ตอนที่ 995 มังกรมายา (1) / ตอนที่ 996 มังกรมายา (2)
ตอนที่ 995 มังกรมายา (1)
เนื่องจากมันเป็นของขวัญที่จะมอบให้แก่ท่านผู้นั้น ดังนั้นมันจะต้องไม่เห็นคนอื่นเป็นเจ้านาย พวกเขาจึงต้องใช้สิ่งของแทน
“หาคนที่หน้าตาไม่คุ้นมาแล้วให้เขาพามังกรมายาไปเข้าร่วมการประลองที่ลานประลองสัตว์วิญญาณ วันนี้จะต้องชนะติดต่อกันให้ได้สิบรอบ แล้วไปท้าชิงจวินเสียกับสัตว์วิญญาณของมัน พรุ่งนี้ข้าไม่อยากได้ยินว่าสัตว์วิญญาณของเจ้าเด็กนั่นยังมีชีวิตอยู่” เขาไม่อาจลงมือกับจวินอู๋เสียตรงๆ ได้ ดังนั้นเขาจึงฆ่าสัตว์วิญญาณของมันก่อน!
สายตาของหลินเฟิงทอประกายเย็นชามุ่งร้าย
……
พายุลูกใหม่สั่นสะเทือนลานประลองสัตว์วิญญาณ สัตว์วิญญาณที่ไม่มีใครเคยเห็นมาก่อนได้จัดการคู่ต่อสู้สิบรายลงได้อย่างรวดเร็วในวันเดียว หลังจากนั้นไม่นานจวินอู๋เสียก็ได้รับคำท้าชิงที่ส่งมาให้นาง
เมื่อคนของลานประลองสัตว์วิญญาณส่งคำท้าชิงมาให้นาง จวินอู๋เสียก็ไม่ได้แปลกใจแม้แต่น้อย นางรับคำท้าอย่างสงบ
แต่ชิงอวี่กลับรู้สึกว่ามันมีอะไรมากกว่านั้น หลังจากสอบถามคนของลานประลองสัตว์วิญญาณ เขาก็ยิ่งรู้สึกแย่จึงรีบไปหาจวินอู๋เสีย
“คุณชายจวินขอรับ! การประลองในวันพรุ่งนี้ท่านต้องไม่ไปนะขอรับ” ชิงอวี่พูดด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึมจริงจัง
“ทำไม” จวินอู๋เสียถามพร้อมกับมองชิงอวี่
ชิงอวี่กัดริมฝีปากอย่างกังวลแล้วพูดว่า “ข้าถามคนของลานประลองสัตว์วิญญาณเกี่ยวกับสัตว์วิญญาณของคู่ต่อสู้ท่านแล้วเมื่อสักครู่ พวกเขาบอกข้าว่าชายหนุ่มคนหนึ่งที่พวกเขาไม่เคยเห็นมาก่อนเป็นคนพามันมา สัตว์วิญญาณตัวนั้นรูปร่างเหมือนอสรพิษแต่มีเขาคู่หนึ่งอยู่บนหัว มีเกล็ดสีเขียวปกคลุมทั่วทั้งตัว ถ้าข้าเดาไม่ผิด สัตว์วิญญาณตัวนั้นไม่ใช่สัตว์วิญญาณระดับต่ำธรรมดาทั่วไป มีความเป็นไปได้สูงที่มันจะเป็นมังกรมายาสัตว์วิญญาณที่หัวหน้าตึกน้ำค้างเหมันต์หลินเชวียจับมาจากป่าข้างนอก”
“มังกรมายาหรือ” จวินอู๋เสียถามพร้อมกับเลิกคิ้วขึ้น นางไม่เคยได้ยินชื่อสัตว์วิญญาณชนิดนี้มาก่อน
ชิงอวี่พูดต่อว่า “มังกรมายาเป็นสัตว์วิญญาณระดับสูงขอรับ อีกแค่ก้าวเดียวก็จะกลายเป็นสัตว์วิญญาณระดับภัยพิบัติแล้ว เราเคยได้ยินแต่ข่าวลือของมัน ตามข่าวลือบอกว่ามังกรมายามีพลังในการรักษาสูงมาก มันสามารถลอกคราบได้สามครั้ง หลังจากลอกคราบครั้งที่สามมันจะกลายเป็นสัตว์วิญญาณระดับภัยพิบัติ ท่านผู้นั้นเคยเอ่ยถึงมังกรมายากับท่านเจ้าเมืองครั้งหนึ่ง และขอให้ท่านเจ้าเมืองค้นหามัน แต่ท่านเจ้าเมืองไม่ตกลง หลินเชวียจึงระดมคนจำนวนมากและใช้เวลาถึงสิบปีกว่าจะพบมังกรมายาตัวนี้ ว่ากันว่าเพื่อที่จะจับมังกรมายา คนของหลินเชวียตายไปเกือบร้อยคน รวมถึงสัตว์วิญญาณระดับสูงสามตัวที่พวกเขาฝึกไว้ด้วย”
