ตอนที่ 559 ขอบคุณที่คอยร่วมทาง (2)

Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน

ใน​ห้อง​ส่งเงียบ​ลง​เรื่อยๆ​

ด้านหลัง​เวที​

นักร้อง​มีสีหน้า​เคร่งขรึม​

มีคน​กัด​ริมฝีปาก​เบา​ๆ

นักประพันธ์​เพลง​มีแววตา​นิ่ง​สงบ​

พวกเขา​ทั้งหมด​อยู่​ใน​เพลง​นี้​

ท่อน​คอ​รัส​ยัง​ไม่ทัน​ได้​เริ่มต้น​ ความรู้สึก​อบอุ่น​ระคน​กับ​ความขมขื่น​บางเบา​ยัง​คงอยู่​ใน​ก้นบึ้ง​ใน​จิต​ใน​ของ​ทุกคน​

ทันใดนั้น​

เฟ่ย​หยาง​เพิ่ม​ระดับเสียง​ขึ้น​

อารมณ์​เพลง​ดัง​ขึ้น​ อารมณ์​อัน​เข้มข้น​ปะทุ​ขึ้น​เป็นครั้งแรก​

โ​อ้เวลา​ช่วย​ช้าลง​หน่อย​”

ไม่อยาก​เป็นผู้ใหญ่​ไป​มากกว่า​นี้​เลย​

ขอให้​ทุก​สิ่งของ​ฉัน​แลก​กับ​วัน​เวลา​ของ​คุณ​

พ่อ​ที่​ยืนหยัด​เข้มแข็ง​

ฉัน​ทำ​อะไร​เพื่อ​คุณ​ได้​บ้าง​

โปรด​รับ​การ​ดูแล​ที่​ไม่มีวัน​ตอบแทน​ได้​หมด​…

เสียงเพลง​ดัง​กระหึ่ม​

วงดนตรี​เล่น​อย่าง​ทุ่มเท​

ภาพ​พ่อ​ของ​บน​เตียง​ใน​โรงพยาบาล​ราวกับ​จะปรากฏ​ขึ้น​ต่อหน้าต่อตา​ของ​เฟย​หยาง​

ใน​วันนั้น​

เขา​ปอก​แอปเปิ้ล​ให้​พ่อ​

เมื่อ​พ่อ​เคี้ยว​อย่าง​ยากลำบาก​ เขา​ถึงได้​ตระหนัก​ว่า​ ฟัน​ของ​พ่อ​นั้น​ไม่แข็งแรง​เสียแล้ว​

แอปเปิ้ล​แข็ง​เช่นนี้​

พ่อ​กิน​ไม่ไหว​แล้ว​

เขา​จึงปอก​ส้มให้​พ่อ​

นี่​เป็นครั้งแรก​ที่​เขา​เห็น​พ่อ​ใส่กลีบ​ส้มเข้า​ปาก​และ​กิน​อย่าง​มีความสุข​

พ่อ​บอ​กว่า​ “หวา​นก​ว่าที่​ปลูก​ไว้​ที่​บ้าน​”

ตอนนั้น​ ใน​ใจของ​เฟ่ย​หยาง​รู้สึก​ขมขื่น​

ขม​เสีย​ยิ่งกว่า​ผล​ส้มซึ่งยัง​ไม่สุก​เต็มที่​

ในเวลานั้น​ เขา​จ้องมอง​ไป​ยัง​พ่อ​ของ​เขา​

เขา​เห็น​เส้น​ผม​สีขาว​ที่​จอนหู​ของ​พ่อ​

ในที่สุด​เขา​ก็​ตระหนัก​ได้​ว่า​

พ่อ​ผู้​ซึ่งเคย​สูงใหญ่​แข็งแรง​เหมือน​เขา​จะ…

ชรา​แล้ว​

ขอบตา​ของ​เขา​แดงก่ำ​

……

ไม่เพียง​เฟ่ย​หยาง​

นักร้อง​ด้านหลัง​ก็​ลอบ​ปาด​น้ำตา​เช่นเดียวกัน​

ทุกคน​ต่าง​ส่งกระดาษ​ทิช​ชู่ให้​กัน​

มีคน​แสร้ง​ทำเป็น​เช็ด​น้ำมูก​ ทว่า​แท้จริง​แล้ว​กำลัง​เช็ด​น้ำตา​

ต่อให้​เป็น​นักประพันธ์​เพลง​ซึ่งมีท่าที​เคร่งขรึม​มาโดยตลอด​ ขณะนี้​ยังมี​สีหน้าที่​เปลี่ยนไป​อย่า​งอด​ไม่ได้​

