ตอนที่ 991 ตอนที่ 992 ความซวยไม่ทันหาย ความฉิบหายเข้าแทรก (3)

ทรราชหญิงเจ้าหัวใจจักรพรรดิมาร

ตอนที่ 991 ความซวยไม่ทันหาย ความฉิบหายเข้าแทรก (2) / ตอนที่ 992 ความซวยไม่ทันหาย ความฉิบหายเข้าแทรก (3)
ตอนที่ 991 ความซวยไม่ทันหาย ความฉิบหายเข้าแทรก (2)

ตอนที่จวินอู๋เสียกลับไปที่ตึกเพลิงพิโรธ สยงป้าเพิ่งออกไปทำงานตามหน้าที่ของเขา ในฐานะหัวหน้าตึกเพลิงพิโรธเขาไม่สามารถทำตัวตามสบายเหมือนคนอื่นๆ ได้ ตอนนั้นมีเพียงชิงอวี่คนเดียวที่สามารถพาจวินอู๋เสียไปเดินเที่ยวรอบเมืองพันอสูรได้ แต่ชิงอวี่พบอย่างรวดเร็วว่านอกจากลานประลองสัตว์วิญญาณแล้ว ดูเหมือนจวินอู๋เสียจะไม่สนใจสถานที่อื่นๆ เลยสักนิด

พอกลับไปถึง จวินอู๋เสียก็กลับไปที่ห้องของนางทันที และชิงอวี่ก็ไม่กล้าไปรบกวน

“ท่านรองหัวหน้าตึก คุณชายจวินเป็นใครกันแน่ขอรับ” พี่น้องหลายคนในตึกเพลิงพิโรธถามขึ้น พวกเขาอยากรู้เรื่องของจวินอู๋เสียที่อยู่ที่นี่มาสองวันแล้ว

พวกเขาเห็นว่าเขามักจะไปกับชิงอวี่ ต้องรู้ก่อนว่าถึงแม้ชิงอวี่จะเป็นรองหัวหน้าตึก แต่เขาก็มีงานยุ่งมาก แต่ตอนนี้เขาแค่ไปไหนมาไหนกับเด็กหนุ่มคนหนึ่ง แล้วทิ้งงานอื่นทั้งหมดไปก่อนซึ่งทำให้คนอื่นๆ สังเกตเห็นโดยไม่ได้ตั้งใจ

เด็กหนุ่มคนนั้นดูธรรมดามาก นอกจากนิสัยที่ออกจะเย็นชาเล็กน้อย พวกเขาก็ไม่คิดว่าจวินอู๋เสียจะมีอะไรพิเศษที่ทำให้ชิงอวี่ต้องคอยใส่ใจมากขนาดนั้น

ชิงอวี่จึงบอกพวกเขาว่า “คุณชายจวินเป็นผู้ช่วยชีวิตคุณหนูใหญ่ พวกเจ้าทุกคนต้องสุภาพกับเขาให้มากนะ ไม่อย่างนั้นพอหัวหน้าตึกกลับมา เขาถลกหนังพวกเจ้าทั้งเป็นแน่”

พอสมาชิกตึกได้ยินเช่นนั้น พวกเขาก็ประหลาดใจมาก ทุกคนเข้าใจทันทีว่าเกิดอะไรขึ้น

เรื่องที่ชวีหลิงเย่ว์ได้รับบาดเจ็บที่รัฐเหยียนไม่ใช่ความลับสำหรับคนของเมืองพันอสูร และเมื่อชิงอวี่อธิบายให้พวกเขาฟัง พวกเขาก็เข้าใจในทันที

“ในเมื่อเขาเป็นผู้ช่วยชีวิตคุณหนูใหญ่ พวกเราจะปฏิบัติกับเขาให้ดีเลยขอรับ ท่านรองหัวหน้าตึกวางใจเรื่องนั้นได้เลย”

ชิงอวี่ยิ้มให้พวกเขาอย่างพอใจ

อย่างไรก็ตาม ก่อนที่ชิงอวี่จะทันได้นั่งลง เสียงเอะอะโวยวายก็ดังขึ้นด้านนอกตึกเพลิงพิโรธ และไม่นานคนของตึกเพลิงพิโรธก็วิ่งเข้ามาข้างในอย่างเร่งรีบ

“ท่านรองหัวหน้าตึก! ข่าวร้ายขอรับ! รองหัวหน้าตึกน้ำค้างเหมันต์ซั่งกวนเยี่ยนบุกมาที่นี่พร้อมคนกลุ่มใหญ่ขอรับ!”

