ตอนที่ 1007 อสรพิษทะยาน (2) / ตอนที่ 1008 อสรพิษทะยาน (3)
ตอนที่ 1007 อสรพิษทะยาน (2)
อสรพิษทะยานเป็นภูติวิญญาณตนแรกที่นางกลืนกิน จิตวิญญาณของมันจึงน่าจะหายไปแล้ว
“เจ้ากำลังจะพูดอะไรกันแน่” จวินอู๋เสียพูดกับอสรพิษทะยานและแสดงท่าทางสงบนิ่งอย่างมาก ทั้งๆ ที่ในใจของนางกำลังพยายามหาเบาะแสที่ซ่อนอยู่ในคำพูดของอสรพิษทะยานเพื่อหาเหตุผลในเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดนี้
เจ้าอสรพิษทะยานพูดว่าเหตุผลที่จิตวิญญาณของมันไม่หายไปเป็นเพราะสมบัติล้ำค่าที่จวินอู๋เย่ามอบให้นาง…
จวินอู๋เสียหรี่ตาลงขณะที่พยายามคิดอย่างหนักเพื่อหาว่าอะไรคือสมบัติล้ำค่าที่มันพูดถึง
ทันใดนั้น!
นางก็คิดถึงสิ่งหนึ่ง!
ตอนที่นางสละวิญญาณของตัวเองอย่างไม่ลังเลเพื่อฆ่าคนจากสิบสองตำหนักที่เทือกเขาเมฆา และสุดท้ายนางก็ถูกลากออกไปจากที่นั่น แม้ว่านางจะยังมีชีวิตอยู่ แต่จิตวิญญาณของนางก็ได้รับความเสียหายอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ตอนนั้นจวินอู๋เย่าได้ให้เมล็ดถั่วสีทองเม็ดเล็กๆ แก่นาง และมันก็ถูกกลืนกินเข้าเป็นส่วนหนึ่งของร่างกายนาง
จวินอู๋เย่าพูดว่า…
เมล็ดถั่วนี้สามารถซ่อมแซมจิตวิญญาณที่เสียหายของนางได้!
ในที่สุดจวินอู๋เสียก็เข้าใจ เมล็ดถั่วสีทองต้องเป็นสิ่งที่ช่วยรักษาจิตวิญญาณที่เสียหาย และเมื่ออสรพิษทะยานที่เป็นภูติวิญญาณที่นางกลืนกินไปเป็นตัวแรก มันจึงเป็นรากฐานที่สำคัญที่สุด จากที่นางรู้มาจากจวินอู๋เย่า อสรพิษทะยานนั้นแข็งแกร่งมาก!
หลังจากที่อสรพิษทะยานถูกสะกดและถูกกลืนกินเข้าสู่ร่างกายของนาง จิตวิญญาณของมันก็ค่อยๆ กลายเป็นส่วนหนึ่งของร่างกายนางอย่างช้าๆ เหมือนภูติวิญญาณตนอื่นๆ แต่เนื่องจากอสรพิษทะยานเป็นภูติวิญญาณที่แข็งแกร่งมาก ช่วงเวลาที่ใช้จึงแตกต่างจากภูติวิญญาณตนอื่นๆ!
ตอนที่จวินอู๋เย่าฝังเมล็ดถั่วนั้นเข้าสู่ร่างกายของนาง อสรพิษทะยานคงยังไม่ถูกกลืนกินไปทั้งหมด และพอเมล็ดถั่วสีทองนั้นรักษานาง มันก็ได้รักษาจิตวิญญาณของอสรพิษทะยานไปด้วย!
นั่นไม่น่าจะเป็นข่าวดีสำหรับนางเลย
แม้ว่าอสรพิษทะยานจะพยายามอย่างเต็มที่ที่จะไม่แสดงออก แต่จวินอู๋เสียก็ยังจับได้ถึงความเกลียดชังอย่างรุนแรงที่ฝังลึกอยู่ในสายตาของอสรพิษทะยาน
การที่มันถูกนางขังและดูดกลืนนั้น ทำให้ตอนนี้เจ้าอสรพิษทะยานไม่ปรารถนาอะไรมากไปกว่าการได้ฆ่านาง ที่ตอนนี้มันระงับความโกรธและความเกลียดชังเอาไว้ก็เพราะมันไม่มีทางเลือกอื่น
“เด็กน้อย ถึงเราจะเคยต่อสู้กันแต่ตอนนี้จิตวิญญาณของข้าก็หลอมรวมกับเจ้าแล้ว ไม่ว่าตอนนี้ข้าจะเกลียดเจ้ามากแค่ไหน แต่ข้าก็ไม่สามารถโจมตีเจ้าได้ อย่างไรเสียเจ้าก็ยังเป็นจิตวิญญาณหลักของร่างนี้ ถ้าข้าฆ่าเจ้าตอนนี้ ร่างของเจ้าก็จะเริ่มแตกสลาย และจิตวิญญาณของข้าก็จะไม่สามารถกลับไปยังสถานที่ที่ข้าจากมาได้” อสรพิษทะยานกัดฟันพูดพร้อมกับมองตรงไปที่จวินอู๋เสีย อย่างที่จวินอู๋เสียคาดเดาเอาไว้ เจ้าอสรพิษทะยานยังคงเกลียดชังนางมาก
แต่มันไม่อาจทำอะไรบุ่มบ่ามได้
จวินอู๋เสียมองอสรพิษทะยาน นางไม่สงสัยในคำพูดของมันเลย
แนวคิดการผสานจิตวิญญาณเป็นสิ่งที่นางคุ้นเคยดีอยู่แล้ว เนื่องจากเจ้าแมวดำตัวน้อยก็เป็นจิตวิญญาณที่ถูกผสานรวมเข้ากับนางเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นเจ้าแมวดำตัวน้อยหรืออสรพิษทะยาน เมื่อพวกมันถูกรวมเข้ากับจิตวิญญาณของจวินอู๋เสียแล้ว หากจวินอู๋เสียตายจิตวิญญาณทั้งสองก็ไม่รอดเช่นกัน และด้วยเหตุผลเดียวกันนี้ ตราบใดที่นางยังมีชีวิตอยู่ จิตวิญญาณทั้งสองก็จะยังอยู่กับนางต่อไป!