ใน​ห้อง​ห้อง​หนึ่ง​

อิ่นตง​เงยหน้า​ขึ้น​ ราวกับ​หวน​นึกถึง​ความทรงจำ​บางอย่าง​

เขา​ยังคง​มีใบหน้า​ซึ่งเป็น​อัมพาต​ แต่​ใน​แววตา​ของ​เขา​ปรากฏ​ความขุ่นมัว​

ห้อง​ถัดไป​

เยี่ยจือ​ชิว​ถอนหายใจ​ยาว​ ไม่ได้​เอื้อนเอ่ย​วาจา​ เพียงแต่​หยิบ​โทรศัพท์​ออกมา​ มอง​ไป​ยัง​ภาพ​ซึ่งไม่มีความกล้า​พอที่จะ​เปิด​ดู​มาเป็นเวลา​นาน​

พ่อ​ของ​เขา​จากไป​เมื่อ​หลาย​ปีก่อน​

ใน​ช่วงเวลา​ที่​เขา​ยัง​ไม่ประสบความสำเร็จ​

แต่​ทำไม​เขา​ถึงขี้ขลาด​จน​ไม่กล้า​แม้แต่​เขียน​เพลง​เกี่ยวกับ​พ่อ​ด้วยซ้ำ​

สมญานาม​ว่า​พ่อ​เพลง​ มีประโยชน์​อย่างไร​

ใน​ห้อง​ถัดไป​อีก​

หยาง​จงหมิง​มีสีหน้า​นิ่ง​ประหนึ่ง​เป็น​เพียง​รูป​สลัก​ เพียงแต่​แววตา​ของ​เขา​สูญเสีย​สมาธิไป​

บางที​ผู้หญิง​อาจ​อ่อนไหว​มากกว่า​

เจิ้งจิงซึ่งอยู่​ใน​ห้อง​รับรอง​เดียว​กับ​หยาง​จงหมิง​ สอง​มือ​ยกขึ้น​ปิด​ใบหน้า​ ทว่า​น้ำตา​ยังคง​ไหล​ออก​มาจาก​ช่องว่าง​ระหว่าง​นิ้ว​ของ​เขา​

ความรู้สึก​ลึกซึ้ง​จน​ไม่อาจ​ควบคุม​ตัวเอง​ได้​

นักประพันธ์​เพลง​ส่วนมาก​อายุ​ไม่ใช่น้อย​

พ่อ​ของ​พวกเขา​ถ้าไม่จาก​โลก​นี้​ไป​แล้ว​ ก็​อยู่​ใน​วัย​โรยรา​

วัน​เวลา​มัก​ยุติธรรม​ แต่​ก็​โหดร้าย​สำหรับ​มนุษย์​เสมอ​

เพลง​นี้​ทำให้​ทุกคน​ต้อง​เผชิญหน้า​กับ​ความเสียใจ​

……

ด้านล่าง​เวที​

เสียง​สะอึก​สะอึ้น​เริ่ม​ดัง​ขึ้น​เรื่อยๆ​

บน​หน้าจอ​

ในที่สุด​คอมเมนต์​ก็​กลับมา​อีกครั้ง​ ด้วย​ใน​รูปแบบ​ที่​กระหน่ำ​ยิ่งกว่า​เดิม​!

‘ฉัน​คิดถึง​พ่อ​ขึ้น​มาเลย​’

‘ฟังจน​ร้องไห้​’

‘จุกอก​มาก​’

‘ฉัน​ยอมให้​เซี่ยนอวี๋​ทำ​อะไร​แปลก​ๆ ต่อไป​ ดีกว่า​มาทำให้​ฉัน​ร้องไห้​ฉ่ำแบบนี้​’

‘พ่อ​ผม​เป็น​มะเร็ง​ ช่วงนี้​เพิ่ง​หยุดงาน​ แล้วไป​อยู่​กับ​พ่อ​ทุกวัน​ ที่ผ่านมา​ไม่เคย​ร้องไห้​เลย​ ตอนนี้​กลับ​ทนไม่ไหว​แล้ว​’

‘เซี่ยนอวี๋​ทำเกินไป​จริงๆ​ ทำให้​พวกเรา​หัวเราะ​มาสามเวที​ แต่​เวที​นี้​กลับ​ทำให้​ทุกคน​ร้องไห้​’

‘ปี​นี้​ฉัน​จะต้อง​กลับบ้าน​ไป​ฉลอง​ปีใหม่​ ให้​ตาย​เถอะ​หัวหน้า​!’

