บทที่ 476 ใบรับรองจิตเวช

พิชิตใจหม่ามี๊ตัวแสบ

ใบรับรองจิตเวช ดันเป็นใบรับรองจิตเวช!

“นัทธี คุณจะเอาฉันขังที่โรงพยาบาลจิตเวชอีกแล้วเหรอ?”พิชญามองนัทธีอย่างไม่อยากจะเชื่อ ร่างสั่นอย่างรุนแรง แววตามีความหวาดกลัวปรากฏออกมา แม้แต่ในหัวก็อดไม่ได้ที่จะปรากฏความทรงจำที่เมื่อก่อนอยู่ในโรงพยาบาลจิตเวช

ช่วงนั้นที่อยู่ในโรงพยาบาลจิตเวช เรียกได้ว่าเป็นประสบการณ์ช่วงหนึ่งที่ชีวิตเธอนั้นมืดหม่นที่สุด

ทุกวันจะมีหมอกับพยาบาลกลุ่มใหญ่มารักษาเธอ ให้เธอทานยา ทั้งๆที่เธอไม่ได้ป่วย ไม่ได้ป่วยทางจิต

แต่หมอกับพยาบาลพวกนั้น กลับเอาแต่บอกว่าเธอป่วย จนหลายครั้ง เธอเริ่มสงสัยว่า ตัวเองป่วยจริงๆหรือไม่

ดังนั้นเธอกลับไปโรงพยาบาลจิตเวชสถานที่อย่างนั้นไม่ได้อีกแล้ว ไม่อย่างนั้นเธอก็จะบ้าจริงๆ

“ผมไม่ได้จะจับคุณขัง แต่จะส่งคุณกลับไปสถานที่ที่คุณควรกลับ”นัทธียืนขึ้นมา พูดอย่างเย็นชา

อย่างไรก็ตามฟังในหูของพิชญาแล้ว กลับน่ากลัวอย่างมาก น้ำตาน้ำมูกเธอไหลกองไปที่หน้า “อะไรคือสถานที่ที่ฉันควรกลับ ฉันไม่ได้ป่วยทางจิต นัทธี ฉันไม่ได้ป่วยทางจิตนะ!”

“ไม่ คุณป่วย”นัทธีก้มหน้าลง มองต่ำลงไปที่เธอจากระดับสูง สายตานั้นมีแต่ความเยือกเย็น“ตอนนั้นคุณแกล้งบ้าหนีออกจากคุกเอง ในเมื่อคุณเลือกทางนี้เอง งั้นคุณก็ควรไปให้ถึงที่สุด”

“ไม่ ไม่เอา……”พิชญายืนขึ้นมา อยากจะจับขากางเกงของนัทธี

วารุณีเห็น ก็ดึงนัทธีมาข้างๆตัวเอง “สกปรก!”

นัทธีเห็นเธอปกป้องตัวเองแบบนี้ ริมฝีปากบางๆยกขึ้น“อือ สกปรกจริงๆ”

พิชญาได้ยินทั้งสองบอกว่าตัวเองสกปรก ในใจก็รู้สึกโกรธอย่างมาก

เธอชี้ไปที่วารุณี ตาคู่นั้นแดงก่ำ เหมือนจะกินเธอให้ได้“เพราะเธอ ถ้าเธอไม่ปรากฏตัว ฉันก็คงไม่อยู่ในจุดนี้ ฉันคงไม่ถูกรายงานว่าคัดลอกผลงาน นัทธีก็จะไม่ถอนหมั้นกับฉัน และฉันก็ไม่ตกอยู่ในจุดจบเช่นวันนี้!”

“เธอก็ยังย้อนเล่นงานฝ่ายตรงข้ามอีกนะ”วารุณียิ้มหยัน“ฉันบอกแล้วไง ถึงไม่มีฉัน ก็จะมีคนอื่นรายงานว่าคุณลอกผลงาน ส่วนการหมั้นของเธอกับนัทธี เธอหมั้นกับนัทธีเมื่อไหร่ ที่หมั้นกับนัทธี ไม่ใช่ว่าเป็นฉันมาตลอดเหรอ?เป็นเธอที่แย่งไป ส่วนนัทธีแค่หลังจากรู้ ก็ดึงเอาความผิดพลาดคืนสู่ความถูกต้องทันทีก็เท่านั้น”

“ไม่ใช่ ไม่ใช่!”พิชญาส่ายหน้าอย่างแรง ไม่ยอมรับคำพูดนี้

วารุณีเห็นแบบนี้ ก็ขี้เกียจพูดมาก

ยังไงวงจรสมองของพิชญา ก็ไม่เหมือนกับคนปกติ ในใจคิดว่าตัวเองเป็นผู้ถูกทำร้าย อยู่ในจุดจบนี้ เพราะถูกกระทำ ตัวเองไม่ผิดเลยสักนิด