“เจ้าทำให้ข้าเข้ามาที่นี่ทำไม” จวินอู๋เสียถามพร้อมกับมองไปที่อสรพิษทะยาน อสรพิษทะยานเกลียดนางมาก แต่ไม่มีทางเลือกนอกจากยอมจำนนต่อนาง มันเป็นสถานการณ์ที่ซับซ้อนและละเอียดอ่อนมาก
“ข้ามีเรื่องต้องคุยกับเจ้า” เจ้าอสรพิษทะยานตอบ
“อย่างนั้นหรือ”
“จิตวิญญาณของข้ายังคงอ่อนแอมาก แค่เมล็ดถั่วนั่นอย่างเดียวไม่เพียงพอที่จะทำให้ข้าฟื้นตัวได้เต็มที่ ข้าจะต้องใช้อย่างอื่นด้วย ถ้าเจ้าช่วยข้าหามันได้ ข้าจะยอมอยู่ใต้การควบคุมของเจ้า เจ้าก็น่าจะรู้ดี หลังจากที่จิตวิญญาณของเราผสานรวมกันแล้ว ข้าก็ไม่สามารถทำร้ายเจ้าได้อีกต่อไป” เจ้าอสรพิษทะยานพูดเสียงเบา
ตอนที่ 1008 อสรพิษทะยาน (3)
“มังกรมายา! เมื่อครู่ข้าสัมผัสถึงมังกรมายาได้! ข้าต้องการพลังของมังกรมายา!” ดวงตาของอสรพิษทะยานลุกวาวขึ้นด้วยความตื่นเต้น
สายตาของจวินอู๋เสียเปลี่ยนเป็นเย็นเยียบในทันที ในที่สุดนางก็เข้าใจว่าทำไมจู่ๆ ถึงได้มีแรงกระตุ้นอันทรงพลังที่เกือบจะอยู่เหนือการควบคุมของนางในตอนที่นางเห็นมังกรมายา ความรู้สึกนั้นไม่ได้มาจากตัวนางแต่มาจากจิตสำนึกของอสรพิษทะยาน!
อสรพิษทะยานอยากได้มังกรมายามาก และเมื่อมันสัมผัสถึงมังกรมายาได้ ความปรารถนาอันรุนแรงของมันก็ส่งผลกระทบต่ออารมณ์ความรู้สึกของจวินอู๋เสีย
นี่เป็นหนึ่งในข้อเสียใหญ่ของการผสานจิตวิญญาณ!
“มังกรมายาตัวนั้นตายไปแล้ว” จวินอู๋เสียไม่ชอบเรื่องที่สิ่งอื่นมีอิทธิพลต่ออารมณ์ความรู้สึกของนางนอกเหนือไปจากตัวนางเอง เจ้าอสรพิษทะยานทรงพลังมากแต่มันแตกต่างจากเจ้าแมวดำตัวน้อย อสรพิษทะยานเกลียดชังนางอย่างรุนแรงและมันยังไม่พบวิธีที่จะหลุดออกมาได้ แต่ถ้ามีโอกาสขึ้นมาในอนาคต เจ้าอสรพิษทะยานย่อมไม่ลังเลที่จะกลับคำพูดของมันอย่างแน่นอน!