“เขามาที่นี่ทำไม” ชิงอวี่ขมวดคิ้วทันที หลังจากหลินเชวียหัวหน้าตึกน้ำค้างเหมันต์หันไปสวามิภักดิ์ศัตรู ความสัมพันธ์ระหว่างตึกเพลิงพิโรธกับตึกน้ำค้างเหมันต์ก็ตึงเครียดขึ้นมาก และเนื่องจากหัวหน้าตึกทั้งสองมีนิสัยแตกต่างกันแบบคนละขั้ว สมาชิกที่ติดตามหัวหน้าก็ย่อมไม่ต่างจากหัวหน้า คนทั้งสองตึกจึงไม่ลงรอยกัน

แล้วตอนนี้จู่ๆ รองหัวหน้าตึกน้ำค้างเหมันต์ก็บุกมาถึงที่นี่ ชิงอวี่ไม่คิดว่ามันจะเป็นเรื่องดี

“พวกเขาบอกว่าพวกเขามาตามหาคุณชายจวินขอรับ” สมาชิกคนหนึ่งพูดขึ้น

ชิงอวี่รู้สึกแปลกใจ “มาหาคุณชายจวินทำไม”

ชิงอวี่พูดไม่ทันขาดคำก็มีเสียงโต้เถียงกันดังขึ้นข้างในตึก ซั่งกวนเยี่ยนที่อายุเลยสี่สิบปีไปแล้วบุกเข้ามาพร้อมคนจากตึกน้ำค้างเหมันต์กลุ่มหนึ่ง พวกเขาพากันมายืนตรงหน้าชิงอวี่

สีหน้าของชิงอวี่เคร่งเครียดขึ้นทันที

“ซั่งกวนเยี่ยน! นี่มันหมายความว่าอย่างไร! ถึงเจ้าจะเป็นรองหัวหน้าตึกน้ำค้างเหมันต์ ก็อย่าลืมสิว่าที่นี่คือตึกเพลิงพิโรธ! ไม่ใช่ที่ที่เจ้านึกจะมาจะไปได้ตามใจชอบ!”

ซั่งกวนเยี่ยนมองชิงอวี่อย่างเหยียดหยาม มีคำว่าดูถูกเขียนอยู่เต็มหน้าของเขา

“ชิงอวี่ ดีแล้วที่เจ้าอยู่ที่นี่ เหตุผลที่ข้ามาที่นี่วันนี้ก็เกี่ยวข้องกับเจ้าด้วย เจ้าเด็กต่างเมืองที่เจ้าพามาอยู่ที่ไหนแล้วเล่า รีบเอาตัวมันมาให้เราเดี๋ยวนี้!”

“คุณชายจวินเป็นแขกของตึกเพลิงพิโรธ เราจะไม่ส่งตัวเขาไปแค่เพราะเจ้าบอกให้ส่งหรอก! ซั่งกวนเยี่ยนเจ้าไม่ดูแคลนตึกเพลิงพิโรธของเราเกินไปหรอกหรือ!” สีหน้าของชิงอวี่ถมึงทึง การที่ซั่งกวนเยี่ยนบุกเข้ามาพร้อมคนกลุ่มใหญ่นั้นไม่ใช่เรื่องเล็กๆ เลย และเมื่อเขาเอ่ยเจาะจงถึงจวินอู๋เสียว่าเป็นคนที่เขามาตามหา ชิงอวี่จะปล่อยให้เขาทำตามใจได้อย่างไร