‘พ่อ​ ผม​รัก​พ่อ​ ประโยค​นี้​ ผม​จะไป​พูด​ต่อหน้า​’

‘ใคร​กล้า​พูด​อี​กว่า​เฟ่ย​หยาง​ร้องเพลง​ไร้อารมณ์​!’

‘ฉัน​เป็น​แฟนคลับ​เก่าแก่​ของ​เฟ่ย​หยาง​ เวที​วันนี้​น่าจะ​เป็นหนึ่ง​ใน​เวที​ที่​ดี​ที่สุด​ของ​เฟ่ย​หยาง​เลย​ ฉัน​ไม่พูดถึง​เทคนิค​ และ​ไม่พูดถึง​เสียง​นะ​’

‘เพลง​นี้​ใช้หัวใจ​ร้อง​แล้ว​’

‘…’

ทุกคน​ทนไม่ไหว​แล้ว​

บน​เวที​

เฟ่ย​หยาง​ก็​ทนไม่ไหว​แล้ว​

หาก​จะเรียก​ว่า​ร้องเพลง​ ไม่สู้เรียก​ว่า​ถ่ายทอด​ความรู้สึก​ของ​ตนเอง​ออกมา​ดีกว่า​

“ขอบคุณ​สำหรับ​ทุกสิ่ง​

สอง​มือ​ประคับประคอง​ครอบครัว​

มอบให้​ฉัน​เพียง​สิ่งที่​ดี​ที่สุด​

ฉัน​ทำให้​คุณ​ภูมิใจได้​ไหม​

ยัง​คอย​เป็นห่วง​ฉัน​อยู่​หรือไม่​

…”

อารมณ์​อัน​หนักหน่วง​กำลัง​ถูกระบาย​!

เฟ่ย​หยาง​แทบ​ตะโกน​ออกมา​!

เสียง​ของ​เขา​สั่นเครือ​ ใน​เสียงสะอื้น​ระคน​เสียง​นาสิก​ น้ำตา​ริน​ไหล​ออกมา​!

ใน​ฐานะ​ราชา​เพลง​ การ​ที่​ไม่สามารถ​ควบคุม​เสียง​และ​อารมณ์​ได้​ เท่ากับ​ไม่มีความ​เป็น​มืออาชีพ​

ราวกับ​เขา​เป็น​เพียง​เด็ก​คน​หนึ่ง​ ไม่เคย​เป็น​มืออาชีพ​

แต่​ขอให้​เชื่อ​เถิด​

ว่า​นี่​คือ​ความจริงใจ​ที่สุด​ของ​ผม​

พ่อ​ครับ​

ได้ยิน​หรือเปล่า​?

เพลง​นี้​ ผม​ร้อง​ให้​พ่อ​!

พ่อ​บอก​ใช่ไหม​

ว่า​ลูก​ของ​พ่อ​ร้องเพลง​เก่ง​ที่สุด​

……

เมื่อ​เผชิญ​กับ​ความ​สะเทือนอารมณ์​ใน​ช่วง​เวลานี้​ ผู้ชม​จึงเปราะบาง​ราวกับ​กระดาษ​

เพลง​เสียงเพลง​ระลอก​แล้ว​ระลอก​เล่า​เจาะลึก​ลง​สู่หัวใจ​ นำพา​ความทรงจำ​และ​ความรู้สึก​ของ​ผู้คน​กลับมา​ยิ่งขึ้น​

ความ​ขื่นขม​และ​ความ​จนใจ​ซึ่งไม่อาจ​ควบคุม​ได้​ริน​ไหล​เข้ามา​ใน​ใน​พร้อม​เสียงเพลง​

ท่ามกลาง​เสียงเพลง​

ผู้​คำ​นับไม่ถ้วน​หลั่ง​น้ำตา​ จน​กลายเป็น​ห้วง​มหรรณพ​อัน​โศกเศร้า​!