จวินอู๋เสียพบว่านางไม่ชอบการมีตัวตนที่ไม่สามารถวางใจได้อยู่ในร่างกายของนาง
“ตายแล้ว เป็นไปไม่ได้! ข้าเพิ่งสัมผัสตัวตนของมันได้เมื่อครู่นี้เองนะ!” เจ้าอสรพิษทะยานร้องอุทาน
จวินอู๋เสียหรี่ตาลง ดูเหมือนว่าอสรพิษทะยานแค่รับรู้ถึงสิ่งที่อยู่นอกร่างกายของนางเท่านั้น แต่มองไม่เห็นว่าเกิดอะไรขึ้น นั่นทำให้รับมือกับสถานการณ์ได้ง่ายขึ้นมาก
ไม่ว่าอสรพิษทะยานต้องการอะไรจากมังกรมายา แต่จวินอู๋เสียจะไม่มีวันยอมให้มันทำได้ตามใจแน่ แม้ว่าการได้รับความช่วยเหลือจากอสรพิษทะยานจะเป็นทางเลือกที่ไม่เลวนัก แต่จวินอู๋เสียจะไม่ยอมให้ภูติวิญญาณที่มีความเกลียดชังต่อนางรุนแรงถึงขนาดนั้นแข็งแกร่งขึ้นอย่างแน่นอน
อย่างน้อยก่อนที่นางจะสามารถทำความกระจ่างกับสถานการณ์ของอสรพิษทะยานตอนนี้ได้ นางจะไม่ยอมให้เรื่องนั้นเกิดขึ้นแน่
แต่คำพูดของอสรพิษทะยานก็ช่วยคลายข้อสงสัยของนางไปได้หลายอย่างเลยทีเดียว
แรงกระตุ้นที่อธิบายไม่ได้ก่อนหน้านี้ตอนนี้ก็อธิบายได้แล้ว และรยางค์สีทองที่ปรากฏขึ้นบนฝ่ามือของนางก็มาจากเมล็ดถั่วสีทองนั่น อสรพิษทะยานอยากได้หินวิญญาณของมังกรมายามาก และความปรารถนานั้นก็ไม่อยู่ในการควบคุมของจวินอู๋เสีย ขณะที่ความปรารถนาขึ้นสู่จุดสูงสุด เมล็ดถั่วสีทองก็ปรากฏขึ้นและหลอมรวมหินวิญญาณของมังกรมายาเข้าไปในร่างกายของนาง
เทียบกับอสรพิษทะยานแล้ว จวินอู๋เสียเชื่อในเมล็ดถั่วสีทองนั่นมากกว่าว่าไม่ได้อยากทำร้ายนาง
ไม่ว่าเมล็ดถั่วสีทองนั่นจะอยากทำเช่นนั้นไปทำไม จวินอู๋เสียก็ค่อนข้างแน่ใจว่ามันพยายามช่วยนางอยู่
“มันถูกสัตว์วิญญาณของข้ากินเข้าไป ตอนนี้มันก็เลยตายแล้ว” จวินอู๋เสียพูดอย่างเฉยเมย นางพยายามหลอกอสรพิษทะยาน
ดูเหมือนอสรพิษทะยานไม่อยากจะยอมแพ้ไปทั้งแบบนั้น มันพยายามค้นหาตัวตนของมังกรมายาอีกครั้ง แต่ก็ไม่สามารถตรวจจับร่องรอยของมันได้เลย เมื่อครู่มันตื่นตระหนกก็เพราะจู่ๆ มังกรมายาหายไป ทำให้มันต้องลากจวินอู๋เสียเข้ามาที่ทะเลจิตวิญญาณนี้ก่อนที่จิตวิญญาณของมันจะกลับสู่สภาพเดิมอย่างสมบูรณ์ ทำให้ความจริงถูกเปิดเผยออกมาว่าจิตวิญญาณของมันยังคงอยู่ภายในร่างกายของจวินอู๋เสีย
“ทำไมถึงกลายเป็นแบบนี้ไปได้…” น้ำเสียงของอสรพิษทะยานเต็มไปด้วยความเสียใจอย่างมาก
แต่จวินอู๋เสียยังคงนิ่งสงบเหมือนเดิม
เจ้าอสรพิษทะยานนิ่งเงียบไปนานก่อนจะเข้ามาใกล้จวินอู๋เสียอีกครั้ง มันเบิกตาโตจ้องมองใบหน้าของจวินอู๋เสีย
“เจ้าช่วยข้าหามังกรมายา แล้วข้าจะยอมทำตามคำสั่งของเจ้า ถ้าข้าแข็งแกร่งขึ้น เจ้าก็จะได้รับพลังที่ไม่มีผู้ใดสามารถเทียบเคียงได้เช่นกัน นี่เป็นข้อตกลงที่ทั้งเจ้าและข้าได้ประโยชน์ทั้งคู่”
“ตกลง” จวินอู๋เสียตกลงทันที
อสรพิษทะยานมองจวินอู๋เสียอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะถอยกลับไปเพิ่มระยะห่างระหว่างทั้งสอง
“ข้าจะรอ” ดวงตาของอสรพิษทะยานห่างออกไปจากจวินอู๋เสียมากขึ้นเรื่อยๆ จนในที่สุดมันก็หายไปในความมืดมิด