หลินซินมองไปที่หน้าอกของตัวเองด้วยอารมณ์ที่ฉุนเฉียวตัวเขาที่เหลือบมองหน้าอกเสร็จได้มองไปยังรถม้าลอยฟ้าอีกครั้ง หลินซินได้ส่งเสียงอันดังลั่นออกมา “เจ้าชนะแล้ว”
หลินซินเลือกที่จะยอมแพ้ให้กับชะตากรรมตัวเขาหลับตาลงก่อนที่จะเดินถอยหลังไป
พรึ๊บ!
ประมุขผู้เก่าแก่ที่สุดของสถานศึกษาไท่ชูหลินซินเลือกที่จะจบชีวิตลงในขณะที่ท้าทายปรมาจารย์แห่งศาลาปีศาจลอยฟ้า
“ติ้ง!สังหารเป้าหมายสำเร็จ ได้รับรางวัลแต้มบุญ: 1,500”
ต้วนมู่เฉิงได้ร่อนลงสู่พื้นในขณะที่ร่อนลงมาตัวเขาก็เหลือบมองไปที่หมิงซี่หยิน “ลอบโจมตีอย่างงั้นเหรอ”
“ศิษย์พี่ครั้งนี้ต้องขอบคุณท่านจริงๆ หอกของท่านสามารถจู่โจมผู้มีพลังอวตารดอกบัวแปดกลีบได้ ช่างไร้เทียมทาน!”
ต้วนมู่เฉิงพยักหน้าเล็กน้อย“เจ้าเองก็เก่งขึ้นเหมือนกันนะ”
“ขอบคุณคำชมศิษย์พี่”
ในขณะที่ทั้งสองคนกำลังชื่นชมกันและกันอยู่เหล่าสาวกที่อยู่ที่ด้านนอกแท่นหินต่างก็ตกใจและจนปัญญา พวกเขาทั้งหมดเลือกที่จะหันหลังหนี โชคยังดีที่ต้วนมู่เฉิงและหมิงซี่หยินไม่ได้เห็นพวกเขาเป็นศัตรู
ในขณะเดียวกันผู้ฝึกยุทธจากสำนักต่างๆ ยังคงตกตะลึงกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น หลินซินเป็นยอดฝีมือผู้มีพลังอวตารดอกบัวแปดกลีบ แต่ถึงแบบนั้นตัวเขาไม่ได้ต่อกรกับจีเทียนเด๋าซะด้วยซ้ำ หลินซินต้องมาตายซะก่อน ผลการต่อสู้ที่เกิดความคาดหมายนี้จะไม่ทำให้ทุกคนตกใจได้ยังไงกัน
ข่าวการตายของหลินซินแพร่ไปทั่วหุบเขาอย่างรวดเร็ว
ณที่แห่งหนึ่งที่ไม่ใกล้ไม่ไกล ที่ที่สาวกของสถานศึกษากลุ่มดาวหมีใหญ่ซ่อนตัวอยู่ หัวหน้าของกลุ่มสังเกตการณ์ได้มองไปที่ยอดเขาดันยางก่อนที่จะโบกมือ “ถอยก่อน ทุกอย่างจบลงแล้ว ออกเดินทาง…”
สาวกจากสถานศึกษากลุ่มดาวหมีใหญ่ที่มาชื่นชมการต่อสู้รีบเคลื่อนไหวในทันที
ในขณะเดียวกันสาวกจากสำนักเฮ้งชูไม่อาจเข้าใจกับสิ่งที่เพิ่งเห็นได้เลยทุกคนจะอธิบายกับเจ้าสำนักได้ยังไงถ้าหากสาวกของศาลาปีศาจลอยฟ้าสามารถสังหารผู้ที่มีพลังอวตารดอกบัวแปดกลีบได้แบบนี้
“แจ้งว่าหลินซินตายแล้วจีเทียนเด๋าไม่จำเป็นจะต้องเคลื่อนไหวซะด้วยซ้ำ!”
