ตอนที่ 494 คนที่มีทุกอย่างพร้อมย่อมได้เปรียบ

สตรีแกร่งตระกูลไป๋

ตอนที่ 494 คนที่มีทุกอย่างพร้อมย่อมได้เปรียบ

ต่งถิงเจินกล่าวเสริมเป็นระยะๆ ระเบียงทางเดินเต็มไปด้วยเสียงหัวเราะอย่างมีความสุข บรรยากาศครื้นเครงมาก

ต่งฉางหลานมองดูไป๋ชิงเหยียนที่เดินรั้งท้ายเคียงข้างกับเขาด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยรอยยิ้ม เอ่ยถามเรื่องการปราบโจร

“ระหว่างทาง ข้าได้ยินว่าโจรป่าอาละวาดหนักขึ้นเรื่อยๆ กล้าจับตัวเด็กตอนกลางวันแสกๆ ช่างไม่กลัวกฎหมายบ้านเมืองแล้วจริงๆ”

“ใช่แล้ว!” ไป๋ชิงเหยียนรับคำ เดินไปตามระเบียงทางเดินพร้อมกับต่งฉางหลานพลางเอ่ยเสียงเบา

“ดังนั้นพี่ตั้งใจจะพาชาวบ้านขึ้นไปปราบโจรป่าบนภูเขาหลังวันเกิดของท่านแม่”

“ฉางหลานยินดีช่วยเหลือพี่หญิงขอรับ!” ต่งฉางหลานกำหมัดกล่าวด้วยเสียงหนักแน่น

“องครักษ์หกสิบสามคนที่คุ้มกันฉางหลานมาที่ซั่วหยางล้วนเป็นทหารยอดฝีมือของกองทัพเติงโจวขอรับ!”

เติงโจวมีชายแดนติดกับหนานหรงซึ่งแบ่งแยกดินแดนออกมา ชาวพื้นเมืองของเป่ยหรงมีแต่คนดุดันร้ายกาจ เมืองเติงโจวต้องมีกองทัพที่แข็งแกร่งไว้ป้องกันเป่ยหรง

ท่านน้าชายต่งชิงเยว่คือผู้ตรวจการเมืองเติงโจว ในฐานะบุตรชายคนโตของต่งชิงเยว่ ฝีมือการต่อสู้ของต่งฉางหลานย่อมดีเป็นธรรมดา

ทว่า การไปปราบโจรป่าคราวนี้ของไป๋ชิงเหยียนทำเพื่อจับคนที่แสร้งปลอมตัวเป็นโจรป่าลักพาตัวเด็กไป อีกทั้งทำให้ฮ่องเต้และรัชทายาทประจักษ์เท่านั้น นางฝึกชาวบ้านเป็นทหารเพื่อปราบโจรจริงๆ ไม่จำเป็นต้องถึงมือของต่งฉางหลาน

“คุณหนูใหญ่!” ฉินหมัวมัวเดินเข้ามาหาไป๋ชิงเหยียน ทำความเคารพ จากนั้นกล่าวขึ้น “เซียวเซียนเซิงมาเจ้าค่ะ”

เซียวหรงเหยี่ยน

ไป๋ชิงเหยียนกระชับมือที่ไขว้อยู่ทางด้านหลังแน่น เหตุใดเขาถึงมาที่นี่อีก

ต่งฉางหลานมองไป๋ชิงเหยียน

“เซียวเซียนเซิง? คือพ่อค้าอันดับหนึ่งในใต้หล้าเซียวหรงเหยี่ยนที่เคยยื่นมือช่วยเหลือตระกูลไป๋ใช่หรือไม่ขอรับ”

ต่งฉางหลานเคยได้ยินต่งชิงเยว่เอ่ยถึงเซียวหรงเหยี่ยน ต่งชิงเยว่กล่าวว่าบุรุษหนุ่มผู้นี้ไม่ใช่คนธรรมดา เขาเป็นบุรุษที่หาได้ยากยิ่ง แม้เป็นเพียงพ่อค้า ทว่า กิริยาท่าทางเหมือนคนสูงศักดิ์ จะดูแคลนเขาไม่ได้เด็ดขาด