ดังนั้นสำหรับคนแบบนี้ เธอก็ไม่อยากพูดมาก

“สามี ให้คนพาเธอไปเถอะ”วารุณีมองไปที่นัทธี

นัทธีพยักหน้า

ผู้ดูแลข้างๆเห็น ก็เรียกบอดี้การ์ดสองคนเข้ามาเลย

เห็นบอดี้การ์ดที่รูปร่างใหญ่โตสองคน พิชญาก็หนีไม่พ้น ได้แต่ตะโกนด้วยความตื่นตระหนก“นัทธี วารุณี พวกคุณไม่มีสิทธิ์เอาฉันไปส่งที่โรงพยาบาลจิตเวช ฉันไม่ได้ป่วย ใบรับรองในมือพวกคุณเป็นของปลอม เป็นของปลอม!”

“ของปลอม?”นัทธีเลิกคิ้วขึ้น“นี่คือใบรับรองจิตเวชที่โรงพยาบาลจิตเวชที่มีอำนาจที่สุดในเมืองนี้ออกให้ เป็นของจริง”

“ถึงเป็นของจริงแล้วยังไง ฉันไม่เคยตรวจทางจิต คนในใบรับรองก็ไม่ใช่ฉัน พวกคุณไม่มีสิทธิ์พาฉันไป”พิชญาดิ้นรนอย่างรุนแรง อยากหลุดพ้นจากพันธนาการของบอดี้การ์ดทั้งสองคน

แต่บอดี้การ์ดทั้งสองคนออกแรงอย่างหนัก จนแขนเธอแทบจะขาด สลัดไม่ออก แต่กลับเหนื่อยจนเหงื่อท่วมหัว

“คุณไม่เคยตรวจจริงๆ แต่แล้วยังไงล่ะ หาผู้หญิงที่ป่วยทางจิตไปตรวจ เปลี่ยนชื่อของผู้หญิงคนนั้นเป็นชื่อของคุณ ผลตรวจนี้ก็เป็นของคุณ พาไป”นัทธีออกคำสั่งเสียงหม่น

บอดี้การ์ดสองคนจึงพาพิชญาไป

ออกไปไกลมากแล้ว แต่คำด่าอันร้ายกาจของพิชญาก็ดังเข้าไปถึงทางผู้จัดงานได้

วารุณีได้ยินคำด่าพวกนั้นที่พิชญาว่าตัวเอง หน้าเล็กๆก็หม่นลงอย่างน่าเกลียด “มีสิทธิ์อะไรล่ะ”

“ทำไมเหรอ?”นัทธีมองเธอ

วารุณีทำเสียงฮึดฮัด“ทั้งๆที่คุณสั่งให้พาเธอไป และก็เป็นใบรับรองที่คุณทำ ไม่เกี่ยวกับฉัน ทำไมเธอว่าแต่ฉัน ไม่ว่าคุณล่ะ?”

คิดถึงตรงนี้ เธอก็นึกถึงนวิยา

นวิยากับพิชญาเป็นคนประเภทเดียวกัน พวกเธอต่างรักนัทธี และหวังว่านัทธีสามารถกลับไปรักพวกเธอเหมือนกันได้

แต่นัทธีไม่เลย ดังนั้นพวกเธอจึงเกลียดเธอที่ถูกนัทธีรัก

ซึ่งนี่แปลกมาก ทั้งๆที่นัทธีไม่รักพวกเธอ ปฏิบัติต่อพวกเธออย่างเย็นชา แต่พวกเธอกลับไม่เกลียดนัทธีเลยสักนิด กลับมาเกลียดเธอ จัดการเธอ

วงจรสมองเช่นนี้ โตมาได้อย่างไร?

คงไม่ใช่ว่า พวกเธอคิดจริงๆหรอกนะว่า หลังจากจัดการเธอแล้ว นัทธีจะรักพวกเธอ?