ข่าวเรื่องการจับมังกรมายาถูกเก็บไว้เป็นความลับในเมืองพันอสูร มีไม่กี่คนที่รู้เรื่องนี้ ชิงอวี่เป็นหนึ่งในไม่กี่คนที่โชคดีพอได้เห็นมังกรมายา ครั้งแรกที่เขาเห็นมังกรมายามันเพิ่งถูกจับกลับมา แม้ว่าจะสูญเสียไปเกือบร้อยชีวิต แต่มังกรมายาก็ไม่ได้รับบาดเจ็บหนักอะไรเลย ตอนที่มันถูกขังอยู่ในกรงมันดุร้ายมาก กรงธรรมดาเอามันไม่อยู่ หลินเชวียจึงต้องใช้เหล็กแห่งความมืดมาหลอมเป็นกรงไว้ขังมัน
“มังกรมายาเป็นสัตว์วิญญาณที่กระหายเลือด มันชอบกินสัตว์ทั้งเป็น ตัวมันมีความสามารถในการรักษาตัวเองที่แข็งแกร่งมาก ตราบใดที่บาดแผลไม่ถึงตาย มันก็สามารถรักษาตัวให้หายได้อย่างรวดเร็ว ข้ารู้ว่าสัตว์วิญญาณของท่านก็มีความสามารถที่พิเศษมากเช่นกัน แต่มังกรมายาตัวนั้นลอกคราบมาสองครั้งแล้ว อีกแค่ครั้งเดียวมันก็จะกลายเป็นสัตว์วิญญาณระดับภัยพิบัติเต็มตัว เป็นสัตว์วิญญาณที่ไม่มีสัตว์วิญญาณตัวใดสามารถต้านทานได้” ชิงอวี่พูดด้วยความเป็นห่วงจวินอู๋เสียอย่างมาก เขาเห็นว่าจวินอู๋เสียรักใคร่ทะนุถนอมใต้เท้าแบ๊ะแบ๊ะมาก
และการท้าชิงครั้งนี้ก็พุ่งเป้าไปที่จวินอู๋เสียโดยตรงเลย!
ตอนที่ 996 มังกรมายา (2)
มังกรมายาอยู่ที่หลินเชวียมาโดยตลอด และหลังจากฝึกมันสำเร็จ มันจะถูกมอบเป็นของขวัญให้แก่ท่านผู้นั้น แต่ตอนนี้มังกรมายากลับมาปรากฏตัวที่ลานประลองสัตว์วิญญาณ นั่นเป็นเรื่องที่คาดไม่ถึงจริงๆ
คนที่มีอำนาจในการเอามังกรมายาออกมา นอกจากตัวหลินเชวียเองแล้ว อีกคนที่ทำได้ก็มีเพียงบุตรชายของเขาหลินเฟิง!
หลินเฟิงเกลียดจวินอู๋เสียมาตั้งแต่ตอนที่จวินอู๋เสียเข้ามาที่เมืองพันอสูร แล้วตอนนี้ซั่งกวนเหมี่ยวสหายที่สนิทที่สุดของหลินเฟิง คนที่เป็นเหมือนพี่น้องของเขาก็ได้รับบาดเจ็บสาหัสเพราะจวินอู๋เสีย หลินเฟิงจึงยิ่งอยากแก้แค้นจวินอู๋เสียมากเข้าไปอีก ด้วยเหตุนั้นเขาจึงกล้าเอามังกรมายาที่ล้ำค่าออกมาต่อสู้
ลานประลองสัตว์วิญญาณดูแค่ว่าผู้เข้าแข่งขันมีกำไลสะกดอสูรอยู่ในครอบครองหรือไม่เท่านั้น ไม่ได้จำกัดระดับของสัตว์วิญญาณที่เข้าแข่งขัน
และเนื่องจากเรื่องของมังกรมายาถูกเก็บเป็นความลับอย่างดี คนของลานประลองสัตว์วิญญาณจึงไม่รู้เรื่องของมัน
ชิงอวี่รู้เรื่องของมันทั้งหมดแต่เขาก็ไม่ได้เปิดเผยข้อมูลของมันให้สาธารณชนรู้ เนื่องจากนั่นเป็นสิ่งที่ตั้งใจจะมอบให้เป็นของขวัญแก่ท่านผู้นั้น ถ้าถูกรู้เรื่องเข้า ท่านผู้นั้นอาจจะลงมือทำอะไรลงไปก็ได้
“ยังอย่างนั้นหรือ” จวินอู๋เสียตอบอย่างไม่ใส่ใจ
ชิงอวี่เห็นว่าจวินอู๋เสียไม่ตกใจเลยสักนิด จึงทำให้เขาเป็นฝ่ายร้อนใจมากขึ้นแทน “มังกรมายาอยู่กับหลินเชวียมาปีกว่า มันอาจจะลอกคราบมาเกินหนึ่งครั้งแล้วจากที่ข้าได้ยินมาครั้งล่าสุด คุณชายจวินไม่มีจำเป็นเลยที่จะเข้าประลองต่อนะขอรับ”
จวินอู๋เสียไม่ตอบ ไม่ว่าชิงอวี่จะคิดอะไร จวินอู๋เสียย่อมสามารถคิดได้เช่นกัน
การปรากฏตัวของมังกรมายาเป็นการแก้แค้นของเจ้าเด็กนั่นอย่างไม่ต้องสงสัยเลย แต่…
เขาเลือกสู้ผิดคนแล้ว!