ไป๋ชิงผิงรู้จักเซียวหรงเหยี่ยนเช่นเดียวกัน ช่วงนี้เขาเปิดกิจการค้าขายและโรงรับจำนำในซั่วหยาง ดูเหมือนกำลังเตรียมเปิดบ่อนพนันด้วย ชื่อเสียงของเขาเป็นที่เลื่องลือมาก อีกทั้งสนิทสนมกับรัชทายาทและตระกูลไป๋ ชายหนุ่มกลายเป็นคนที่ทางการอยากประจบสอพลอ การค้าของเขาเจริญรุ่งเรืองมาก

“ชิงผิง เจ้าพาฉางหลานเข้าไปด้านในก่อน”

“ข้าไปหาเซียวเซียนเซิงเป็นเพื่อนพี่หญิงดีกว่าขอรับ ท่านพ่อเคยกล่าวถึงชายผู้นี้ ฉางหลานรู้สึกสนใจมาก ในเมื่อมีโอกาส ฉางหลานอยากพบเขาสักครั้งขอรับ” ใบหน้าของต่งฉางหลานเต็มไปด้วยรอยยิ้ม

ท่านพ่อกล่าวว่าเซียวหรงเหยี่ยนไม่ธรรมดา ทว่า ยิ่งมีความสามารถมากเท่าใด จิตใจก็ยิ่งล้ำลึก ยิ่งดูไม่ออกมากขึ้นเท่านั้น

ดังนั้นเขาต้องการทดสอบดูว่าเซียวหรงเหยี่ยนผู้นี้เข้าใกล้ตระกูลไป๋เพราะมีจุดประสงค์ร้ายกับตระกูลไป๋หรือไม่

ตอนอยู่ที่เมืองหลวง เซียวหรงเหยี่ยนยื่นมือช่วยเหลือตระกูลไป๋อยู่หลายครา ต่งฉางหลานกลัวว่าไป๋ชิงเหยียนจะซาบซึ้งในบุญคุณของชายหนุ่มจนถูกเขาหลอกได้ง่ายๆ

บัดนี้ตระกูลไป๋เหลือเพียงสตรี ทุกคนในตระกูลล้วนพึ่งพาไป๋ชิงเหยียน จะปล่อยให้เกิดเรื่องผิดพลาดไม่ได้เด็ดขาด

หากเซียวหรงเหยี่ยนมีจุดประสงค์อื่นแอบแฝง ต่งฉางหลานจะได้เตือนสติไป๋ชิงเหยียนไม่ให้หลงกลเซียวหรงเหยี่ยน

ต่งฉางหลานกล่าวเช่นนี้ไป๋ชิงเหยียนจึงไม่รู้จะปฏิเสธเช่นไร หญิงสาวพาไป๋ชิงผิงและต่งฉางหลานไปพบเซียวหรงเหยี่ยน

วันนี้เซียวหรงเหยี่ยนอยู่ในเครื่องแต่งกายทะมัดทะแมงสีขาวนวล รองเท้าหนังมีโคลนติดเล็กน้อย เมื่อเห็นว่าด้านหลังของไป๋ชิงเหยียนมีไป๋ชิงผิงและบุรุษที่หน้าตาคล้ายคลึงกับต่งชิงเยว่เดินตามมาด้วย เซียวหรงเหยี่ยนรู้ฐานะของต่งฉางหลานทันที

ตอนที่เซียวหรงเหยี่ยนมาถึงจวนไป๋ เขาเห็นขบวนรถม้าจอดอยู่ที่หน้าประตูจวน พ่อบ้านเหาบอกเซียวหรงเหยี่ยนยิ้มๆ ว่าหลานชายตระกูลต่งซึ่งเป็นญาติฝั่งมารดาของไป๋ชิงเหยียนมา