ฝันไปเถอะ

“เพราะว่าพวกเธอไม่กล้า”นัทธีตอบ

วารุณียิ้มบางๆ“ฉันกลับคิดว่า นอกจากไม่กล้าแล้ว ก็ทำใจไม่ได้ด้วย ยังไงคุณก็คือคนที่หลงรักแต่ไม่สามารถอยู่ด้วยกันได้ของพวกเธอ และรักมากสุดหัวใจ”

“คุณคือคนที่ผมรักสุดหัวใจ”นัทธีจับมือของเธอ มาไว้ที่หัวใจของตัวเอง

วารุณีรู้สึกถึงหัวใจที่เต้นของเขา ไม่รู้จะทำไง“ช่างคุยจัง”

“โอเค คุณไปแข่งก่อนเถอะ เกี่ยวกับจากนี้ไปของพิชญา ผมจัดการเอง”นัทธีดูเวลา แล้วพูดกับวารุณี

วารุณีตอบอือ แล้วออกไป

ยังไงซะตอนนี้พิชญาก็ถูกส่งไปโรงพยาบาลจิตเวชแล้ว จากนี้ไป เธอก็ไม่ต้องใส่ใจมากแล้ว ตั้งใจแข่งขันก็พอ

ทุกอย่างมีนัทธีจัดการหมดแล้ว

กลับไปสถานที่แข่งขัน

ดีไซเนอร์กลุ่มหนึ่งเข้ามาล้อมไว้

“วารุณี โสรยาเป็นไงบ้าง?”

“ใช่ โทษที่เกี่ยวกับการโกงของเธอคืออะไร?”

ได้ยินคำถามอันเจื้อยแจ้วของดีไซเนอร์กลุ่มนี้ วารุณีรู้สึกหึ่งๆอยู่ในหู

เธอรีบทำท่าหยุด รอหลังจากพวกเขาหยุดลง จึงตอบไปว่า“วางใจเถอะ พิชญา……ไม่ใช่สิ ตอนนี้โสรยาถูกพาตัวไปแล้ว ส่วนพาไปไหน ฉันไม่บอกทุกคนนะ แต่ทุกคนวางใจได้ เธอไม่ได้แข่งต่อไปแน่ ส่วนเกี่ยวกับพฤติกรรมการโกงของเธอ ทางผู้จัดจะฟ้องสมาคม ทำการกีดกันเธอ”

ถูกสมาคมกีดกันถึงสองครั้ง พิชญาเก่งจริงๆ

ยังไงคนทั่วไปก็ทำไม่ได้จริงๆ

ได้ยินว่าพิชญาจะถูกกีดกัน ดีไซเนอร์พวกนี้ก็วางใจ

พวกเขากลัวว่าพิชญาจะถูกแค่ยกเลิกสิทธิ์ในการแข่งขัน และก็ไม่เป็นไรแล้ว

แต่ตอนนี้ได้ยินว่าถูกกีดกั้นด้วย ในใจนั้นก็ดีใจอย่างมาก

พวกเขาต่างเป็นดีไซเนอร์ที่โดดเด่นที่สุดในกลุ่มวัยหนุ่มสาวของแต่ละประเทศ มีพรสวรรค์ มีความแข็งแกร่ง ดังนั้นจึงเย่อหยิ่งอย่างมาก จึงดูถูกการกระทำจำพวกลอกเลียนแบบและคดโกง

ดังนั้นพวกเขาแทบอยากจะพิชญาถูกกีดกัน

แป๊บเดียว การแข่งขันก็เริ่มขึ้น พิธีกรขึ้นเวที ก่อนจะประกาศหัวข้อการแข่งขัน ก็พูดเกี่ยวกับการจัดการของพิชญาว่า ถูกบล็อกและกีดกัน!

นี่เหมือนกับที่วารุณีบอกไว้ ทั้งสนามแข่งขันก็ดีใจอย่างมาก

ในขณะเดียวกัน เว็บไซต์ทางการสมาคมออกแบบสำนักงานใหญ่นั้น ก็ประกาศข่าวฉาวที่เกี่ยวกับการโกงการแข่งขันของพิชญา ทั้งวงการแฟชั่นต่างเดือดดาล ยังไงกล้าโกงในการแข่งขันระดับนานาชาติแบบนี้ได้ ก็ถือว่ากล้าอย่างมาก

เวลานี้ พิชญาก็ฉาวโฉ่อย่างมาก และครั้งนี้ก็เป็นครั้งที่สองแล้ว

ครั้งแรกในประเทศ โดยตัวตนพิชญา

ครั้งที่สองก็ตอนนี้ โดยตัวตนของโสรยา

ไม่ว่าตัวตนไหน ก็ถูกพิชญาทำพินาศได้ ต้องบอกว่า ในด้านนี้ ไม่มีใครเทียบได้

“เหอะ……สมน้ำหน้า!”วารุณีดูคอมเม้นในเน็ต พูดเสียงเบา

ครั้งนี้พิชญาไม่ใช่แค่ทำลายตัวเอง แต่ยังทำเอาประเทศเกาหลีที่อยู่เบื้องหลังเธอเหนื่อยไปด้วย