เหล่าอดีตสาวกของสำนักใหญ่ทั้งสิบที่เหลืออยู่เป็นผู้ที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดแล้วพวกเขาคิดว่าวันนี้จะเป็นวันที่พี่น้องที่ตายจากไปทุกคนจะได้ล้างแค้น การตายของหลินซินทำให้ทุกคนต้องพบกับความผิดหวังอย่างหนัก
“ไม่มีใครหยุดศาลาปีศาจลอยฟ้าได้จริงๆอย่างงั้นเหรอ”
ใครบางคนถอนหายใจออกมา“ข้าคงจะคาดหวังมากเกินไป…น่าขันซะจริง! ผู้มีพลังอวตารดอกบัวแปดกลีบน่ะเหรอจะเอาชนะผู้มีพลังอวตารดอกบัวเก้ากลีบได้ น่าขันโดยแท้…”
“ถ้าหากข้าเป็นจีเทียนเด๋าข้าก็คงจะใช้พลังอวตารดอกบัวเก้ากลีบที่มีทำลายล้างสถานศึกษาไท่ชูนั่นไปแล้ว จีเทียนเด๋ามีเมตตาเกินไปจริงๆ”
มันเป็นเหมือนกับสุภาษิตที่ว่า‘ถอนรากถอนโคน’ การที่จัดการถอนรากถอนโคนศัตรูทั้งหมดย่อมดีกว่าที่จะให้ศัตรูกลับมาแก้แค้นทีหลัง
ในขณะที่ผู้ฝึกยุทธที่ซ่อนตัวอยู่กำลังจะจากไปรถม้าลอยฟ้าของศาลาปีศาจลอยฟ้าก็ออกเคลื่อนไหว รถม้าคันนั้นไม่ได้กลับไปยังศาลาปีศาจลอยฟ้า รถม้าได้พุ่งตรงไปยังทางที่สถานศึกษาไท่ชูตั้งอยู่
ต้วนมู่เฉิงและหมิงซี่หยินกลับไปบนรถม้าอย่างรวดเร็ว
ลู่โจวลูบเคราของตัวเองอย่างไม่แยแสตอนนี้ตัวเขากำลังเหลือบมองหอคอยหลักของสถานศึกษาไท่ชู
หมิงซี่หยินพูดต่อ“แกนกลางของเขตแดนพลังจะต้องอยู่ที่ส่วนปลายของหอคอยหลักแน่ ข้าไม่คิดว่าจะมีใครกล้าพอที่จะหยุดยั้งพวกเราได้”
ไม่นานหลังจากนั้นสายตาของผู้คนที่อยู่เบื้องล่างก็ได้จับจ้องไปยังรถม้าล่องเมฆารถม้าล่องเมฆากำลังเคลื่อนที่ด้วยความเร็วสูง มันกำลังมุ่งหน้าไปยังหอคอยหลัก
สาวกของสถานศึกษาไท่ชูต่างก็งุนงง
ผู้ฝึกยุทธทั้งหลายที่ยังไม่จากไปงุนงงเช่นกัน
“จีเทียนเด๋าพยายามจะทำอะไรกันแน่”
“อย่าบอกว่าจีเทียนเด๋าคิดที่จะทำลายม่านพลังอย่างงั้นเหรอ”
ไม่มีสาวกของสถานศึกษาไท่ชูคนไหนกล้าก้าวออกจากม่านพลังในโลกของการฝึกยุทธ เหตุผลที่ทำให้สำนักใหญ่ทั้งหลายกลายเป็นสำนักใหญ่ที่มีสาวกมากมายหลายคนได้เป็นเพราะม่านพลังที่มี
ในตอนที่สำนักใหญ่ทั้งสิบโจมตีศาลาปีศาจลอยฟ้าในอดีตเป็นเพราะม่านพลังที่ภูเขาทองมีจึงทำให้ไม่มีใครบุกรุกเข้าไปในศาลาปีศาจลอยฟ้าได้
“สถานศึกษาไท่ชูเป็นชาวลัทธิขงจื๊อชาวลัทธิขงจื๊อเป็นผู้ที่เชี่ยวชาญในการสร้างเขตแดนพลัง ข้าเกรงว่าการจะทำลายม่านพลังได้คงจะต้องเป็นเรื่องยากแน่”
“จีเทียนเด๋าต้องการที่จะใช้พลังอวตารดอกบัวเก้ากลีบที่มีทำลายสถานศึกษาไท่ชูอย่างงั้นเหรอ”
“ไม่น่าจะเป็นไปได้ไม่ว่าจะใช้วิธีไหนก็ไม่เคยมียอดฝีมือคนไหนที่สามารถทำลายม่านพลังที่อยู่ตรงหน้าได้”
ลู่โจวในตอนนี้กำลังยืนอยู่ใกล้ๆกับพังงารถม้า ตัวเขาได้ผลักฝ่ามือของตัวเองไปด้านหน้าอย่างนุ่มนวล นิ้วบนฝ่ามือลู่โจวเริ่มส่องประกายแสงสีฟ้าขึ้น พลังฝ่ามือสละปัญญากำลังจะก่อตัวขึ้นมาอีกครั้ง
สาวกของสถานศึกษาไท่ชูที่อยู่บนหอคอยหลักได้มองไปทางลู่โจว
“นี่มันวิชาของชาวลัทธิขงจื๊อฝ่ามือสละปัญญา”
ซู่วว!
