บทที่ 477 สุภัทรโทรมา

พิชิตใจหม่ามี๊ตัวแสบ

ชาวเน็ตหลายคน ต่างไปทิ้งระเบิดใส่เกาหลี โทษว่าทำไมประเทศเกาหลีถึงส่งนักออกแบบที่ไม่แข็งแกร่งทำเป็นแค่โกงมาได้ และยังสงสัยว่า การโกงของพิชญา มีประเทศเกาหลีสนับสนุนแผนการอยู่เบื้องหลัง

ทำให้ทางประเทศเกาหลีอธิบายว่าไม่เกี่ยวกับพวกเขา แต่ไม่มีใครเชื่อ ใครให้ชื่อเสียงระดับนานาชาติของประเทศเกาหลี ฉาวโฉ่อยู่แล้วล่ะ

แต่ก็มีชาวเน็ตบางคนก็เชื่อประเทศเกาหลี ต่างทิ้งคอมเม้นไว้ ให้สมาคมเปิดเผยว่าพิชญาโกงอย่างไร

แต่ทางสมาคมไม่เปิดเผยไวขนาดนี้ เพราะวิธีการโกงของพิชญา ตอนนี้ยังอยู่ในการตรวจสอบ แม้แต่ลินดา ก็ยังอยู่ในช่วงจับกุม

แค่จับลินดาได้ ทุกอย่างก็ง่ายดาย

ตอนดึก วารุณีแข่งขันเสร็จ กลับคฤหาสน์ไปกับนัทธี

เด็กทั้งสองคนกลับประเทศมาตั้งแต่เมื่อวาน ก็ถูกมารุตพากลับไป

เพราะวันนี้เป็นวันจันทร์ ต้องไปเรียน

ตอนนี้ วารุณีกำลังอยู่ในห้องเก็บกระเป๋าเดินทางกลับประเทศให้นัทธี

เพราะว่าเรื่องของพิชญา เขาจึงอยู่ที่นี่อีกวัน เตรียมกลับประเทศพรุ่งนี้เช้า ในประเทศยังมีงานประชุมที่สำคัญ รอเขาไปเป็นประธาน

ทันใดนั้น โทรศัพท์ของวารุณีก็ดังขึ้นมา

เธอวางเนกไทของชายหนุ่มลง ลุกขึ้นหยิบโทรศัพท์ที่หัวเตียงมา นั่งกดรับสายอยู่ข้างเตียง“มีอะไร?”

น้ำเสียงเธอเย็นชามาก ชัดเจนว่าคนที่อยู่ปลายสาย ทำให้เธอไม่ชื่นชอบเท่าไหร่นัก

“วารุณี พิชญายังมีชีวิตอยู่ จริงเหรอ?”ในสายโทรศัพท์ มีเสียงรีบร้อนของสุภัทรเข้ามา

วารุณีไม่ตอบ“คุณรู้จากไหนว่าพิชญายังมีชีวิต?”

“นัทธี เมื่อวานนัทธีส่งคนมาถามพวกเราที่ตระกูลศรีสุขคําว่า พิชญายังมีชีวิตอยู่ไหม ดังนั้นพ่อเลยโทรหาลูก วารุณี ลูกบอกพ่อมา พิชญายังมีชีวิตรอดอยู่จริงๆใช่ไหม?”สุภัทรถามอีกครั้ง

“ถูกต้อง เธอยังมีชีวิตอยู่”วารุณีตอบ

“พิชญายังมีชีวิตอยู่จริงๆ!”ในสายมีเสียงตื่นเต้นของขยานีเข้ามา“ดีจัง ดีจังเลย!”

“ใช่”สุภัทรก็พยักหน้า

พิชญายังมีชีวิตอยู่ งั้นเขาก็ไม่ต้องห่วงว่าจะไม่มีใครเลี้ยงตอนแก่แล้ว

ศรัณย์เขายอมแพ้แล้ว เด็กคนนั้นใจแข็งมาก เขาขอร้องอย่างไรก็ไม่กลับมา คาดหวังกับเด็กแบบนี้ ไม่คาดหวังเสียดีกว่า

ส่วนวารุณี เขาไม่คิดจะให้วารุณีเลี้ยงตอนแก่เท่าไหร่นัก

ที่จริงเขาเตรียมจะใจอ่อน ฟังที่ขยานีพูด ยอมรับถวิตเด็กคนนั้นมาเป็นลูกชาย ต่อไปให้ถวิตมาเลี้ยงตอนแก่

คิดไม่ถึงว่าสถานการณ์จะเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้น รู้ข่าวว่าพิชญายังมีชีวิตอยู่