ทุกคน​ฟังออก​

ว่าความ​สั่นเทา​ใน​น้ำเสียง​ของ​เฟ่ย​หยาง​ คือ​ความรู้สึกผิด​

ความรู้สึก​ผิดที่​ลูก​หลาย​คน​นั้น​มีต่อ​พ่อ​

……

ใน​บ้าน​สกุล​หลิน​

หลิน​เซวียน​และ​หลิน​เหยา​หันไป​มอง​แม่

แม่ยิ้ม​ “เพลง​นี้​เพราะ​”

ทว่า​ขณะที่​กำลัง​ฉีก​ยิ้ม​ ขอบตา​ของ​เธอ​แดงก่ำ​

หลิน​เยวียน​ไม่มีพ่อ​ตั้งแต่​เล็ก​

เพราะ​พ่อ​ของ​เขา​จาก​โลก​นี้​ไป​เร็ว​เหลือเกิน​

เพราะฉะนั้น​แม่ของ​หลิน​เยวียน​ จึงเป็น​ทั้ง​พ่อ​ และ​เป็น​ทั้ง​แม่

เพลง​นี้​ ภายนอก​พูดถึง​พ่อ​ ทว่า​แท้จริง​แล้ว​ร้อง​ให้​กับ​ทุก​ครอบครัว​

……

ใน​โรงพยาบาล​แห่ง​หนึ่ง​

หน้า​จอโทรทัศน์​

เฟ่ย​หยาง​กำลัง​ร้องเพลง​

ชาย​ชรา​อายุ​ราว​เจ็ด​แปดสิบ​ปี​ซึ่งหน้าตา​คล้าย​กับ​เฟ่ย​หยาง​กำลัง​ปาด​น้ำตา​เบา​ๆ

ภรรยา​ซึ่งอยู่​ด้าน​ข้าง​ยื่น​กลีบ​ส้มให้​

ชาย​ชรา​เคี้ยว​อยู่​หลาย​คำ​ ก่อน​จะส่ายหน้า​ “ไม่หวาน​เหมือน​ที่​เสี่ยว​หยาง​ซื้อ​มา”

ภรรยา​เอ่ย​ “นี่​ก็​ส้มที่​ลูกชาย​สุดที่รัก​ของ​คุณ​ซื้อ​มา”

ชาย​ชรา​ชะงัก​ จากนั้น​จึงลอง​ชิมอีก​หลาย​คำ​ “เปลี่ยน​ยี่ห้อ​หรือ​?”

ภรรยา​ตอบ​อย่าง​ไม่สบอารมณ์​​ “เปลี่ยนคน​ปอก​”

……

เสียงเพลง​เติมเต็ม​เวที​

อัน​หง​ถอด​อิน​เอียร์​ออก​

ทีมงาน​มอง​เขา​

อัน​หง​เอ่ย​ขึ้น​ “ผม​จะไป​โทรศัพท์​”

ทีมงาน​พยักหน้า​เงียบๆ​

ไม่นาน​

ก็​ต่อสาย​ติด​

ปลาย​สาย​พูด​ด้วย​ความตกใจ​ “แก​ไม่ได้​อยู่​ใน​รายการ​หรือ​?”

“พ่อ​ก็​ดู​?”

“ดู​อยู่แล้ว​ รายการ​ลูก​ฉัน​ คน​เป็น​พ่อ​จะไม่ดู​ได้​ยังไง​…”

“พ่อ​ครับ​”

“มีอะไร​ก็​รีบ​พูด​มา พ่อ​กำลัง​ดู​รายการ​อยู่​” เสียง​จาก​ปลาย​สาย​แสร้ง​ทำเป็น​รำคาญใจ​

“ไม่มีอะไร​ แค่​อยาก​เรียก​เฉย​ๆ ครับ​”

“พ่อ​ได้ยิน​แล้ว​ วาง​แล้ว​นะ​ อีก​ประเดี๋ยว​แก​ต้อง​ขึ้นไป​บน​เวที​ไม่ใช่หรือ​ ระวัง​ผู้กำกับ​หัก​เงิน​ไม่รู้​ด้วย​นะ​!”

“ครับ​”

อัน​หง​เอ่ย​ด้วย​รอยยิ้ม​

ในขณะนั้น​จาก​ปลาย​สาย​ และ​จาก​บน​เวที​ เสียงเพลง​แทบ​ดัง​ขึ้น​ประสานกัน​ นั่น​คือ​ประโยค​สุดท้าย​ของ​บทเพลง​

“ขอบคุณ​ที่​คอย​ร่วมทาง​!”

………………………………………………….