พลังฝ่ามือสละปัญญาได้ลอยไปทางหอคอยหลักทันทีที่มันแตะต้องม่านพลัง ภาพอันน่าทึ่งก็ได้ปรากฏขึ้น
แคร๊ก!
พลังฝ่ามือขนาดใหญ่ได้กระทบกับม่านพลังที่ดูราวกับแผ่นกระจกทันทีที่ฝ่ามือปะทะกับม่านพลัง นิ้วทั้งห้าและพลังฝ่ามือก็ได้ทะลุผ่านไป
ม่านพลังที่ต้องถูกพลังฝ่ามือโจมตีอ่อนแรงลงในทันที!
แม้ว่าจะผ่านม่านพลังมาได้แต่พลังฝ่ามือก็ยังไม่หายไป มันยังเคลื่อนไหวไปที่ด้านหน้าต่อ
ตู๊ม!
พลังฝ่ามือได้พุ่งตรงไปยังด้านบนของหอคอยหลักมันได้พุ่งทำลายส่วนบนก่อนที่จะกระทบเข้ากับพื้น
ตู๊ม!
ในที่สุดพลังฝ่ามือสละปัญญาก็แตะพื้น
ทั้งสถานศึกษาไท่ชูตกอยู่ในความเงียบ
หอคอยหลักเป็นเหมือนกับแกนกลางของเขตแดนพลังที่สถานศึกษาไท่ชูมีในตอนนี้แกนกลางหลักได้ถูกทำลายไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว นั่นก็หมายความว่าม่านพลังของสถานศึกษาไท่ชูมีไม่อาจที่จะใช้การได้อีก ถ้าหากไร้ซึ่งม่านพลัง ในตอนนี้ไม่ว่าใครก็สามารถเข้าออกสถานศึกษาแห่งนี้ได้ตามต้องการ
“จบแล้วล่ะ!อนาคตของสถานศึกษาไท่ชูจบลงแล้ว”
การตายของประมุขอย่างหลินซินเพียงคนเดียวก็สร้างความสิ้นหวังให้กับสาวกของสถานศึกษาไท่ชูมากแล้วแต่พลังฝ่ามือสละปัญญาที่ทำลายม่านพลังได้ทำให้เหล่าสาวกสิ้นหวังมากกว่าเดิม
เหล่าผู้อาวุโสที่ยังเหลืออยู่รู้สึกผิดทำไมสถานศึกษาไท่ชูถึงต้องท้าทายศาลาปีศาจลอยฟ้าด้วย ทำไมถึงไม่มีใครยืนกรานให้หลินซินขอโทษ? ไม่ว่าจะเสียดายแค่ไหนแต่ในตอนนี้ก็ไม่อาจแก้ไขอะไรได้อีก
นอกจากสถานศึกษาไท่ชูผู้ฝึกยุทธที่ซ่อนอยู่ต่างก็กลืนน้ำลาย
ในเวลาเดียวกันก็มีเสียงดังขึ้นจากรถม้าล่องเมฆา“ก่อนหน้านี้ข้าเคยให้โอกาสพวกเจ้าแล้ว แต่พวกเจ้าไม่เห็นค่ามัน…นี่ถือเป็นการลงโทษเล็กๆ น้อยๆ จากข้า”
ไม่มีใครกล้าพูดหรือโต้ตอบกลับมา..