“คุณหนูใหญ่ไป๋…” เซียวหรงเหยี่ยนทำความเคารพไป๋ชิงเหยียนยิ้มๆ

เยว่สือซึ่งสะพายชะลอมไว้ที่หลังทำความเคารพไป๋ชิงเหยียนเช่นเดียวกัน ทว่า เขาไม่รู้จะเอ่ยเรียกไป๋ชิงเหยียนเช่นไร จึงได้แต่เม้มปาก

“เซียวเซียนเซิง!” ไป๋ชิงเหยียนยืนเอามือไขว้หลัง ก้มหน้าให้ชายหนุ่มเล็กน้อย แนะนำให้เซียวหรงเหยี่ยนรู้จัก “ผู้นี้คือญาติผู้น้องของข้า ต่งฉางหลานเจ้าค่ะ”

“คุณชายต่ง…” เซียวหรงเหยี่ยนทำความเคารพด้วยรอยยิ้ม

ต่งฉางหลานมองดูบุรุษตรงหน้าที่ใบหน้าคมคาย จมูกคมสัน ดวงตาล้ำลึก ทว่า อบอุ่น กิริยาท่าทีดูเหมือนบัณฑิตผู้มีความรู้ ไม่เหมือนพ่อค้าสักนิด ดูสุขุมอ่อนโยนเหมือนบัณฑิตผู้เก่งกาจมากกว่า

“เซียวเซียนเซิง!” ต่งฉางหลานทำความเคารพกลับ กล่าวยิ้มๆ “เคยได้ยินท่านพ่อของข้าเอ่ยชมเซียวเซียนเซิงไม่ขาดปาก วันนี้ได้พบช่างดูโดดเด่น ไม่ธรรมดาจริงๆ ด้วยขอรับ”

“ใต้เท้าต่งยกย่องเกินไป เหยี่ยนมิกล้ารับไว้ขอรับ” ใบหน้าของเซียวหรงเหยี่ยนมีแต่รอยยิ้ม ราวกับเคยชินกับคำเยินยอเหล่านี้แล้ว ไม่ได้มีท่าทีถ่อมตัวเหมือนดั่งที่กล่าว ทว่า ยืนยืดไหล่อย่างสง่าผ่าเผย

“เซียวเซียนเซิงมาวันนี้มีสำคัญหรือเจ้าคะ” ไป๋ชิงเหยียนถาม

เซียวหรงเหยี่ยนพยักหน้า รับชะลอมมาจากมือของเยว่สือยิ้มๆ

“วันนี้ข้าออกไปตกปลาที่นอกเมือง ได้ปลาสดมามากมายจึงนำมาฝากคุณหนูใหญ่ไป๋ นึกไม่ถึงว่าจวนไป๋จะมีแขกสำคัญ”

ไป๋ชิงเหยียนพยักหน้า ก้าวไปรับชะลอมมาจากเซียวหรงเหยี่ยน กล่าวขอบคุณ

“ขอบพระคุณมากเจ้าค่ะ”

สิ้นเสียงของไป๋ชิงเหยียน ทิงจู๋สาวใช้ข้างกายของต่งซื่อเดินเข้ามาด้านใน หยุดยืนอยู่ด้านหลังไป๋ชิงเหยียน กล่าวเสียงเบา “คุณหนูใหญ่ ฮูหยินกล่าวว่าเซียวเซียนเซิงมาได้จังหวะพอดี หากเขาไม่ยุ่ง อยากเชิญให้อยู่รับประทานอาหารด้วยกันเจ้าค่ะ”

เสียงของทิงจู๋ไม่ดัง ไม่เบา เซียวหรงเหยี่ยนมีประสาทการได้ยินเป็นเลิศ เขาจึงได้ยินทุกถ้อยคำ