“เหอะ ตึกเพลิงพิโรธเป็นสถานที่แบบไหนพวกเจ้าทุกคนก็รู้ดีอยู่แก่ใจ! หัวหน้าตึกของพวกเจ้าพาเจ้าเด็กไม่รู้หัวนอนปลายเท้าเข้ามาก่อเรื่องที่นี่ เจ้าเด็กนั่นไปที่ลานประลองสัตว์วิญญาณแล้วทำผิดกฎเพื่อให้ตัวเองได้อันดับที่หนึ่ง! ในฐานะที่เป็นหนึ่งในตึกทั้งสี่ของเมืองพันอสูร ถ้าตึกเพลิงพิโรธคิดจะแก้ตัวแทนมัน ทางตึกน้ำค้างเหมันต์ของเราก็จะไม่ปล่อยเจ้าเด็กสารเลวให้สร้างความเสียหายต่อไปแน่!” ซั่งกวนเยี่ยนพูดอย่างเหยียดหยาม

ตอนที่ 992 ความซวยไม่ทันหาย ความฉิบหายเข้าแทรก (3)

“เจ้าพูดเรื่องเหลวไหลอะไร!” ชิงอวี่ถามพลางหรี่ตาลง

“จะเป็นอย่างนั้นหรือไม่ ไม่ได้ตัดสินจากคำพูดของเจ้า” เสียงเย็นชาดังขึ้น

ชิงอวี่หันหลังกลับไปด้วยความประหลาดใจ และเห็นจวินอู๋เสียเดินเข้ามาหาพวกเขา

“คุณชายจวิน ทำไมท่าน…”

“อ้อ! เจ้านี่เองจวินเสีย!” พอซั่งกวนเยี่ยนรู้ว่านั่นคือจวินอู๋เสีย เขาก็โกรธจนแทบระเบิด ถ้าไม่ใช่เพราะสัตว์วิญญาณแปลกๆ ของเด็กหนุ่มคนนี้ บุตรชายของเขาจะถูกวานรทมิฬหกแขนทำร้ายจนบาดเจ็บได้อย่างไร!

“ใช่” จวินอู๋เสียตอบแบบเฉยเมย

“ส่งสัตว์วิญญาณของเจ้าออกมาเดี๋ยวนี้!” ซั่งกวนเยี่ยนตะคอก

จวินอู๋เสียเลิกคิ้วขึ้น

“ส่งไปเพื่อ”

“เจ้าใช้วิธีการสกปรกโกงการประลองในลานประลองสัตว์วิญญาณ! ตามกฎแล้วเราจะต้องยึดสัตว์วิญญาณของเจ้า!” ซั่งกวนเยี่ยนพูด

จวินอู๋เสียกวาดสายตามองอย่างเย็นชาและถามว่า “มีข้อพิสูจน์อะไร”

ซั่งกวนเยี่ยนตอบว่า “สัตว์วิญญาณของเจ้าไม่ได้มีพลังโจมตีเลยสักนิด แต่มันทำให้สัตว์วิญญาณตัวอื่นหนีไปได้เพียงแค่เสียงร้องเท่านั้น โลกนี้ไม่มีสัตว์วิญญาณแบบนั้นสักหน่อย เจ้าต้องใช้วิธีพิเศษอะไรสักอย่างทำให้มันเป็นแบบนี้! ลานประลองสัตว์วิญญาณมีกฎอยู่ และเราหวังว่าเจ้าจะปฏิบัติตามกฎ อย่าบังคับให้พวกเราต้องลงมือ”

ถ้าทำได้ซั่งกวนเยี่ยนก็อยากจะจัดการกับจวินอู๋เสียด้วยตัวเอง แต่ตอนนี้เขาอยู่ที่ตึกเพลิงพิโรธ ถ้าพวกเขาบังคับเอาตัวจวินอู๋เสียไป ทางตึกเพลิงพิโรธไม่ยอมแน่ แต่ถ้าเขาแค่ให้เอาตัวสัตว์วิญญาณไป กฎของลานประลองสัตว์วิญญาณจะหนุนหลังเขา และเขาจะมีเหตุผลอยู่ข้างเขา ตึกเพลิงพิโรธก็จะไม่กล้าคัดค้านอย่างรุนแรง