รถม้าล่องเมฆาที่ทำลายแกนกลางเขตแดนพลังเสร็จได้เดินจากไปในทันที
ผู้ฝึกยุทธที่ซ่อนตัวอยู่ต่างก็คิดอะไรขึ้นมาได้มันคงจะเป็นการดีกว่าถ้าหากพวกเขาไม่ท้าทายศาลาปีศาจลอยฟ้า แม้แต่ม่านพลังของสถานศึกษาไท่ชูเองก็ยังถูกปรมาจารย์แห่งศาลาปีศาจลอยฟ้าทำลายได้ด้วยพลังฝ่ามือเพียงแค่ฝ่ามือเดียว
…
1ชั่วโมงต่อมา
รถม้าล่องเมฆากำลังบินอยู่เหนือสำนักเฮ้งชู
ผู้อาวุโสและสาวกของสำนักเฮ้งชูยังไม่ทราบเรื่องที่เกิดขึ้นกับสถานศึกษาไท่ชูทุกคนต่างก็จับจ้องไปที่รถม้าล่องเมฆาที่กำลังลอยอยู่บนฟ้า
รถม้าล่องเมฆาได้บินตรงมาด้วยความเร็วสูงจนไม่น่าเชื่อ
หลังจากนั้นไม่นานสาวกทั้งหลายก็มองเห็นดาบที่เต็มไปด้วยพลังสีฟ้าดาบกำลังพุ่งตรงมาหาพวกเขา ดูเหมือนว่ามันจะเป็นดาบขนาดเล็กที่สวยงาม ที่รอบดาบเต็มไปด้วยพลังที่อัดแน่น ดาบเล่มเล็กกำลังปลดปล่อยอักษรประหลาดออกมา มันเป็นอักษรที่แฝงไปด้วยแสงสีฟ้า
ครืดด!
เมื่อพลังดาบเข้าปะทะกับม่านพลังในตอนนั้นก็เกิดประกายไฟไปทั่ว ไม่นานนักพลังดาบก็ได้เจาะทะลุม่านพลังก่อนที่จะฝังตัวลงสู่พื้น
ตู๊ม!
ม่านพลังของสำนักเฮ้งชูแตกเป็นเสี่ยงๆ
หลังจากที่ม่านพลังจางหายไปรถม้าล่องเมฆาก็ได้หันหลังกลับก่อนที่จะลอยไปตามขอบฟ้าในทันที
…
ณพระราชวังตะวันออกของเมืองหลวงศักดิ์สิทธิ์
องค์รัชทายาทหลิวจือรู้สึกมีความสุขอย่างเห็นได้ชัดในตอนนี้ตัวเขากำลังเพลิดเพลินไปกับการฮัมเพลงและการชื่นชมภาพวาดที่ตรงหน้า
“ฝ่าบาทผลการต่อสู้ของหลินซินและจีเทียนเด๋าออกมาแล้ว” ขันทีคนหนึ่งได้พูดกับหลิวจือด้วยความเคารพ
หลิวจือถอนหายใจก่อนที่จะพูดออกมา“ข้าพนันได้เลยว่าจีเทียนเด๋านั่นคงไม่คาดคิดว่าพวกเราจะมีไพ่ตายที่ทรงพลังแบบนี้…จีเทียนเด๋ายึดติดกับความสำเร็จที่เคยมีมากจนเกินไป และเพราะแบบนั้นจึงทำให้ตัวเขาต้องพ่ายแพ้ไปอย่างน่าสมเพช”
“องค์ชาย…ผลลัพธ์ก็คือ…”ขันทีพยายามจะพูดต่อ
“ไม่ต้องพูดอะไรแล้วล่ะ…ข้าจะอธิบายเรื่องชุดเกราะให้กับเสด็จพ่อได้ฟังเองในขณะที่เสด็จพ่อเก็บตัวฝึกฝน ข้าจะรับผิดชอบส่วนที่เหลือในการกำจัดศาลาปีศาจลอยฟ้าต่อเอง” หลิวจือได้พูดออกมาอย่างมั่นใจ “อีกไม่นานเสด็จพ่อจะต้องกลายเป็นผู้มีพลังอวตารดอกบัวเก้ากลีบและรวบรวมชนเผ่าอื่นทั้งหมดให้เป็นหนึ่งเดียวได้แน่”
หลังจากที่หลิวจือพูดจบตัวเขาก็ยังเห็นขันทีคนเดิมไม่จากไปไหน เมื่อเห็นแบบนั้นหลิวจือเริ่มแปลกใจ “เจ้ายังยืนอยู่ตรงนี้เพื่ออะไรอีก”
ขันทีตัวสั่นเล็กน้อยก่อนที่จะคุกเข่าลง“ขออภัยด้วยองค์ชาย…ขออภัยด้วย…หลินซินพ่ายแพ้ หลินซินประมุขแห่งสถานศึกษาไท่ชูได้เสียชีวิตอยู่บนยอดเขาดันยางพ่ะย่ะค่ะ”