“หากเซียวเซียนเซิงไม่มีธุระอันใด เชิญอยู่รับประทานอาหารที่จวนก่อนนะเจ้าคะ” ไป๋ชิงเหยียนกระชับมือที่ไขว้อยู่ทางด้านหลังแน่น

“วันนี้ข้าว่างพอดี คุณหนูใหญ่เรียนเชิญ เป็นเกียรติของเหยี่ยนอย่างยิ่งขอรับ”

เซียวหรงเหยี่ยนกล่าวยิ้มๆ

ต่งซื่อจัดงานเลี้ยงต้อนรับต่งฉางหลานและชุยซื่อที่เรือนเสาหวา ชั้นสามของเรือนเสาหวากว้าวขวางมาก ต่งซื่อให้คนจัดเตรียมโต๊ะอาหารสองโต๊ะ ตรงกลางมีฉากกั้นไม้ไผ่ซึ่งแกะสลักอย่างสวยงามวางกั้นอยู่ โต๊ะของสตรีอยู่ด้านใน บุรุษอยู่ด้านนอก

ระหว่างรับประทานอาหาร ต่งฉางหลานจับตาดูเซียวหรงเหยี่ยนอยู่ตลอดเวลา ทว่า เมื่อสนทนากันได้สักครู่ ต่งฉางหลานพบว่าบุรุษผู้นี้เป็นคนมีความรู้กว้างขวางและวิสัยทัศน์กว้างไกล เรื่องที่ต่งฉางหลานไม่รู้ เซียวหรงเหยี่ยนตอบได้ทุกเรื่อง ไม่คิดปิดบัง ทำให้เขารู้สึกชายหนุ่มเป็นบุรุษที่เปิดเผยตรงไปตรงมาเป็นอย่างมาก

ที่สำคัญไม่ว่าต่งฉางหลานจะกล่าวถึงเรื่องสถานที่ต่างๆ โคลงกลอน หรือแม้กระทั่งสงคราม เซียวหรงเหยี่ยนสนทนากับเขาได้ทุกเรื่อง น้ำเสียงอ่อนโยนและไม่กล่าวเร็วจนเกินไป ทำให้ต่งฉางหลานเห็นมุมมองอีกด้านของเรื่องนั้นๆ

ต่งฉางหลานเป็นคนใจกว้างเช่นเดียวกับต่งชิงเยว่ แม้จะยังหวาดระแวงเซียวหรงเหยี่ยนอยู่บ้าง ทว่า รู้สึกต่อดีชายหนุ่มมากขึ้นไม่น้อย

ไป๋ชิงผิงค่อนข้างเงียบขรึม คงเป็นเพราะเซียวหรงเหยี่ยนและต่งฉางหลานล้วนเป็นคนที่สนทนาเก่งทั้งคู่ ทว่า ทุกครั้งที่ไป๋ชิงผิงกล่าวสิ่งใดออกมาล้วนจับจุดและตรงประเด็นที่สุด บัดนี้ไป๋ชิงผิงอายุยังน้อย หากฝึกฝนไปอีกสักสองสามปีคงเก่งกาจกว่านี้มาก ข้างกายของไป๋ชิงเหยียนมีคนเก่งเช่นนี้อยู่ ต่งฉางหลานวางใจไม่น้อย

ด้านใน

ชุยซื่อเป็นคนร่าเริง หญิงสาวเล่าเรื่องน่าสนใจที่เติงโจวให้ต่งซื่อและไป๋ชิงเหยียนฟัง อีกทั้งเอ่ยถึงสุขภาพของต่งเหล่าไท่จวินอย่างละเอียดโดยไม่ได้ดูจงใจมากนัก

ชุยซื่อคือหลานสะใภ้ที่ต่งเหล่าไท่จวินเลือกด้วยตัวเอง ไม่ต้องกล่าวถึงฐานะทางตระกูล แค่ดูจากนิสัยและการสนทนาก็รู้แล้วว่าเป็นคนที่มีทุกอย่างเพียบพร้อม