วารุณีฟังเสียงตื่นเต้นดีใจของสามีภรรยาสุภัทรที่ปลายสาย ริมฝีปากสีแดงก็อดไม่ได้ที่จะเม้มลง

ดูเหมือนว่า สองสามีภรรยาสุภัทร จะไม่รู้จริงๆว่าตอนนั้นพิชญาแกล้งตาย ต่อมาพิชญาก็ไม่ได้ติดต่อพวกเขา

นี่มันช่างเสียดสีเสียจริง

ลูกสาวที่พวกเขาคลั่งรักขนาดนี้ กลับไม่เชื่อใจพวกเขาสักนิด แผนการแกล้งตายก็ไม่บอกพวกเขาเลย ต่อมายังใช้ตัวตนโสรยากลับประเทศ และก็ไม่คิดไปหาพวกเขา

เธอก็รู้ว่าตอนนี้สุภัทรดีใจขนาดนี้เพราะอะไร แต่สุภัทรคาดหวังไปที่พิชญาได้จริงๆเหรอ?

ไม่พูดถึงที่ตอนนี้พิชญาเข้าโรงพยาบาลจิตเวชอีกครั้งก่อนนะ ถึงไม่เข้าไป ก็กลัวว่าจะไม่ได้กตัญญูต่อสุภัทรนัก

เหอะ สุภัทรถูกลิขิตให้ตอนแก่ไม่มีที่พึ่ง นี่คือผลกรรมที่ตอนนั้นเขาหักหลังแม่ และไม่ต้องการพวกเขาสองพี่น้อง

“ใช่สิวารุณี ตอนนี้พิชญาอยู่ที่ไหน?”สุภัทรใจเย็นลง จึงถามอีกครั้ง

เขาอยากจะรู้ตำแหน่งของพิชญาอย่างมาก

แม้แต่ขยานีที่อยู่ข้างๆ ก็เข้าใกล้โทรศัพท์มาฟัง

วารุณีเอาผมทัดหู“เธอเหรอ เธออยู่โรงพยาบาลจิตเวชไง”

น้ำเสียงเบาๆนั้น ทำให้สามีภรรยาสุภัทรตัวแข็งทื่อ

“โรงพยาบาลจิตเวช?”สุภัทรดูไม่ค่อยอยากจะเชื่อนัก

วารุณีพยักหน้า“ถูกต้อง”

“ทำไมพิชญาอยู่โรงพยาบาลจิตเวชอีกล่ะ?”สุภัทรถาม

ขยานีก็แย่งโทรศัพท์ของเขาไปโดยตรง คำรามใส่โทรศัพท์อย่างร้ายกาจ:“วารุณี ใช่เธอไหม ใช่เธอเอาพิชญาส่งกลับไปหรือเปล่า เธอมันแพศยา ฉันรู้ว่าเธอไม่มีเจตนาดี จิตใจเธอมันต่ำทราม!”

ได้ยินคำด่าของขยานี วารุณีก็ดูนิ่งไป ในใจนั้นอยากจะหัวเราะหน่อยๆ “จิตใจฉันต่ำทราม?คุณพูดถูก จิตใจฉันมันต่ำทราม แค่ให้พิชญาอยู่ไม่สุข ฉันก็มีความสุขแล้ว จิตใจต่ำทรามฉันก็ยอม”

“แก……”ขยานีโกรธจนตัวสั่น

“พอแล้ว”สุภัทรเอาโทรศัพท์กลับมา“วารุณี ลูกบอกพ่อมา พิชญาถูกลูกพากลับไปเหรอ ทำไมลูกต้องทำแบบนี้?”

“ทำไม?ก็ไม่ทำไมหรอก ฉันแค่ทำเรื่องที่ควรทำไป ตอนที่พิชญาอยู่ในประเทศ ก็อยู่โรงพยาบาลจิตเวช ในเมื่อตอนนี้เธอไม่ตาย งั้นก็ควรกลับโรงพยาบาลจิตเวช”วารุณีกะพริบตา พูดอย่างเป็นผู้บริสุทธิ์

สุภัทรก็โกรธจนพูดไม่ออก สักพักจึงพูดว่า“ได้ งั้นลูกบอกพ่อได้ไหม ตอนนี้พิชญาอยู่โรงพยาบาลจิตเวชที่ไหน?”