จวินอู๋เสียพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า “ถ้าข้าจำไม่ผิด ลานประลองสัตว์วิญญาณจะตรวจสอบสัตว์วิญญาณทุกตัวที่เข้าร่วมการประลองอยู่หลายครั้ง และตอนที่ข้าไปที่ลานประลองสัตว์วิญญาณทั้งสองครั้ง สัตว์วิญญาณของข้าก็ผ่านการตรวจสอบพวกนั้นแล้ว ถ้ามีปัญหาอะไรคนของลานประลองสัตว์วิญญาณจะจับไม่ได้อย่างนั้นหรือ”

ดูเหมือนซั่งกวนเยี่ยนจะเตรียมตัวมาสำหรับคำถามนั้นแล้ว เขาจึงตอบทันทีว่า “คนของลานประลองสัตว์วิญญาณคงไม่ทำผิดพลาดแบบนั้นหรอก แต่เพราะชิงอวี่เป็นคนพาเจ้าเข้าไป แล้วชิงอวี่ก็เป็นถึงรองหัวหน้าตึกเพลิงพิโรธ คนของลานประลองสัตว์วิญญาณย่อมจำได้ว่าเขาเป็นใคร และคนที่เขาพาเข้าไปย่อมไม่ถูกตรวจสอบอย่างเข้มงวดไปด้วย”

จวินอู๋เสียหัวเราะอยู่ในใจ ชิงอวี่พานางเข้าไปในลานประลองสัตว์วิญญาณก็จริง แต่คนของลานประลองสัตว์วิญญาณไม่ได้หละหลวมในการตรวจสอบที่ควรทำเลยแม้แต่น้อย เห็นได้ชัดว่าซั่งกวนเยี่ยนผู้นี้กำลังใช้นั่นเป็นข้ออ้างในการกำจัดใต้เท้าแบ๊ะแบ๊ะ

แต่…

คิดว่านางง่ายนักหรืออย่างไรกัน

“ไม่ว่าจะใช้วิธีอะไร ตึกน้ำค้างเหมันต์ก็ไม่มีคุณสมบัติมาตรวจสอบ ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปใครจะมาท้าชิงสัตว์วิญญาณของข้าก็ได้ ถ้ามีอะไรที่ท่านยังกังวลอยู่ ท่านก็ขอให้คนของลานประลองสัตว์วิญญาณตรวจสอบสัตว์วิญญาณของข้าอย่างละเอียดที่สุดในรอบต่อไปก็ได้ จะได้เห็นว่ามีอะไรผิดปกติจริงๆ หรือไม่ จะให้ข้าส่งสัตว์วิญญาณของข้าให้ท่านแค่เพราะสิ่งที่ท่านพูดน่ะมันน่าขำไปหน่อยนะ ตึกน้ำค้างเหมันต์ไม่มีสิทธิ์ทำเช่นนั้น” แม้ว่าจวินอู๋เสียจะมาที่เมืองพันอสูรได้ไม่นาน แต่นางก็เข้าใจการทำงานภายในเมืองพันอสูรได้อย่างกระจ่างชัดเจน

ลานประลองสัตว์วิญญาณขึ้นตรงกับเจ้าเมืองพันอสูร ชวีเหวินเฮ่า แม้แต่หัวหน้าตึกทั้งสี่ก็ไม่มีอำนาจที่จะเข้าไปก้าวก่ายงานของลานประลองสัตว์วิญญาณ

“เจ้า!” ซั่งกวนเยี่ยนไม่คิดว่าคนนอกจะรู้กฎภายในเมืองพันอสูรดี พอเขากำลังจะพูด ก็มีเสียงตวาดดังก้องสะเทือนทั้งตึก

“ตึกน้ำค้างเหมันต์กล้าเมินกฎมากขึ้นทุกที! บังอาจบุกเข้ามาในตึกเพลิงพิโรธของข้าพร้อมคนเป็นกลุ่มแบบนี้! พวกเจ้าคิดว่าหัวหน้าตึกเพลิงพิโรธตายไปแล้วหรืออย่างไรกัน!” สยงป้าทำหน้าถมึงทึงน่ากลัวขณะที่พุ่งเข้ามาราวกับพายุจากด้านนอก

เขากำลังทำงานยุ่งอยู่ในเมืองตอนที่ได้ข่าวจากพี่น้องในตึกที่บอกเขาว่ามีคนของตึกน้ำค้างเหมันต์บุกเข้ามาก่อเรื่อง