จวินอู๋เสียไม่ตอบชิงอวี่ และชิงอวี่ก็คิดว่าในที่สุดจวินอู๋เสียก็ตระหนักถึงความร้ายแรงของเรื่องนี้เสียที และตอนนี้ก็กำลังพิจารณาใหม่อีกครั้ง เขาจึงถอนหายใจออกมาเบาๆ อย่างโล่งอก
จวินอู๋เสียกลับไปที่ห้องของนาง และมองกระต่ายโลหิตที่กำลังต่อสู้ชุลมุนกับใต้เท้าแบ๊ะแบ๊ะอยู่บนเตียง นางขมวดคิ้วทันที
“แบ๊ะ!”
ออกไปนะเจ้ากระต่ายเจ้าเล่ห์! นี่เป็นอาณาเขตของใต้เท้าแบ๊ะแบ๊ะ!
“ปู้!”
เหลวไหล! นี่เป็นรังของเจ้านายต่างหาก!
เจ้าสัตว์โง่สองตัวไม่ได้ใช้พลังของสัตว์วิญญาณระดับภัยพิบัติและใช้แค่ร่างเล็กๆ ของพวกมันตอนนี้สู้กัน ใต้เท้าแบ๊ะแบ๊ะกัดหูเจ้ากระต่ายโลหิต ส่วนเจ้ากระต่ายโลหิตก็แทะหางใต้เท้าแบ๊ะแบ๊ะ…
“อะแฮ่ม” จวินอู๋เสียกระแอมเบาๆ พอเจ้าโง่สองตัวนั่นเห็นจวินอู๋เสีย พวกมันก็ปล่อยอีกฝ่ายทันที แล้วรีบถอยไปที่สุดขอบเตียงฝั่งตรงข้ามอย่างรวดเร็ว เหมือนเด็กน้อยสองคนทำผิดแล้วถูกจับได้ พวกมันก้มหัวสำนึกผิดไม่กล้ามองสบตาจวินอู๋เสีย
ทั้งสองตัวรู้ดีว่าจวินอู๋เสียห้ามพวกมันต่อสู้กันอย่างเด็ดขาด
“เจ้ารู้จักมังกรมายาหรือไม่” จวินอู๋เสียหันไปถามใต้เท้าแบ๊ะแบ๊ะ
ใต้เท้าแบ๊ะแบ๊ะเงยหน้าขึ้น สีหน้าว่างเปล่า เห็นได้ชัดว่ามันไม่รู้อะไรเลย
กระต่ายโลหิตยิ่งไม่เคยได้ยินเกี่ยวกับมัน มันจึงยืนตาแป๋วมองจวินอู๋เสีย พยายามให้ตัวเองดูน่ารักมากที่สุดเท่าที่จะทำได้
จวินอู๋เสียครุ่นคิดถึงสิ่งที่ชิงอวี่บอกนาง ต่อให้มังกรมายาลอกคราบมาแล้วสามครั้ง มันก็เพิ่งจะได้เป็นสัตว์วิญญาณระดับภัยพิบัติไม่นาน คงจะไม่เป็นปัญหากับใต้เท้าแบ๊ะแบ๊ะมากนัก
แต่เพื่อความปลอดภัยไว้ก่อน จวินอู๋เสียจึงถามใต้เท้าแบ๊ะแบ๊ะว่ามันมีโอกาสชนะสัตว์วิญญาณที่เพิ่งได้เป็นสัตว์วิญญาณระดับภัยพิบัติหมาดๆ แค่ไหน
ใต้เท้าแบ๊ะแบ๊ะคิดว่าจวินอู๋เสียกำลังพูดถึงเจ้ากระต่ายโลหิต มันจึงยืดอกโม้อย่างภูมิใจทันทีว่า
“แบ๊ะ!”
ใต้เท้าแบ๊ะแบ๊ะจัดการพวกมันมาแล้วทีเดียวสิบตัว!
ด้วยคำตอบของใต้เท้าแบ๊ะแบ๊ะ จวินอู๋เสียจึงปัดความกังวลทิ้งไป
เช้าตรู่วันรุ่งขึ้น ชิงอวี่คิดว่าจวินอู๋เสียจะไม่ไปตอบรับคำท้าชิง แต่เขาก็พบว่าจวินอู๋เสียพาใต้เท้าแบ๊ะแบ๊ะออกไปจากตึกก่อนเขามาแค่ครู่เดียวเท่านั้น พี่น้องในตึกเพลิงพิโรธทุกคนที่เห็นได้บอกเขาว่าเด็กหนุ่มคนนั้นเดินออกไปทางลานประลองสัตว์วิญญาณ!