“ไม่ได้ นี่คือความลับ เพื่อให้พิชญารับการรักษาอย่างดีโดยไม่ถูกรบกวน ดังนั้นฉันบอกไม่ได้”วารุณีหัวเราะ จากนั้นก็วางสาย

“ใคร?”นัทธีเช็ดผมเปียก สวมเสื้อคลุมอาบน้ำสบายๆตัวหนึ่งเดินออกมาจากห้องน้ำ แล้วถาม

วารุณีก็ไม่ปิดบังเขา วางโทรศัพท์ตอบกลับไป“สุภัทร”

“เพื่อเรื่องของพิชญา?”นัทธีเอาผ้าขนหนูพาดไว้ที่คอ ไปที่หน้าตู้ไวน์แล้วหยิบไวน์แดงขวดหนึ่งมาเปิด เทลงไปแก้วหนึ่ง

วารุณีพยักหน้า,“ใช่ ถามฉันว่าพิชญายังมีชีวิตอยู่จริงๆไหม อยู่ที่ไหน”

“คุณบอกว่าไง?”นัทธีจิบไวน์คำหนึ่งแล้วมองเธอ

วารุณีปิดกระเป๋าเดินทางของเขา“แน่นอนว่าฉันบอกเขาว่าพิชญาอยู่ไหนไม่ได้ แค่บอกว่าพิชญายังมีชีวิตอยู่ ให้สุภัทรรู้แต่เจอไม่ได้ จะต้องเสียใจแน่”

นัทธียิ้ม“คุณก็นิสัยไม่ดีเหมือนกันนะ”

“แล้วคุณชอบไหม?”วารุณีเดินไป มองไปที่เขา

นัทธีมองลงไป“ถ้าตอนนี้คุณไม่ท้อง ผมชอบมากกว่า”

พูดไป เขาก็ละสายตา ไปที่หน้าอกที่สูงตระหง่านของเธอ

วารุณีเข้าใจความหมายของเขา หน้าเล็กๆนั้นแดงขึ้นมา ทั้งโกรธทั้งขำ“คุณนี่มัน……”

“ช่วยผมที!”นัทธีมองเธอ แววตานั้นลึกซึ้งเหมือนบ่อน้ำโบราณ

ริมฝีปากวารุณีขยับ กำลังจะปฏิเสธ

เชาพูดออกไปอีก:“พรุ่งนี้ผมจะกลับไปแล้ว”

“แล้วยังไง?”วารุณีเลิกคิ้วขึ้น

“จากนั้นก็จะไม่ได้เจออีกช่วงหนึ่ง คุณทนไหวเหรอ?”ในน้ำเสียงของนัทธีมีความน้อยใจหน่อยๆ

วารุณีก็ใจอ่อนทันที รับปากว่าจะช่วยเขาแก้ปัญหาอย่างไม่รู้จะทำอย่างไร

หนึ่งชั่วโมงถัดมา นัทธีโอบหญิงสาวในอ้อมแขนอย่างพอใจ มือใหญ่นั้นลูบท้องของเธอ“ยังเหลืออีกหนึ่งเดือนแปดวัน”

“อะไร?”วารุณียังไม่ได้สติคืนมาในทันที

นัทธีพูดอธิบาย:“เหลืออีกหนึ่งเดือนแปดวัน ลูกก็จะสามเดือนแล้ว คุณก็อยู่กับผมได้แล้ว”

วารุณีจึงเข้าใจ นั่งขึ้นมาจากอ้อมแขนเขา มองเขาอย่างตกใจ“แม้แต่อันนี้คุณก็รู้เหรอ?”

“ผมเคยถามหมอ บอกว่าทารกสามเดือน คุณก็จะอยู่กับผมได้แล้ว พวกเราทำแบบนี้กับลูกก็ถือว่าเป็นเรื่องดี”นัทธีตอบ ใบหน้าภูมิใจเล็กน้อยอย่างเห็นได้ชัด

มุมปากของวารุณีกระตุก“คุณนี่เกินความคาดหมายของฉันจริงๆ”

แม้แต่อันนี้ก็ไปถาม

ดูเหมือนว่าช่วงนี้ เขาจะอดกลั้นเล็กน้อยจริงๆ

“โอเค นอนเถอะ”นัทธีดึงวารุณีกลับมาในอ้อมแขนอีกครั้ง

วารุณีนอนไม่ขยับอย่างเชื่อฟัง

เช้าวันถัดมา นัทธีออกไปจากคฤหาสน์ ไปที่สนามบิน

ตอนที่วารุณีตื่นมา เขาก็ขึ้นเครื่องบินไปแล้ว

“วารุณี เธอตื่นยัง?”จู่ๆ ประตูห้องก็มีคนเคาะ

วารุณีหาว แล้วจึงตอบ:“ตื่นแล้ว”

ประตูห้องเปิดออก เชอรีนยื่นหัวออกมา“สวัสดีตอนเช้า”

“สวัสดีตอนเช้า”วารุณียิ้มตอบไป“มีอะไรหรือเปล่า?”