู้ตัว

“ดีมาก ไม่ขมทั้งยังเย็นชุ่มอีก……”

ไม่รอเขาพูดจบ หลานเยาเยาดีอกดีใจพูดต่อ :

“ไม่เพียงแค่นี้ ประสิทธิภาพการรักษาของมันยังดีกว่ายารักษาอาการบาดเจ็บภายในปกติหลายเท่าเพคะ คาดว่าไม่นานเท่าไหร่ ข้าก็สามารถกลายเป็นหมอเทวดาที่มีชื่อเสียงที่สุดในแผ่นดินใหญ่ผืนนี้ได้”

เลื่อนขั้นระบบการรักษาโรคภัยไข้เจ็บไปพลาง ทำเงินสร้างชื่อเสียงไปพลาง ค่อยกินอาหารในโลกให้สุดๆไปพลาง

จึจึ!

สบายใจทั้งอิสระ หลังจากที่สำเร็จภารกิจการเลื่อนขั้นทั้งหมด คาดว่าก็ได้กินอาหารเลิศรสของโลกนี้หมดแล้ว ถึงเวลากลับยุคปัจจุบันก็ไร้ความเสียดาย

เมื่อฮ่องเต้ได้ฟัง สีหน้าเปลี่ยนทันที กล่าวอย่างจริงจัง

“ไม่ได้ ซู่เอ๋อ เจ้าจำเป็นต้องตามข้ากลับพระราชวัง อยากเป็นหมอ ข้าออกราชโองการฉบับหนึ่งก็ได้แล้ว”

หลานเยาเยางงงันในทันที

เอื้อมมือไปแตะหน้าผากของฮ่องเต้ พบว่าเขาไม่ได้เป็นไข้ ไม่เหมือนกับพูดจาเลอะเลือน

กลับพระราชวัง?

อาหารรสเลิศของพระราชวังนางได้กินหมดแล้ว อีกอย่างพระราชวังสถานที่ที่มีแต่ความวุ่นวายพรรคนั้น นางไม่อยากอยู่สักนิด

“ไม่ต้องเพคะ ข้าชอบอิสรเสรี ตอนนี้ท่านไม่ได้มีปัญหาร้ายแรงแล้ว ก็ลากันตรงนี้ บ๊ายบาย”

พูดจบ นางหมุนตัวต้องการจากไป ข้อมือกลับถูกมือใหญ่จับไว้

“ข้าไม่อนุญาตให้เจ้าจากไป”

เขาเป็นถึงฮ่องเต้สูงส่ง ใต้โลกหล้าล้วนเป็นของเขา หรือว่าคนเพียงผู้เดียวก็เก็บไว้ไม่ได้?

แต่มือของเขาก็เจ็บขึ้นมาทันใด หลานเยาเยาหลุดออกจากมือเขาแล้ว วิ่งไปด้านหน้าอย่างรวดเร็ว ฮ่องเต้ยกฝีเท้าก็ไล่ตาม ไม่สนใจอาการบาดเจ็บภายในโดยสิ้นเชิง

ตามองดูนางวิ่งไปไกล และตาเห็นว่าจะไล่ตามนางได้แล้ว

ทันใดนั้นนางก็กระโดดขึ้น หน้าก็ไม่หันกลับ ก็กระโดดลงไปที่หน้าผาที่ขาด……

ฮ่องเต้ตกใจทำอะไรไม่ถูกแล้ว

“ซู่เอ๋อ……”